Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
10 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
LoVe aT FirsT SiGhT

แม่ตั้งใจจะเล่าถึงเหตุการณ์วันที่หนูเกิดให้ฟังตั้งแต่เดือนแรก ก็มีเหตุให้เลื่อนแล้วเลื่อนอีก จนวันนี้ฤกษ์งามยามดี แม่จะเล่าให้ฟังนะจ๊ะ ว่าวันนั้นเราสองคนต้องผ่านอะไรกันบ้าง

เช้าวันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน แม่มีนัดกับคุณป้าหมอ เพื่อผ่าคลอดหนูจ้า คืนก่อนหน้านั้นทั้งคืน แม่แทบจะนอนไม่หลับเลยทีเดียว ทั้งตื่นเต้นและกลัวในเวลาเดียวกัน ตื่นเต้นเพราะเราจะได้เห็นหน้ากันแล้วหลังจากที่แม่รอหนูมา 38 สัปดาห์เต็ม ๆ กลัวก็เพราะว่าตั้งแต่เกิดมาแม่ไม่เคยย่างกรายไปในห้องผ่าตัดมาก่อนเลยไม่รู้ว่าจะต้องเจออะไรบ้าง (เห็นไหมลูกว่าเป็นธรรมดาของคนเราที่ย่อมต้องกลัวในสิ่งที่เราไม่เคยพบหรือมีประสบการณ์มาก่อน)

เวลา 6.00 น. แม่ tatha และก็แม่ใหญ่ของหนูก็มาถึงโรงพยาบาล แม่ถูกเข็นไปห้องคลอดเพื่อรอเวลา ระหว่างนั้นแม่ก็ถูกคุณพยาบาลเจาะน้ำเกลือ สวนท่อปัสสาวะ และก็สวนอุจจาระ และให้นอนสังเกตอาการเป็นเวลาเกือบสองชั่วโมง ระหว่างนั้นคุณพยาบาลก็เอาเอกสารต่าง ๆ มาให้แม่เซ็นต์ รวมทั้งรายละเอียดเพื่อยื่นขอสูติบัตรนั้นด้วย ตอนนั้นแม่มีชื่อหนูอยู่ในใจแล้วล่ะ แต่แม่ใหญ่หนูอ่ะดิ บอกว่าห้ามใส่จนกว่าหนูจะออกมาดูโลกอย่างปลอดภัย แม่ก็เลยต้องตามใจแม่ใหญ่หนู

ประมาณ 7.45 น. คุณบุรุษพยาบาลก็มาเข็นแม่ไปที่ห้องผ่าตัด ใจแม่เต้นโครมครามเชียวลูก เพราะอะไรน่ะหรอ ก็เพราะความกลัวนี่งัย (แม่เป็นแม่ที่ขี้คลาดที่สุดในโลกเลยเนอะ) เมื่อเข้าไปถึง ก็มีคุณพยาบาลใส่ชุดเขียว ๆ อยู่ประมาณ 5 - 6 คน คุณบุรุษพยาบาลเข็นรถเข็นไปไว้กลางห้อง บนเพดานมีไฟดวงใหญ่น่ากลัวเชียวลูก แล้วเค้าก็ให้แม่ย้ายเตียงเพื่อเตรียมตัวผ่าตัด

ประมาณ 8.00 น. คุณหมอวิสัญญี (คุณหมอวางยาสลบอ่ะจ้ะ) ก็เข้ามาคุยกับแม่ คุณหมอใจดีมาก (เสียงหล่ออีกต่างหาก)

คุณหมอ : ลูกคนแรกหรือเปล่าครับ
แม่ : ใช่ค่ะ
คุณหมอ : กลัวไหมครับ
แม่ : กลัวค่ะ
คุณหมอ : ลูกคนแรกก็กลัวแบบนี้แหล่ะครับ
แม่ : (แอบยิ้มในใจ)
คุณหมอ : เดี๋ยวคนที่สองก็จะกลัวเท่าเดิม
แม่ : (คิดในใจ แล้วคุณหมอจะพูดทำไมคะ)

หลังจากนั้นคุณหมอก็อธิบายให้แม่ฟังว่า ทราบใช่ไหมครับว่าการผ่าคลอดจะต้องทำการวางยาชาโดยการบล็อกหลัง หมอจะฉีดยาเข้าไปในแนวกระดูกสันหลังตรงนี้ คุณหมอวางมือในแนวสันหลังแม่ห่างจากบั้นเอวประมาณ 1 ฝ่ามือ คุณหมออธิบายต่อว่าเมื่อฉีดยาเข้าไป จะใช้เวลาประมาณ 10 วินาที ในระหว่างนี้แม่ต้องนอนตัวงอ และนิ่งที่สุด และแม่อาจจะมีอาการเสียวแปล๊บที่บริเวณสะโพก ให้แม่อยู่นิ่งที่สุด ภายในสิบวินาที อาการนี้จะหายไป เมื่อฉีดยาชาเข้าไปแล้วอาจมีอาการข้างเคียง เช่น หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก หรือคลื่นไส้ ถ้ามีอาการใด ๆ ก็ตามให้แจ้งคุณหมอทราบทันที คุณหมอจะยืนตรงหัวนอนของแม่ตลอด

เมื่อคุณหมออธิบายเสร็จ ก็บอกให้แม่งอตัว แม่กลัวมากเลยลูก มีพยาบาลมาช่วยกันจับตัวแม่งอ แม่ขออนุญาตจับมือคุณพยาบาลคนนึง เค้าคงสัมผัสได้ว่ามือแม่เย็นเจี๊ยบ คุณหมอเริ่มฉีดยาเข้าไขสันหลังแม่ ตอนทีเข็มเจาะลงไปแม่ไม่ได้รู้สึกเจ็บมากมายนัก แต่เมื่อยาเริ่มเดิน ก็รู้สึกปวดนิด ๆ แล้วเสียวแปล๊บที่บริเวณสะโพก แม่ก็กัดฟันทน พยายามไม่ขยับตัว คุณหมอขานเวลาว่าฉีดยาเวลา 8.09 นาที

หลังจากนั้นประมาณ 10 นาที คุณหมอสูติฯ ก็เริ่มทำการผ่าตัด คุณหมอวิสัญญีก็ชวนแม่คุย บอกว่าคุณแม่อย่าทำหน้าเครียดสิครับ เดี๋ยวลูกออกมาคิ้วขมวดนะ ณ วินาทีนั้น แม่อยากให้ tatha เข้ามาอยู่ด้วยจัง คุณหมอวิสัญญีถามว่าเป็นยังงัยบ้าง แม่รู้สึกหายใจไม่ออก คุณหมอก็เอาออกซิเจนมาใส่ให้ จากนั้นไม่นาน คุณหมอสูติฯ ก็บอกว่าคุณแม่คะ ลูกกำลังจะออกมาแล้วนะคะ อาจจะแน่นหน้าอกนิดนึงนะคะ แม่รู้สึกแน่นหน้าอกมาก คงเพราะหนูดิ้นหนีมือหมอที่จะควักเอาตัวหนูออกมา แต่แค่แว๊บเดียวก็หาย แล้วได้ยินเสียงดังพรวด คุณหมดสูติฯ ก็บอกว่า ลูกออกมาแล้วค่ะ อุ๊ย...จมูกโด่งเหมือนคุณพ่อเลย แต่โชคดีจังที่ได้ผิวแม่ แล้วคุณหมอก็ขานเวลาว่าคลอดเวลา 8.27 น.

หลังจากนั้นคุณหมอเด็กก็เอาตัวหนูไปตรวจสุขภาพ เตียงหนูก็ใกล้ ๆ กับเตียงแม่ แต่แม่มองไม่เห็นหนูเลย แม่ก็ได้แต่เฝ้าถามว่าหนูเป็นยังงัยบ้าง คุณหมอวิสัญญีบอกว่า เดี๋ยวนะครับคุณแม่ คุณหมอเด็กกำลังดูลูกอยู่ แค่เวลาสองสามนาทีนั้นแม่รู้สึกว่ามันนานเหลือเกิน ถึงตอนนี้น้ำตาแม่เริ่มไหลแล้วล่ะ อาจเพราะเป็นห่วงหนูเหลือเกิน จนคุณหมอเด็กมากระซิบที่ข้างหูแม่ว่า คุณลูกแข็งแรงดีนะคะ แล้วพยาบาลก็เอาหนูห่อผ้ามาวางไว้ใกล้ๆ แม่เพื่อถ่ายรูป แล้วถอดผ้าห่อตัวหนูออกมา พร้อมกับพูดติดตลกว่า นี่นะคะคุณแม่ลูกผู้ชายของแท้ค่ะ สรุปว่าแม่ได้เห็นแค่จำปีน้อยและก็ขายาว ๆ ของหนูเท่านั้นเอง แล้วเค้าก็เอาหนูออกไป

