Group Blog
 
<<
มกราคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
19 มกราคม 2550
 
All Blogs
 
Tag 1 >> ไม่เชื่ออย่าลบหลู่



ขอบคุณนะคร๊า... คุณแพท lilac girl กับ คุณสา Candydoll แล้วก็ยังคุณบัว Renka (ถึงจะมาช้าไปก็ตาม) ที่ยังนึกถึงกัน....


เห็นในบล๊อกเล่นๆ กัน ก็นึกว่าตัวเองคงจะรอดไม่โดนกะเค้าหรอก เพราะเป็นขาแอบอ่านไม่ค่อยโชว์ตัว พอเปิดบล๊อกตัวเองขึ้นมาโดน tag กับเค้าบ้าง...ก็ต้องวิ่งออกไปตั้งสติก่อน เพราะไม่รู้ว่าจะเอาเรื่องอะไรมาแฉ กับที่คิดหนักก็คือแล้วนี่ฉันจะไป tag ใครต่อดี....


เอาเป็นว่าตอนนี้คิดให้ได้ก่อนว่าจะเขียนเรื่องไร ส่วนจะ tag ใครต่อนี่ไว้รอเขียนจบแล้วค่อยคิด


ใครหลงเข้ามาอ่านทำใจหน่อยน๊า เห็น Tag ส่วนใหญ่..เขียนกันสั้นๆ กระชับได้ใจความ แต่ว่าเราเป็นพวกประเภทน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง ถนัดแต่เรียงความไม่ถนัดย่อความ เลยขอแบ่ง 5 เรื่องเป็น 5 ตอนแล้วกันเนอะ... (ถ่วงเวลานึกเรื่องจะเขียนด้วยแหละ)




เอาเรื่องแรกก่อนเลย....


เป็นเรื่องความฝันสมัยสาวๆ ค่ะ..
เด็กทุกคนก็ต้องมีความฝันว่าพอโตแล้วอยากเป็นโน่นเป็นนี่ เราเองตอนเด็กๆ ก็เป็นเหมือนกัน แต่เป็นฝันระยะสั้นเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เยอะแยะไปหมดเลยจำไม่ค่อยได้ว่าฝันอยากเป็นอะไรบ้าง


แต่ฝันครั้งนี้สิมันฝังใจและได้ใช้ความพยายามกับมันมาหลายปี มันเกิดขึ้นหลังจากเพิ่งเรียนจบและได้มีโอกาสจับพลัดจับผลูมีสปอนเซอร์ใหญ่พานั่งเครื่องบินไปต่างประเทศครั้งแรก ตอนนั้นก็ตื่นเต๊น..ตื่นเต้น ได้ไปเมืองนอก ไปยุโรปซะด้วย(ว้าว..)ได้เห็นโน่นเห็นนี่จริงๆ นอกเหนือจากที่เคยเห็นแต่ในหนังสือ
พอขึ้นเครื่อง... แอร์ก็สวย สจ๊วตก็หล่อ แถมตอนนั้นนักบินมาปิ๊ง..ปิ๊ง เชิญเข้าห้อง...เชิญชวนไปดูห้องนักบินจ้า อย่าคิดมาก...พวกพี่ๆ ที่ไปด้วยกันกิ๊วก๊าวใหญ่ เพราะปกติระหว่างที่เครื่องบินบินอยู่ไม่ใช่ มีใครจะได้เข้าไปง่ายๆ


กลับจาก trip นั้น ก็เลยกลับมาฝันใหญ่ว่าอยากทำงานเป็นแอร์ ได้แต่งตัวสวย...เงินก็ดี...แถมยังได้เที่ยวอีก






ทีนี้ก็เลยเทียวสมัครมันทุกครั้งที่มีการเปิดรับ จนเพื่อนฝูงรู้กันหมดว่ายายนี่อยากเป็นแอร์จนตัวสั่น สมัยนั้นก็มีแต่สายการบินแห่งชาติเท่านั้นที่เปิดรับและรับแต่ละครั้งไม่กี่สิบคน ทีนี้แหละขึ้นอยู่กับว่าเส้นใครเล็กใครใหญ่เพราะรับจำนวนจำกัด ได้ยินว่าบางรุ่นนี่เด็กเส้นทั้งนั้น...


