1 เดือน กับการเปลี่ยนแปลง ที่มีแต่ความสุข

เลย 1 เดือนมา 2 วันแล้วสินะ...

ก่อนหน้านั้น ชีวิต มีแต่การปรับตัว มีแต่เรื่องเครียด เราจึงทนไม่ไหว แล้วต้องหาวิธีกำจัดมันไป ซึ่งอยากจะบอกว่า มันได้ผลดีมาก จริงๆๆ แค่เรามีสติ ปล่อยวาง และก็ค่อยๆๆหาวิธีจัดการกับปัญหา มันก็จะทำให้เราเข้าใจ และหายเครียดได้ ดีกว่าจมอยู่อย่างนั้น คิดกับปัญหาให้มันวนอยู่ในหัวอย่างนั้นคะ

สิ่งแรก ที่ทำให้เราคลายความเครียดไปได้กว่า 50 เปอร์เซ็น ก็มาจาก การที่เราตัดสินใจไปหาหมอหน้าอีกครั้ง และครั้งนี้ ยอมรับการรักษาโดยวิธีการกินยา ไม่งั้น หน้าเราก็จะยิ่งแย่ไปกว่านี้ และมันจะเป็นรอยแผลเป็นเอา ซึ่งหากพูดกันจริงๆ มันก็มีรอยแผลแล้วแหละ แล้วหน้าก็เหมือนจะไม่มีวันหายได้อีก (หน้าแย่มาประมาณ 7 เดือนคะ)

ผลลัพธ์ที่ได้ หลังจากหาหมอแล้ว หน้าดีขึ้น กล้ามองกระจก และก็รู้สึกดีกับตัวเอง รู้สึกเคารพตัวเอง และรักตัวเองเหมือนก่อน ไม่อายที่ใครจะมองหน้า เหมือนตอนก่อนหน้านี้ จริงๆ เราก็อยากเตือนเพื่อนๆที่มาอยู่ต่างประเทศแล้วหน้าแพ้หรืออะไรก็ตาม ควรหาหมอ เป็นทางที่ดีที่สุด และก็ ยอมกินยาเถอะคะ หากไม่ได้ร้ายแรงมากอะไร เพราะว่าไม่งั้น จะหมดทั้งเงิน เวลา และก็หน้าที่เสียไปเยอะ แล้วต้องมาแก้ตอนหลัง ซึ่งก็หมายถึง เงินที่ต้องเอามารักษาหน้าที่เสียไปเพราะว่าปล่อยให้มันเนิ่นนานอ่ะคะ




เรื่องที่สอง คือ เรื่องอ้วนคะ
เรื่องนี้ พอหน้าตาเราดีขึ้น ข้างในก็สดใส และจิตใจก็คงที่ และก็ทำให้การกินของเราไม่ผิดปกติเหมือนเมื่อก่อนคะ เด๋วนี้ กินแต่พออิ่ม ไม่ทำอาหารเยอะ แล้วเหลือไว้มื้อต่อไปคะ ทำเป็นมื้อๆ และก็ ทำแค่พออิ่มคะ ไม่เครียดแล้วกินเหมือนมะก่อน เลยไม่ทำให้เราอึดอัด ไม่กินจุกจิกด้วย

ผลลัพธ์ที่ได้ ก็น้ำหนักลดไปแค่ 2 กิโลเองนะคะ แต่รู้สึกเลยว่า หน้าท้องไม่แน่นตึง และก็ไม่อึดอัดเวลากินเสร็จ แล้วผลที่ได้ก็ต่อเนื่องมาถึงเรื่องที่ 3 คะ




