พอเริ่มเข้าฤดูใบไม้ผลิ โรคที่มาพร้อมกับฤดูนี้ก็คือโรคภูมิแพ้ละอองเกสรดอกไม้ สาเหตุเกิดมาจากต้นสนญี่ปุ่น (Sugi 杉）

ตอนนี้เรายังไม่เป็น อาจจะเพราะเพิ่งมาอยู่ที่ญี่ปุ่น แต่คุณซูเขาบอกเป็นทุกปี ขนาดเป็นทุกปี เห็นแล้วทรมานแทน แล้วคนไทยที่อยู่ที่นี่ที่เรารู้จัก ก็จะเป็นกันเกือบทุกคน (เราจะรอดมั้ยเนี่ย ><)

เพราะมันปลิวมากับสายลม เพราะฉะนั้นถึงอยู่บ้านเฉย ๆ ก็อาจจะสูดมันเข้าไปได้ค่ะ

อาการของโรคนี้ที่เราเห็นจากคุณซู ช่วงแรก ๆ ก็จะจาม มีน้ำมูกไหล คันตา ไปสักพักใหญ่ ๆ อาการพวกนี้เริ่มรุนแรงขึ้น ถึงขนาดหายใจไม่ค่อยออก เพราะคัดจมูก  เปลือกตาก็แดง บวม สั่งน้ำมูกอยู่ตลอดเวลา

พอถึงช่วงนี้ กระดาษทิชชูธรรมดาที่เคยใช้ ก็จะเปลี่ยนมาใช้แบบทิชชูที่มีโลชั่น (保湿ティッシュ (ローションティッシ))

ตอนนอนคุณซูก็แปะอะไรก็ไม่รู้ที่จมูก ตัวนี้คงทำให้จมูกโล่งขึ้น

แล้วก็ยังมีพ่นยาเข้าจมูก

แล้วก็มีการกินยาตัวนี้ด้วย ตัวนี้แก้จาม น้ำมูกไหล คัดจมูก

ตอนแรกคุณซูไม่ยอมหยอดตา จนต้องบังคับให้หยอด ก็ดีขึ้น แต่ก็ยังคันตา

ตัวนี้ของบ้านเราเอง คุณซูใช้พวกนี้แล้วก็ยังคัดจมูกอยู่ เราก็เลยแนะนำตัวนี้ ใช้แล้วเห็นบอกว่าโล่งจมูกขึ้นนิดนึง

ก็ยังไม่หาย ก็เลยให้คุณซูไปโรงพยาบาลดีกว่า ไปวันเสาร์ที่ 16 มี.ค. 56 ไปถึงร.พ. 9 โมง รอคิวนานมาก กว่าจะออกจาก ร.พ. ประมาณ 11.30 น. แล้วระบบของ ร.พ. แถวนี้ก็คือ ทางร.พ. ไม่จ่ายยาให้เลย จะเป็นแค่คุณหมอมาตรวจ แล้วก็เขียนใบสั่งยา (処方せん）　แล้วเราก็จ่ายค่าตรวจให้กับร.พ. ส่วนยาเราต้องเอาใบสั่งยาที่ได้มาไปร้านยาที่เขารับใบนี้ ซึ่งเราไปที่ マツモトキヨシ　คนก็เยอะอีกนั่นแหล่ะ เพราะทุกคนไปร.พ. แล้วก็ตรงมาที่นี่เหมือนกัน กว่าจะได้ยาจ่ายตังค์ก็ 13.30 น. รอนานมาก วันนี้ที่ไป ไปแผนกหู จมูก พอกินยาเข้าไปจมูกก็ดีขึ้น แต่ตานี่สิ ถ้าไม่ดีขึ้นต้องไปหาหมอตา

งง โรคนี้ไปรับการรักษา ต้องรักษาเป็นด้าน ๆ ไป แยกเฉพาะทาง  แต่ถ้าเป็นบ้านเรา มารักษาโรคนี้ร.พ. คงตรวจและให้ยาครอบคลุมทั้งโรค (มั้ง เดาเอานะค่ะ)

การป้องกันที่เราดูจากในเว็บ หรือตามข่าวก็คือ

1. ใส่หน้ากากอนามัย

2. เค้ามีแว่นตาสำหรับป้องกันภูมิแพ้นี้ด้วย (แต่เรากับคุณซูไม่ได้ใช้)

3. หลังจากกลับมาจากข้างนอกให้ล้างมือ บ้วนปาก

เราใช้น้ำธรรมดาบ้วนปาก คุณซูใช้ Ugai kusuri

4. พยายามถูบ้านบ่อย ๆ เพราะละอองจะติดมากับเสื้อผ้า ผม ฯลฯ

5. กลับมาถึงบ้านก็อาบน้ำ สระผม

6. สำหรับที่บ้านเรา ตอนนี้เวลาตากผ้า หรือตากผ้าปูต้องตากในบ้าน เพราะถ้าตากข้างนอก เดี๋ยวละอองที่มากับลม จะปลิวมาติด

เหมือนช่วงนี้ต้องกลายเป็นคนอนามัยมาก ๆ แต่ก็ต้องทำ จะได้ไม่เป็น หรือจะได้ทรมานน้อยลง

Create Date : 18 มีนาคม 2556
Last Update : 18 มีนาคม 2556 13:00:02 น.		3 comments
Counter : 7906 Pageviews.
Share Tweet