NangManNoi
Location :
ระยอง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
 
กันยายน 2551
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
10 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add NangManNoi's blog to your web]
Links
 

 

เย้ เย จันทบุรี

Smileyตอน...น้ำตกเขาสอยดาว+เจเจจันทบุรี+หาดคุ้งวิมาน+อ่าวคุ้งกระเบน+วัดไผ่ล้อม+สวนสมเด็จพระเจ้าตาก+โบสคาทอลิก+โบสพระแม่มารี+จบด้วยการซื้อเสื่อที่บ้านหนองกกSmiley


   ทริปนี้เราไปเที่ยวกับเพื่อนแก๊งเทอร์โบเรนเจอร์ของน้องตอง 55 เราอยากไปเที่ยวที่น้ำตกเขสอยดาวกันค่ะ มีเพื่อนร่วมแก๊งทั้งหมดในทริปนี้ก้อ 8 นายด้วยกัน (เมย์ เราเอง พี่ทราย พี่พจน์ น้องตอง กอล์ฟ พี่นิว และพลขับไก่) เริ่มเดินทางจากบ้านไอยรา (บ้านพี่พจน์ที่สัตหีบ) โดยพลขับไก่ กับรถตู้คู่ใจ ขับมารับสมาชิกรายทางเรื่อยๆ พี่ๆมาแวะรับเราที่ระยองเป็นคนสุดท้าย หลังจากนั้นก้อครบแก๊ง ด้วยความสนุกสนาน ออกเดินทางจากตัวเมืองระยอง ก็ 9 โมงตรงพอดีแปะ เป็นฤกษ์งามยามดีจริงๆค่ะ


