♥♥ รักข้ามมิติ ♥♥ ตอนที่ 1 ♥♥
รักข้ามมิติ หญิงสาวร่างโปร่งบางในวัยต้นยี่สิบมีทีท่ากระวนกระวายใจขณะเดินเร็วๆ ไปตามทางเดินในซอยที่เงียบกว่าปกติ เนื่องจากเป็นยามวิกาล อันที่จริงฝนที่เพิ่งหยุดตกน่าจะเป็นสาเหตุแห่งความเงียบผิดปกตินี้ ร้านขายอาหารและร้านขายของชำปิดเงียบ รถเข็นและแผงลอยต่างๆ ริมทางเดินที่ปากซอยก็พลอยหายไปหมด โชคดีที่ซอยนี้เป็นซอยตันที่ไม่ลึกมากความปลอดภัยจากโจรกรรมและการฉกชิงวิ่งราวจึงค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็นซอยค่อนข่างเล็กและไม่ลึกมากจึงไม่มีความพลุกพล่านและบริการรถจักรยานยนต์ด้วยเช่นกัน อิสรสุขเพิ่งเข้าทำงานในธนาคารใหญ่แห่งหนึ่ง กระนั้นงานก็มีมากมายจนเธอต้องอยู่เลยเวลางานทุกวัน โดยเฉพาะช่วง2-3 สัปดาห์นี้เธอต้องกลับค่ำเช่นนี้เสมอ นี่ถ้าตายายยังอยู่คงรอเธออย่างกระวนกระวายใจหรือไม่ก็ให้น้าชายมารอรับเธอที่ปากซอยเพื่อสวัสดิภาพของหลานสาวผู้เป็นแก้วตาดวงใจของผู้สูงวัยทั้งสอง หญิงยิ้มอย่างสุขใจเมื่อรำลึกถึงความรักความอาทรที่ตายายผู้เลี้ยงดูหลานกำพร้ามาแต่อ้อนแต่ออก แต่รอยยิ้มนั้นก็จางลงเมื่อตระหนักถึงความจริงว่าเธอได้สูญเสียบุคคลที่รักยิ่งไปตลอดกาล คุณตาจากไปก่อนอย่างสงบ คุณยายจากไปหลังจากนั้นไม่นาน แต่อย่างน้อยก่อนจากไปตายายก็เบาใจได้ว่าได้อบรมเลี้ยงดูและให้การศึกษาหลานสาวจนเธอสามารถยืนได้ด้วยลำแข้งน้อยๆ ของเธอเอง ได้เห็นหลานสาวมีความประพฤติดี ใส่ใจในการศึกษาจนท่านทั้งสองทันเห็นวันที่เธอได้รับพระราชทานปริญญาจากสถาบันที่มีชื่อเสียง เห็นความมุมานะในการทำงานของเธอ เหนือสิ่งอื่นใด คือความรักความเอาใจใส่ที่เธอมีต่อท่านทั้งสอง หญิงสาวเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นเมื่อเดินมาใกล้ที่ดินผืนใหญ่ซึ่งมีโครงสร้างอาคารหลังใหญ่และอุปกรณ์การก่อสร้างใหญ่ๆ ตั้งอยู่ เธอสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าและเสียงพูดจากที่ใกล้ตัว มีเงาดำปรากฎขึ้นเป็นร่างบุรุษ 3 - 4 ร่าง หญิงสาวกรีดร้องด้วยความตกใจ ผละวิ่งหนีไปยังทิศตรงข้าม ร่างกำยำร่างหนึ่งวิ่งมาประชิดและกระชากแขนหญิงสาวโดยแรง ร่างบางเสียหลักถลาไปตามแรงกระชากนั้น หญิงสาวร้องเรียกตายายในใจราวกับจะขอให้มาปกป้องเธอ สำนึกสุดท้ายบอกว่ามีพลังมหาศาลมากระชากร่างเธอ แล้วสติของเธอก็ดับวูบลง นี่เราอยู่ที่ไหน อิสรสุขรำพึง เหลียวมองรอบกายก็ตระหนักว่าเธอนอนอยู่บนที่นอนอันอ่อนนุ่มและสะอาดสะอ้านบนเตียงที่ค่อนข้างใหญ่สำหรับหญิงสาวร่างบางอย่างเธอ ห้องนี้ปิดทึบแต่ก็มีแสงซึ่งสว่างพอที่เธอจะเห็นว่านี่เป็นห้องนอนขนาดกลางที่ไม่มีเครื่องตบแต่งห้องมากนัก เจ้าของห้องน่าจะเป็นคนมีระเบียบไม่น้อย น่าจะเป็นห้องของผู้ชาย หญิงสาวสะดุ้ง ห้องใคร เรามาอยู่ห้องเขาได้ยังไง อิสรสุขใจหายวูบเมื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นไป หญิงสาวรีบลุกขึ้นและผละออกจากเตียงที่แสนสบายนั้น พลันก็รู้สึกถึงความขัดยอกของร่างกายราวกับจะยืนยันว่าเธอประสบเหตุการณ์ใดมา เมื่อก้มลงมองดูและเห็นว่าเธอยังสวมชุดสูทอันประกอบด้วยเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวสีเข้มที่แม้มีสภาพยับผิดปกติแต่ไม่มีความผิดปกติอย่างอื่น หญิงสาวก็ผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก เราต้องรีบออกไปจากที่นี่ หิมะ! หญิงสาวอุทานด้วยความประหลาดใจ รู้สึกถึงลมหนาวที่พัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างที่เธอเพิ่งเปิดออก ภายนอกดูราวกับเป็นป่าเมืองหนาวปลายฤดูใบไม้ร่วง เนื่องจากใบไม้ได้เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลทองงดงามแปลกตา ปุยหิมะบางเบาปลิวล่องลอยตามสายลมอย่างน่าดู อิสรสุขปิดหน้าต่างลงดังเดิม เดินตรงไปยังตู้ไม้ขนาดกลาง เมื่อเปิดออกก็พบสื้อผ้าราว 10 ชิ้นพับซ้อนเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ เมื่อคลี่ออกดูก็พบว่าเป็นเสื้อและกางเกงผู้ชายขนาดใหญ่ แม้จะแลดูใหม่แต่แบบและเนื้อผ้าก็แลดูย้อนยุคไปในอดีต อิสรสุขพบชุดที่มีขนาดเล็กกว่าตัวอื่นๆ 1ชุดที่ก้นตู้ น่าจะเป็นของเด็กผู้ชายนะ หญิงสาวนึก ขณะหยิบเสื้อและกางเกงเด็กผู้ชายนั้นสวมทับชุดสูทของเธอ แม้จะเป็นเสื้อและกางเกงของเด็กผู้ชายแต่มันก็ยังใหญ่กว่ารูปร่างของเธออย่างเห็นได้ชัด รุ่มร่ามไปหน่อยแต่ก็อุ่นดี แล้วมันก็ซ่อนรูปร่างของเราได้มิดชิดทีเดียว เราต้องปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อความปลอดภัย อิสรสุขตรึกตรอง เมื่อมองไปที่เตียงนอนก็พบกระเป๋าสะพายใบใหญ่ของเธอ หญิงสาวตรงไปหยิบกระเป๋าแล้วเปิดออก สำรวจดูสิ่งของข้างในและพบด้วยความประหลาดใจว่าว่าทุกอย่างยังอยู่ครบแม้แต่กระเป๋าใส่เงิน อิสรสุขหยิบที่แปรงผมและผ้าพันคอออกจากกระเป๋า แปรงผมนุ่มสีเข้มซึ่งยุ่งเหยิงของเธอ พันผ้าพันคอรอบศีรษะเพื่อซ่อนผมเป็นซึ่งบัดนี้เป็นประกายเงางามเหยียดตรงยาวถึงกลางหลัง ออกจากห้องนอน อิสรสุขก็พบห้องโถงกว้าง มีโต๊ะและเก้าอี้ประกอบง่ายๆ จำนวนหนึ่งตั้งอยู่ มีห้องเล็กๆ อีกห้องหนึ่งอยู่ถัดออกไปซึ่งน่าจะเป็นห้องครัวเพราะมีโถดินเผาและหลายในวางซ้อนกันอยู่ ตลอดจนอาหารแห้งลักษณะไม่คุ้นตาหญิงสาว และผลไม้แห้งในโถดินเผาที่ปิดฝาไว้มิดชิด หญิงสาวนำอ่างดินเผาขนาดกลาง 2 ใบออกจากบ้านวางไว้กลางแจ้งเพื่อรองหิมะไว้เป็นน้ำดื่ม แล้วกลับเข้าบ้านรับประทานผลไม้แห้งในโถดินเผาที่เธอพบ รับประทานจนหายหิวก็นำอ่างดินเผาขนาดกลางอีก 2 ใบออกจากบ้านวางไว้กลางแจ้งเพื่อรองหิมะ แล้วนำอ่างดินเผา 2 ใบแรกที่มีหิมะอยู่ก้นอ่างเข้ามาในบ้าน กอบหิมะจากอ่างใบหนึ่งมากินแทนน้ำ อ่างอีกใบหนึ่งวางไว้ในห้องเพื่อให้หิมะละลาย หญิงสาวสำรวจบริเวณรอบๆ บ้าน ไม่พบใคร แต่มีร่องรอยว่าน่าจะมีคนอาศัยอยู่ มีเพิงเล็กๆ ที่มีกองฟืนสุมอยู่ น่าจะมีไว้เพื่อเป็นเชื้อเพลิงในการประกอบอาหารและให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายในฤดูหนาว บ้านนี้ไม่น่ามีอันตราย หญิงสาวคิด อาจมีคนช่วยเราไว้ แล้วพามาพักที่นี่ เราควรจะคอยเขาหรือเธอคนที่ช่วยเราไว้ถ้ามีคนต้องการจับตัวเราไว้ เค้าคงไม่ปล่อยเราไว้หรอก อย่างน้อยก็ต้องจับมัดไว้ไม่ให้หนีไป ความอ่อนเพลียประกอบกับความสับสนในเหตุการณ์ที่เพิ่งประสบมาทำให้หญิงสาวกลับไปยังบ้านหลังนั้น นั่งลงที่พื้นห้องเอนกายพิงกับเสาเรือนและหลับไป
เฮ้ย ไอ้เด็กขอทาน เอ็งมาทำอะไรที่นี่ ชายร่างสูงใหญ่บึกบึนใช้เท้าข้างหนึ่งเขื่ยร่างเล็กที่ขดกายหลับอยู่กับพื้น ร่างน้อยนั้นผวาลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจและสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัวเมื่อมองเห็นว่านอกจากชายท่าทางดุร้ายคนนี้แล้วยังมีชายในวัยหนุ่มร่างสูงใหญ่บึกบึนอีก 4 คนยืนอยู่ด้วย ช่างมันเถิด เด็กมันไม่รบกวนอะไรเราหรอก ชายหนุ่มผู้มีสง่าราศีในกลุ่มพูดขัดขึ้น เด็กมันกลัวจนจะร้องไห้อยู่แล้ว ถ้ามันร้องไห้ขึ้นมาใครจะไปปลอบให้มันหยุดได้ มันคงหลงทางแหละ ป่านนี้พ่อแม่มันเป็นห่วงแย่แล้ว เดี๋ยวพวกเรากินอาหารแล้ว ถามมัน แล้วใครสักคนพามันไปส่งพ่อแม่มันแล้วกัน แบ่งอาหารให้มันกินด้วยก็ได้ ตัวนิดเดียว เอ้าเอาถังนี่ไปตักน้ำในบ่อข้างบ้านมา ถ้าจะกินก็ต้องช่วยกัน ชายคนหนึ่งส่งถังไม้ใบเขื่องให้เด็กน้อยนั้น ขอรับนายท่าน ร่างน้อยนั้นค้อมกายรับถังไม้นั้นไว้อย่างกลัวเกรง อย่าไปใช้เด็กมันตักน้ำเลย ถังนั่นใบใหญ่กว่าตัวมันด้วยซ้ำ มันตกบ่อตาย จะไปหาเด็กที่ไหนมาใช้คืนพ่อแม่มัน ชายหนุ่มผู้มีสง่าราศีผู้ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่มพูดขัด