แม่เดาเอาเองว่าคุณหมอวิสัญญีคงแอบฉีดยาสลบให้แม่แน่แท้เลยทีเดียว เพราะพอเค้าเอาหนูออกไป แม่ก็สลบไสลไม่ได้สติ มารู้ตัวอีกทีก็ตอนประมาณ 9.30 น. ในห้องสังเกตอาการ แม่ก็พอจะรู้ว่าหลังจากคลอดต้องอยู่ในห้องนี้อีกประมาณ 2 ชั่วโมง ก็เลยพยายามหลับ ก็หลับ ๆ ตื่น ๆ จนใกล้ 11 โมง คุณบุรุษพยาบาลก็มาเข็นเตียงแม่เพื่อขึ้นห้องพัก

มาถึงห้อง แม่คิดว่าจะได้เจอหนูอยู่ที่นั่น แต่ก็พบแค่ความว่างเปล่า แม่ใหญ่บอกว่าหนูอยู่ที่เนอสเซอรี่ แม่ใหญ่เล่าว่า พอพยาบาลเอาหนูออกจากห้องผ่าตัดก็ถามว่าคนไหนเป็นญาติคะ แม่ใหญ่กะ tatha ก็รีบตามคุณพยาบาลไป (เพราะแม่สั่งไว้ว่าไม่ต้องห่วงแม่นะ ถ้าหนูออกมาให้ตามหนูไปทุกย่างก้าว แม่กลัวเค้าจะสับตัวลูกแม่กับใครนี่นา เอ...สงสัยแม่คงดูละครมากเกินไป ฮี่ ๆ) หลังจากห้องผ่าตัด เขาก็พาหนูมาขัดสีฉวีวรรณที่ห้องเนอสเซอรี่ แม่ใหญ่บอกว่าหนูร้องเสียงดังมาก พอเค้าอาบน้ำให้หนูเสร็จก็จับหนูนุ่งแพมเพิร์สแล้วนำเข้าตู้อบที่มีอุณหภูมิเท่ากับในท้องแม่ แล้วหนูก็หลับไป

วันแรกเรายังไม่ได้ป๊ะหน้ากันจัง ๆ สักที แม่ถามคุณพยาบาล คุณพยาบาลแจ้งว่าให้แม่พักผ่อนก่อน 1 วัน วันรุ่งขึ้นค่อยไปหาลูก รู้ไหมใจแม่จะขาด เพราะจะขยับไปไหนก็ไม่ได้ในวันแรก คุณหมอสั่งให้นอนอย่างเดียว มีแต่แม่ใหญ่แหล่ะที่เดินไปดูหนูอยู่เรื่อย ๆ แล้วก็คอยมาเล่าให้แม่อิจฉาว่าหนูทำอะไรบ้าง (ส่วนใหญ่หนูก็จะนอนตลอดเวลาแหล่ะจ้ะ) จนเพื่อน ๆ แม่มาเยี่ยม แม่ก็ให้น้าอ้อกะน้าสายไปถ่ายรูปหนูมาให้ดู ไม่ได้เห็นตัวจริงดูรูปถ่ายก็ยังดีเนอะ

(แอบบ่นหน่อยว่า ถ่ายรูปได้ไม่ค่อยชัดเลยจ้ะ เพราะห้ามใช้แฟลตแถมยังต้องถ่ายผ่านตู้กระจกอีกต่างหาก)

ตอนนี้กำลังหลับ (ยังฝันว่าอยู่ในท้องแม่อ่ะดิ อิๆ )



