ถ้าพูดถึงหนังหรือหนังสือแนวสืบสวนสอบสวน หักมุมหักเหลี่ยม พล็อตซับซ้อนซ่อนเงื่อน ชนิดที่ดูหรืออ่านจบแล้วต้องตบเข่าตัวเอง หรือเกาหัวแกรกๆไปพลางคิด "มันคิดได้ไงเนี่ย" ก็ต้องยกให้ประเทศญี่ปุ่น ชาติไหนๆก็คงตามความสลับซับซ้อนหักเหลี่ยมของสืบสวนญี่ปุ่นไม่ได้แน่ๆ ญี่ปุ่นไม่แพ้ชาติใดในโลกและวิ่งห่างชาติอื่นๆหลายช่วงตัว ถ้าเป็นหนังแนวเจ้าพ่อ มาเฟียสุดเท่ ก็คงประทับใจตั้งแต่โหดเลวดี กู๋หว่าไจ๋ เรื่อยมาถึง Infernal Affairs ซึ่งพอนำไปสร้างเป็นฮอลลีวูดเวอร์ชั่น The Departed (ไม่รู้ว่าใครชอบหรือเปล่าแต่เจ้าของบล็อคไม่ชอบ เพราะ The Departed กลายเป็นหนังที่มีแต่ความโหดเรื่อยเปื่อยของมาเฟีย แต่ความลึกและความเท่ของพล็อตเรื่องใน Infernal Affairs นั้นหายไปหมด)  แต่ถ้าเป็นหนังสุดโหด เลือดสาด มันส์สะใจ มืดหม่น ก็ต้องขอยกให้หนังเกาหลี แบบว่าลืมหนังแอ็คชั่นฝั่งฮอลลีวูดกันไปได้เลย นี่เลยเป็นที่มาของประโยคบนสุดว่า "รู้สึกดีใจจริงๆที่เกิดมาเป็นคนเอเชีย" ทำให้มีโอกาสได้ดูหนังหลากหลายเชื้อชาติที่ล้วนแล้วแต่เป็นสุดยอดในแขนง

"I Saw The Devil [악마를 보았다]" ผลงานการกำกับของ Kim Ji-woon ผู้มีผลงานการกำกับหนังสไตล์มืดหม่นแต่ยอดเยี่ยมมาแล้วกับ "A Tale of Two Sisters" เป็นหนึ่งในหนังเกาหลีสไตล์สุดโหด โรคจิต เลือดสาด มืดหม่น เรื่องหนึ่งที่ชนะเลิศด้วยประการทั้งปวง ด้วยพล็อตเรื่องสั้นๆเกี่ยวกับ การตามล้างแค้นของนายตำรวจหนุ่มที่ภรรยาโดนฆาตกรต่อเนื่องโรคจิตฆ่าหั่นศพทิ้งแม่น้ำ 

หนังซึ่งมีความยาวทั้งหมดสองชั่วโมงครึ่ง เปิดฉากมาด้วยความโหดร้ายสยดสยองของฆาตรกรโรคจิต ซึ่งบังเอิญเป็นภรรยาของพระเอก พระเอกเลยทำการวางแผนเฝ้าไล่ล่าจองล้างจองผลาญตัวฆาตกรโรคจิต แต่พล็อตเรื่องมันเหนือกว่าตรงที่พระเอกเจอตัวฆาตรกรตั้งแต่ยังไม่ถึงครึ่งเรื่อง แต่กลับไม่ได้ทำการสำเร็จโทษฆาตกรโรคจิตในทันทีที่มีโอกาสเพราะมันคงไม่สาสมกับความแค้นที่มี ตลอดสองชั่วโมงหลังจากนั้นเลยเป็นการไล่ล่า ฟัน แทง ทิ่ม ทุบ เฉือน ต่อย เตะ ถีบ ยิง และทุกอย่างที่สามารถทำได้ระหว่างพระเอกและฆาตกร บรรยายได้คำเดียวว่า มันส์สะใจสุดๆ เพราะทั้งตัวฆาตกรนั้น ก็สมเป็นฆาตกรโรคจิตแท้จริงชนิดทื่ไม่มีการออมมือเหมือนหนังฝรั่งบางเรื่องที่มักจะเอ้อระเหยลอยชายก่อนทำการฆาตรกรรมคนที่ค่อนข้างมีความสำคัญกับตัวเรื่องหรือกับตัวเอก ส่วนตัวพระเอกนั้น ก็โหดพอกันและไม่มีการยั้งมือยั้งคิดยั้งทำต่อการทารุณกรรมตัวฆาตกรใดๆทั้งนั้น 

สิ่งหนึ่งที่ทุกคนต้องยกนิ้วให้กับหนังเกาหลี นอกจากโปรดักชั่นที่สวยงามในทุกรายละเอียดและมุมกล้อง ก็คือการแสดงขั้นเทพของนักแสดงทุกคน หนังเรื่องนี้คงจะขาดความเข้มข้นไปครึ่งหนึ่งหากไม่ได้นักแสดงอย่าง Lee Byung-hun ที่มารับบทพระเอกผู้ถวายชีวิตให้กับการตามล้างแค้นให้ภรรยา กับ Choi Min-sik ที่มารับบทฆาตกรต่อเนื่องโรคจิต ที่เคยรับบทพระเอกมาก่อนในหนังสุดโหดคลาสสิคอย่าง Old Boy นับได้ว่ามันเป็นการแสดงขั้นเทพของทั้งคู่อย่างจริงจัง 

และที่ต้องขอเพิ่มเครดิตให้อีกหนึ่งอย่างคือดนตรีประกอบที่เรียกอารมณ์ให้อินไปกับหนัง โดยเฉพาะในฉากที่ค้นพบชิ้นส่วนศพของภรรยาพระเอกในแม่น้ำ ฉากนั้นเป็นฉากที่กระชากอารมณ์สุดๆของหนังเรื่องนี้ฉากหนึ่งกับการชุลมุนอลหม่านของนักข่าวและตำรวจ และความรู้สึกสับสนปวดร้าวของผู้เสียชีวิต

อีกฉากหนึ่งที่ประทับใจไม่แพ้กันคือฉากการมอบตัวของฆาตกรต่อเนื่องหน้าสถานีตำรวจ การก้าวเท้าลงมาของตัวฆาตกรที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือดสดๆไหลเปรอะตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่ว่าจะเป็นเลือดตัวเองที่โดนทำร้าย ปนเปกับเลือดของเหยื่อรายล่าสุดที่สะเทือนอารมณ์ ด้วยมุมกล้องสุดยอดนั้น แม้จะเป็นตัวร้าย แต่เชื่อว่าคนที่นั่งดูอยู่ก็คงรู้สึกถึงรัศมีความเท่แบบโรคจิตและน่าขนหัวลุกไปพร้อมๆกัน