หลายเรื่องเล่า กับณ มน คนหัวฟูแก้มป่อง ^_^
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2551
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
7 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
จ๊อดปูร์ เมืองแห่งความตายกลางทะเลทรายธาร์




มาเดินทางท่องเที่ยวอินเดียกันต่อนะคะ


จากเมืองอุทัยปุระหรืออุดัยปูร์ เราก็เดินทางไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้สู่เมืองจ๊อดปูร์ Jodhpur เมืองที่ได้ฉายาว่าเมืองแห่งความตายเพราะอยู่กลางทะเลทรายธาร์

สองข้างทางที่เดินทางผ่านนี่ร้อนและแห้งแล้งมากๆเลยค่ะ แม่น้ำนี่แทบไม่มีน้ำเหลือให้เห็น

เราเดินทางมาถึงจ๊อดปูร์ด้วยความระทึกเหมือนเคยเพราะแม่ทาทาคันเก่งเธอเกเรเครื่องดับไปถึงสามครั้ง แถมครั้งหนึ่งยังลุ้นสุดๆ



เมืองสีน้ำเงินจ๊อดปูร์ Jodhpur





ก็คุณเธอเล่นไปเครื่องดับกลาง3แยกอ่ะ โห ถนนที่เล็กอยู่แล้วพอมีรถมาจอดเสียอยู่ งานนี้เลยกลายเป็นจราจลย่อยๆไปเลย รถทุกคันนี่กดแตรกันดังสนั่น

ไม่ต้องบอกเลยว่าณ มนกับพี่เตี้ยจะลุ้นกันขนาดไหน แต่สุดท้ายก็ได้คนอินเดียใจดีกลุ่มหนึ่งมาช่วยกันเข็นรถให้ค่ะ แล้วพอมีคนมาจับบั้นท้ายเท่านั้นล่ะ แม่ทาทาก็สตาร์ทติดเฉยเลย แหมน่าหมั่นไส้จริงๆ




วังที่ตอนนี้กลายเป็นโรงแรมไปแล้ว




กว่าจะมาถึงเมืองจ๊อดปูร์ก็เย็นมากแล้ว เราก็รีบกันสุดๆ ปรากฏว่าพอมาถึง อูเมดพาวัน Umaid Bawan Palace เราก็จะเดินเข้าไปด้านใน จนท.เดินเข้ามาถามว่าจะไปไหน

พอบอกว่าจะไปพิพิธภัณฑ์ เขาก็ว่าปิดแล้ว เราเลยถามหาวังอูเมด ยามบอกก็นี่ไง ชี้มือไปที่ภาพบนนี่ล่ะค่ะ

อ้าว จากวังไหงกลายเป็นโรงแรมสำหรับคนรวยไปซะแล้วล่ะนี่




สีอาจจะแตกต่างกันสักหน่อยนะคะ เพราะอันหนึ่งเป็นการนำภาพไปสแกน อีกอันถ่ายจากกล้องดิจิตอลค่ะ


ตามประวัติ อูเมดพาวัน สร้างขึ้นในศตวรรษที่20นี่เอง ก่อสร้างขึ้นตามโครงการจ้างงานชาวบ้านที่ยากจน ตัวพระราชวังได้รับการออกแบบจากสองสถาปนิกเอช โอ แลงคาสเตอร์และเจอาร์ ลอร์ด สร้างด้วยหินทราย ปัจจุบันก็เป็นที่พำนักของเจ้าเมืองจ๊อดปูร์และเป็นโรงแรม

เมื่อเข้าพิพิธภัณฑ์ก็ไม่ได้ วังที่กลายเป็นโรงแรมก็ได้แค่ดูด้านหน้า เราเลยเดินทางไปที่พักดีกว่า
ระหว่างนี้ได้เห็นเมืองจ๊อดปูร์แบบชัดๆ เท่าที่เห็นจ๊อดปูร์เป็นเมืองที่ค่อนข้างมีฐานะกว่าเมืองที่ผ่านๆมาเพราะอาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่ในเขตNew Jodhpurมีแต่บ้านหลังงามๆ

นอกเหนือจากเขตนี้เขตอื่นๆก็ดูดีมีระเบียบคงเพราะวางผังเมืองมาดีแน่ๆ อาคารที่ทำการของราชการไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน มหาวิทยาลัยหรือที่ทำการของเมืองก็ดูใหญ่โตโอ่อ่า ที่กลางเมืองมีรูปปั้นของมหาราชา ราโอ จอดดาผู้สร้างเมือง ตั้งเด่นเป็นสง่ากลางสี่แยก






ภาพป้อมเมรานกาห์จากมุมสูง ที่ถ่ายมาจากโปสการ์ด






ราชออกอาการหลงทางอีกครั้ง ขับรถวนหาเกสต์เฮาส์หลายรอบก็ไม่เจอ สรุปคนไทยเลยต้องมาช่วยคนอินเดียมองหาที่พัก ตอนแรกๆที่ราชมีอาการหลงทาง ณ มนนี่ยอมรับเลยว่าหงุดหงิดมาก แต่พอหลายวันเข้าเลยชินซะแล้ว ช่วยเขามองหาเป็นการสำรวจบ้านเมืองเขาไปซะเลย ไม่เสียเที่ยว





