A NaughtyDog a day will keep a real doctor away!

<<
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
20 กุมภาพันธ์ 2552
 

ทำยังไงไม่ให้โดนผ่า?

ขออนุญาตมาตอบปัญหาโดยตั้งเป็นกระทู้ใหม่ เพราะเห็นว่ามีคุณแม่ที่ตั้งครรภ์หลายๆท่านสงสัย หรือโพสท์คำถามคล้ายกันกับที่คุณ เจ้าแม่แฟชั่น โพสท์ไว้นะครับ ขออนุญาตคุณเจ้าแม่แฟชั่นไว้ณ.ที่นี้ด้วยครับ
.
ขอวิธีดูแลครรภ์ เพื่อไม่ให้ผ่าคลอดด้วยค่ะ (อยากคลอดเอง ได้อารมณ์กว่าเยอะ)
คือทำยังไง ที่ไม่ให้มีเชื้อรา, ครรภ์เป็นพิษ, รกเกาะต่ำ ฯลฯ
มีวิธีหลีกเลี่ยงได้หรือเปล่าคะ
หรือว่าต้องดูแลครรภ์ มากเป็นพิเศษ

ครรภ์แรกก็คลอดเอง และอยากคลอดเองตลอดไปค่ะ
จากคุณ : เจ้าแม่แฟชั่น - 19 ก.พ. 52 22:35:48

