ตอนที่ 2


หลังจากที่ดีแลนจัดการร่างบอบบางภายใต้อ้อมกอดเขาจนสะอาดหมดจดเช่นเดิมแล้วนั้นเอิร์ลหนุ่มอุ้มอายาโตะออกจากห้องอาบน้ำบัดนี้คนตัวเล็กนั้นถูกเขาจัดการสวมยูคาตะเพียงตัวเดียวแทนที่จะเป็นเสื้อผ้าที่เขาจัดไว้ให้ใบหน้าของคนร่างเล็กแดงซ่านยิ่งเมื่อนึกถึงว่าตนเองถูกคนร่างสูงอาบน้ำล้างคราบไคล้ที่ได้รับการปลดปล่อยออกมาในทุกซอกทุกมุมไม่เว้นแม้แต่จุดซ่อนเร้นต่างๆในร่างกายเขา อายาโตะเงยหน้าขึ้นมองคนร่างสูงก่อนจะหลบสายตาลงเมื่อเห็นดีแลนก้มหน้าลง ร่างสูงกระตุกยิ้มออกมาเมื่อเห็นอาการของคนรักหมาดๆที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาทั้งเนื้อทั้งตัวของเด็กหนุ่มหวานหอมไปหมดจนเขาเกือบจะล่วงล้ำอธิปไตยของอายาโตะเสียแล้วถ้าหากว่าเขาไม่มีความมั่นคงในจิตใจ

“มีอะไรหรือ..”

“เอ่อ.. ปะ... ปล่อยผมลงเถอะครับ”

“ทำไมล่ะ”

“ผมเดินเองได้แล้วครับ”

“อย่าเลย ฉันกลัวเธอจะทรุดลงไปอีก ยังไม่ชินไม่ใช่เหรอ”ดีแลนแกล้งแซวคนร่างเล็กอายาโตะหุบปากฉับเมื่อได้ยินดังนั้น ใบหน้าของเขาแดงก่ำจนน่ากลัวว่าจะสุก

“หรือฉันพูดอะไรผิด”

“ไม่หรอกครับ ผม..”

“หรือจะบอกว่าชินแล้ว”

“เปล่าครับ ไม่มีอะไรแล้วครับ”

อายาโตะซบหน้าลงกับอกกว้างของคนร่างสูงเขานึกประท้วงดีแลนอยู่ในใจที่แซวเขาอยู่นั้นและแล้วจะให้เขาชินกับเรื่องนี้ได้อย่างไรผู้ชายด้วยกันแท้ๆ แต่กลับถูกทำถึงขนาดนั้นคงจะยากที่จะชินกับเรื่องแบบนี้ที่สำคัญทำไมดีแลนถึงได้ทรีตเขาเก่งขนาดนี้ก็ไม่รู้

หรือเพราะเคยมีประสบการณ์อายาโตะรีบสลัดความคิดนั้นเสียสีหน้าที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแบบเก็บความคิดไว้ไม่อยู่ทำให้ดีแลนเดาออกหมดว่าอายาโตะกำลังคิดอะไรอยู่

“ฉันไม่เคยทำแบบนี้กับใครหรอกนะ เธอคนแรก”ดีแลนบอก อายาโตะเงยหน้าขึ้นทันที

“ทำไมรู้ล่ะว่าผมคิดอะไร”

“หน้าเธอบอกหมดแล้วล่ะ ว่ากำลังคิดอะไรอยู่”

“หน้าผมบอกถึงขนาดนั้นเลยเหรอครับ”อายาโตะถาม ดีแลนจุมพิตที่ขมับของร่างเล็กในอ้อมกอด

“ใช่ เธอคือคนแรกที่ฉันอยากเมคเลิฟด้วย”

อายาโตะหน้าแดงก่ำเมื่อได้ยินอย่างนั้นเขารีบก้มหน้าซบกับอกของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็วเสียงหัวเราะในลำคอของดีแลนทำเอาอายาโตะแทบไม่อยากจะเงยหน้าขึ้นมาอีกเลย

ให้ตายเถอะเขาไม่เคยถูกใจใครเท่านี้มาก่อนเลยดีแลนคิด

ร่างสูงพาอายาโตะมายังห้องนอนที่เขาใช้เมื่อคืนนี้อายาโตะได้แต่นิ่งเงียบปล่อยให้คนร่างสูงทำตามใจชอบอย่างไม่โต้แย้งในใจกลับรู้สึกอุ่นซ่านไปทั่วทั้งร่าง ไม่เคยมีใครทำแบบนี้กับเขามาก่อนความอ่อนโยนที่เอิร์ลหนุ่มมอบให้มันทำให้หัวใจของเขาเต็มตื้นอายาโตะเงยหน้าขึ้นสบตาดีแลนอีกครั้ง ดวงตาทั้งสองประสานกันอย่างสื่อความหมายเอิร์ลหนุ่มแย้มยิ้มให้เขาพร้อมกับโน้มใบหน้าของตนเองประกบเข้ากับริมฝีปากอ่อนนุ่มของอีกฝ่ายความชื่นจากเรียวลิ้นที่สอดแทรกเข้ากับความหอมหวานในโพลงปากนั้นทำให้อายาโตะครางออกมาอย่างพอใจ

หรือร่างกายของเขาจะแปลกไปแล้วจริงๆนะ

อายาโตะได้แต่คิดในใจดวงตาปิดปรือราวกับจะสัมผัสถึงความเร่าร้อนที่คนร่างสูงมอบให้เขาดีแลนปล่อยร่างบางลงจากอ้อมแขนลงบนเตียงหนานุ่ม อายาโตะไม่รู้ตัวเลยว่าถูกพาตัวมายังห้องนอนของคนร่างสูงตั้งแต่เมื่อไหร่ร่างบางยังคงหลงวนเวียนไปกับรสจูบอันหอมหวานที่คนร่างสูงมอบให้ชุดยูคาตะที่ถูกถอดออกเมื่อไหร่ก็ไม่ทราบได้ถูกจับโยนลงไว้ข้างเตียงพร้อมกับร่างหนาที่ทาบทับลงเคล้าคลึงความอ่อนนุ่มนั้นอย่างหื่นกระหาย

“ฮื้อ... อ่ะ..อ่า...”