    ครั้งแรกเลยเราเตรียมตัวกันอย่างดี เพราะว่าเราไปเที่ยวกันตอนหน้าฝนSmiley พี่พจน์แก check สภาพอากาศด้วยนะ เค้าบอกว่ามีฝนบ้าง ประมาณ 40% พวกเราก็อุ่นใจนิดหน่อย คือ 40% ก็น้อยกว่าครึ่งล่ะน่า และก็มีการ confirm นัดหมายกันล่วงหน้าอีกครั้ง สมาชิกทุกคนก็พร้อมเต็มที่แต่งตัวไปเล่นน้ำตกกันสุดฤทธิ์ รวมทั้งเราเองด้วยเหมือนกัน ประมาณเกือบ 11 โมงเราก็ไปถึงที่อุทธยานค่ะ ต้องเสียค่าเข้าอุทธยานด้วย ผู้ใหญ่คนละ 20 บาท เห็นราคาของชาวต่างประเทศแล้วก็ตกใจ ตั้ง 10 เท่าแหน่ะ แต่ก็ rate ทั่วไปนะ ^^ หลังจากขับเข้ามา ทางก็ยาวไกลค่ะ เราไม่ได้ถ่ายรูปไว้ เพราะว่าพอขับเข้ามาเขตอุทธยาน ฝนก็ตกเลย แต่ก็ปรอยๆ เราก็ไม่ย่อท้อ ตอนนั้นแอบสงสัยเล็กๆ เอ ทำไมไม่มีรถสวนเลยหว่า รึว่าเค้าไม่ไปเที่ยวกันช่วงนี้ แต่ก็ไปกันต่อค่ะ จนถึงทางเดินขึ้นไปน้ำตก ลงรถปุ๊บ ฝนตกหนักเลย Smileyเราก็แบบ โห นี่ขนาดดูพยากรอากาศมาแล้วนะเนี่ย แต่พวกเราก็ หึหึ ตื่นเต้นดี อย่างงี้ยิ่งอยากเข้าไป ที่นี่ดีค่ะ มีป้ายเตือนด้วยว่า ระดับน้ำสีอะไร ห้ามลงเล่น เราก็อ่านๆ และศึกษากันไปก่อน เล่นได้เล่นไม่ได้ว่ากันอีกที (แก๊งนี้ทรหดค่ะ ทรหด) เราก็เดินเข้าไปเรื่อยๆ ตอนนี้ต้องขอโทษทีไม่ได้เก็บภาพมาฝากนะ เพราะว่าฝนตกหนักมาก พวกเราก็เป็นห่วงน้องตองล่ะ (ประมาณ 8 ขวบเองถึงเป่าไม่รู้)ครั้งแรกไอ่เมย์เอาขี่หลังก่อน แต่เอาถุงควบหัวน้องตองไป พวกเราก็เดินๆ ทางที่เดินเข้าไปเดินไม่ได้ง่ายเลย (ระยะทางจริงๆ จนถึงชั้น 5 คงประมาณ 2 กิโลได้) ที่จริงถ้าฝนไม่ตกคงไม่ทุลักทุเลอย่างงี้อ่ะนะ แต่พวกเราก็ใจสู้จริงๆ เดินกันต่อไป ทั้งน้องตองด้วย คือ ทางมันลื่น เพราะว่าน้ำไหลลงมาจากเขา และต้องเดินขึ้นเขาบ้าง ลงเขาบ้าง ต้องเดินผ่านแอ่งน้ำด้วยนะ คือมันเหมือนน้ำตกขนาดย่อมอ่ะ แต่น้ำไหลแรงมากๆ เราเดินผ่านกันอย่างช้าๆ กลัวลืน ถ้าลื่นนะ ตกลงไปเลย หน้าผา (น้ำตกที่ไหลเชียวกรากอยู่เบื้องล่าง 55 โคดเว่อเลย เอ้า แต่จิง) เราก็เดินกันต่อไป เดินไปเหมือนไม่รู้จุดหมายเลย ได้ยินเสียงนก รึว่าเสียงชะนีด้วยก็ไม่รู้ และแล้ว เดินไป เดินไป ก็เจอป้ายบอกว่า อีก 400 m (ถ้าจำไม่ผิดนะ) จะถึงชึ้น 4 เราก็เย้ แต่ตั้งแต่เดินผ่านมาเนี่ย ยังไม่มีชั้นไหนเล่นน้ำได้เลย เราก็เดินต่อ และเดินต่อ จนไปเจอป้าย 750 m จะถึงชั้น 5 จะบอกว่า ทัศนียภาพสวยมากๆ เพราะว่าเหมือนเดินป่าจริงๆ ก็เดินป่าน้อ จนไปเจอต้นไม้ต้นใหญ่หักขวางทางไว้ ที่จริงมันแทบจะข้ามไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่พวกเราก็ข้าม (บ้าจริง) เดินไป เดินไป ไม่รู้ว่าถึงชั้น 5 รึเปล่า จนไปสุดทาง แบบ คือไม่มีทางดินให้เดินอ่ะค่ะ เป็นหิน (เหมือนต้องใส่รองเท้าปีนน้ำตกมาถึงจะขึ้นไปได้) แต่พวกเรา เพื่อนก็ใส่เตะแต่เราใส่สกอร์ เตรียมพร้อม 55 ทุกคนก็บอกเสียงเดียวกัน ว่า แปะ ไปต่อ โอ้วพระเจ้าใจสู้เจงๆ เราก็เอ้าต่อ เราเป็นคนที่ 4 ที่อยู่ในแถว คนแรกคือ กอล์ฟที่แบกน้องตองไว้บนหลัง (เปลี่ยนแระ เมย์ไม่ไหว) โดยที่ไม่รู้ว่า ข้างหน้าจะเจออะไร ห่างแค่เมตรครึ่งเท่านั้น มัน....มันคือ....งู!!!! กอล์ฟหันไปแล้วเจอเลย ไม่ใช่ตัวเล็กๆเลย เราเองเห็นแล้วยังวิ่งหนีแทบไม่ทัน งูเหลือม!!!!! ตัวใหญ่มั่กๆๆๆๆๆ หัวยังใหญ่กว่าแขนเลยยยย แล้วตัวล่ะ จะใหญ่ขนาดไหน!! มันชูคอตั้งขึ้น คิดดู งูเหลือมชูคอ มันคงเตรียมพร้อมแล้ว เพราะว่าพวกเรายืนตรงนั้นนานพอสมควร แต่ไม่เห็นมัน เราก็รีบเดินกลับเลย ลืมบอกไป งูตัวนั้นสวยมาก สวยจริงๆ สีเหลืองทองอร่าม สลับขาว สวยจริงๆ แต่ทุกคนก็กลัว ก็รีบกลับ ดีนะ มันไม่รัดน้องตองไป คือ ตอนนั้นฝนก็ยังตกอยู่ เราเดินได้เร็วขึ้น กว่าตอนเดินเข้า พอช่วงเดินกลับเราก็คิดว่า ฝนตก ไปต่อไม่ได้ มีต้นไม้ใหญ่ขั้น เค้าต้องมาบอกเราแน่ๆ ว่าอย่าไปต่อ ไม่งั้นอาจจะเกิดอันตราย เราคิดอย่างงั้นนะ พี่พจน์ก็คิดเหมือนกัน เราเดินกันลงมา โดยที่ไม่สนใจทากกันเลย จนถึงชั้นล่างสุด ทุกคนก็โล่งค่ะ ตอนเดินกลับ เราพูดตลอดเลยว่ามันไกลกว่าเดิมรึเปล่า ไม่ถึงสักที 55 พอลงมเราก็รู้สึกเจ็บๆที่เท้า โอ้วว ตัวทาก โตมั่กๆ เราว่าที่นี่อุดมสมบูรณ์นะ มีทุกอย่างเลย ฮ่าๆๆๆ เรามีตัวทากติดถุงเท้าทั้งหมด 4 ตัวด้วยกัน แน่นอน ถุงเท้าคู่นั้นทิ้งไปเลยค่ะ ลืมบอกไป พอลงมาถึงชั้นล่างสุด ฝนก็หยุดตกพอดี (ฟ้าเป็นใจจริงๆ) สุดท้ายเราได้เล่นน้ำกันชั้นล่างสุดล่ะ น้ำเย็นมั่กๆ ที่จริงปวดฉี่ แต่เราก็มาฉี่ชั้นล่างสุดนะ เพราะว่าเค้าไม่มีห้องน้ำจริงๆ (ต้องขอโทษด้วยนะค้า ^^)