ไอ้เราก็นั่งนึกสิว่าพ่อรู้จักใครในนั้นบ้าง คิดอยู่นานก็นึกได้ว่าพ่อมีเพื่อนคนหนึ่งที่สนิทกันมากๆ น้าสาวคนนี้มีสามีเป็นนักบินชื่อดังที่ค่อนข้างกว้างขวางและได้ข่าวว่าเป็น กรรมการคัดเลือกผู้สมัครซะด้วย


แต่พอน้าสาวรู้ว่าเราอยากไปทำงานนี้เท่านั้น เธอไม่สนับสนุนแถมยังบอกว่าอีกว่าไม่อยากให้หลานไปเป็นออหรี่แอร์พอร์ท น่านแหละนะ..ตอนหลังเราถึงมาเข้าใจเพราะเห็นข่าวน้าผู้ชายลงในหน้าซุบซิบตามหนังสือพิมพ์บ่อยๆ


แต่ถึงอย่างงั้นความฝันของเราก็ยังไม่สลายไปตามคำพูดของน้า เพราะเราคิดว่าเรื่องแบบนี้อยู่ที่แต่ละคน มาเหมารวมทั้งหมดไม่ได้


ถึงแม้น้าสาวจะกล่อมไม่ให้เราไปทำอาชีพนี้ แต่เราเองก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตาสานฝันสมัครตั้งแต่หน้าเด้ง หน้าใส ซึ่งตอนนั้นภาษาต่างชาติก็พอถูไถพูดได้ฟังได้รู้เรื่องแต่ไม่คล่องปรื๊ด..ปรื๊ด.. ก็เลยตัดสินใจไปเสริมสร้างประสพการณ์ทางภาษาซะเกือบ 2 ปี และกลับมาด้วยความมั่นใจเรื่องภาษาว่าดีกว่าก่อน


ช่วงที่กลับมานั้นเริ่มมีสายการบินต่างชาติเข้ามารับแอร์จากเมืองไทยบ้างแล้ว แต่วัยตอนนั้นก็เริ่มเข้าสู่วัยที่กำลังผลิบาน สิวสาวเติบโตได้ที่ แต่ทีนี้สิวสาวที่ว่าไม่ใช่สิวธรรมดา แต่ของเรานี่ดันเป็นสิวหัวช้างเม็ดเป้งๆ เลยทีเดียว เวลาสมัครไปทีไรถ้าเจอด่านแรกเป็นสอบข้อเขียนก็ไม่ค่อยมีปัญหาผ่านสบาย แต่ถ้าได้เจอรอบสัมภาษณ์เมื่อไรเป็นได้เรื่องทุกที ก็คนสัมภาษณ์เห็นสิวเราแล้วคงกลัวว่าจะไปกระแทกตาหรือไม่ก็ไประเบิดใส่ผู้โดยสาร ก็เลยทำให้ตกรอบสัมภาษณ์โดยตลอด