“ยะ... อย่า... ครับ”

“ทำไมล่ะ”

“เราเพิ่งทำกันไม่ใช่เหรอครับ”อายาโตะพูดอย่างอายๆดีแลนเงยหน้าขึ้นพร้อมกับกระซิบที่ข้างหูของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา “ทำแล้วก็ทำได้อีกสิ”

“แต่...”

“เธอหอมไปทั้งตัวเลยนะ อายาโตะ”

ปลายลิ้นจะเลียวนเวียนอยู่บนปลายยอดของอีกฝ่ายอายาโตะบิดซ่านไปทั้งตัวริมฝีปากแห้งผากนั้นหอบกระเส่าเมื่อเอิร์ลหนุ่มกุมความปรารถนาของเขาไว้ในอุ้มปากของตนเองมือข้างหนึ่งจิกลงบนเรือนผมสีเงินย่วงอย่างเร่าร้อนส่วนอีกข้างพยายามปิดกั้นเสียงครางอย่างสุดชีวิต เหมือนว่าเอิร์ลหนุ่มจะไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้นเขาเอื้อมมือของตนเองคว้าแขนของอีกฝ่ายออก

“ส่งเสียงสิ ฉันอยากได้ยินเสียงเธอ”

“แต่... อ๊า... หื้อ...”

“ดีมาก เสียงของเธอเพราะมาก”

“มะ... ไม่... อ่ะ... ผม...”

“ไม่ต้องอาย เธอคือคนรักของฉัน เสียงของเธอคือสิ่งที่ฉันต้องการ”

เอิร์ลหนุ่มยังคงวนเวียนกับก้อนความปรารถนาของคนร่างเล็กเขาขยับขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะก่อนจะใช้มืออีกข้างสัมผัสจุดอ่อนนุ่มด้านหลังร่างของคนตัวเล็กอายาโตะสะดุ้งเฮือกความเปียกชื้นจากสัมผัสของคนร่างสูงทำให้คนตัวเล็กจำต้องจิกเล็บลงบนผ้าปูที่นอนขาวสะอาด

“ยะ.. ตรงนั้นมัน.. อ๊ะ..”

“มันทำไมเหรอ” ดีแลนยังไม่หยุดแกล้ง นิ้วมือเวียนวนที่จุดเสียวของอีกฝ่ายอายาโตะรู้สึกเหมือนตัวเองจะหยุดหายใจไปพักหนึ่งร่างบางสะอื้นฮักด้วยความรู้สึกแปลกใหม่

“อ๊า... มะ... มันสกปรก... อย่าครับ...”

“ทำไมล่ะ...”

“ก็... มันสกปรกนะ... ครับ... ฮื้อ... อ่า...”

“ไม่หรอก เธอสะอาดสำหรับฉันเสมอ”

“แต่... ฮื้อ... อ่าห์...”

“เรียกชื่อฉันสิ อายาโตะ”

ดีแลนกระซิบที่ข้างหูของอีกฝ่ายพร้อมกับขบเม้มเบาๆ ที่ซอกคอขาวอย่างกระหายในรักมือข้างนั้นยังคงเร้าอารมณ์ของคนตัวเล็กไม่หยุดหย่อนจากหนึ่งนิ้วแปรเปลี่ยนเป็นสองนิ้วและเพิ่มมากขึ้นไปอีกร่างของคนตัวเล็กบิดกระเส่าราวกับอยากปลดปล่อยความต้องการของตนเองออกมา

“เร็วสิ เรียกชื่อฉัน...”

“ดี.. ดีแลน..”อายาโตะเรียกชื่อดีแลน

“ดีมาก... เด็กน้อย”ดีแลนยิ้มให้พร้อมกับให้รางวัลอีกฝ่ายด้วยการกอบกุมส่วนอ่อนไหวไว้ในอุ้มปากของตนเอง

“ดีไหมอายาโตะที่รัก” ปากที่กอบกุมนั้นกระซิบบอกเบาๆ

“อ๊า... ดี... ดี...”

“แรงอีกหน่อยไหม”

“ครับ... อ่ะ... จะออกแล้ว...”

“ต้องทำยังไงหือ ที่รักของผม”

“ได้โปรด.. ช่วย... ช่วยผมด้วย..”

ดีแลนกระตุกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะจุมพิตที่ริมฝีปากบางพร้อมกับจะขยับมือเร่งเร้าอารมณ์ของตนตัวเล็กยิ่งขึ้นไปอีก

น้ำสีขาวโพยพุ่งออกจากร่างพร้อมกับความสุขสมของคนร่างเล็กที่นอนหอบระทวยอยู่บนเตียงและเป็นอีกครั้งที่คนร่างสูงไม่ทำจนถึงขั้นสุดท้ายแต่ครั้งหน้าเขาจะไม่หยุดเพียงแค่นี้แน่ตอนนี้คงทำได้แค่เตรียมความพร้อมของอีกฝ่ายให้ต้องการและเปิดรับความแข็งแกร่งของเขามากขึ้นเรื่อยๆ

ดีแลนยิ้มพรายโดยที่ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่าการกระทำของตนเองนั้นอยู่ในสายตาของใครบางคนที่ยืนมองซ่อนตัวอยู่ในความมืดมือของเงามืดนั้นกำแน่น ดวงตาแข็งกร้าวมองมายังร่างของทั้งสองคนอย่างโกรธแค้นก่อนจะผันตัวเดินจากไปอย่างเงียบเชียบ

“เห็นทีคงต้องทำความสะอาดเนื้อตัวเราใหม่เสียแล้วสิ”