Free TextEditor

   หลังจากนั้นก็ขับรถลงมากันค่ะ ไม่อยากเชื่อ แดดออก เปรี้ยงๆเลย Smiley เลยได้เก็บภาพสวยๆมาฝากกันอยู่นิดหน่อยSmiley

หน้าอุทธยานค่ะ เราก็ขับรถมาเที่ยวในเมืองกันต่อ อยากไปเที่ยวตลาดพลอย (หาไม่เจอค่ะ 55 คือทริปนี้เหมือนเจออะไรก็เที่ยวมันซะที่นั่นแหละ) ได้ไปเที่ยว เจเจ ของจันทบุรีแทน เพราะว่าเริ่มค่ำแล้ว เราก็ซื้อกับข้าวไปกินที่รีสอร์ทกัน


    เราไปพักกันที่หาดคุ้งวิมาน ฟ้าใสรีสอร์ทค่ะ สวยดี


แต่ไม่ได้ติดทะเลนะ ห่างจากทะเลประมาณ 100 เมตร หาดเดียวกับ รีสอร์ท almantana (ถ้าจำไม่ผิด) ที่เค้าออกแขกๆหน่อย กว่าเราจะถึง รีสอร์ทก็เกือบทุ่มแล้ว ห้องสวยดีค่ะ บ้านเป็นหลังเลย ห้องน้ำเปิดประทุน ใสสว่างเห็นท้องฟ้าด้วย มื้อเย็นของเราตามรูปเลย ไข่ต้มขายดีสุด 55 หลังจากนั้นเราก็มาเปิดศึกก่อนนอนเล็กน้อย ด้วยป๊อกป๊อกขนาดย่อม 5 บาท 5 บาท จบตอนเที่ยงคืนพอดี เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า


    เรานัดกันตื่นตอนหกครึ่ง แต่ก็ออกกัน เจ็ดอยู่ดี เป้าหมายอยู่ที่ อ่าวคุ้งกระเบน เราอยากไปสะพานแขวนกันค่ะ เราก็เดินไปศึกษา ป่าชายเลนไป เจองูตัวเล็กๆกำลังกินอิ่มเลย เราก็เดินไปเรื่อยๆ เก็บภาพกันไปเรื่อยๆค่ะ



