Bloggang.com : lisalee : ยาย

ยาย

ในที่สุดก็เข้าได้ซักที ต้องขอโทษเพื่อนๆ ด้วยนะคะที่ดาไม่ได้แวะไปเยี่ยม เข้าเวปไทยไม่ได้มาหลายอาทิตย์เลยค่ะ

มื้อเย็นวันนี้ดาขี้เกียจกินข้าวก็เลยออกไปเดินหาอะไรกินเล่น ขนม ไม่สิต้องเรียกว่าเป็นของว่างมากกว่า ที่ดาชอบกินเวลาไม่อยากกินข้าว ก็คือ “จีตั้นปิ่ง” หน้าตาเหมือนลูกครึ่งเครป-โรตีค่ะ คือ แป้งแบบเครปแต่ใส่ไข่ไก่เหมือนโรตี เค้าจะทาซอสสีน้ำตาลๆ ด้วยดาก็ไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไร แล้วก็โรยต้นหอม ผักชี หัวไชโป้ว พริกป่น ตามชอบ ไม่ใส่ก็ได้ กินร้อนๆ ตอนอากาศหนาวๆ อย่างนี้อร่อยค่ะ แล้วก็เครื่องดื่มที่ดาชอบก็คือ “เจินจูไหน่ฉา” หรือก็คือ ชานมไข่มุกนั่นเอง แต่หลังๆ ดาชอบ “ซีหมี่ไหน่ฉา” มากกว่า “ซีหมี่” ก็คือ สาคูเม็ดเล็กแบบที่บ้านเราเอามาทำขนมสาคูเปียกนั่นแหละค่ะ ใส่กะชานมดาว่าอร่อยกว่าชานมไข่มุกอีก ชานมที่นี่จะกินร้อนค่ะ ถ้าหน้าร้อนก็จะกินเย็นหน่อย (หน่อยเดียวจริงๆ ) คือ ชานมร้อนที่ทิ้งไว้ให้เย็น บางร้านจะใส่น้ำแข็งป่นให้หน่อย ไม่ใส่เยอะเหมือนบ้านเรา ดาก็ตั้งใจออกไปซื้อ 2 อย่างนี้มากิน ราคาก็แสนถูก “จีตั้นปิ่ง” ถ้ากินหมดอันนี่ก็อิ่มเหมือนกินข้าวเลยค่ะ ราคาอันละ 2 หยวน ( 10 บาท) ชานมไข่มุกอีก 2 หยวน อิ่มไปได้อีกมื้อ

