ภรรยาท่านทูตไทยในเกาหลีเสียชีวิต กับการรักษาของโรงพยาบาลในเกาหลี

เมื่อสองวันก่อน จูนบอกว่า วันนี้ไปทำงานที่โรงพยาบาลที่หนึ่งในเกาหลี และหมอที่นั้นก็ได้เล่าให้ฟังว่า ตอนนี้ที่นี้มีเรื่องอยู่ คือ ภรรยาท่านทูตไทยในเกาหลีมารักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่ได้เสียชีวิตกระทันหัน และท่านทูตก็ได้ทำการฟ้องร้องอยู่ตอนนี้ อันดับแรก ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ใจอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่คงพูดอะไรไม่ได้มาก นอกเสียจาก ความเห็นส่วนตัว คือ เราว่า การรักษาในเกาหลีนั้น แย่พอๆกับโรงพยาบาลรัฐในไทยเลยแหละ (ขอโทษค่ะ ที่เปรียบแบบนี้ แต่มันเรื่องจริงค่ะ) คือให้รอนานค่ะ หากไม่แย่มากๆจริงๆนี้ มิได้เข้าห้องฉุกเฉินหรอกนะคะ เผลอๆเข้าไปแล้วยังต้องรอเลย ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร

//www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1316673032&grpid=03&catid=&subcatid=

//www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01EVXlNakl6TURrMU5BPT0=§ionid=TURNek5RPT0=&day=TWpBeE1TMHdPUzB5TXc9PQ==

//www.suthichaiyoon.com/detail/15866


ที่โรงพยาบาลเกาหลีนี้ โรงพยาบาลที่เราไปบ่อยคือ โรงพยาบาลซุมซุงค่ะ อยู่ใกล้ๆบ้าน รักษาเรื่องภูมิแพ้อยู่ เลยต้องไปประจำ เวลาไป พอผ่านห้องฉุกเฉิน บางครั้งจะเห็นคนนอนให้น้ำเกลืออยู่เก้าอี้ หน้าโรงพยาบาลค่ะ แปลกป่ะ หรือไม่ก็เห็นคนอาการแย่ๆ นั่งอยู่กับพื้น หรือไม่ก็นอนกับพื้นอยู่ เห็นแล้วอนาจมากเลยค่ะ

เคยพาแทยังไปหาหมอ ด้วยไข้สูงถึง 40 องศา บวกกับท้องเสีย อาการแบบนี้เราเคยเป็นตอนสมัยอยู่ไทย พอไปหาหมอที่ไทย (โรงพยาบาลเอกชน) เค้าก็ให้แอดมิดเข้านอนพักให้น้ำเกลือเลย เลยคิดว่าไปหาหมอโรงพยาบาลดีที่สุด คิดว่า โรงพยาบาลไทยกับเกาหลีจะเหมือนกัน แต่พอไปถึง เค้าให้ไปรอหน้าห้องฉุกเฉินเด็ก อย่างนานมากๆๆ ก่อนไป จูนบอกแ้ล้วว่าอย่าไปเลย ไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรอก รอให้เช้าแล้วค่อยไปหาหมอที่คลีนิคดีกว่า (ตอนนั้นเที่ยงคืนได้ค่ะ) และก็จริงดังจูนพูด ไปนั่งรอ 1-2 ชัวโมง จนน้ำตาเอ่อ เค้าก็ยังรักษาอะไร ให้นั่งรออย่างเดียว ส่วนเด็กคนอื่นๆ ที่เห็น อาการหนักก็มี อ้วกตลอด ผื่นขึ้น มาก่อนเรา ยังไม่ได้รักษาเลยค่ะ ส่วนหนักๆกว่านี้ หมอตรวจแล้ว แต่ก็ให้นอนหรือนั่งรอแถวๆนั้นก่อนค่ะ ประมาณว่า ดูอาการต่อไป สุดเซ็งค่ะ ส่วนครั้งที่สอง ตอนนั้นเพื่อนคนไทย เค้าเรียนทำเล็บ แล้วกาวกระเด็นเข้าตาค่ะ กาวทำเล็บอ่ะค่ะ เราเลยรีบขับรถส่งโรงพยาบาลซัมซุง เพราะใกล้ที่สุด พอไปถึง ถามอาการ ให้เข้าห้องฉุกเฉิน แต่ให้เข้าไปนั่งรอในห้องฉุกเฉินนะคะ เสร็จแล้วก็ให้ล้างตา พอล้างตาเสร็จแล้วก็ให้รอต่อไป คือรอดูอาการต่อไป ทำไมไม่รักษาให้เสร็จๆแล้วกลับบ้าน หรือจะทำยังไงต่อก็ว่าไป แป้งเห็นแบบนี้แล้ว พอจะเข้าใจการรักษาเกาหลีคร่าวๆ พอได้ยินข่าวเรื่องภรรยาท่านทูตเสีย เลยทำให้คิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้อีกครั้งหนึีงค่ะ