ตอบยากแฮ่ะ...
เอาที่ถามๆก่อนนะครับ มีวิธีดูแลไม่ให้เป็น เชื้อรา, ครรภ์เป็นพิษ, รกเกาะต่ำ หรือไม่?
ฟันธงได้เลยครับ ว่า..."ไม่มี!!!" (จะโดนสหบาทาจากคุณแม่ห้องนี้อ่ะป่าวเนี่ย)
ก็...มันไม่มีจริงๆนี่ครับ
เชื้อรา(เข้าใจว่าในช่องคลอดนะครับ) เกิดบ่อยขึ้นในขณะตั้งครรภ์ "จริง" ครับ แต่มันไม่ใช่ว่าป้องกันได้ พวกที่เป็นบ่อยๆนี่...เกิดจากไปทานยาปฏิชีวนะ(หรือที่ส่วนใหญ่เรียกกันว่า "ยาแก้อักเสบ" ครับ)โดยไม่จำเป็นครับ ทำให้เชื้อจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในช่องคลอดเกิดล้มตายกันไป ก็เลยเกิดการติดเชื้อราได้ง่ายขึ้นครับ แล้วในสตรีตั้งครรภ์ก็มีตกขากมากขึ้นอยู่แล้ว ถ้าอับชื้นหรือร่างกายอ่อนแอก็เป็นเชื้อราในช่องคลอดได้บ่อยๆครับ แต่อย่าตกใจไปเลยครับ เพราะการติดเชื้อราในช่องคลอดไม่เกี่ยวกับการคลอดเองหรือผ่าท้องคลอดแต่อย่างใดครับ คาดว่านี่เป็นคำถามหลอกครับ ก็...ไม่เกี่ยวกับคำถามตอนต้นเลยนี่ครับ
ครรภ์เป็นพิษ อึมมม...ต้องบอกจริงๆว่า "ไม่ทราบสาเหตุ" ครับ แต่จะพบบ่อยขึ้นในมารดาที่อายุค่อนข้างมาก ในครรภ์แรกพบบ่อยกว่าครรภ์หลัง(ไม่ใช่ "คันหลัง" นะครับ หมายถึงว่าเป็นกะท้องแรกมากกว่าท้องที่สองที่สาม...ทำนองนั้นครับ) และเนื่องจากไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง จึงตอบแบบ"ฟันธง"(หรือสมัยใหม่ก็"คอนเฟิร์ม")ได้เลยว่า ไม่สามารถป้องกันได้ เอ๊ะ...ยังไงกันเนี่ย!!! ก็ไกนเวลาน้ำหนักขึ้นเยอะๆ หมอสูติฯที่ดูแลอยู่บอกว่า...อย่าขึ้นมาก เดี๋ยวเป็นครรภ์เป็นพิษละ? เรื่องนี้เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนกันครับ ด้วยเหตุว่าพวกที่ครรภ์เป็นพิษนี่...จะเริ่มจากมีอาการ "บวมน้ำ" ก่อน จะสังเกตว่าไม่ใช่ "อ้วน" นะครับ แต่แพทย์ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ดอกครับว่า บวมน้ำหรืออ้วน(ความจริงก็พอดูได้บ้าง เพราะบวมน้ำหมอเค้าจะไปกดแถวๆหน้าแข้งว่า กดบุ๋ม(บวมน้ำ)หรือเปล่าครับ) พอเค้าบอกไม่ได้ว่ามันเป็นอะไรกันแน่ เพื่อความสบายใจว่าไม่บวม ท่านก็จะห้ามๆไว้ว่าถ้าคุณแม่กินเหวยของโปรดเยอะๆ(แน่นอน...คุณแม่ร้อยละร้อยห้าสิบสะเดิฟของหวานเป็นจานโปรดอยู่แล้ว...แล้วก้อ...อย่าคิดว่าผลไม้ไม่ใช่ของหวานนะครับ เพราะผลไม้ในบ้านเราหวานนนนนนนทั้งน้านนน) กำลังจะบอกว่า การที่หมอห้ามอ้วนไม่ใช่ว่าจะป้องกันไม่ให้เกิดครรภ์เป็นพิษครับ หมอแค่ต้องการให้แน่ใจว่า ไม่ได้บวมน้ำนะ โอกาสที่จะเป็นครรภ์เป็นพิษก็จะน้องลงไป แต่...แต่ไม่ใช่ว่าจะป้องกันครรภ์เป็นพิษได้นะครับ อึมมมม...เข้าใจไหมเนี่ย อ้อ...อีกอย่าง โดยทั่วๆไปแล้วการที่เป้นครรภ์เป็นพิษก็ไม่ได้เป็นข้อบ่งชี้ในการผ่าท้องคลอดนะครับ เพียงแต่เป็นตัวเร่งให้แพทย์รีบตัดสินใจให้คลอดเพราะรู้ว่าหลังคลอดแล้วภาวะครรภ์เป็นพิษจะหายไป ก็เลยอยากให้รีบๆคลอด และถ้ารีบมากๆ(เช่น เกิดภาวะครรภ์เป็นพิษขั้นรุนแรง) ปากมดลูกยังไม่พร้อม...ก็เหลือทางเดียวครับ คือไปผ่าท้องคลอด...
รกเกาะต่ำ อันนี้แม้แต่สูติแพทย์ก็กลัวขนหัวลุกครับ เพราะเวลาเลือดออกในรกเกาะต่ำนี่...อันตรายมากมากครับ แล้วก็เหมือนเดิม คือ...ไม่ทราบสาเหตุ มีเหตุชวนเกิด(หรือ...หมายถึงว่า ไปเจอภาวะรกเกาะต่ำได้บ่อยขึ้นในกรณีต่อไปนี้ครับ) ได้แก่ ท้องหลังๆ, เคยขูดมดลูกมาก่อน, เคยทำผ่าตัดี่ตัวมดลูกมาก่อน เป็นต้น แล้วก็อย่าเพิ่งตกใจว่ามีเหตุชวนให้เกิดนั้นๆนะครับ เพราะมีความเสี่ยงที่จะเป็น...ไม่ได้แปลว่าจะ"ต้อง"เป็น ในทางกลับกัน ไม่ได้มีความเสี่ยงที่จะเป็นหรือเหตุชวนเกิดดังว่า ก็อาจจะเป็นรกเกาะต่ำได้ครับ ดังนั้น...ถึงบอกว่า...รกเกาะต่ำก็เป็นอะไรที่...ป้องกันบ่ได้ดอกครับ
มีคุณแม่หลายๆท่าน มาบอกว่าห้าม"อ้วน"ไม่เช่นนั้นจะคลอดยาก ก็มีส่วนถูกครับ...แต่ไม่ใช่ว่าไม่อ้วนแล้วจะคลอดได้แน่นอนนะครับ มันขึ้นอยู่กับว่าไม่มีภาวะแทรกซ้อนที่จะต้องผ่าท้องคลอด และขนาดของเด็กเมื่อเทียบกับอุ้งเชิงกรานมารดาอยู่ในขนาดที่เหมาะสมครับ ฟังดูแล้วมืดมนเหรอครับ ต้องบอกว่า...โดยทั่วไปแล้วนะครับ อัตราการผ่าท้องคลอดที่เหมาะสม(หรือที่แพทย์ส่วนใหญ่คิดว่าเหมาะสมจริงๆ) อยู่ที่ราวๆ 15-20% ครับ ในบางประเทศไม่ถึง 10% ด้วยซ้ำ(เช่นที่ญี่ปุ่น) แล้วก็ไม่ได้แปลว่าผ่าท้องมากแล้วลูกจะปลอดภัยกว่านะครับ เพราะอัตราการเกิดอันตรายต่อทารกแรกคลอดในญี่ปุ่นต่ำกว่าอเมริกามาก ทั้งๆที่อัตราการผ่าตัดคลอดของอเมริกาสูงกว่าญี่ปุ่นมาก(งงไหมครับ) กลับเข้าเรื่องดีกว่า อันที่จริงผมต้องบอกว่าโดยหลักวิชาแล้ว โอกาสที่คุณๆที่เป็นคุณแม่ทั้งหลาย จะถูกผ่าท้องนั้น มีอยู่ราวๆ 15-20% เองครับ แฮ่ะๆๆๆแต่ในโลกแห่งความจริง...ตัวเลขการผ่าตัดคลอดในโรงพยาบาลเอกชนนั้นขึ้นไปเกิน 50% ทั้งนั้นครับ บางแห่ง...อึมมมม...แพทย์บางท่าน...อาจสูงถึง 80% ครับ ดังนั้นหากถามผมว่า...มีวิธีอะไรที่ป้องกันไม่ให้ถูกผ่าท้องคลอดได้ดีที่สุด...ม่ายอยากจะบอกให้บาดหัวจายเลยว่า...อึมมมม...การเลือกแพทย์น่าจะเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลสูงสุดในการคาดการณ์ว่าท่านจะถูกผ่าท้องคลอดหรือไม่ครับ ทั้งนี้เนื่องจากปัจจัยของโรคต่างๆไม่สามารถควบคุม(หรือป้องกันได้)นะครับ
แถมท้ายอีกหน่อยครับ ว่าการที่จะคุมน้ำหนักไม่ให้ "อ้วน" ในคุณแม่ตั้งครรภ์นั้นทำได้ยากครับ เหตุเพราะคุณแม่จะอยากทานอาหารมากกว่าปกติอยู่แล้ว ตั้งแต่อาการแพ้ดีขึ้น อีกทั้งจะชอบทานของหวานมากเป็นพิเศษ แถมใครต่อใครก็สนับสนุนให้ทานเยอะๆ ทานของดี บำรุงๆๆๆๆเข้าไป ก็ธรรมดาฮะที่จะต้องมีน้ำหนักเพิ่มมากตามขึ้นมา น้ำหนักที่สูติแพทย์ยอมรับสำหรับการตั้งครรภ์เดี่ยวนี่ อยู่ที่ราวๆ 10-15 กิโลกรัมครับ พวกที่เกิน 18-20 โลนี่...ก็เป็นที่หวาดวิตกครับว่า จะมีภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ หรือครรภ์เป็นพิษมาให้ดูแลเพิ่มอีกหรือไม่ แล้วก็เป็นที่เข้าใจผิดด้วยครับว่า ถ้าแม่น้ำหนักตัวเยอะๆ ลูกจะแข็งแรง เพราะน้ำหนักตัวของลูกไม่ได้เป็นสัดส่วนโดยตรงของน้ำหนักตัวคุณแม่ที่เพิ่มขึ้นมาเสมอไป ยิ่งไปกว่านั้น ลูกที่น้ำหนักตัวมากมากไม่ได้แปลว่าจะแข็งแรงกว่าพวกที่น้ำหนักตัวน้อยครับ กำลังจะบอกว่าทางสายกลางดีที่สุดครับ ทารกแรกคลอดถ้าน้ำหนักตัวเกิน 2500 กรัม ถือว่าโอเคครับ ตั้งแต่ 4000 กรัมนี่ถือว่า...ใหญ่เกินไป คุณแม่อาจจะมีภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์อยู่ และทารกอาจจะได้รับบาดเจ็บขณะคลอดได้ด้วยครับ เพราะคลอดยาก จริงๆถ้าถามผมน้ำหนักอยู่ระหว่าง 2700-3000 นิดๆเนี่ยถือว่าโอเคเลยครับ สำหรับพวกที่คลอดเองได้ อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ อ้อ...อีกอย่าง...ไม่ได้แปลด้วยว่า ถ้าลูกออกมาเล็กแล้วจะเล็กไปตลอด ขึ้นอยู่กับพันธุกรรม(คุณพ่อคุณแม่ตัวโตป่าว) แล้วก็การเลี้ยงดู(อาหารการกิน) พวกที่ออกมาตัวเล็กๆเพราะคลอดก่อนกำหนดนี่...ช่วงปีแรกอาจจะไปเทียบกะเด็กอื่นๆเค้าไม่ได้ แต่ถ้าเลยปีหนึ่งขึ้นไปก็มักจะไม่แตกต่างแล้วครับ พวกที่ตัวโตๆ(คลอดออกมา 3500, 3800)พอโตมากก็ไม่ได้แปลว่าจะใหญ่กว่าคนอื่นดอกครับ
หวังว่าคงตอบปัญหาของคุณเจ้าแม่แฟชั่น และเป็นประโยชน์สำหรับท่านอื่นๆนะครับ ไปทำงานต่อก่อนอ่ะ



Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2552 11:14:49 น. 2 comments
Counter : 1698 Pageviews.  
 
 
 
 
ข้อมูลแน่นปึ๊กเลยค่ะ
 
 

โดย: zuling68 วันที่: 8 มีนาคม 2552 เวลา:12:31:51 น.  

 
 
 
ท้องแรกน้ำหนักขึ้น 11 โล ท้องนี้เพิ่ง 5 เดือนไปแล้ว 5 โล เหอ เหอ ก็หน้าทุเรียนอ่ะค่ะคุณหมอขา คิ คิ

เรื่องเชื้อราในช่องคลอด หมายถึงว่าแม้จะมีตกขาว เป็นเชื้อราตอน 40 สัปดาห์ก็สามารถคลอดเองได้ใช่มั๊ยคะ เอ แล้วอย่างนี้เรารักษาตกขาวตอนใกล้ๆคลอดจะเป็นความคิดที่ถูกหรือเปล่า เคยได้ยิน"เขา"(อีกแล้ว)บอกว่าลูกอาจติดเชื้อที่ตาอันนี้ชัวร์หรือมั่วนิ่มคะคุณหมอ
 
 

โดย: IcyRose วันที่: 3 มิถุนายน 2552 เวลา:22:33:25 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

NaughtyDoc
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




[Add NaughtyDoc's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com