ตอนมาถึงร้านแถวบ้านที่ดาซื้อบ่อยๆ เค้ากำลังทำให้ลูกค้าคนนึงอยู่ ระหว่างที่รอซื้อ “จีตั้นปิ่ง” ก็มียายคนนึงเข้ามามองดูจีตั้นปิ่ง แล้วก็หันไปพูดกับผู้หญิงคนที่ซื้อก่อนดา แกคงพูดภาษาจีนท้องถิ่นมั้ง เพราะผู้หญิงคนนั้นก็เหมือนฟังไม่ออกว่าแกพูดว่าอะไร ยายแกก็ชี้ไปที่จีตั้นปิ่งแล้วก็เอามือมาลูบท้องแก ผู้หญิงคนนั้นก็เฉยๆ ค่ะซื้อเสร็จก็ไป ยายแกคงอยากกินเลยถามคนขายว่ากี่ตังค์ (อันนี้ดาแปลเอาเองจากที่เห็นนะคะ เพราะว่าดาฟังสำเนียงแกไม่ออก) แล้วแกก็ดูกระป๋องตังค์ในมือ ดาเห็นมีเหรียญ “เจี่ยว” หรือ “เหมา” อยู่ไม่กี่อันเอง (10 เจี่ยว เท่ากับ 1 หยวน) แกมองไปที่เตาจีตั้นปิ่งท่าทางหิวมาก วันนี้ทั้งวันคงขอทานมาได้แค่นี้ ดาเห็นก็นึกสงสารแกจับใจ เลยถามแกว่าอยากกินเหรอ แกคงฟังดาพูดไม่ออก เลยทำท่าบอกดาว่าขนมนี้ราคา 2 หยวน แล้วแกก็เอียงกระป๋องเศษตังค์มาให้ดาดู ดาก็เลยบอกแม่ค้าว่าทำให้ยายชิ้นนึง การซื้อของกินให้เป็นเรื่องแปลกสำหรับคนจีนหรือเปล่าก็ไม่ทราบหรือเค้าไม่แน่ใจความหมายที่ดาพูด แม่ค้ากลับยื่นจีตั้นปิ่งมาให้ดา ดาก็ยื่นไปให้ยาย แกรีบรับไปอย่างดีอกดีใจ แล้วก็ทำท่าขอบใจดาใหญ่ แม่ค้าถามดาว่ายังจะเอาจีตั้นปิ่งอีกปล่าว ดาก็บอกว่าเอาสิ (ก็ชั้นยังไม่ได้เลยนี่นา) แม่ค้ากลับบอกดาว่า จีตั้นปิ่งอันเมื่อกี้ต้องจ่ายตังค์ให้ด้วยนะ เลยทำให้ดารู้ว่าคนที่นี่คงไม่ทำกันแบบนี้ พอจ่ายค่าจีตั้นปิ่ง 2 อันเสร็จ ดาก็เดินต่อจะไปซื้อชานม ระหว่างทางก็เห็นยายแกนั่งแอบๆ อยู่ตรงซอกตึกกำลังกินจีตั้นปิ่ง อยู่ ตอนนี้อากาศหนาวแล้วลมก็แรงแต่เสื้อผ้าที่แกใส่ดูท่าทางไม่ได้ช่วยให้อุ่นขึ้นซักเท่าไหร่เลย ถ้าแกได้ดื่มอะไรอุ่นๆ ซักหน่อยก็คงดีอีกอย่างจีตั้นปิ่งกินแล้วติดคอ ดาเลยเดินไปซื้อชานมแล้วก็เอากลับมาให้ยาย เห็นเศษจีตั้นปิ่ง บนเสื้อผ้าแกเนื่องจากมือแกสั่นมากจะเพราะว่าแกแก่มากแล้วหรือเพราะว่าแกหนาวจนมือสั่นก็ไม่รู้ ดาเลยแบ่งทิชชูมาหน่อยนึงแล้วก็ยื่นชานมกับทิชชูไปให้ยาย แกจ้องดาแบบท่าทางแปลกใจมากก่อนจะรับไปอย่างงงๆ ดาเดินจากแกมาได้หน่อยนึงก็หันหลังกลับไปมอง เห็นแกมองตามพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ ดารู้สึกตื้อไปหมดมองดูจีตั้นปิ่งในมือแล้วไม่เกิดความรู้สึกอยากกิน น้ำตามันไหลออกมา นี่เป็นของที่ดาจะกินหรือไม่กินก็ได้ หากว่าทำหล่นพื้นก็คงแค่รู้สึกเสียดาย แต่สำหรับยายมันอาจหมายถึงอาหารมื้อแรกของวัน แกทำให้ดานึกถึงคุณยายของดา อายุขนาดนั้นควรได้อยู่บ้านอุ่นๆ กับลูกหลาน ไม่ใช่มานั่งตากอากาศหนาวๆ แบบนี้ แม่ค้าจีตั้นปิ่งอาจมองว่าดาโง่ที่ทำอย่างนั้น คนจีนที่มีสภาพความเป็นอยู่ที่ลำบากมีมากมาย แล้วคนทั่วๆ ไปก็มีความเป็นอยู่แบบต้องดิ้นรนเนื่องจากประชากรมีมากเหลือเกิน มากเกินกว่าที่รัฐจะดูแลได้ทั่วถึง เด็กจบป.ตรีในจีนตกงานกันเยอะมาก ดารู้มาว่าบริษัทที่ดาทำงานอยู่มีเด็กเพิ่งจบป.ตรีมาขอฝึกงานโดยบริษัทไม่ได้ให้ค่าจ้าง วิศวกรจีนในบริษัทซึ่งตอนนี้มีตำแหน่งเป็นวิศวกรอาวุโสเริ่มงานแรกด้วยเงินเดือน 350 หยวน ทำงานมา 7 ปีตอนนี้เงินเดือน 6,000 หยวน (ประมาณ 3 หมื่นบาท) ซึ่งก็มากแล้วในความรู้สึก ฉะนั้นเรื่องความมีน้ำใจและการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เป็นเรื่องที่คนจีนไม่คุ้นเคย

