|
|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
21 ธันวาคม 2550
|
|
|
|
ก็เตือนกันไว้.......ก่อนตัดสินใจไปฉีดผิวขาว
แฉคลินิกหัวหมอใช้สารอันตรายฉีดเสริมงาม อ้างทำให้ผิวขาวใส ดารา-วัยรุ่นแห่ใช้บริการ แพทย์เตือนเสี่ยงช็อกตายคาเข็ม มะเร็ง แถมตาบอด ยันไม่ช่วยแก้ผิวดำ ด้าน อย.สั่งตรวจสอบ ปัญหาที่เกิดจากการเสริมความงามยังคงพบเห็นอยู่เป็นระยะๆ ล่าสุดคลินิกเสริมความงามหลายแห่งนำสารกลูตาไธโอน(Glutathione) ซึ่งมีไว้รักษาผู้ป่วยโรคภูมิต้านทาน ผู้ป่วยเอดส์ หรือผู้ป่วยสมองเสื่อมก่อนวัยมาฉีดให้ลูกค้า พร้อมกับโฆษณาชวนเชื่อว่าช่วยให้ผิวขาวเรืองแสง ซึ่งตรงกันข้ามกับข้อเท็จจริงที่อาจส่งผลให้คนที่ได้รับสารชนิด นี้เข้าไปถึงกับช็อกตายได้
ศ.นพ.นิวัติ พลนิกร ประธานวิชาการสมาคมเวชสำอางและศัลยศาสตร์ผิวพรรณ กล่าวว่า ขณะนี้มีคลินิกเสริมความงามหลายแห่ง นำสารกลูตาไธโอนมาฉีดเข้าร่างกายให้ลูกค้า โดยอ้างว่าจะเปลี่ยนผิวให้ขาวผ่อง สว่างเรืองแสง มีการโฆษณาทั้งทางวิทยุและใบปลิว ซึ่งตามข้อเท็จจริงทางการแพทย์นั้น สารกลูตาไธโอนมีไว้รักษาผู้ป่วยโรคภูมิต้านทาน ผู้ป่วยเอดส์ ผู้ป่วยสมองเสื่อมก่อนวัย เป็นสารที่ใช้กระตุ้น ภูมิต้านทานของร่างกาย การที่ผิวคนไข้ขาวขึ้นเป็นเพียงผลข้างเคียงของการรักษาเท่านั้น ไม่เคยมีข้อมูลทางการแพทย์ว่าการฉีดสาร กลูตาไธโอนจะแก้ผิวดำได้ อย่างถาวร และผลข้างเคียงที่อันตรายคือ อาจทำให้เป็นมะเร็งผิวหนังและเซลล์รับแสงที่ดวงตาเสื่อม
ศ.นพ.นิวัติ กล่าวต่อว่า หากนำสารกลูตาไธโอนมาฉีดเข้าร่างกาย โดยหวังผลให้ผิวขาวต้องใช้ยาในปริมาณที่สูงมากเพื่อให้ผิวเปลี่ยน เป็นสีขาวได้ ซึ่งจะมีอันตรายทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อร่างกาย เพราะเซลล์สีถูกกดจากสารที่ฉีดก็จะสร้างเม็ดสีน้อยลง โดยเม็ดสีมีความจำเป็นในการป้องกันอันตรายจากแสงอัลตราไวโอเลต และเป็นองค์ประกอบสำคัญของจอตาในลูกตา การฉีดยาที่มีผลให้เม็ดสีลดลงส่งผลกระทบต่อจอตาและการรับแสงโดย ตรง และเมื่อลดกระบวนการป้องกันอันตราย จากแสงอัตราไวโอเลตเซลล์ก็จะ เสื่อมเร็วขึ้น ผิวขาวมากเกินไปจะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนัง ที่สำคัญคือการฉีดสารชนิดนี้เข้าเส้นเลือดดำ โดยตรงในปริมาณมากถ ือเป็นเรื่องอันตรายมาก คนไข้อาจช็อกตายขณะฉีดได้ ซึ่งที่ประเทศญี่ปุ่นมีรายงานเกี่ยวกับผู้แพ้ยาฉีดกลูตาไธโอน อย ่างรุนแรง(Anaphylaxis)ซึ่งอันตรายขนาดเสียชีวิตได้ทันที หากแพทย์ไม่มีอุปกรณ์กู้ชีพเตรียมพร้อมไว้
"ปีที่ผ่านมามีแพทย์ผิวหนังมาปรึกษาเรื่องนี้หลายคน นำใบปลิวของคลินิกเสริมความงามชื่อดังแห่งหนึ่งมาให้ดู รู้สึกตกใจมาก เป็นรูปเด็กผู้ชายมีผิวเรืองแสงขาวๆออกมา แล้วเขียนว่าเป็นผิวออร่าที่สว่าง เอวแว เหมือนนางฟ้า เทวดา ราคาฉีดกลูตาไธโอนเข็มละ 3,000-5,000 บาท และต้องฉีดคอร์สละหลายเข็ม หมอรุ่นน้องบอกว่า มีดารามาฉีดเยอะแยะ รวมทั้งกลุ่มวัยรุ่นที่อยากผิวขาวใส ซึ่งวิธีการฉีดก็ต้องฉีดเข้าเส้นเลือดดำในปริมาณมาก ถ้าฉีดเข้าใต้ผิวหนังจะไม่ดูดซึมพอให้ผิวเปลี่ยนสี ผมศึกษาการใช้สารกลูตาไธโอนในข้อมูลวิชาการการแพทย์และทางเว็บไ ซต์ปรากฏว่าไม่มีหลักฐานอ้างอิงจากสถาบันที่น่าเชื่อถือว่ามีกา รใช้สารชนิดนี้เพื่อทำให้ผิวขาวที่น่ากลัวกว่านั้นคือมีแพทย์นำ ตัวอย่างกล่องยาที่ใช้ฉีดลูกค้ามาให้ดู ซึ่งมี 2 ชนิด คือ ของเยอรมนีและเวียดนาม และไม่มีการรับรองความปลอดภัยของ อย.โดยเฉพาะของเวียดนามที่ดูน่ากลัวและไม่ปลอดภัยเลย" ศ.นพ.นิวัติ กล่าว