ดีแลนเย้าคนตัวเล็กในอ้อมกอดบัดนี้คนร่างเล็กถูกเขาช้อนตัวขึ้นให้อยู่บนตักมือข้างหนึ่งบิดน้ำในถาดที่เพิ่งจะเดินไปนำมาเช็ดคราบความปรารถนาของอีกฝ่ายออกอย่างอ่อนโยนรอบนี้ชายหนุ่มเลือกที่จะไม่พาร่างบางไปอาบน้ำอีกเพราะดีแลนไม่รู้ว่าจะควบคุมความปรารถนาของตนเองที่จะไม่ทำให้อีกฝ่ายเป็นของเขาได้ถึงเมื่อไหร่

อายาโตะก้มหน้างุดๆอย่างเขินอาย ให้ตายเถอะนี้เขาไปตามแรงอารมณ์ของอีกฝ่ายอีกแล้วใช่ไหมเอิร์ลหนุ่มหัวเราะเบาๆ ก่อนจะจูบซับหน้าผากมนพร้อมกับกระซิบที่ข้างหูของอีกฝ่ายและคำนั้นเองทำให้หัวใจของอายาโตะเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูกเขาซบหน้าลงบนอกกว้างขวางของอีกฝ่ายทันทีไม่ต้องบอกดีแลนก็พอจะรู้ว่าอีกฝ่ายมีใบหน้าเช่นไร

ครั้งหน้าฉันไม่ปล่อยให้จบแค่นี้แน่อายาโตะสุดที่รักของฉัน..

เพี้ย!!!

เสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับใบหน้าที่หันไปตามแรงตบคนร่างเล็กจับหน้าที่โดนตบจนแดง เลือดของเขาไหลออกจากมุมปากในขณะที่ดวงตานั้นแดงก่ำไปด้วยอาการสะกดกลั้นเขารู้อยู่แล้วว่าถ้าทำพลาดจะเกิดอะไรขึ้น แต่ก็พยายามคิดว่าอย่างน้อยคนร่างสูงในเงามืดนั้นจะปราณีเขาบ้างแต่สงสัยเขาคงจะหวังมากเกินไป

“เป็นอะไร แค่นี้ร้องไห้เหรอ”

“....”

“ทำไมเงียบไปล่ะ ฉันบอกให้ตอบ!”

เสียงตะคอกนั้นดังขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์คนร่างสูงเสยผมที่ละลงมาปรกหน้า เขาไม่คิดว่า “แผน” ที่เขาวางเอาไว้จะต้องมาพังทลายลงเพราะคนร่างเล็กไม่รู้จักระวังปล่อยให้ให้พวกลูกกระจ๊อกพรรค์ทำงานแล้วยังพลาดกลับมาให้เห็นยิ่งเห็นริมฝีปากที่ปิดเม้มราวกับสะกดกลั้นอารมณ์แล้วยิ่งทำให้เขาลุแก่โทสะมากขึ้นไปอีก

“ก็ไม่มีอะไรจะพูดนิ”

“งั้นเหรอ ไม่มีอะไรจะพูดเหรอ ชักจะกวนมากไปแล้วนะ”

“ก็แล้วจะให้ผมพูดอะไรอีกล่ะ!”

“ไม่มีใช่ไหม ได้! นี่คงจะห่างไม้ห่างมือฉันไปนานสินะถึงได้กล้าต่อปากต่อคำ”

“เปล่า.. โอ๊ย.."

ร่างสูงกระแทกร่างบางเข้ากับฝาผนังก่อนจะพลิกกลับหลังไม่สนใจเสียงอีกฝ่ายที่ร้องประท้วง ใบหน้าของคนตัวเล็กกว่าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเขารู้ว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นจากนี้คืออะไรและเขาก็ไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้นถึงแม้ว่าจะเคย ‘นอน’ ด้วยกันมาหลายต่อหลายครั้งแต่ไม่มีสักครั้งเลยที่จะได้รับความอ่อนโยนจากคนตรงหน้า เพราะสำหรับคนตรงหน้าแล้วเขาก็เป็นเพียงเครื่องระบายอารมณ์เท่านั้นเอง

“ดะ.. เดี๋ยว.. อย่า!!”

“คิดเหรอว่าจะหนีรอดไปได้”

“ไม่.. ปล่อย!!”

“แกผิดเองนะที่ทำพลาด”

“ขอโทษ ปล่อยผมไปเถอะ”

“คิดว่าขอโทษแล้วจะหายเหรอ”

คนร่างเล็กพยายามดิ้นรนขัดขืนเขาไม่อยากเป็นเครื่องระบายอารมณ์ในตอนนี้เพราะรู้ว่าคนร่างสูงนั้นไม่มีทางหรอกที่จะปราณีเขาความเจ็บปวดจากเซ็กซ์ที่รุนแรงเมื่อครั้งนั้น ยังทำให้ร่างกายของเขาไม่เข้าที่นักหากต้องโดนอีกฝ่ายกระทำอีก มีหวังต้องลงไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มเป็นแน่ร่างเล็กรีบหันหลังเตรียมจะวิ่งหนี แต่ก็ถูกเหวี่ยงติดกับกำแพงเหมือนเดิมใบหน้าเศร้านั้นพยายามร้องขอความเมตตาจากอีกฝ่าย

“อะไร คิดเหรอว่าฉันจะปล่อยแกไป... ไม่มีทางซะหรอก”

“ผมก็ไม่คิดว่าคุณจะปล่อยผมไปหรอก แต่ถ้ายังมีความเป็นคนอยู่บ้างน่าจะรู้นะว่าครั้งนั้นคุณทำผมไว้เจ็บขนาดไหน”

ร่างบางเอ่ยเสียงสั่นร่างสูงแสยะยิ้มอย่างถือดี มือข้างขวายกขึ้นบีบใบหน้าที่เต็มตื้นไปด้วยหยาดน้ำตายิ่งเห็นคนร้องให้เจ็บปวดเบื้องล่างของเขามันก็ยิ่งตื่นตัว