ผ่านเรื่องเศร้าๆ มาดูรูปกันดีกว่าค่ะ

น้องนักเรียนเค้าต้องสะพายแถบแดงเหมือนนางงาม มายืนตรงประตูโรงเรียน เป็นพวกที่โดนอาจารย์ทำโทษหรือเปล่าก็ไม่รู้ ต้องไปสืบ

พาหนะสุดฮอตค่ะ ไม่ว่าเก่าหรือใหม่ก็มีสิทธ์ถูกขโมยได้ทั้งนั้น

พอสูสีกับแกงค์มอไซค์ในกทม. ป่าวคะ กระเป๋าตังค์ของเพื่อนดาโดนขโมยตอนเค้าปั่นจักรยานอยู่ล่ะ มารู้ตัวก็ตอนจอดจักรยานจะซื้อของ สุดยอดของความเป็นขโมยจริงๆ

ตอนเช้าไปทำงานเห็นคนที่นี่มาออกกำลังกายกันแต่เช้า ลุงคนนี้ก็มารำมวยจีนดีต่อสุขภาพค่ะ แต่ที่ที่ลุงแกมายืนรำอยู่น่ะ ก็ข้างๆ กองทัพจักรยานข้างบนแหละค่ะ ตรงนั้นก็เป็นแยกใหญ่ ดากลัวว่าปอดแกจะพังซะก่อน

Create Date : 12 ธันวาคม 2548

Last Update : 12 ธันวาคม 2548 20:20:17 น.

7 comments

Counter : 779 Pageviews.

ขอบคุณเพื่อนๆ อีกครั้ง ที่มาให้กำลังใจนะคะ

ยังไงตอนนี้ก็หลังชนฝาแล้วค่ะต้องสู้อย่างเดียว

โดย: lisalee

วันที่: 12 ธันวาคม 2548 เวลา:19:09:41 น.

ดาจ๋า อ่านแล้วน้ำตาไหล คนไม่มี ก็ไม่มีจริงๆๆนะคะ คนมีเงินก็มีมากจนล้นเหลือ

อ่านแล้วซึ้ง ที่ดาแบ่งให้ยายแก่คนนั้นค่ะ แค่เล็กๆๆน้อยจากเรา แต่มากมายเหลือเกินสำหรับเขาค่ะ

คิดถึงดานะคะ

โดย: yadegari

วันที่: 12 ธันวาคม 2548 เวลา:20:43:04 น.

อ่านแล้วน้ำตาไหลผสมฮา
ยายแกคงเซอร์ไพส์เหมือนกันนะมีชานมมาแถมตอนท้าย

โดย: กระต่ายชมจันทร์ (Rabbit4JJ

) วันที่: 15 ธันวาคม 2548 เวลา:21:40:53 น.

ดาจ๋า ฮีทเตอร์เป็นยังไงบ้างคะ หายหนาวหรือยัง ฮีทเตอร์เสียหรือเปล่า

คิดถึงดานะคะ

จุ๊บๆๆ

รักษาสุขภาพนะคะ

โดย: yadegari

วันที่: 18 ธันวาคม 2548 เวลา:21:53:40 น.

...โฮ่ โฮ่ โฮ่...

(เสียงจาก Shanghai Santa หน้า Xian Yang ครับ)

สามคำนั้นภาษาขั้วโลกเหนือแปลว่า

"มีความสุขมากๆนะครับ"

เอ๊ะ หรือภาษาจีน..

ปีนี้เซี่ยงไฮ้หนาวช้าไปสองเดือน... รักษาสุขภาพด้วยนะครับ

โดย: namit

วันที่: 24 ธันวาคม 2548 เวลา:11:37:54 น.

โดย: มาริอา

วันที่: 29 ธันวาคม 2548 เวลา:14:42:34 น.

มีความสุขมากๆนะคะ เจอกันปีหน้าค่ะ

โดย: มาริอา

วันที่: 29 ธันวาคม 2548 เวลา:21:50:36 น.