กว่าจะออกมาเป็นข้าวซอยชามนี้ก็มีเรื่องเล่าได้ยาว....จนน่าจะเรียกว่านิราศข้าวซอย ณ คูเวต เลยก็ได้ เพราะอยากกินข้าวซอยตอนที่ไม่มีเตาทำอาหาร เตาแก๊สที่บ้านเดี้ยงมีอาการแบบในรูปก่อนหน้าที่จะเป็นแบบนี้ก็เจอแก๊สหมดกว่าจะสื่อสารกับกับคนขับรถรู้เรื่อง ก็ปาไปเกือบ 10 วัน พอแก๊สมาส่งได้แค่วันเดียว เราก็มาเจอแก๊สรั่ว จุดเตาไฟลุกพรึบ กว่าจะสื่อสารตามช่างมาดูใช้เวลาไปอีกเป็นอาทิตย์ ช่างมาดูแล้วซ่อมไม่ได้ บอกว่าต้องยกกลับไปซ่อมที่โรงงาน อีก 2-3 วันจะให้คนมายกไป นี่รอมาอีก 1 อาทิตย์ ก็ยังไม่เห็นแขกหน้าไหนมายกเตาแก๊สไปซ่อมให้สักที เบ็ดเสร็จเตาแก๊สตัวนี้ไม่ได้ใช้มาร่วมเดือนแล้ว อ่ะนะ....สำหรับเรา เรื่องกินไม่มีอุปสรรคใดๆ มาขวางกั้นได้เพราะตั้งแต่แก๊สหมดจนเตาแก๊สรั่ว เราก็ใช้บริการจากหม้อหุงข้าวทำโน่นทำนี่กินไปตามปกติ เราเองเพิ่งจะเห็นปาฏิหารย์หม้อหุงข้าวก็งานนี้แหละ นอกจากจะทำกับต้ม ตุ๋น อุ่น นึ่ง ผัดแล้ว ยังจะคั่วข้าวโพด ทอดไข่ดาว ได้อีก เพราะฉะนั้นเรื่องอยากกินข้าวซอยเนี่ยเป็นเรื่องจิ๊บๆ ไปเลยวันศุกร์เป็นวันหยุดของคูเวต พอทำธุระเรื่องงานบ้านเสร็จก็เริ่มเตรียมเครื่องสำหรับข้าวซอยก่อน กะว่ามื้อเที่ยงนี้จะนั่งโซ๊ยข้าวซอยให้เต็มที่ นี่เป็นเส้นหมี่กรอบสำเร็จรูป เอามาทอดให้เหลืองกรอบอีกทีอย่างว่านะทอดด้วยหม้อหุงข้าวก็เลยกระดำกระด่างหน่อย มีเส้นกรอบแล้วก็ต้องมีเส้นสำหรับทำข้าวซอยด้วย ก็เลยว่าจะทำเส้นบะหมี่เอง เคยทำสูตรตามคุณตา Febie เส้นเหนียวนุ่มอร่อยมาก บะหมี่แห้ง เส้นทำเองสูตรคุณตา Febie แต่สูตรอยู่ในเนท นานๆ ทำทีเลยจำสัดส่วนไม่ได้ เนทที่บ้านก็ไม่มี....มั่วๆ ออกมาแข็งกระโป๊กกระป๊าก ไปๆ มาๆ ก็เลยเปลี่ยนใจเอาเส้นบะหมี่สำเร็จรูปยี่ห้อ maggie มาแทนจะเข้าท่ากว่า ก่อนเตรียมเครื่องก็เอาไก่หมักกับเครื่องแกงก่อน กะว่าเดี๋ยวเตรียมเครื่องทุกอย่างเสร็จ เครื่องแกงซึมเข้าเนื้อไก่กำลังดี พอเตรียมเครื่องเสร็จ จะเริ่มทำน้ำแกงข้าวซอย แจ๊คพอทแตก สวิชต์ไฟที่หม้อมันไม่ติดเฉยเลย5..5..คิดอยู่แล้วเชียวว่าใช้งานหม้อหุงข้าวหนักมาตั้งแต่ตอนที่แก๊สหมด แล้วลากยาวมาจนเตาแก๊สรั่ว ยังสังหรณ์ใจอยู่ว่าสักวันมันต้องเดี้ยง เพราะเราใช้หม้อหุงข้าวผิดวัตถุประสงค์ ตอนซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้าบ้าน เจ้านายก็ถามแล้วถามอีกว่าจะเอาไมโครเวฟด้วยหรือเปล่า ตอนนั้นเราก็คิดว่ามีเตาแก๊สแล้วไม่ต้องว๊งต้องเวฟหรอก เพราะอยู่คนเดียว อุ่นอาหารด้วยเตาเอานี่แหละ ตอนนี้เป็นไงล่ะ....ก็นึกเสียดายอ่ะดิ รู้งี้ไม่ช่วยประหยัดตังค์ให้เจ้านายดีกว่า ก่อนอื่นก็เก็บเครื่องข้าวซอยที่เตรียมไว้เข้าตู้เย็นไปก่อนเพราะยังไม่มีรู้ว่าอีกกี่วันเตาจะยกไปซ่อมและกี่วันถึงจะเสร็จหม้อหุงข้าวนี่อีกยังไม่รู้ว่าจะเอาไปซ่อมกี่วัน แล้วก็มานั่งคิดว่าจะซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรดี ที่ถูกตังค์ เพราะคราวนี้ต้องควักกระเป๋าเอง (งกอ่ะ.... เลยขอถูกไว้ก่อน) จะซื้อไมโครเวฟเหรอก็คิดว่าไม่จำเป็น เพราะโดยปกติเราก็ไม่ค่อยได้ใช้ จะซื้อหม้อหุงข้าวอีกใบ เดี๋ยวเอาใบนี้ไปซ่อมกลับมาก็กลายเป็นมีหม้อหุงข้าวสองใบอ่ะดิ งั้นซื้อกาต้มน้ำร้อนแล้วกัน น่าจะ work สุด เอามาไว้ต้มน้ำร้อนทำมาม่าแก้ขัดไปก่อน (คิดได้งัยเนี่ย ).....