จนถึงยุคหน้าใกล้เหี่ยวล่วงเลยมาจนอายุจะถึงเกณฑ์ปิดรับอยู่รอมร่อ ก็ได้สนองฝันของตัวเองมาได้สายการบินแขก แต่ก่อนจะได้มานั้นก็มีภาระอันหนักอึ้งเพราะอีให้ไปเพิ่มน้ำหนักมาอีก 5 กิโลใน 1 เดือน ตอนนั้นโด๊ปใหญ่ กินกล้วยหอมวันละหวี ตอนไหนปากว่างก็ยัดกล้วยหอมกับนมสด(ต้องเรียกว่ายัดค่ะ เพราะตั้งเป้าไว้ว่าต้องกินวันละหวี) ก่อนนอนก็เล่นกระเดือกนมรสช๊อกโกแลตอีก 2 แก้วใหญ่ๆ ...(ที่ต้องเรียกกระเดือกเพราะ 2 แก้วนี่ก็เป็นลิตรแล้ว) ผลที่ได้ตามมาหลังจาก 1 เดือนเหรอ น้ำหนักขึ้นลดไม่ยอมลง (ไม่น่าเลยตู) แถมไม่ได้สานฝันไปเป็นแอร์กับเขาอีก เพราะเริ่มจิตวิตก...ก็เพื่อนคู่หูที่โดนเรียกไปก่อนสะบักสะบอมกลับมาเล่าให้ฟังว่าโหดมาก ต้องไปฟาดฟันกับเพื่อนร่วมงานจากหลายชาติแบบนิยายน้ำเน่า ก็เลยมานั่งคิดไปคิดมาว่าอย่างเราสาวมั่นแต่ใจอ่อนจะไปฟาดฟันแบบเขาได้หรือ พอดีกับงานที่ทำอยู่เจ้านายมารู้เข้าว่าจะไปเป็นแอร์ ก็บอกอย่าไปเลย...ไปเป็นคนใช้บนเครื่องบิน เอางี้กันยูอยู่ต่อไอขึ้นเงินเดือน และเพิ่มงานด้านต่างประเทศให้ ยูจะได้เดินทางบ่อยๆ ก็เลยเอาก็เอา อีกอย่างคงเป็นเพราะนั่งสานฝันมาหลายปีเหลือเกิน จนเบื่อและเริ่มหายอยากไม่เหมือนตอนเอ๊าะๆ ด้วยมั้ง สุดท้ายก็เลยไม่ได้ไปตามฝัน...




แต่ความลับที่ไม่เคยบอกใครอยู่ตรงนี้ >>


หลังกลับจากฝึกฝนภาษากลับมาได้ระยะหนึ่ง ตอนนั้นมีสายการบินของเกาะแห่งหนึ่งกำลังเปิดรับแอร์โฮสเตสรุ่นใหม่ สายการบินนี้เรารู้มาว่าพิถีพิถันและเน้นเรื่องผิวพรรณความสวยความงามกับผู้สมัครเป็นพิเศษ ทำไงล่ะ...ปัญหาของเรามันอยู่ที่สิวสาวแรกผลิ โดยเฉพาะช่วงนั้นสิวหัวช้างเม็ดเดิมกลับมาผุดขึ้นตรงกลางหัวคิ้วกับปลายคางอย่างละหนึ่งเป้งพอดี...


ตอนนั้นเรามีเพื่อนแถวบ้านคนหนึ่งชอบแวะมาหา เพื่อนคนนี้เธออยากไปทำงานเป็นพยาบาลที่เมกามาก เธอชอบมาคุยมาปรึกษาเรา ด้วยเห็นว่าเคยผ่านเมืองนอกเมืองนามา ตอนนั้นเธอเป็นพยาบาลอยู่โรงพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่ง หลังจากที่เธอพยายามวิ่งเต้นส่งเรื่องไปหลายครั้งก็ไม่สำเร็จ วันหนึ่งเธอมาหาเราและบอกว่าเธอได้งานที่เมกาแล้วนะ เนี่ยเป็นเพราะป้านงทำให้เธอได้ไป เราก็สงสัยว่าป้านงจะไปช่วยเธอได้ยังไง จะว่าไปป้านงนี่เราก็เห็นมาแต่เด็ก แต่ที่บ้านเราจะไม่ค่อยไปยุ่งกับบ้านแกเท่าไร เพราะพ่อกับแม่ไม่ชอบด้วยว่าบ้านแกจะมีพิธีกรรมแปลกๆ ซึ่งขัดต่อศาสนา แต่เราก็เห็นมีคนจากไหนต่อไหนมาที่บ้านแกเต็มไปหมด