“ทำเป็นพูดดี แกก็ชอบไม่ใช่เหรอ กับการที่ฉันทำแบบนั้น”

“หึ... เข้าข้างตัวเองไปหน่อยมั้งครับ เซ็กซ์ของคุณมันมีแต่ความเจ็บปวดอย่าคิดว่าคนอื่นจะชอบไปซะหมด”

“ปากดีนักนะ แล้วใครล่ะครางเร่าๆ ใต้ร่างฉันน่ะ”

ร่างบางกัดริมฝีปากตนเองเขาพยายามดิ้นรนให้หลุดจากการกักกันของอีกฝ่ายแต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่สามารถทำให้ดิ้นหนีความแข็งแกร่งของคนร่างสูงไปได้มือหนานั้นจับใบหน้านวลก่อนบดจูบลงมาอย่างร้อนแรงราวกับตอกย้ำความคิดที่ว่าอีกฝ่ายต้องยอมสยบใต้ร่างเขา

“ฮื้อ... อุ๊ป...”

ลิ้นเรียวสอดแทรกเข้าภายในโพล่งปากอย่างถือดีก่อนกระหวัดรัดลิ้นของอีกฝ่าย มันไม่มีความอ่อนโยนอะไรในรสสัมผัสนั้นเลยมีแต่ความเจ็บปวดที่มอบให้ ร่างบางพยายามดันร่างสูงออกแต่ก็ไม่สามารถทำได้มือทั้งสองข้างถูกรวบขึ้นด้วยมือเพียงข้างเดียว จนเมื่อเขาจูบจนพอใจแล้วถึงได้ถอนจูบออกมาริมฝีปากที่แดงเจ่อของอีกฝ่ายทำให้อารมณ์ของเขาสุนทรีขึ้นเยอะ

“ไง แค่จูบก็เข่าอ่อนแล้วเหรอ”

“จูบเน่าๆ ของคุณไม่ทำให้ผมรู้สึกดีหรอกนะ”

“งั้นเหรอ สงสัยอยากโดนมากใช่ไหม”

ริมฝีปากที่แสยะยิ้มออกมาทำให้ร่างบางรู้ว่าตนเองต้องโดนอะไรบ้างแต่ก็ไม่สามารถห้ามได้ ด้วยกฎในโลกนี้ ปลาเล็กต้องโดนปลาใหญ่กินและเขาก็เป็นเพียงปลาเล็กที่ต้องทำตามปลาใหญ่ที่อยู่เบื้องหน้ามีเพียงต้องรับชะตากรรมอันเจ็บปวดนี้ให้ได้ร่างบางถูกดันให้หันหลังจนร่างติดชิดกำแพงเสื้อเชิ้ตสีเข้มถูกดึงทึ้งออกจนกระดุมหลุดออกหมดทั้งห้าเม็ดแผ่นหลังที่เต็มไปด้วยรอยจูบปรากฏขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรอยใหม่รอยเก่าไม่เคยจางหายไปเพราะมักจะต้องถูกคนร่างสูงทำขึ้นมาซ้ำๆ อยู่ทุกทีร่างบางกัดฟันรับชะตากรรมที่เกิดขึ้นเมื่อริมฝีปากนั้นกัดเข้าที่ต้นคอของตนเอง

“ฉันจะทำให้แกลืมความผิดที่ทำไว้ไม่ลงเลยล่ะ”

เสียงกัดฟันพูดดังขึ้นเมื่อริมฝีปากนั้นกระทบลงบนต้นคอของเขาหยาดน้ำตาร่วงหล่นด้วยความเจ็บปวดแต่ไม่คิดจะส่งเสียงใดๆออกมาให้อีกฝ่ายรู้สึกถึงชัยชนะ กางเกงสแล็คสีดำถูกถอดหล่นลงมากองอยู่กับพื้นห้องพร้อมกับมือหนึ่งที่เคล้าคลึงก้อนความปรารถนาของอีกฝ่ายจากด้านหลังราวกับจะเร่งเร้าอารมณ์ไม่มีการเตรียมพร้อมใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อความร้อนของอีกฝ่ายจ่อช่องทางคับแคบ

“ไง อยากได้แบบรุนแรงหรือแบบอ่อนโยนอีกล่ะ”

“คุณจะถามผมทำไม ทุกทีคุณถามผมผมก็ต้องโดนแบบเดิมๆ ทุกที”

“โอ๊ะ งั้นเหรอ ฉันก็นึกว่าแกชอบแบบนั้นซะอีก”

“อย่าพูดดีกว่า อยากทำอะไรก็ทำ”

“ได้ อย่าโดนแบบนั้นก็ตามใจ”

ร่างสูงกระแทกความปรารถนาของตนเองเข้าที่ช่องทางคับแคบของอีกฝ่ายอยากแรงจนร่างบางสะดุ้งเฮือกริมฝีปากกัดข้อมือที่ถูกปล่อยเป็นอิสระจนเลือดออกเสียงหัวเราะในลำคอทำเอาสมองของร่างบางเดือดพล่าน ก็รู้หรอกนะว่าถึงพูดขอไปก็ไม่มีความปราณีให้แต่จะสงสารกันบ้างได้ไหมเสียงสะอื้นฮักดังขึ้นแผ่วเบาพร้อมกับแรงกระแทกจนสะโพกสั่นคลอน

“ไง ชอบใช่ไหม นายต้องชอบอยู่แล้ว ร่านจริงๆ เลยนะ”

“เซ็กซ์เน่าๆ แบบนี้คิดว่าผมจะชอบเหรอ”

“ปากดี... อ่า... ดี... รัดตอดฉันดีจริงๆ เคย ด้านหลังแกเนี่ย” ไม่พูดเปล่าร่างสูงขยับวนจนโดนจุดเสียวของอีกฝ่าย ร่างบางสะดุ้งเฮือกก่อนจะหลุดครางออกมา

“อ๊ะ.. อ๊า...”

