เฉินเต๋อ ตอนที่ 1 วัดเจ้าแม่กวนอิม
ในที่สุดเราก็ได้ไปเที่ยวเฉินเต๋อจนได้สมใจอยาก เฉินเต๋ออยู่ขึ้นไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของปักกิ่งประมาณ 250 ก.ม. เมืองนี้เป็นเมืองตากอากาศสมัยคังซีฮ่องเต้กับเฉียนหลงฮ่องเต้ ...นี่ถ้าใครดูหนังจีนกำลังภายในบ่อยๆ คงจะคุ้นชื่อของทั้งสองจักรพรรดินี้ โดยสร้างพระราชวังฤดูร้อนและเขตล่าสัตว์ของทางราชสำนักในปี 1703 มีชื่อเรียกว่า Chende Summer Mountain Villa ที่นี่ถือว่าเป็นอุทยานหลวงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีพื้นที่ประมาณ 5.64 ตารางกิโลเมตร เรียกว่าใหญ่กว่า Summer Palace ของพระนางสูสีไทเฮาในปักกิ่งถึง 2 เท่า และใหญ่กว่าเป่ยไห่ถึง 8 เท่า (ไกด์จำเป็นเล่าให้ฟัง) เริ่มสร้างในปี ค.ศ.1703 และแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1792 บริเวณรอบนอกของอุทยานจะมีวัดซึ่งสร้างมีบรรยากาศแบบทิเบตทั้งหมด 8 วัด ในวาระต่างๆ กัน โดยเริ่มสร้างในปี ค.ศ.1713 - ปี ค.ศ.1780 และได้มีการบันทึกไว้เป็นมรดกโลกโดย UNESCO ในปี 1994 การมาเที่ยวเฉินเต๋อให้ทั่วควรจะมาค้างอย่างน้อยสัก 1 คืนเพื่อเที่ยวให้ทั่ว แต่ความที่ขี้เกรียจเลยไปเช้าเย็นกลับแล้วกัน เพราะถามเสี่ยวหวังคนขับรถแล้วบอกว่าพอไหว แต่ต้องออกแต่เช้าหน่อยและคงเที่ยวได้แค่บางจุดเท่านั้น ตกลงเลยนัดรถมารับตั้งแต่ 6 โมงครึ่ง กว่าจะมาถึงเฉินเต๋อก็สิบโมงกว่าเข้าไปแล้ว เราวิ่งมาถนนเส้นเดียวกับที่ไปสกีรีสอร์ทเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว แต่วิ่งเลยผ่านกำแพงเมืองจีนด่านซือมาไถ สองข้างทางจะเห็นกำแพงเก่าๆ เป็นระยะๆ ถนนเส้นนี้สวยมาก ตามเนินเขาจะมีบ้านแบบรีสอร์ทหลังใหญ่ๆ สไตล์คันทรี่ให้เห็นหลายที่ เห็นแล้วนึกถึงพวกบ้านพักตากอากาศของคนกรุงเทพแถวๆ เขาใหญ่เสี่ยวหวังบอกว่าเป็นบ้านพักตากอากาศของพวกมีเงินในปักกิ่ง ความที่มีเวลาน้อย ก็เลยต้องหาข้อมูลจากหนังสือท่องเที่ยวและจากอินเตอร์เนทว่าที่ไหนน่าจะเป็นไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด แน่นอนที่ไม่ควรพลาดก็คือ Temple of General Peace ที่มีองค์เจ้าแม่กวนอิมแกะสลักด้วยไม้ใหญ่ที่สุดในโลกวัดที่นี่ต้องขึ้นบันไดแยะมากเพราะสร้างบนเขา และบันไดทั้งแคบทั้งชัน แบบเดินไม่ระวังพลาดนิดเดียวกลิ้งโค่โร่ลงมาได้ทุกเมื่อขึ้นไปเจอตำหนักหลังใหญ่ที่ข้างในมีองค์เจ้าแม่กวนอิมแกะด้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ห้ามถ่ายรูปข้างในดูแต่ข้างนอกแล้วกันเข้ามาบริเวณวัดแล้วเหมือนกับอยู่ในทิเบตด้านหน้าตำหนักจะมีแท่นบูชาและมีวงดนตรีเล็กๆ มาตั้งวงคอยให้จังหวะเวลาสวดมนต์ ต้องเสียคนละ 100 หยวนมั้งบริเวณรอบๆ ตำหนักเจ้าแม่กวนอิมนี่เป็นหมู่ตำหนักทางด้านขวาด้านข้างของตำหนักหลังใหญ่ ถ่ายจากบันไดด้านข้างไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นหลังคา ขึ้นเขาไปทางด้านหลังตำหนักเจ้าแม่กวนอิม มีหอเล็กๆ ข้างบนอีกหลังแต่ไม่ได้ขึ้นไปดูแต่คิดว่าคงศักดิ์สิทธิ์เพราะเห็นคนมาไหว้กันแยะ โดยเฉพาะตรงทางขึ้นจะมีแม่กุญแจห้อยเต็มไปหมดพวง(แม่)กุญแจ!?! พอดีคุยกันไม่รู้เรื่อง เลยไม่รู้เลยว่าเค้ามาขอพรอะไรกันทางลงอีกด้านระฆังสวดมนต์ของวัดทิเบตทางออกจากวัด จำลองหมู่บ้านสมัยราชวงศ์ชิงให้นักท่องเที่ยวได้เดินซื้อของริ้วธงเขียนคำสวดมนต์แขวนเรียงรายอยู่หน้าร้านขายของหน้าประตูทางออกวัดออกจากวัดเจ้าแม่กวนอิมก็เที่ยงแล้ว ที่จริงว่าจะแวะไปเสี่ยวโปตาลากงหรือวัดโปตาลากงน้อยก่อน แต่ขับรถวนมาผิดทางก็เลยแวะหาข้าวเที่ยงใส่ท้องซะก่อน ที่เมืองนี้มีร้านอาหารให้เลือกแยะมาก ไม่รู้ว่าร้านไหนอร่อยก็เลยก็เลยสุ่มๆ เอาร้านที่มีคนแยะหน่อยก่อนจะมาได้ข้อมูลมาว่าที่เมืองนี้มีเมนูเด็ดอยู่อย่างที่ใครมาแล้วไม่ได้กินเหมือนไม่ได้มา อยากรู้ว่าคืออะไรคลิกตามลิงค์นี้ได้เลย อาหารเฉินเต๋ออิ่มกันได้ที่แล้ว เดี๋ยวเราไปเที่ยวต่อกันดีกว่า....ตามดูได้ที่นี่ เฉินเต๋อ ตอนที่ 2 นะจ๊ะLast Update : 13 กุมภาพันธ์ 2550 8:23:01 น.72
เห็นอาหารแล้วน่าทานมั่กๆ
เอ นับถือพระแม่กวนอิมห้ามทานเนื้อ
เนื้อกวางทานได้มั้งเนอะ
แป้งหนึ่บๆ น่าชิม อร่อยป่ะ