อย่าว่าแต่โรงพยาบาลในห้องฉุกเฉินเลยค่ะ แค่หาหมอตรวจนี้ ก็รอแล้วรออีก เอาแค่แป้งหาหมอเรื่องโรคลูปุส (เป็นเฉพาะนัดครั้งแรกนะคะ) จะตรวจกันหมอคนนี้ ใช้เวลานัด เดือนกว่าค่ะ แต่ก็รอนะคะ กับหมอเรื่องโรคผิวหนังเช่นกันค่ะ นัดครั้งแรก ก็ใช้เวลารอเป็นเดือนๆค่ะ พอชื่อเข้าระบบแล้ว ก็รอหน้าห้อง 30 นาที หรือไม่ก็ 1 ชั่วโมงค่ะ เป็นเมืองไทยไม่ได้ รอแป๊บเดียวก็ได้เจอหมอแล้ว

ส่วนห้องพักสำหรับผู้ป่วยที่ต้องนอนโรงพยาบาลนั้น ห้องราคาแพง แถมเล็กมากๆๆ จำราคาไม่ได้แล้ว แต่เค้าจะมีห้องแบบนีค่ะ คือ ห้องพิเศษเดี่ยว สำหรับนอนคนเดียว ต่อคืนแพงมากๆๆ รองลงมา คือพิเศษแบบห้องคู่ อันนี้ก็ยังแพงมากๆอยู่ค่ะ และก็มีห้องพิเศษแบบ 3 เตียง และก็มีห้องแบบ 4 เตียง อันนี้ก็แพงแบบปานกลางค่ะ ส่วนห้องธรรมดา ก็มีประมาณ 12 เตียง ประมาณนี้ค่ะ ยังคิดเลยว่า ทำไมแพงขนานี้ ส่วนที่นอนของคนเฝ้าไข้ก็คือ พื้นข้างๆเตียงคนไข้แหละค่ะ เค้ามีเบาะให้นอน ที่เล่านี้ เป็นห้องพิเศษแบบแพงระดับสองนะคะ เชื่อหรือป่าว

ขอเพิ่มอีกนิดนะคะ คนไข้ในเกาหลีนั้น ไม่เหมือนคนไข้ไทยค่ะ คนไข้ที่เกาหลี แม้จะเป็นหนัก เค้าก็ออกมาเดินค่ะ ไม่รู้จะเดินอะไรกันหนักหนา เค้าเชื่อว่า การออกกำลังกายจะแข็งแรง แม้ไม่สบาย ก็ไม่ควรนอนพัก ต้องเดินออกกำลังกาย ไปชมไม้ ชมตึกไรงี้ค่ะ หากมาโรงพยาบาลในเกาหลี คุณจะเห็นคนไข้เดินลากสายน้ำเกลือกันเพียบเลยค่ะ เหมือนคนไม่ป่วยเลยค่ะ จูนเคยผ่าตัดตรงคอ ขนาดเดินไม่ได้ ใช้ขาลากๆกับเก้าอี้รถเข็น ออกไปชมวิวนอกห้องค่ะ ตลกมากๆๆ และไม่ได้มีจูนคนเดียวที่ทำนะคะ คนอื่นก็ทำกัน สงสัยเพราะห้องพักมันเล็ก อึดอัดแคบค่ะ ไม่เหมือนเมืองไทย พออยู่ห้องพิเศษแล้ว ไม่อยากออกไปไหนเลยค่ะ สบาย แอร์เย็น อาหารอร่อย (แป้งชอบกินข้าวโรงพยาบาลที่ไทยค่ะ เข้าบ่อยจนชอบ 555)

Create Date : 19 พฤศจิกายน 2554 Last Update : 19 พฤศจิกายน 2554 14:30:10 น. Counter : 4254 Pageviews.		14 comments
Share Tweet