เรื่องที่สาม เป็นเรื่องที่รู้สึกตัวเองไม่สวยคะ
เรื่องนี้ พอผ่านเรื่องที่ 1และ 2 มาได้ เราก็จะรู้สึก ว่าตัวเองสวยขึ้นคะ เป็นเพราะว่าจิตใจเราดีขึ้นนั้นเอง ไม่ไปกังวลกะเรื่องหน้า เรื่องอ้วน มันก็ทำให้ตัวเองรู้สึกสวยขึ้นคะ สิ่งที่ทำก็คือ ทำสีผมใหม่คะ เพื่อเป็นการเปลี่ยนแปลงตัวเองบ้าง และก็ซื้อเสื้อผ้า ในแบบที่สามารถใส่ได้นานๆ และก็มาประยุกต์กับเสื้อผ้าที่เรามีอยู่ได้ รองเท้า เสื้อผ้า ที่มีอยู่ เอามันออกมาใส่คะ หากมัวแต่เก็บมันก็จะกลายเป็นของเก่าไป ต้องใช้มันบ้างนะคะ อีกอย่างนะคะ ตัวเองเป็นคนไม่มีคิ้ว พอหน้าเป็นสิว ก็ปล่อยตัว ไม่แต่งอะไรทั้งนั้น แต่ปกติตอนอยู่เมืองไทยไม่แต่งหน้าอยู่แล้วคะ แต่ก็จะมีเขียนคิ้วกับดัดขนตาคะ แต่พออยู่นี้ปล่อยตัวเกินไปหน่อย ตอนนี้หันมาเขียนคิ้วแล้วคะ ดัดขนตาด้วย รู้สึกว่า ตัวเองดูดีขึ้นมานิดคะ อิอิ

ผลลัพธ์ที่ได้
รู้สึกสนุกทุกวัน ที่ได้ออกไปทำงานตอนเช้าคะ ได้เจอเพื่อน ได้เจอคน รู้สึกสนุกกับการแต่งตัวคะ ว่าพุ่งนี้จะใส่อะไรดีน่า รองเท้าแบบไหน แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสว่าฉันจะต้องแต่งแบบนางแบบนะคะ อิอิ เอาแบบที่เข้ากะตัวเราที่สุด แต่งอะไรก็แต่งไปนะคะ แต่ต้องแต่งให้เป็นตัวเราเองคะ แล้วความมั่นใจจะเกิดคะ อีกอย่างนะคะ หากเราแต่งตัวเข้ากับกาลเทศะ ไม่ปล่อยตัวเอง เราก็จะอารมณ์ดี และก็จะทำให้คนที่อยู่ใกล้ๆเรา อารมณ์ดีไปด้วยนะคะ




เรื่องที่ 4 เรื่องคิดว่าไม่มีเพื่อนอยู่ที่นี้เลย
นั้นก็เป็นเพาะว่าเราปิดตัวเองเกินไปคะ หลังจากลิสมาได้แล้ว เราก็ติดต่อเพื่อนคะ และก็ โทรไปคุย มีนัดเจอรุ่นน้องไปเดินซื้อของ ชวนเพื่อนที่ทำงานมาบ้าน ทำอาหารไทยให้เค้าทาน และก็มีไปบ้านเพื่อน ไปทานอาหารบ้านเค้า อย่างที่บอก หากเราสดชื่น จิดใจสดใส อะไรๆๆก็จะดีขึ้นทุกอย่างคะ





เรื่องที่ 5 คือเรื่องเก็บตังไม่อยู่คะ
หลังจากที่ทำตามที่ตัวเรากำหนดแล้ว ใช้ได้คะ ใช้แต่เงินสด และเราแบ่งเงินไว้เป็นอาทิดๆนะคะ จะได้รู้ว่า อาทิตย์นี้มีเงินใช้เท่าไหร่ หากไม่พอ ก็ต้องดูด้วยว่า มันจำเป็นหรือป่าว หากไม่จำเป็นก็ต้องตัด อิอิ ตอนนี้ ไม่เครียดเรื่องเงินแล้วคะ สบายใจดี จริงๆๆ ชีวิตหนึ่ง ที่เราเกิดมา มีเงินให้ผู้มีพระคุณทุกเดือน มีเงิน ให้น้อง และมีเงินใช้จ่าย ไม่มีหนี้ และก็มีเงินเก็บ แค่นี้ก็มีความสุขแล้วเนอะ ไม่เห็นจะต้องอะไรมากมายเลย คนรอบข้างเรา และตัวเรา มีความสุข แค่นั้นก็พอแล้ว




