มิถุนายน 2556

 
 
 
 
 
 
1
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
Celeste and Jesse Forever - เมื่อความรักจบลง เราก็ยังคงต้องเดินต่อไป
++Celeste and Jesse Forever++
...เมื่อความรักจบลง เราก็ยังคงต้องเดินต่อไป...

ผ่านมาแล้วเกือบครึ่งปี "Celeste and Jesse Forever" น่าจะขึ้นแท่นหนังโรแมนติกคอมเมอดี้แห่งปีที่เราชอบมากที่สุด มันเป็นหนังที่เป็นตัวแทนบอกเล่าเรื่องราวการจบความสัมพันธ์ของ (แทบ) จะทุกคู่บนโลกใบนี้ก็ว่าได้ ที่ต้องเลิกรากันทั้งๆที่ความรักยังคงอยู่

หลายๆครั้ง "ความรัก" ไม่ใช่คำตอบเดียวที่ทำให้ความสัมพันธ์ของคนสองคนเดินทางไปด้วยกันต่อได้ ทั้งๆที่ "ความรัก" น่าจะเป็นเพียงคำตอบเดียว และเป็นคำตอบสุดท้ายที่ทำให้คนสองคนอยู่ด้วยกัน แต่คนเรา ไม่ฝ่ายใดก็ฝ่ายหนึ่ง กลับทำให้ทุกอย่างพังทลายเพียงเพราะกฎเกณฑ์ กลไก ความคิดอะไรบางอย่างที่แฝงเข้ามาในสมองและทำให้เรื่องราวทุกอย่างยุ่งยากและวุ่นวาย ทั้งๆที่ความยุ่งยากวุ่นวายเหล่านั้น "มันไม่ได้มีอยู่จริง"


"Celeste and Jesse Forever" เป็นเรื่องราวที่ใบปิดหนังใช้คำบรรยายแสนเก๋และฉลาดว่า "A Loved Story" ระหว่างเซเลส และ เจสซี่ เพื่อนสนิทที่คบกับมาตั้งแต่สมัยเรียน พวกเขาออกเดทกัน แต่งงานกัน หย่าร้างกัน แต่ก็ตัดสินใจที่จะยังคงเป็นเพื่อนรักกันต่อไป ยังคงเจอกันทุกวัน สนิทสนมกัน จนเพื่อนๆต่างพากันมองว่าความเป็นเพื่อนสนิทสุดขั้วของเซเลสและเจสซี่เป็นเรื่องที่ประหลาด เพราะแม้จะเลิกรากันไปครึ่งปีแล้ว แต่ต่างฝ่ายต่างเจอกันทุกวัน และก็ไม่มีฝ่ายใดเริ่มออกเดทกับคนใหม่จริงจังเสียที

เซเลส เป็นหญิงสาวที่มั่นใจในตัวเอง ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานในองค์กร ส่วน เจสซี่ เป็นศิลปินหนุ่มที่ว่างงานและใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อย ตลอดความสัมพันธ์ของทั้งสองคน เซเลสคิดว่าเจสซี่ไม่เป็นผู้ใหญ่เพียงพอที่จะรับผิดชอบครอบครัว เธอคิดว่าเธอต้องการคนที่ดีกว่าในการสร้างครอบครัว เธอต้องการคนที่ "ใช่" มากกว่านี้ 

เมื่อการหย่าร้างส่วนใหญ่มาจากการตัดสินใจของเซเลส เธอจึงรับมือกับความสัมพันธ์ที่จบลงได้อย่างเป็น "มืออาชีพ" มากๆ ทั้งการยอมรับและแสดงความยินดีให้เจสซี่ไปเดทกับผู้หญิงคนอื่น ซึ่งเอาเข้าจริงแล้ว การที่เธอยินดีและยอมรับนั้น เป็นเพราะเธอรู้ว่ามันเป็นเพียงการเดทเล่นๆ ไม่ได้จริงจังของเจสซี่ และทุกอย่างก็จะจบลงตรงที่ทั้งเธอและเจสซี่ต่างก็ยังไม่เจอคนรักใหม่นั่นเอง แต่เรื่องกลับมากลับตาลปัตรเอาในวันที่เจสซี่ได้เจอกับเวโรนิก้า และเจสซี่กำลังจะสร้างครอบครัวใหม่กับผู้หญิงคนอื่น ที่ไม่ใช่เซเลส...