“ไม่.. ยะ..”

“พูดว่าอย่าแต่ดูร่างกายนายจะไม่เป็นแบบนั้นเลยนะ”มือข้างที่ว่างกุมความปรารถนาของอีกฝ่ายไว้และขยับรูดขึ้นลงอย่ารุนแรง

“อ๊า... อ๊า.... อย่า...”

“ไง จะออกแล้วล่ะสิ”

“ไม่... ฮื้อ...”

“อย่าดื้อน่า ใกล้ถึงแล้วใช่ไหม”

“ไม่.. อ๊า..”

“แต่ฉันไม่ให้ออกหรอกนะ” ร่างสูงพูดพร้อมกับบีบส่วนโคนของอีกฝ่ายร่างบางสะบัดหน้าไปมาอย่างทรมาน

“อย่า... ฮื้อ... ปล่อยผม...”

“ถ้าฉันไม่ถึงก่อน อย่าคิดว่าแกจะถึงได้นะ”

“ปล่อยเถอะ... โอ๊ย...”

“ขอฉันสิ อ้อนวอนซะ”

“ไม่.. ฮื้อ...”

“งั้นก็ทนอยู่อย่างนี้และ อ่า... ก้นแกนี้ดีจริงๆ”

เสียงหยาบโลนดังขึ้นพร้อมกับเสียงร้องครวญครางของคนที่โดนจับกระแทกกับฝาผนังกลิ่นลิ่มเลือดลอยปะคละคลุ้ง ผมที่ถูกหวีจัดทรงอย่างดีบัดนี้ถูกมือข้างหนึ่งจับจนหน้าหงายใบหน้าที่เหยเกด้วยความเจ็บปวดของอีกฝ่ายเร้าอารมณ์ของคนเบื้องหลังเป็นยิ่งนักยิ่งเขาร้องมากเท่าไรแรงกระแทกที่ได้รับจากอีกฝ่ายก็ยิ่งมากเท่านั้น

“อ๊า... ยะ..”

“บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าทำพลาด...”

“ขอ.. ทะ.. เจ็บ..”

“หรือว่าอยากโดนมากเลยทำแบบนี้”

“ปะ.. เปล่า..”

“คิดเหรอว่าฉันจะเชื่อ”

“ไม่... อุ... โอ๊ย..”

ร่างสูงกระแทกเข้ากับช่องทางคับแคบหลายต่อหลายครั้งเสียงแหบพร่าดังขึ้นงึมงำไม่ว่าคนร่างเล็กจะพยายามดิ้นรนหนีจากความเจ็บปวดมากเท่าไรคนร่างสูงก็ตามติดเขาไปทุกที่ กี่ครั้งแล้วนะที่เขาโดนคนตรงหน้าทำกับเขาราวกับไม่ใช่คนโดนข่มขืน โดนทำร้ายร่างกายให้เจ็บปวดไปหมดมือทั้งสองข้างจิกลงบนฝ่ามือราวกับระงับอาการน้อยใจที่เกิดขึ้นหยาดน้ำตารินไหลออกมาพร้อมกับร่างที่ถูกเขาปรนเปรออย่างสุขสมและเจ็บปวด

“พะ.. พอเถอะ..”

“อะไร แค่นี้ก็ไม่ไหวแล้วเหรอ”

“มะ... ไม่ไหว.. แล้ว อึก..”

“ยังหรอก ฉันยังไม่ได้ทำให้สมกับที่แกทำงานพลาด”

ร่างเล็กถูกหันมาเผชิญหน้ากับร่างสูงทั้งที่เรือนกายของทั้งสองยังเชื่อมต่อกันความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากการกระทำที่ผิดท่าทำให้เขาแทบจะทนมันไม่ได้มือเล็กนั้นจิกลงบนบ่ากำยำราวกับจะระบายอาการเจ็บปวดของตนเองลง

ริมฝีปากสวยสะกดกลั่นเสียงร้องเจ็บปวดเอาไว้ให้ตายก็จะไม่ยอมให้ ‘คนๆ นั้น’ ได้ยินเสียงเป็นอันขาดร่างบางถูกยกขึ้นทั้งอย่างนั้นก่อนจะพาตัวไปยังเตียงนอนที่เชื่อมต่อกับประตูห้องเสียงร้องครางของเขาดังระงมไปทั่วและไม่มีวี่แววว่าจะสงบลงแม้ว่ารุ่งเช้าจะมาถึง

ร่างบางก้าวออกมาที่เรือนรับรองของคฤหาสน์โดยมีดีแลนคอยประคองอยู่ตลอดเวลาใบหน้าแดงระเรื่อของอายาโตะหลังจากถูกจับกดจนหมดแรงทำให้เขาไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงทันทีที่ก้าวมาถึงเรือนรับรอง สายตาของอายาโตะก็ปะทะเข้ากับร่างสูงบึกบึนราวร้อยเก้าสิบเซนติเมตรของหลงและร่างสูงโปร่งที่สูงน้อยกว่าราวยี่สิบเซนของอชิยืนอยู่ข้างๆ ชายสูงผอมผมสีทองสวมแว่นตาดูเคร่งขรึม

“หลง อชิ”

“นายน้อยปลอดภัยนะครับ”

“อื้อ คุณดีแลนช่วยผมไว้น่ะ”

คิ้วของเอียนเลขาส่วนตัวของดีแลนกระตุกขึ้นเล็กน้อยเขาปรายตาไปทางเจ้านายของตนที่ยืนขนาบข้างกายนายน้อยอายาโตะมือข้างหนึ่งของดีแลนโอบไหล่ของอายาโตะไม่ยอมปล่อยซึ่งถือว่าผิดปกติมากกับคนที่ไม่ชอบแตะต้องตัวคนที่ไม่คุ้นเคยแถมตามปกติแล้วเอิร์ลจะไม่ชอบให้ใครเรียกชื่อเล่นสักเท่าไรยิ่งสร้างความแปลกใจให้เอียนเป็นอย่างมากแต่ด้วยความที่เอียนทำงานกับดีแลนมานานจึงไม่ได้พูดอะไรออกมา