ทีนี้พอเพื่อนขยายความให้ฟังเราก็หูผึ่ง จากปกติที่เราไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ กะอีแค่เดินผ่านบ้านแกยังไม่อยากเดินผ่านเลย เพราะบ้านแกดูลึกลับน่ากลัว แต่ลองดูสักครั้งก็ไม่เสียหายอะไร ก็เลยให้เพื่อนพาไปหาป้านงโดยไม่ให้ที่บ้านรู้ ไปนั่งเลียบๆ เคียงๆ ถามป้านงว่าอยากได้งานที่นี่จะทำยังไงดี ป้านงก็บอกไม่ยากให้มาอาบน้ำมนต์กับแก 3 วันแล้วจะช่วยได้


หลังจากอาบน้ำมนต์ครบ 3 วัน แกก็นั่งบริกรรมคาถาเป่าพรวดๆ แล้วบอกแค่ว่าเวลาไปสมัครหรือสอบให้จุดธูป 3 ดอกก่อนออกจากบ้าน....


บอกแล้วว่าสายการบินนี้จะขึ้นชื่อว่าเคี่ยวมากๆ ในการคัดเลือกแอร์ที่ผิวพรรณดี เพราะเล่นถลกแขนถลกขาดูผิว ดูริ้วรอยเลยทีเดียว วันนั้นเราไปนั่งรอเรียกเข้าห้องเพื่อสัมภาษณ์รอบแรก ซึ่งจะรู้ผลเลยว่าผ่านหรือไม่ ถ้าสัมภาษณ์ผ่านก็จะส่งไปวัดส่วนสูง ชั่งน้ำหนัก และถ่ายรูปอีกครั้ง มีบางคนออกมาเพราะสัมภาษณ์ไม่ผ่าน บางคนเจอเรื่องของสายตา(สมัยก่อนยังไม่ค่อยนิยมเรื่องคอนแทคเลนส์) บางคนก็เจอเรื่องของแผลเป็น บางคนมีสิวอยู่กระจิ๊ดก็ไม่ผ่านแล้ว เราเองก็นั่งใจตุ๊มๆ ต่อมๆ เฮ้อ..งานนี้แห้วอีกแน่ก็สิว 2 เม็ดเป้ง กำลังสุกงอมเต็มที่


ตอนที่นั่งรอเรารู้สึกว่าได้กลิ่นธูปลอยมา เราก็คิดว่าคงมีใครจุดธูปไหว้พระแถวนี้มั้งก็ไม่ได้สนใจอะไร เราถูกเรียกให้สัมภาษณ์กับเจ๊คนหนึ่งหน้าตาเธอดุมากแถมไม่ค่อยจะเป็นมิตรไม่เหมากับบริษัทที่ขึ้นชื่อเรื่องบริการเลย ภาษาอังกฤษก็ออกสำเนียงจีนๆ เจ๊แกซักโน่นซักนี่สักพักก็เรียกให้ไปชั่งน้ำหนักวัดส่วนสูง ให้เราถลกแขนเสื้อ ถลกกระโปรงดูแขนดูขา แล้วก็จับหน้าเราไปส่องกับไฟ ตอนนั้นคิดอยู่ในใจสิวทิ่มตาขนาดนี้เจ๊จะส่องหาอะไรอีก...


....ยังไม่ทันได้ลุ้นว่าเจ๊จะพูดอะไร เจ๊แกก็ส่งกระดาษให้เราใบแล้วบอกให้เราไปถ่ายรูปอีกห้อง แล้วก็กลับมาสอบข้อเขียนอีกทีอาทิตย์หน้าตามรายละเอียดในกระดาษนั้น


....ตอนนั้นเรานึกถึงกลิ่นธูปทันที หรือปาฏิหารย์ธูป 3 ดอกจะมีจริง คงเพราะควันธูปมาบดบังทำให้เห็นใบหน้าเราเรียบเนียน...


คราวนี้เรากลับไปหาป้าอีกรอบเพื่อเพิ่มความมั่นใจ แกก็บอกว่าอาทิตย์หน้าให้ทำเหมือนเดิม จุดธูป 3 ดอกแล้วไปสอบ...