หนังไม่ได้สร้างพล็อตเรื่องเรียกน้ำหูน้ำตาจากคนดูต่อจากนั้น หนังดำเนินเรื่องต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีดราม่าเกินงาม ไม่มีหักมุมไปมา ซึ่งทำให้หนังเรื่องนี้ดูสมจริงและทรงพลังมากที่จะเข้าไปนั่งอยู่ในความรู้สึกของคนดู

หนังดำเนินเรื่องต่อในแง่ความรู้สึกของเซเลสเป็นหลัก เซเลสค่อยๆผ่านขั้นตอนห้าประการในการรับมือกับความเศร้าเสียใจ [5 Stages of Grief] เริ่มจากการที่เธอจะยังคงรักษาความเป็น "มืออาชีพ" ต่อหน้าทุกคน เพราะเธอกำลังอยู่ในสถานะที่ปฎิเสธความจริง [Denial] และปฎิเสธความรู้สึกของตัวเองที่เธอยังคงมีต่อเจสซี่อย่างท่วมท้น จนกระทั่งค่อยๆเข้าสู่สภาวะโกรธ [Anger] ตอนที่เผชิญหน้ากับเจสซี่และได้เห็นเจสซี่เริ่มมีความสนใจใหม่ๆ กิจกรรมใหม่ๆที่เธอไม่รู้จัก และเซเลสก็เข้าสู่การเริ่มโศกเศร้าไม่เป็นผู้เป็นคน [Depression] และลงท้ายด้วยการลดละเลิกความยึดมั่นถือมั่นที่ต้องเป็น "ฝ่ายถูก" เพื่อต่อรองร้องขอการกลับมาคืนดีกับเจสซี่อีกครั้ง [Bargaining] 

จนกระทั่งสุดท้าย เซเลสก็เดินเข้าสู่สภาวะของการยอมรับ [Acceptance] ซึ่งมันไม่ได้ง่ายเลยสำหรับเซเลส ซึ่งตลอดเวลาเธอเป็นฝ่ายถูกและประสบความสำเร็จอยู่เสมอ ส่วนเจสซี่เป็นฝ่ายผิดและล้มเหลวบ่อยครั้ง แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่!! เจสซี่กำลังเดินนำหน้าแซงเธอไป นอกจากเซเลสจะต้องเสียใจเพราะอกหักแล้ว เธอยังต้องเสียใจกับความล้มเหลวครั้งแรกของเธออีกด้วย (บอกตรงๆว่า เราเข้าใจเซเลสสุดๆ)

สำหรับเซเลส คงไม่มีทางลืมเจสซี่ และเจสซี่เองก็คงไม่มีทางลืมเซเลสได้เช่นกัน แต่การลืมรักในอดีตไม่ใช่คำตอบในการเดินทางต่อ ทุกคนสามารถเดินทางต่อได้โดยมีอดีตฝังอยู่ในใจทั้งนั้น เพราะคงมีคนจำนวนน้อยมากบนโลกใบนี้ที่จะสมหวังได้ลงเอยกับรักครั้งแรกนิจนิรันดร์ ทุกคนต่างมีอดีตติดตัวมาทั้งนั้น เพียงแต่เราต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับความจริงว่า ณ วันหนึ่ง เราต้องเดินทางต่อ อดีตเป็นสิ่งจบไปแล้วและไม่หวนกลับ และอย่าปล่อยให้อดีตนั้นมาทำลายปัจจุบันหรือฉุดรั้งอนาคต อย่าลืมว่า คนที่เราจะเจอต่อไปไม่ได้มีหน้าที่ทำให้เราลืมอดีต แต่เค้ามีหน้าที่สร้างอนาคตกับเราต่างหาก