อชิก้าวออกมาก่อนโค้งคำนับทำความรู้จักอีกฝ่ายที่ช่วยเหลือนายน้อยของเค้าอย่างรู้งาน

“ขอบคุณคุณดีแลนมากนะครับที่ติดต่อไปหาเรา”

“ไม่เป็นไร ฉันเองต้องขอโทษด้วยที่ติดต่อไปช้าพอดีเรามีเรื่องต้องตกลงกันเล็กน้อยเลยทำให้ล่าช้าไป”

ดีแลนอมยิ้มที่มุมปากขณะที่ดวงตาไม่แม้แต่จะเหลียวมองคนที่สนทนาโต้ตอบกับเขาอย่างอชิใบหน้าของอายาโตะแดงระเรื่อเมื่อนึกถึงเรื่องที่ตกลงกับคนร่างสูงไว้หัวใจของชายหนุ่มเต้นระรัวอย่างหยุดไม่อยู่เพียงแค่พบกันแค่คืนเดียวทำให้เขาเป็นได้ถึงเพียงนี้เลยหรือ

“ตกลง

อชิหันไปมองร่างเล็กของนายน้อยด้วยความสงสัยความจริงแล้วเขาก็สงสัยมาตั้งแต่นายน้อยเดินออกมาจากเรือนด้านในจนถึงเรือนรับรองแห่งนี้แล้วเพราะตั้งแต่ออกมาร่างสูงยังไม่ยอมปล่อยแขนที่โอบไหล่ของนายน้อยเลยและอีกเรื่องก็คือ ดูจากสภาพแล้วนายน้อยของเขาไม่มีทางที่จะรู้จักบุคคลที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงเอิร์ลเป็นแน่แต่เมื่อเห็นอาการที่อายาโตะแสดงออกมาทำให้เขาพอจะรู้เลาๆว่าอาจจะเป็นอย่างที่เขาคิด มุมปากของอชิกระตุกขึ้นเล็กน้อยอย่างชอบใจ

“เอ่อคือ... ตั้งแต่นี้ต่อไปผมจะอยู่ที่นี่ครับ”

“ไม่ได้!”

สิ้นเสียงอายาโตะหลงที่ทำท่าราวกับจะจับคนกินได้ก็แผดเสียงขึ้นมาทันใดและนั้นทำให้อายาโตะถึงกับสะดุ้งสุดตัว ในบรรดา บอดี้การ์ดสองคนที่บิดาและมารดาของเขาหามาเพื่อปกป้องและดูแลเขานั้นมีเพียงหลงคนเดียวที่เขาไม่กล้าต่อกร

ดีแลนเงยหน้าขึ้นมองบอดี้การ์ด ที่แผดเสียงขึ้นมาอย่างไม่ชอบใจ เขารับรู้ได้จากเสียงและแววตาว่าหลงจะต้องหลงรักคนรักหมาดๆของเขาที่กำลังสั่นเป็นเจ้าเข้าอยู่ในอ้อมแขนของเขาเอิร์ลหนุ่มกระชับร่างบางให้เข้าใกล้เขามากขึ้นดวงตาสีน้ำเงินจับจ้องหลงอย่างไม่ยอมแพ้

เรื่องอะไรเขาจะยอมให้มาขัดขวางความสุขที่จะได้อยู่ร่วมกับคนร่างเล็กไม่มีทางซะหรอก..

“ฉันว่าให้อายาโตะอยู่ที่นี่ดีกว่านะพวกคุณก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าเมื่อคืนถ้าฉันไม่ไปเจออายาโตะ เรื่องมันจะเลวร้ายขนาดไหน

“แต่ว่าเป็นคำสั่งนายหญิง นายน้อยจะต้องพักที่โรงแรมเทโตะเท่านั้น”

“มันก็อะลุ่มอล่วยกันได้ไม่ใช่เหรอ”

“ไม่ครับ ยังไงนายน้อยก็ต้องกลับไปที่โรงแรมเทโตะเท่านั้น”

หลงยังคงยืนยันคำเดิมอายาโตะกัดริมฝีปากแน่น ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากกลับไปที่โรงแรมแห่งนั้นแต่ถ้ากลับไปเขาก็ไม่รู้ว่าจะโดนลักพาตัวอีกเมื่อไหร่และยังไม่รู้อีกว่าข้างในนั้นมีเกลือเป็นหนอนอยู่อีกเท่าใด

“ถ้าอย่างนั้นฉันจะโทรหาคุณแม่ของอายาโตะดีไหม ให้เขาพักอยู่ที่นี่แทน”

อายาโตะเงยหน้าขึ้นมองคนร่างสูงที่ยังคงกอดกระชับร่างของตนอยู่อย่างตื่นตะลึงเขาไม่คิดว่าดีแลนจะพูดแบบนั้นออกมาถึงแม้เอิร์ลหนุ่มจะบอกว่าตกหลุมรักเขาก็ตามทีเถอะ แต่เพิ่งจะเจอกันแค่คืนเดียวดีแลนไม่จำเป็นที่จะเอาตัวเข้ามาเกี่ยวกับตระกูลเขาเลย

“ฉันไม่อยากห่างเธอไปไหน อยากกอด อยากจูบเธอไปตลอดทั้งคืน”

ดีแลนกระซิบที่ข้างหูของคนที่เขาเพิ่งบังคับให้เป็นคนรักหมาดๆจนใบหน้าของอายาโตะแดงระเรื่อเมื่อนึกถึงรสรักที่คนร่างสูงปรนเปรอให้ตลอดทั้งวันทั้งคืนถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำไปจนสุดทางแต่นั่นก็เป็นเรื่องที่อายาโตะไม่เคยพบพานมาก่อน

“ไม่... ยังไง..”