เรื่องที่ 6 เรื่อง ไม่ชอบเพื่อนที่ทำงาน
เรื่องนี้ กว่าจะทำได้ ก็ต้องเริ่มจาก ทิ้งอคติของเราที่ไม่ดีออกไป ยิ้มให้เค้า เหมือนที่เราเขียนไว้ มีน้ำใจกะเค้า จริงๆๆ เราไม่สามารถเปลี่ยนคนอื่นให้มาเป็นแบบที่เราคิดได้หรอก สิ่งที่เราสามารถทำได้ก็คือ การเปลี่ยนตัวเราเอง ซึ่งสิ่งที่ได้ ก็คือตัวเราเอง อิอิ และก็ดีคะ การยิ้มนี้ ชนะทุกอย่างจริงๆๆคะ คือจริงๆแล้วเราเป็นคนยิ้มเก่งคนหนึ่งเลยแหละ แต่มาอยู่เกาหลี คนไม่ค่อยยิ้มกันอ่ะ เราก็เลยไม่ค่อยกล้ายิ้ม กลัวเค้างงกัน อิอิ แต่เราก็ต้องเป็นตัวเราเนอะ ไม่ยิ้มมากๆๆ มันเก็บกด และอีกอย่าง เราพยายามพูดเกาหลีกะเค้าคะ ไม่เป็นไร คุณพูดอังกิดไม่ได้ เราก็จะไม่พูดอังกิดกะคุณ เราเรียนรู้ภาษาเกาหลีให้มากก่าเดิม ได้คุยกะคุณ และก็ ได้ฝึกภาษาไปด้วย สรุป ดีทั้งขึ้นทั้งล่อง อิอิ





และมีอีกเรื่องคะ ที่ก่อนหน้านี้เราก็เครียดเหมือนกัน นั้นคือเรื่องที่พักคะ ตอนเราอยู่เมืองไทย ห้องเราค่อยข้างใหญ่นะคะ แต่พอมาอยู่เกาหลี ห้องเล็กอ่ะคะ แถมยังแบ่งเป็นห้องเล็ก ห้องใหญ่อีกตั้งหาก แต่ที่นี้เรามีครัวด้วยนะคะ ตอนแรกอึดอัดมากๆๆ ต้องมาอยู่ห้องเล็กๆ แต่หลังจาก ตั้งมั่นกับการเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้ว สิ่งที่เราได้ทำไปก็คือ
เราได้จัดห้องใหม่คะ ย้ายเฟอร์นิเจอร์ เปลี่ยนมุมให้มันดีขึ้น เพื่อให้มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น ส่วนห้องครัวที่เคยเลอะเทอะ เราก็ใช้วิธี ติดกระดาษประมาณ วอลเปเปอร์อ่ะคะ ก็เลยได้ชุดครัวใหม่ อิอิ แม้ว่าสีมันจะสดไปหน่อย แต่ก็ดีคะ ทำให้เรายิ้มทุกครั้งที่เห็นครัวตัวเอง และที่สำคัญ ครัวนี้เราทำเองคะ อิอิ (ติดกระดาษ 2 คน กะจูนคะ) อิอิ ตอนนี้ ห้องกว้างขึ้น ไม่ทำให้เราเบื่อบ้านนี้แล้วคะ อีกอย่างมะก่อนโต๊ะเครื่องแป้งอยู่ห้องนอนเล็ก และเราก็ไม่ได้ใช้โต๊ะเครื่องแป้งมากนัก เพาะว่าพื้อที่มันเล็กอ่ะคะ มองกระจกก็ไม่ถนัด พอเราย้ายไปอีกห้อง รู้สึกว่า เราได้เห็นตัวเองชัดๆๆขึ้น ทำให้รู้สึกดีกะตัวเอง และก็ดีกับห้องด้วย




ตอนนี้ ชีวิตทุกวัน เป็นชีวิตที่มีความสุขจริงๆคะ ไม่เครียด ไม่เศร้า ไม่เหงาอีกแล้ว แต่ก็จะพยายามไม่ให้จิตตกอีก อย่างที่บอก การที่เราพยายามรู้จักตัวตนของเราให้ดี มันจะทำให้เราใช้ชีวิตอย่างมีความสุขคะ และก็การที่เราไม่เครียด ก็จะทำให้คนที่อยู่ใกล้ๆๆเรา รักเราขึ้นเยอะคะ

**จริงๆ อยากเอารูปตอนหน้าเยินๆมาให้ดูจัง แต่อายอ่ะ ส่วนรูปตอนนี้ ดูได้จากดิสเพลย์ด้านขวาบนเลยนะคะ**

Create Date : 17 กรกฎาคม 2551 Last Update : 17 กรกฎาคม 2551 17:06:21 น. Counter : 665 Pageviews.		6 comments
Share Tweet