|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
อยากแบ่งปัน
ที่แคนาดามีเรื่องสะเทือนใจและเป็นที่สนใจ เด็กหญิงคนนึงอายุ 2 เดือน มารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลที่ออนตาริโอ เมืองอะไรจำไม่ได้ เคลีย์คือชื่อของเด็กคนนี้ เกิดมาพร้อมกับไตไม่ดีและความผิดปกติด้านสมอง สมองของเคลีย์ไม่สามารถถ่ายทอดคำสั่งให้หัวใจเต้นในระหว่างหลับได้ เคลีย์ต้องอาศัยเครื่องช่วยหายใจ หมอว่าถ้าเอาเครื่องช่วยหายใจออกก็จะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ แต่อย่างไรก็ตามเคลีย์มีหัวใจที่แข็งแรง ที่โรงพยาบาลเดียวกันถัดลงไปอีกชั้นนึง ลิเลียน เด็กหญิงอายุ 1 เดือน ได้มารักษาตัวอยู่ เธอเกิดมาพร้อมความผิดปกติด้านหัวใจ ประมาณไม่สามารถผลิตออกซิเจนให้กับเม็ดเลือดได้ ลิเลียนนอนคอยผู้บริจาคหัวใจเพื่อทำการผ่าตัดเปลียนหัวใจ อาจมีชีวิตอยู่ได้ประมาณอาทิตย์-เดือนนึง เนื่องจากความผิดปกติของเคลีย์นั้นไม่สามารถที่จะรักษาได้ พ่อแม่ของเคลีย์ตัดสินใจที่จะถอดเครื่องช่วยหายใจ และจะบริจาคหัวใจของเคลีย์ให้กับลิเลียน ตามกฏหมายหัวใจต้องหยุดเต้นเกิน 5 นาที ถึงจะถือว่าเสียชีวิต หลังจากถอดเครื่องช่วยหายใจแล้วถ้าเคลีย์ไม่เสียชีวิตภายใน 2 ชั่วโมง หัวใจของแกก็จะไม่อยู่ในสภาพสมบูรณ์พอที่จะนำไปใช้ได้ พ่อแม่เคลีย์หวังว่าถ้าเคลีย์ตายไปก็ขอให้สามารถช่วยให้ลิเลียนอยู่ต่อไปได้ เคลีย์ถูกพาเข้าไปยังห้องผ่าตัด หมอถอดเครื่องช่วยหายใจออก โดยมีลิเลียนนอนอยู่อีกเตียงหนึ่งข้างๆกัน เมื่อถอดเครื่องช่วยหายใจออกแล้ว ปรากฎว่าเคลีย์ไม่หลับ และไม่หลับจนเลย 1 ชม ราวกับปาฎิหารย์หัวใจของเธอสามารถเต้นเองได้โดยไม่ใช้เครื่องช่วย หมอได้สั่งยกเลิกการผ่าตัดเปลียนหัวใจ เด็กทั้ง 2 ถูกส่งเข้าไปยังห้องดูแล ผ่านไป 1 คืน เคลีย์ยังมีชีวิตอยู่ หัวใจเต้นเองได้โดยไม่ต้องใช่เครื่องช่วย ทั้ง 2 อาการยังคงดีอยู่ หมอได้ประกาศว่าเคลีย์ไม่ได้เป็นผู้บริจาคอวัยวะอีกต่อไป ดูและอ่านข่าวนี้ไปน้ำตาก็ไหลไป ได้แต่คิดว่าตัวเองและคนรอบข้างโชคดีขนาดไหนที่ได้เกิดมาอย่างมีสุขภาพสมบูรณ์ แต่ในความเศร้านั้นก็มีความรู้สึกที่ดีน่าตื้นตัน นั่นคือการคิดที่จะบริจาคหัวใจของลูกตัวเองเพื่อที่จะให้ลูกผู้อื่นได้มีชีวิตอยู่ต่อ เป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด การบริจาคอวัยวะนั้นเป็นสิ่งที่มีค่าและมีคุณประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง สำหรับตัวเองแล้วได้บริจาคอวัยวะทุกส่วนให้กับสภากาชาดไป และได้เซ็นต์บริจาคกับที่แคนาดาด้วย ที่แคนาดาจะมีบัตรเฮลท์แคร์ ข้างหลังบัตรเค้าก็จะมีให้ติ๊กว่าต้องการบริจาคอวัยวะมั้ย ทั้งหมด หรือบางส่วน จะส่วนไหนก็ให้ระบุลงไป พร้อมให้คนในครอบครัวเซ็นต์คนนึง เราบริจาคหมด เอ็ดก็เซ็นต์ให้เรา ส่วนเอ็ดเองเค้าก็เป็นผู้บริจาคเหมือนกัน ไม่ได้คิดว่าทุกคนต้องทำตาม หรือคิดว่าทำแล้วดีกว่าคนที่ไม่ทำ ไม่ใช่อย่างนั้น แต่อยากให้นำไปคิดดูสักนิดว่า ถ้าต้องตายไปจริงๆ แล้วอวัยวะยังสามารถต่อชีวิตให้ผู้อื่นได้มันจะดีแค่ไหน ตัวเราเองเมื่อไปแล้วต้องใช้อวัยวะอีกเพื่ออะไร หรือเริ่มต้นด้วยการบริจาคเลือด เราเคยเป็นคนกลัวเข็มมาก แต่มันไม่น่ากลัวอย่างที่คิด เราบริจาคมาหลายหนแล้วเท่าที่สุขภาพขณะนั้นจะอำนวย แต่ตอนนี้คงให้ไม่ได้ต้องถามหมออีกที เพราะกินยาลดไขมันในพุง เอ้ย ในเส้นเลือด สำหรับตัวเองแล้วมันคิดว่ามันเป็นความสุขอย่างหนึ่งในชีวิต และยังคิดเสมอว่าในขณะมีชีวิตอยู่นั้นถ้าญาติพี่น้องต้องการตับส่วนนึงหรือไตข้างนึง ก็พร้อมที่จะให้เสมอโดยไม่คิดซ้ำสอง ขอให้ได้รู้ว่าอวัยวะมันสามารถเข้ากันได้เท่านั้น และเราก็รู้ว่าเอ็ดพร้อมที่จะสนับสนุนและอยู่เคียงข้างเราเสมอ ก็แค่นี้ล่ะที่อยากจะแบ่งปัน ขอให้พระเจ้าอวยพร
Create Date : 15 เมษายน 2552 |
|
3 comments |
Last Update : 15 เมษายน 2552 3:21:08 น. |
Counter : 2004 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
แต่เราก็ขออวยพรให้เจ้าของบล็อกด้วยจ่ะ
นี่คือการทำบุญที่บรรลุนิพานค่ะ