วันที่ไปสอบขอเขียนจำได้ว่ารีบๆ จุดธูปแล้วตาลีตาเหลือกออกจากบ้าน ก่อนเข้าห้องสอบก็พยายามสูดๆ หากลิ่นธูปเป็นกำลังใจ ก็ไม่ได้กลิ่น..แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าไร เพราะต้องมีสมาธิกับข้อสอบที่มีทั้งปรนัยและอัตนัย มีทั้งฟัง ทั้ง grammar


ตอนนั้นทางสายการบินให้รอฟังประกาศผลเลย เราก็ลุ้นสุดๆ เพราะความรู้สึกเราว่าข้อสอบง่ายมาก..มาก ผิดแค่ดีก็ไม่เกิน 5 ข้อ น้องอีกคนที่ไปสอบด้วยกันบ่นว่ายากจังพี่ แต่ผลออกมาน้องที่บ่นว่ายากจังพี่ผ่าน แต่เราที่บอกว่าง่ายจังน้องนี่สิสอบตก...เราก็งงๆ เหมือนกันว่าเราทำได้นะทำไมไม่ผ่านน่ะ


พอกลับถึงบ้านเราถึงมาเห็นว่าธูปที่เราจุดก่อนออกจากบ้านไม่ติดไฟสักดอก...ก็เลยเหมาเอาว่าที่สอบตกเนี่ยเป็นเพราะธูปไม่ทำงานนั่นเอง




...ของแบบนี้ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่...


เราเคยไปหาป้านงก็ครั้งนั้นครั้งเดียวแหละ ...แล้วเรื่องนี้เราไม่ค่อยกล้าไปบอกใครหรอกน่ะ อ๊าย...อาย กลัวโดนกล่าวหาว่างมงาย...












Create Date : 19 มกราคม 2550
Last Update : 23 มีนาคม 2556 23:11:40 น. 4 comments
Counter : 948 Pageviews.

 
ราก็งงๆ เหมือนกันว่าเราทำได้นะทำไมไม่ผ่านน่ะ
----------


เจอบ่อยๆค่ะ อาการนี้
เซ็งๆ


โดย: PADAPA--DOO วันที่: 19 มกราคม 2550 เวลา:2:03:06 น.  

 
หุหุ สายการบินที่ว่า เราก็ส่งใบสมัครไปด้วยแหละ
แต่จดหมายตอบนักวันสัมภาษณ์ ไปหลงทางที่บ้านคนอื่นซะ สองอาทิตย์ ดวงคงจะไม่ได้ไปอยู่เกาะ

เชื่อแล้วค่ะว่าอยากเป็นแอร์ จริงๆ
ชีวิตคุณอาจสนุกกว่าแอร์บางคนซะอีกนะคะ
เชื่อมั้ยคะว่าของแบบนี้ เบื้องบนกำหนดจริงๆ




โดย: crazybee (crazybee ) วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:18:45:32 น.  

 
เหอะๆๆๆๆๆ นึกภาพตามออกเป็นฉาก ๆ เลยนะคะ

แต่กลับกันค่ะพี่ ปอยเนี่ยไม่ได้ใฝ่ฝันอะไรเลยสักนิดนะ
คิดแค่ว่าอยากเก็บเงิน อยากเที่ยวสักพักเท่านั้นเอง
เรื่องอย่างนี้อยู่ที่ดวงจริง ๆ ค่ะ อยู่ ๆ จะติดก็ติดซะงั้น
เบื้องบนคงอยากให้ปอยเรียนรู้ชีวิตโหด ๆ ดูสักพัก
จะได้รู้ว่าชีวิตไม่ได้สวยงามและโรยด้วยกลีบกุหลาบ
แม้ว่าจะล่องลอยอยู่บนปุยเมฆก็ตามที เหอะ ๆ ๆ
จะบอกว่า ไม่มาเป็นน่ะดีแล้วค่ะ 5555 มันโหดจริง ๆ ด้วย

แต่ขำนะคะ เรื่องจุดธูป ก่อนจะได้ที่นี่ก็แอบมีบนบาน
แม้ปากจะว่าไม่ได้อยากเป็นอะไร แต่ว่าไหน ๆ ก็สมัคร
ให้มันได้ ๆ งานทำไป จะได้หมดเรื่องหมดราวน่ะค่ะ
มีการตามแก้บนด้วยเหมือนกัน ไม่เชื่ออย่าลบหลู่น้า อิอิ


โดย: นางสาวดุ่บดั่บ วันที่: 26 มิถุนายน 2551 เวลา:0:03:57 น.  