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องผิวหนัง ยังกล่าวเตือนอีกว่า ที่ผ่านมาสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)ยังไม่เคยขึ้นทะเบี ยนและรับรองผลความปลอดภัยในการใช้สารกลูตาไธโอนฉีดเข้าเส้นเลือ ดดำและไม่เคยมีผลรับรองจากสถาบันที่เชื่อถือได้ในต่างประเทศ ดังนั้น จึงไม่มีผู้ใดรู้ว่าปริมาณที่เหมาะสมในการฉีดเข้าร่างกายคือเท่ าไร จะสะสมเกิดพิษหรือเกิดผลข้างเคียงทำอันตรายให้ร่างกายในอนาคตอย ่างไร โดยเฉพาะผู้ที่ฉีดอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผิวขาวคงอยู่ตลอดก็จะต ้องเสียเงินจำนวนมาก เพราะเมื่อหยุดฉีดผิวสีก็จะกลับไปเข้มหรือดำเหมือนเดิม ไม่เกิดประโยชน์อะไรที่จะต้องเสียเงินครั้งละหลายหมื่นบาท เพราะไม่ใช่เป็นการเปลี่ยนผิวสีอย่างถาวร โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่ต้องฉีดสารนี้อย่างต่อเนื่องนั้น ร่างกายอาจได้รับอันตรายหรือผลข้างเคียงอื่นที่ไม่รู้ตัวได้ เช่น ตาพร่ามัว ผิวหนังเสื่อม
ทั้งนี้ ข้อมูลวิชาการจากเว็บไซต์ทางการแพทย์ระบุว่า ร่างกายสามารถสร้างสารกลูตาไธโอนได้เองจากปฏิกิริยาชีวเคมีในเซ ลล์ทั่วไป แต่ส่วนที่สร้างสารกลูตาไธโอนนี้มากที่สุดคือ ตับ แพทย์จะฉีดสารนี้เฉพาะกรณีฉุกเฉินต่อชีวิต เช่น ฉีดเพื่อรักษากล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เพราะมีเส้นเลือดอุดตัน หรือฉีดเพิ่มการไหลเวียนของเลือดระหว่างการผ่าตัด เพราะสารกลูตาไธโอนสามารถกระตุ้นการสร้างไนตริก ออกไซด์ ซึ่งมีฤทธิ์ขยายหลอดเลือดได้ แต่การขยายตัวของเลือดจะทำให้เกิดความดันต่ำ และทำให้หัวใจเกิดปัญหาได้เช่นกัน
นอกจากนี้ ยังทำให้เกล็ดเลือดไม่จับตัวกัน เลือดหยุดช้ากว่าปกติ ส่วนความนิยมในการใช้สารกลูตาไธโอนเพื่อให้ผิวขาวขึ้นนั้น เกิดจากความพยายามที่จะให้สารชนิดนี้ไปยับยั้งการสร้างเม็ดสี เพราะสามารถกดการทำงานของเอนไซม์ที่ผลิตเม็ดสีได้ชั่วคราว ซึ่งต้องฉีดเข้าเส้นเลือดดำจึงจะเห็นผล แต่หากร่างกายได้รับสารกลูตาไธโอนมากเกินไป จะทำให้มะเร็งได้มากขึ้นและกระบวนการทำลายมะเร็งก็จะลดประสิทธิ ภาพลง
ด้านนายวัฒนา อัครเอกฒาลิน ผอ.สำนักควบคุมเครื่องสำอางและวัตถุอันตราย อย.กล่าวว่า สารที่ใช้ฉีดเข้าเส้นเลือดนั้นแม้จะใช้ในคลินิกเสริมความงามก็ถ ือว่าเป็นยา ต้องขออนุญาตผ่านกองควบคุมยา แม้จะเป็นยานำเข้าที่ได้การรับรองจากต่างประเทศก็ต้องขออนุญาตจ าก อย.เพราะต้องทดสอบก่อนว่ามีความปลอดภัยจริงหรือไม่ ทั้งนี้ ขอเวลาตรวจสอบข้อมูลว่าสารกลูตาไธโอนมีการขออนุญาตขึ้นทะเบียนย าจาก อย.หรือไม่
Create Date : 21 ธันวาคม 2550 |
|
3 comments |
Last Update : 21 ธันวาคม 2550 2:51:35 น. |
Counter : 657 Pageviews. |
|
|
|
| |
โดย: ต้นรักครับ IP: 58.8.57.177 23 สิงหาคม 2551 11:11:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: รุ่ง IP: 125.26.24.73 3 กันยายน 2551 17:02:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: ส้มค่ะ IP: 202.149.25.234 27 ธันวาคม 2551 15:40:49 น. |
|
|
|
| |
|
|
นรกในใจ |
|
|
|
|