สุดท้าย หนังตั้งคำถามกับเราว่า...คุณต้องการเป็นคนถูก หรือคุณต้องการมีความสุข? เพราะฉะนั้น หากครั้งต่อไปที่ความสัมพันธ์จะจบลง ก็ขอให้มันจบลงเพราะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหมดรักให้กันแล้ว ไม่ใช่เพราะกฎเกณฑ์ กลไก หรือความคิดเยอะในสมองของตัวเองคนเดียว ว่าอะไรใช่ อะไรไม่ใช่ อะไรคือสิ่งที่ถูกต้อง อะไรคือสิ่งที่ผิด 

อย่าพยายามโหยหาสิ่งที่ "ใช่" และ "ถูกต้อง" จากกฎเกณฑ์ กลไกและความคิดเยอะในสมองตัวเอง แต่ลองถามหัวใจตัวเองดูกอ่นว่าอะไรคือ "ความสุข" และสิ่งที่เราต้องการ และสุดท้ายก็ลองเปิดใจให้โอกาสกับมันดูบ้าง เผื่อว่าสุดท้ายแล้ว คุณจะเจอรักแท้ที่เฝ้ารอก็เป็นได้...

เรื่องนี้ให้ 10/10 เลยค่ะ 
(เพราะว่าชอบเรื่องที่จบแนวนี้เป็นการส่วนตัว)


ป.ล. ประโยคที่ว่า "เราไม่ได้มีหน้าที่ทำให้ใครลืมอดีต แต่มีหน้าที่สร้างอนาคตกับเค้าต่างหาก" มาจากรีวิวหนังอีกเรื่องของเพื่อนบล็อคอีกคน ตอนนี้ (วันนี้) ขาดการติดต่อไป แต่หวังว่าเค้าจะมีความสุขดีนะ ^^



Create Date : 02 มิถุนายน 2556
Last Update : 4 มิถุนายน 2556 22:32:10 น.
Counter : 2117 Pageviews.

2 comments
  
อ่านรีวิวเจ้าของบล๊อคนี้ทีไร อยากจะไปหาหนังเรื่องนั้นมาดูเลย


เจ้าของบล๊อคเขียนดีจัง เข้าใจว่าเขียนมาจากความรู้สึก คนอ่านอย่างเราก็เลยชอบ :)
โดย: แฟนlinKinPark วันที่: 3 มิถุนายน 2556 เวลา:22:04:29 น.
  
@คุณแฟนlinKinPark ตัวเราเองไม่ค่อยเขียนรีวิวหนังเท่าไหร่อ่ะค่ะ ลองถ้าลงมือเขียนถึงเรื่องไหนแล้ว การันตีว่าต้องเป็นหนังที่ควรค่าแก่การดูแน่นอนค่ะ ^^

และก็แม่นแล้วค่า...เขียนจากความรู้สึก บวกประสบการณ์ตรงเลย ㅠ.ㅠ
โดย: เจ้าของบล็อค IP: 125.24.139.51 วันที่: 4 มิถุนายน 2556 เวลา:19:05:08 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

natcharat
Location :
GaNG-NaM, SeoUL  Korea

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 34 คน [?]



ตั้งใจเปิดบล็อคนี้ขึ้นมาระบายอารมณ์เวลาอ่านหนังสือแต่ละเล่มจบ เพราะชอบอ่านหนังสือมากๆ (จริงๆชอบอย่างอื่นด้วย ดูหนัง ฟังเพลง กิน เที่ยว ช็อปปิ้ง)

แอดเป็นเพื่อนกันที่ Facebook ได้นะคะ http://www.facebook.com/narumol.pichedpun

"ลิขสิทธิ์ของงานเขียนทุกชิ้นในบล็อกนี้ เป็นของเจ้าของบล็อกตามกฎหมาย หากต้องการคัดลอก ดัดแปลง หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อ ด้วยวิธีใดๆ กรุณาติดต่อขออนุญาตจากเจ้าของบล็อกก่อนนะคะ เพราะงานเขียนบางชิ้นติดลิขสิทธิ์ค่ะ" [สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539]
New Comments