 
บังเอิญผ่านมาอ่านค่ะ นึกถึงเมื่อสี่ปีที่แล้วตอนสมัครแอร์ เราสมัครทั้งหมด 12 ครั้ง ในเวลา 1 ปี ถอดใจจะไปเป็นเลขานายฝรั่ง แต่ครั้งสุดท้ายที่ไปสมัคร กะว่าสุดท้ายแล้ว จะทิ้งทวน เอาขำๆ ปรากฏว่าได้เป็นแอร์ฯ ของประเทศกลุ่มอาหรับ บอกตามตรงว่างานแอร์ฯหนักมาก บินได้ประมาณปีเศษเริ่มติงต๊อง สติเลอะเลือนจากแรงกดอากาศ ผิวเหี่ยวย่นจากสภาพแวดล้อม ป่วยง่ายจากการพบผู้โดยสารมากหน้าหลายตา อารมณ์แปรปรวนอันเนื่องมาจากผู้โดยสารงี่เง่า
แต่สิ่งที่ได้นอกจากเงินเดือนแล้ว ประสบการณ์นอกกะลา ทั้งยุโรป อเมริกา เอเชีย ผู้คนต่างวัฒนธรรม บอกตามตรงว่า สิ่งเหล่านี้ทำให้แอร์ฯหลายคนยอมทนเหนื่อยจากการบิน เห็นโลกซะคุ้มเลย ขนาดลาออกมาครึ่งปีแล้วยังนึกเสียดายตะหงิดๆ
ตอนนี้ได้พบสิ่งที่ตามหามาทั้งชีวิตสาว...เจอแล้วค่ะ..."รักแท้"
ขอบคุณงานแอร์และฟากฟ้าที่พาเรามาเจอ


โดย: แอร์เก่า IP: 121.33.79.156 วันที่: 23 ตุลาคม 2554 เวลา:23:06:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

narellan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 325 คน [?]




รีวิวร้านอาหารในบล๊อกนี้เป็นความเห็นส่วนตัว ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับทางร้าน สำหรับคนที่ไปมาชอบไม่ชอบอย่างไร มาเม้นท์ให้ความเห็นได้ แต่กรุณาใช้คำที่สุภาพ

เป็นลูกหลานยะหวา จีน ไทย(เชียงใหม่) นอกจากอาหารไทยเทศทั่วไปแล้ว ยังโตมากับอาหารยะหวาและอาหารเหนือ สูตรอาหารในบล๊อกบางส่วนเป็นอาหารเก่าแก่ตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย บางอย่างเดี๋ยวนี้หาทานไม่ได้ จึงอยากเก็บสูตรไว้ บางอย่างเป็นอาหารความทรงจำในวัยเด็ก บางอย่างเพิ่งจะทำครั้งแรก สูตรต่างๆ ได้ความอนุเคราะห์วิธีทำจากแม่ ญาติผู้ใหญ่ เพื่อนต่างชาติ เพื่อนในบล๊อก และจากอากู๋บ้าง ขอขอบคุณเจ้าของสูตรมา ณ ที่นี้นะคะ

ป.ลิง เจ้าของบ้านชอบโม้ บางบล๊อกอาจจะโม้ออกนอกเรื่องไปบ้างก็อ่านผ่านไปแล้วกันนะค๊า ^^
สงวนลิขสิทธิ์ในการนำภาพและข้อความไปเผยแพร่ต่อโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อก














ชวนไปกิน














ห้องอาหาร The Square
@Novotel Hotel Platinum

บุฟเฟต์อาหารนานาชาติ







ชวนไปเที่ยวไปช๊อป




ชวนเข้าครัว
















































Friends' blogs
[Add narellan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.