หลงที่กำลังจะปฏิเสธเรื่องที่จะโทรหานายหญิงที่อยู่ประเทศไทยก็ถูกอชิพูดตัดบทด้วยน้ำเสียงเร่าเริงปนขี้เล่นขึ้นมาเสียก่อน

“เดี๋ยวผมจะต่อสายให้คุยกับคุณหญิงนะครับ หลงนายอยู่เฉยๆให้นายหญิงจัดการเองเถอะ”

“อชิ... แก…”

“ขอบคุณนะอชิ”

“ไม่เป็นไรครับนายน้อยที่เหลือก็ต้องเป็นการตัดสินใจของนายหญิงแต่ถ้าคำตัดสินออกมา นายน้อยรบกวนทำตามด้วยนะครับ”

“ครับ”

อายาโตะรับคำมันต้องเป็นอย่างนี้อยู่ตลอดสิน่ะ คำตัดสินของมารดาถือเป็นที่สุดทุกทีอายาโตะมีสีหน้าลำบากใจขณะที่เขาเดินทางมาเรียนต่อยังประเทศบ้านเกิดเมืองนอนบิดาแห่งนี้ก็ยังคงไม่พ้นอำนาจของมารดาที่มาไกลถึงประเทศญี่ปุ่น

“ไม่เป็นไรนะ ฉันจะพูดกับคุณแม่เธอให้”

“ครับ... ขอบคุณนะครับ”

ดวงตากลมโตมองไปยังเอิร์ลที่อยู่ข้างกายดวงตาแสนเศร้านั้นทำให้ดีแลนอดสงสารไม่ได้ดูเหมือนว่าคนร่างเล็กนี้จะถูกล้อมไปด้วยกรอบอยู่ตลอดเวลาเขาจะต้องเป็นคนตัดกรอบที่ล้อมอายาโตะออกให้ได้โทรศัพท์ถูกส่งมายังดีแลนที่ยืนอยู่ดูเหมือนว่าอชิจะต่อสายกับคุณหญิงมารดาของอายาโตะได้แล้วเขามองโทรศัพท์เคลื่อนที่เครื่องเล็กที่ถูกส่งให้พร้อมกับรับมันไว้ในมือ

“เห็นอชิบอกว่าคุณเป็นคนช่วยดิฉันรึค่ะ”

“ครับ... สวัสดีครับ ผม เอิร์ล อเล็กซานเดอร์ ไวท์ ดีแลนเป็นคนที่ช่วยอายาโตะไว้ครับ”

“สวัสดีค่ะท่าน ดิฉันคุณหญิงพิณภิกาล อัครเสนีห์ ค่ะขอบคุณนะคะที่ช่วยลูกชายของดิฉัน แต่เรื่องที่จะให้ไปอยู่ที่คฤหาสน์ของท่านเห็นทีคงจะไม่ได้”

“แต่ว่า... ผมคิดว่าท่านน่าจะทบทวนหน่อยนะครับเพื่อความปลอดภัยของอายาโตะ”

“ทบทวน? ทบทวนอะไรหรือค่ะท่าน”

“ครับ ผมอยากให้ทบทวนว่าถ้าวันนั้นที่ผมไม่ได้ออกมาเดินเล่นและเผลอไปเห็นอายาโตะกำลังถูกลักพาตัวเข้าผมก็ไม่รู้ว่าอายาโตะจะเป็นอย่างไงบ้าง ผมคิดว่าคงมีคนในเป็นสายผมไม่อยากให้อายาโตะพบอันตราย เลยเสนอให้มาพักที่คฤหาสน์ของผมตามประสาคนรู้จักกัน”

“เอ๊ะ คนรู้จัก? ลูกดิฉันรู้จักคนระดับท่านด้วยหรือค่ะ”

คุณหญิงพิณภิกาลอดแปลกใจไม่ได้ถึงลูกชายเธอจะมีเพื่อนๆ เป็นคนใหญ่คนโตแต่ทั้งหมดทั้งมวลก็เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในประเทศไทยทั้งนั้นแต่คนที่มีบรรณาศักดิ์เป็นถึงเอิร์ลหล่อนไม่เคยได้ยินว่าลูกชายเธอรู้จักเป็นการส่วนตัว

“ครับผมกับอายาโตะรู้จักกันมาสักพักแล้ว”

ดีแลนยกยิ้มมุมปากพลางมองคนร่างเล็กและปดไปเนียนๆจะเรียกว่าปดก็คงไม่ได้เพราะเขารู้จักอายาโตะแล้วเพียงแต่แค่ไม่กี่วันที่ผ่านมามันก็เท่านั้นเพราะถ้าเขาบอกว่าเพิ่งพบกับอายาโตะที่ล็อบบี้โรงแรมที่นัดติดต่อธุรกิจเพียงแค่ครั้งเดียวกันล่ะความน่าเชื่อถือก็คงไม่มีให้

“ทำไมดิฉันไม่เห็นได้รับรายงานจากหลงกับอชิเลยล่ะค่ะ”

“นั่นเพราะว่าทั้งสองคนอาจไม่ทราบก็ได้ครับเอาเป็นว่าเพื่อความปลอดภัยของอายาโตะ ผมว่าควรให้เขาพักที่นี่เถอะนะครับเพราะอย่างน้อยก็มี บอดี้การ์ด ของผมอยู่เป็นโขยงและก็คงไม่มีไอ้หน้าไหนมันกล้าบุกเรือนพักรับรองของเอิร์ลอย่างผมเป็นแน่”

ดีแลนเน้นเสียงในตำแหน่งของตนเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือทันทีดูเหมือนปลายสายเองก็จะคล้อยตามความคิดนั้น