แบบเราเคยมีประสพการณ์ตอนไปทำงานอยู่ปักกิ่งไง อยากได้อะไรก็ซื้อ พอตอนที่ย้ายกลับมาเมืองไทยไม่มีปัญญาขน เลยต้องเที่ยวไล่แจกตอนนั้นของแยะมากกกก.... พอต้องมาทำงานที่คูเวตก็เลยทำให้เข็ดพยายามไม่ซื้ออะไรที่ไม่จำเป็น ว่าแล้วก็เรียก taxi ไปร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ไกลจากบ้านมากนักร้อนก็ร้อน...พอไปถึงร้าน โอ๊ย...คนที่นี่ขี้เกรียจกันจัง ขนาดวันนี้เป็นวันหยุด ร้านไม่เปิดกลางวัน ถามยามหน้าร้าน ยามบอกว่าวันนี้ร้านเปิดตอน 5 โมงเย็น ..จะนั่งรถกลับบ้านก็เสียเวลา ข้าวก็ยังไม่ได้กินกัน ก็เลยไปหาอะไรกินที่ร้านแมคแถวนั้น เลือกนั่งโต๊ะริมหน้าต่าง ดูวิวแห้งๆ ร้อนๆ ของคูเวตตอนเที่ยงไปด้วย ร้อนแบบนี้ไม่ค่อยมีคนเค้าเดินกันหรอก ถึงว่าร้านเครื่องไฟฟ้ามันเลยไปเปิดเอาตอนเย็นทีเดียว กินเสร็จแวะไปนั่งเล่นบ้านน้องคนไทยที่อยู่แถวนั้นรอเวลาร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าเปิด ตอนเย็นแฟนน้องกลับมาจากที่ทำงาน ทั้งน้องทั้งแฟนใจดีขับรถพาไปอีกห้างหนึ่งชื่อ City Center ที่นี่เครื่องใช้ไฟฟ้าถูกกว่าร้านที่เราจะไปซื้ออีก ไปๆ มาๆ ก็เลยได้เตาไฟฟ้าตัวนี้มา 5.500 kd ถูกว่ากาต้มน้ำที่เราตั้งใจจะไปซ้ออีก แถมเตาไฟฟ้ายังทำอะไรได้แยะกว่าต้มมาม่าด้วย เอิ๊ก...เอิ๊ก...กาต้มน้ำใบนึงก็ราคา 12 kd ขึ้นไปทั้งนั้น ได้เตาไฟฟ้ากลับมาบ้าน ก็รื้อข้าวของสำหรับข้าวซอยออกมา และก็จัดการประเดิมเตาใหม่ด้วยน้ำแกงข้าวซอย บล๊อกนี้เพิ่งจะมารู้ว่าหายไปทั้งบล๊อก ไปค้นรูปใน file รูปยังมีอยู่ ก็เลยต้องระลึกชาติเขียนใหม่เพราะอยากเก็บตำนานข้าวซอยในคูเวตเอาไว้ ก็เลยจำสัดส่วนเครื่องแกงแบบเป๊ะๆ ไม่ได้ เครื่องแกงน้ำข้าวซอย พริกชี้ฟ้าแห้งแช่น้ำ หอมแดง ขิง ลูกผักชี ขมิ้น ลูกชะโกหรือกระวานดำคั่วทุกอย่างให้หอม (ลูกชะโกแกะเอาแต่เม็ด)เครื่องแกงเราไม่ได้ตำเองหรอก เอาแบบทางลัดง่ายๆ น่ะแหละสัดส่วนกะเอานะคะ น้ำพริกแกงเผ็ดแดง 150 กรัม ตำขิงแก่เพิ่มเข้าไปสัก 1 หัวโตๆ ผงกะหรี่ 2 ช้อนโต๊ะ แต่ถ้าเป็นเครื่องแกงกะหรี่สดจะหอมกว่า กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะวิธีทำ ผัดเครื่องแกงกับหัวกะทิให้แตกมัน ปกติเรากินแต่ข้าวซอยเนื้อ(ติดมัน) แต่พอดีน้องที่มาอยู่ด้วยไม่กินเนื้อก็เลยต้องทำไก่ เราเอาเนื้อไก่หมักเครื่องแกงไว้ก่อนลงผัดเนื้อไก่จะได้ดูดเครื่องแกง เวลากินแล้วเครื่องแกงเข้าเนื้อดีค่ะวันนี้หมักไก่ไว้แต่เช้า พอเอามาแกงตอนเย็น แกงก็เลยเข้มข้นเป็นพิเศษ พอผัดไก่กับเครื่องแกงให้เข้ากันแล้ว ก็เติมกะทิที่เหลือและน้ำเปล่า ตั้งไฟอ่อนๆ จนได้ที่ ปรุงรสด้วยเกลือ หรือถ้าชอบออกหวานก็น้ำตาลปี๊ปเรียบร้อยแล้วค่ะ ข้าวซอย ณ คูเวต cooking@kuwait