ตอนนี้เริ่มรู้ตัวแล้วว่าไม่ได้อยู่ในท้องแม่สักกะหน่อย เสียใจอ่ะดิ





แม่ยังเห็นหนูไม่ชัดเลยลูก แต่แม่ก็รักลูกของแม่เข้าเต็มหัวใจแล้วล่ะ แม่รอวันที่เราจะได้เจอกัน แล้ววันนี้ก็มาถึง ถึงแม้ว่าวันแรกแม่จะยังไม่ได้กอดลูก แต่แม่อยากให้หนูรู้นะว่า Love at First Sight อ่ะ มีจริง ๆ เพราะแค่แม่ได้เห็นรูปหนูแม่ก็รักหนูจนเต็มหัวใจ (จริงๆ หลงรักมาตั้งแต่อยู่ในท้องแล้วแหล่ะ) แม่ถามตัวเองว่าแม่จะดูแลหนูได้ไหม จะเลี้ยงหนูได้ดีหรือเปล่า คำตอบที่ได้ก็คือ แม่อาจจะไม่ได้เป็นแม่ที่ดีที่สุด แต่จะเป็นแม่ที่รักหนูที่สุดและเลี้ยงหนูให้ดีที่สุดเท่าที่แม่คนนึงจะทำได้

จำไว้นะลูก ว่าแม่รักหนูมากนะคับ

อ่ะนี่....ภาพแรกที่เราถ่ายรูปคู่กัน (เชื่อหรือยังว่าแม่มองไม่เห็นหน้าหนูเจง ๆ)



ความทรงจำแรกที่ได้เห็นลูก : ลูกฉันไข่ดำกะขายาว ฮี่ ๆ (แม่เห็นเท่านี้จริง ๆ นะลูกนะ)


Create Date : 10 มีนาคม 2551
Last Update : 10 มีนาคม 2551 15:32:57 น. 5 comments
Counter : 733 Pageviews.

 
...คุณแม่มือใหม่ไม่ค่อยเห่อลูกเลยนะคะ อิอิ


โดย: A Little Catz IP: 202.142.193.21 วันที่: 21 มีนาคม 2551 เวลา:16:23:09 น.  

 
แล้วเมื่อไรจะอัพล่ะเนี่ย จะดูนายไข่ดำตอนโต อิอิอิ


โดย: rainfull วันที่: 21 มีนาคม 2551 เวลา:21:42:11 น.  

 
หวัดดีค่ะ คุณตุ๊ก เอารูปหลานมาลงแล้ว เย้ๆ บอกให้แฟนรีบมาดูใหญ่ หลานน่าตาน่ารัก(น่าชัง)ค่ะ ยินดีด้วยกะคุณแม่

มือใหม่....

แฟนเราอยากมีลูกมากๆ เราก็ไม่ได้คุมนะ แต่ก็คิดว่าคงยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะมาเกิดละมั้ง(ให้กำลังใจตัวเอง)

ช่วงนี้ทำงานเกือบทุกวันเลย กลับมาก็หลับเป็นตาย เข้าไปในครัวใกลบ้านบ่อยอยู่นะ แต่ไม่ค่อยได้ตอบอะไรเท่าใหร่

***ลูกฉันไข่ดำกะขายาว***นึกแล้วเห็นภาพอนาคตลูกเราเหมือนกันอิอิ

อัพเดทรูปหลานบ่อยๆนะคะ



โดย: สร้อยอินเดีย วันที่: 30 มีนาคม 2551 เวลา:9:22:45 น.  

 
ยินดีด้วยนะคะ อ่านแล้วแอบอมยิ้มเลยคะ


โดย: กุ้ง IP: 125.25.75.19 วันที่: 5 เมษายน 2551 เวลา:21:02:01 น.  

 
โอ้วววว เพิ่งรู้ว่าหลานกะข้าพเจ้าชื่อคล้ายกันเลย คาดว่าอนาคตคงจะสดใสเหมือนน้า Patcharin แน่ๆ ฮิฮิ


โดย: เปิ้ล IP: 62.178.34.75 วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:18:48:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หลานตานี
Location :
ปทุมธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




คุณแม่ลูกหนึ่ง ที่ยังปิ๊งเหมือนเดิม

เหนื่อยแต่มีความสุข
Friends' blogs
[Add หลานตานี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.