“มันก็จริงของท่านนะคะ เอาเป็นว่าดิฉันตกลงล่ะกันค่ะตอนแรกดิฉันไม่รู้ว่าท่านจะรู้จักลูกชายของดิฉัน ก็เลยกลัวว่าอายาโตะจะไปรบกวนท่านต้องขออภัยด้วยค่ะ”

คุณหญิงพิณภิกาลกล่าวออกมาอย่างนอบน้อมดีแลนพยักหน้าให้อายาโตะเป็นเชิงว่าสำเร็จแล้ว

“ไม่เป็นไรครับ ผมเอ็นดูอายาโตะมาก เขาดูบอบบางผมกลัวคนไม่ดีจะมาทำร้ายเขาน่ะครับ”

“ค่ะ ถ้ายังไงขอคุยกับอชิต่อนะคะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ และก็ขอรบกวนด้วยค่ะ”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ถือว่าช่วยๆ กัน... ครับ... สวัสดีครับ”

ดีแลนส่งโทรศัพท์มือถือให้อชิรับสายต่อพร้อมกับหันมามองคนร่างเล็กที่ทำสีหน้าอึ้งๆกับคำโกหกกองโตที่บอกว่าเขาและคนร่างสูงรู้จักกันมาก่อนแต่ก็ต้องปิดปากเงียบไว้เพราะดีแลนกระซิบที่ข้างหูเขาว่า

“เงียบๆ ไว้ เดี๋ยวดีเอง ฉันโกหกก็เพื่อเธอ”

“ครับ..”

อายาโตะรับคำแผ่วเบามองอชิที่รับสายมารดาที่ดูเหมือนว่าจะสั่งให้เขามาพักที่เรือนรับรองของเอิร์ลหนุ่มเพื่อนกำมะลอของเขาคนนี้แทนที่จะเป็นโรงแรมเทโตะที่ถูกบังคับให้เป็นที่พักของเขาตลอดปีการศึกษานี้จนถึงเวลาที่เรียนจบ

“ตกลงตามนี้นะครับผมจะไปขนของของนายน้อยมาที่เรือนรับรองแห่งนี้ตามคำสั่งของนายหญิง”

อชิพูดออกมาโดยไม่หันไปมองหลงที่ทำหน้าเคร่งเครียดใครจะคิดว่าคุณหญิงพิณภิกาลจะยอมให้บุตรชายเพียงคนเดียวมาพักที่นี่แทนที่จะเป็นโรงแรมเทโตะที่เป็นโรงแรมในเครือของตระกูล

เอิร์ลหนุ่มพยักหน้ารับอย่างพอใจร่างสูงส่งยิ้มให้อายาโตะที่มีสีหน้าแช่มชื่นขึ้นมาจากตอนก่อนถึงแม้ว่าอายาโตะจะรู้สึกเกรงใจหลงเป็นอย่างมากที่ทำแบบนี้แต่เขาก็รู้สึกดีกว่าการที่ต้องอยู่ในสายตาของคนในตระกูลที่ชอบนินทาว่าร้ายและจับผิดอยู่ร่ำไป

“นายน้อยจะไปที่โรงแรมพร้อมเราหรือไม่ครับ”

หลงหันมาถามอายาโตะด้วยสายตาหมายมาดเขาไม่ชอบให้นายน้อยของเขาอยู่ใกล้กับเอิร์ลหนุ่มร่างสูงคนนี้เลยยิ่งท่าทางที่แสดงออกมาราวกับจะสื่อให้เห็นอะไรบ้างอย่างนั้นยิ่งทำให้บอดี้การ์ดหนุ่มไม่ชอบเป็นอย่างมาก ยังไงแล้วตามความคิดของเขานายน้อยน่าจะคู่ควรกับหญิงสาวตระกูลดังมากกว่า

อายาโตะทำสีหน้าลำบากใจตั้งแต่เกิดเรื่องมาเขาก็ไม่อยากจะเฉียดใกล้โรงแรมเทโตะอีกเลยด้วยกลัวว่าจะต้องไปรับฟังหรือได้ยินขี้ปากพนักงานที่วุ่นวายกับการตามหาตัวเขา

ถึงแม้ว่าจะไม่นินทาให้ได้ยินจังๆแต่เขาก็พอจะรู้เลาๆ ว่าหลายๆคนไม่พอใจกับการมาของบุตรชายเจ้าของโรงแรมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะผู้จัดการโรงแรมในเครือแห่งนี้ที่เขาสังเกตได้ว่าไม่ชอบใจเขาเป็นอย่างมากถึงแม้ต่อหน้าจะเป็นอย่างไร แต่ลับหลังแล้วไซร้เป็นอีกอย่างเสมอ

“หลง นายไม่ต้องให้นายน้อยลำบากถึงขนาดนั้นหรอกน่านายน้อยไม่ต้องไปก็ได้นะครับ เดี๋ยวผมนำสัมภาระจากโรงแรมมาให้ที่นี่เอง”

“ขอบคุณนะอชิ”

“ไม่เป็นไรครับ นายน้อยรอที่นี่ละกัน ผมไปแปปเดียวเท่านั้น”

“ครับ”

“ท่านเอิร์ล ผมฝากนายน้อยด้วยนะครับ”

“ได้ ไม่มีปัญหา เดี๋ยวฉันจะให้เอียนไปด้วยละกัน”

ดีแลนพยักหน้าเรียกเอียนชายร่างสูงผอมที่ยืนรอรับคำสั่งอยู่ตรงนั้นเอียนโค้งศีรษะรับคำสั่งผู้เป็นนายก่อนจะเดินนำอชิที่ลากแขนหลงที่ทำท่าจะไม่ยอมไปให้ออกไปจากบริเวณเรือนรับรองให้เดินไปด้วยกัน




Create Date : 11 ธันวาคม 2559
Last Update : 11 ธันวาคม 2559 17:22:40 น.
Counter : 197 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ไลแลต..
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






- นิยายที่ผ่านการตีพิมพ์ -









ธันวาคม 2559

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
  •  Bloggang.com