เอ้างั้นไปเอาฟืนมา เด็กน้อยค้อมกายรับคำสั่งอย่างเชื่อฟัง ให้มันไปช่วยงานในครัวแล้วกัน ไหนดูมือหน่อยวซิ สกปรกรึเปล่า ร่างน้อยนั้นขยับมาตรงหน้าชายหนุ่มผู้เป็นหัวหน้ากลุ่ม ยื่นมือไปตรงหน้าชายหนุ่มผู้พลิกมือนั้นดูอย่างแปลกใจ มือน้อยๆ คู่นั้นเรียวงามนุ่มละมุนอย่างน่าแปลกใจ เจ้าเป็นใคร ชายหนุ่มถาม ตวัดดาบที่อยู่ใกล้ตัวไปยังศีรษะของร่างน้อยตรงหน้า ผ้าที่พันรอบศีรษะหลุดตกลงพื้นท่ามกลางสายตาอันตื่นตะลึงของหญิงสาว ผู้หญิง มีเสียงอุทานดังขึ้น ช่างเป็นความงามที่แปลกตา ชายหนุ่มคิด มองดูหน้าที่ประกอบด้วยดวงตายาวรีรูปอัลมอลด์ แก้มใสนวลเนียนเต็มตึงรับกับริมฝีปากสีระเรื่ออิ่มเต็ม ผมสีเข้มเป็นประกายเงางามเหยียดตรงรับกับนัยน์ตาสีเดียวกัน เรือนร่างที่ซ่อนอยู่ในรุ่มร่ามแบบเด็กชายนั้นน่าจะซ่อนไว้ซึ่งเรือนร่างโปร่งบางที่มีความเป็นหญิงเต็มตัว ช่างแตกต่างจากสตรีโรฮันผู้มีเรือนร่างสูงใหญ่เทอะทะ ผิวเผือดซีดตลอดจนนัยน์ตาและผมสีอ่อนจางเสียนี่กระไร
กินอาหารให้อิ่ม ชายหนุ่มกล่าวกึ่งสั่ง แล้วเราจะกลับไปบ้านข้ากัน ตอนนี้หญิงสาวไม่ต้องไปช่วยงานในครัวแล้ว แต่ต้องนั่งอยู่กับชายหนุ่มผู้มองเธอไม่วางตาด้วยสายตากรุ่มกริ่มแสดงดวามพึงพอใจอย่างเปิดเผย ข้าขอบคุณสำหรับอาหาร แต่ข้าต้องกลับไปบ้านข้า อิสรสุขค้าน ป่านนี้ทางบ้านคงเป็นห่วง บ้านเจ้าอยู่ไหน ข้าหลงทางมา กำลังหาทางกลับบ้านอยู่ น่าจะไม่ไกลจากที่นี่ งั้นรึ พวกข้าจะช่วยหา ไม่ได้หรอกท่าน ข้าต้องหาเอง พวกท่านไม่รู้จักหรอก เจ้าจะไปไหนๆ ผู้หญิงตัวคนเดียวได้ยังไง ถ้าโชคร้ายไปเจออันธพาลเข้า มันคงไม่ปล่อยผู้หญิงสวยๆ ไว้หรอก ข้าต้องอยู่ที่นี่ จะได้หาทางกลับบ้านถูก เจ้าอยู่ที่นี่ตามลำพังไม่ได้หรอก ข้าอนุญาตให้พวกพรานป่าที่เดินทางผ่านมาพักที่บ้านนี้ได้ พวกพรานป่าบางคนเข้าป่าเป็นเดือน ไม่ได้พบผู้หญิงเลย ถ้ามาพบเนื้อหวานๆ อย่างเจ้า จะเหลือเรอะ หญิงสาวหน้าแดง ไปบ้านข้า แล้ววันหลังข้าจะช่วยหาบ้านให้เจ้า เจ้าขี่ม้าเป็นไหม ชายหนุ่มถามอิสรสุข เรามีม้ามาพอดีพวกเรา บุรุษในกลุ่มขัดอย่างเกรงใจ จริงสิ ข้าลืมไป ก็ดี เจ้านั่งไปกับข้าแล้วกัน
เรื่องนี้แต่งจบแล้ว แต่ค่อยๆ ทะยอยพิมพ์ เพราะพิมพ์ได้ช้า จะพิมพ์ตอนต่อๆ ไป โดยบอกตอน1, 2, 3, ... ไปเรื่อยๆ กรุณาตามอ่าน & comment หน่อยนะคะ
มือใหม่ค่ะ
ขอบคุณค่ะ
Create Date : 23 มีนาคม 2552 |
|
566 comments |
Last Update : 28 สิงหาคม 2552 15:17:44 น. |
Counter : 5658 Pageviews. |
|
|
|