หาสะพานแขวนไม่เจอ 55 (ทริปนี้ประสบความสำเร็จอะไรมั้ยเนี่ย อิอิ) เค้าบอกว่า กำลังซ่อมค่ะ โชคไม่ดีจริงๆ แต่ก็สนุกดีนะ เราก็เดินออกมา แอบพักเก็บภาพกันเป็นช่วงๆ เริ่มสายแดดก็เริ่มร้อน และท้องก็เริ่มร้องค่ะ เราออกมา เจอตรงวงเวียนตัวหมูดุดพอดี มีโจ๊กค่ะ หมูปิ้งด้วย เราก็เจอนักเดินทางอีกกลุ่มเค้าปั่นจักรยานมาจากโคราช ก็ทักทายค่ะ แข็งแรงกันจริงๆบอกว่าปั่นมา สองวันแระ


    หลังจากกินข้าวเสร็จเราก็ไปเล่นทะเลตอนเช้ากันต่อที่หาดคุ้งวิมาน น้ำใสมั่กๆเลย เค็มด้วย


ธรรมชาติเค้ายังดีมากค่ะ แนะนำให้ไปเที่ยวทะเลที่จันจริงๆ หลังจากนั้นก็กลับมาอาบน้ำแต่งตัว เราอยากไปสักการะพระนอนองค์ใหญ่ที่สุดกันก่อนที่วัดไผ่ล้อมค่ะ เราก็ไปกันอย่างไม่ยากเท่าไหร่ เนื่องจากพลขับไก่รู้ทางเราก็ไปถวายสังฆทานกันด้วยนะ หลังจากนั้น หน้าวัดมีร้านขายเย็นตาโฟเจ้าเก่าค่ะ เย็นตาโฟ ปูกั้ง ชามละ 60 บาท แต่ได้คุ้มค่าคุ้มราคาและรสชาติจริงๆ อร่อยเหาะ อิ่มกันแล้วก็ไปกันต่อ สักการะพระเจ้าตากเสร็จเราก็ออกเดินทาง อยากไปเที่ยวโบส์พระแม่มารีค่ะ (คือแต่ละคนไม่รู้ทางกันเลย 555+) หลงค่ะ หลงไปบ้านท่าแฉลมั้งถ้าจำไม่ผิด ไกลจากตัวเมืองมากๆ สวนสาธารณะพระเจ้าตากสิน เราผ่านถ้านับครั้งก็เกือบ 20 ครั้งล่ะ ฮ่าๆ เฉพาะทริปนี้ที่หลงนะ พอไปถึง คนละโบสกับที่เราอยากไป โอ้ว มะจ้ายโบสพระแม่มารีเจ้าค่ะ แต่เราก็เก็บภาพมานิสนึง ไหนๆก็มาแล้ว

เราก็วกกลับเข้ามาในเมืองใหม่เพราะมั่นใจว่าในเมืองแน่ๆ ถามไปถามมา ถึงจนได้ โอ้ว อะไรเขียวๆล้อมโบสไว้ หึหึ ปิดปรับปรุงค่ะ (55 ตกลงทริปนี้ ไปไม่ถึงสวรรค์เลย) เราก็ถ่ายรูปเก็บกันนะ

อย่างน้อยก็เห็นบ้านสมัยโบราณของเมืองจันท์ล่ะ สวยจริงๆ ผสมน่ากัวเล็กๆ ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ ฮ่าๆ


ถ่ายรูปกันเสร็จก็สมแก่เวลากลับบ้านกันแล้ว แวะซื้อเสื่อกันสักนิด (ของฝากขึ้นชื่อค่ะ) เราไปซื้อกันถึงบ้านเค้าเลย ได้มาสมใจอยาก ลดให้อีกต่างหาก ^^


    เรากลับมาถึงระยองก็ประมาณห้าโมงครึ่งเองค่ะ ทริบนี้ถึงแม้จะไม่ได้เห็นอะไรที่อยากจะเห็นแต่ก็ได้อะไรหลายอย่าง สนุกจริงๆ เอาไว้ไปเที่ยวใหม่แล้วจะเก็บมาฝากนะคะ SmileySmileySmiley








 

Create Date : 10 กันยายน 2551
1 comments
Last Update : 12 กันยายน 2551 21:15:08 น.
Counter : 564 Pageviews.

 

ถ่ายรูปกันมันส์ไปเลยนะคะ
ไปจันทบุรีทีไร ไม่ได้พักซะที

 

โดย: chenyuye 17 กันยายน 2551 10:28:10 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.