ภาพป้อมมุมสูงข้างบนก็ถ่ายจากโปสการ์ดใบนี้ล่ะค่ะ





มองหาจนเจอจนได้หลังจากวนไปสองสามรอบ ที่พักวันนี้ดูสบายน่าพักเพราะเจ้าของเขาดัดแปลงบ้านตัวเองมาทำเกสต์เฮาส์ แถมเขายังเป็นเศรษฐีเก่าที่มีเชื้อสายเดียวกับเจ้ามองเสียด้วยสิ บ้านเลยใหญ่โตโอ่อ่า

ที่รู้ว่าเขาเป็นญาติกับเจ้าเมืองก็ตอนเห็นภาพแล้วได้คุยกับเจ้าของตอนเราทานข้าวมื้อเย็นค่ะ





นี่ก็เป็นคู่มือในการเข้าชมป้อมกับโปสการ์ด





คืนนั้นเราเรียกพนักงานในที่พักมาสอบถามถึงเมืองไจซาลเมอร์ว่าหากจะไปเที่ยวนี่จะไปที่ไหน เพราะเรามีข้อมูลที่นั่นน้อยมากเทียบกับจ๊อดปูร์ที่มีข้อมูลมากกว่า

แต่พนักงานเขาพูดอังกฤษไม่ได้ ได้แต่ส่งภาษาท่าทาง เดาได้ว่ารอให้เจ้าของกลับมาก่อน พอเจ้าของกลับมาเขาก็มาทักทายเราอย่างเป็นกันเองแถมให้ข้อมูลมาเพียบ

สอนเราด้วยว่า คำว่าป้อมในภาษาอินเดียนี่ เขาเรียกว่ากิลลาร์ แถมคืนนั้นยังมีบริการพิเศษด้วยการให้พนักงานหนุ่มหน้าคมเข้มพาเราสองคนขึ้นไปชมวิวเมืองจ๊อดปูร์ยามค่ำคืนบนดาดฟ้าด้วย สวยมากเลยล่ะ

ถึงจะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยแต่ก็ทำให้คนต่างบ้านต่างเมืองอย่างเราประทับใจอย่างไม่รู้ลืมเลยนะ

ปล.คืนนั้นท้องฟ้าจ๊อดปูร์ดาวสวยมากเลยค่ะ





ป้อมเมรานกาห์


รุ่งขึ้นเราออกจากที่พักแต่เช้าเพื่อจะไปชมป้อมเมรานกาห์ Mehrangarh Fort เช้านี้เรามาถึงก่อนใคร จนท.เขายังไม่เปิดขายบัตรก็เลยเดินมาชมรอบๆป้อมเพื่อถ่ายรูปเสียหน่อย

ได้เห็นภาพเมืองสีน้ำเงินชัดๆด้วย เท่าที่อ่านหนังสือและดูรายการผจญภัยไร้พรหมแดนของคุณติ๊ก เขาว่าที่เมืองเป็นสีนำเงินนี่มีสองเหตุผล

1 สีน้ำเงินหรือสีฟ้านี่เป็นสีของวรรณะพราหมณ์แล้วเมืองนี้ก็มีคนวรรณะนี้มาก บ้านเรือนเลยทาสีน้ำเงินทั้งเมือง

กับเหตุผลที่2ก็คือ เพราะความที่อยู่กลางทะเลทรายธาร์ที่ร้อนแล้ง การทาบ้านเรือนสีฟ้าหรือสีน้ำเงินจะทำให้ดูสบายตาและเย็นใจมากขึ้น




ภาพที่แสดงให้เห็นคำว่าเมืองสีน้ำเงิน ของจ๊อดปูร์



เมื่อถึงเวลาเข้าชมก็ไปซื้อตัว จากหนังสือคู่มือเขาว่าค่าเข้าชม50รูปี แต่วันนี้เขาคิดตั้ง250รูปีแน่ะ เห็นบอกว่ามีอุปกรณ์การเข้าชมเพิ่มขึ้นมา
ผู้รู้คุณค่าของเงินอย่างณ มนได้ยินอย่างนั้นเลยไปเมียงๆมองๆดูอุปกรณ์เสียหน่อย เมื่อเห็นว่าคุ้มเลยตัดสินใจควักกระเป๋าจ่ายไปค่ะ

อุปกรณ์จะเป็นเทปเล็กๆพร้อมหูฟังที่สามารถเลือกฟังข้อมูลได้ตั้ง7ภาษา มีภาษาฮินดี อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี่ เยอรมันและจีน(เสียดายจังไม่มีภาษาไทย) นอกจากนี้ยังแจกแผนที่แสดงจุดเที่ยวชมด้วยซึ่งมีทั้งหมด33จุด เหมาะมากสำหรับคนที่มาเที่ยวโดยที่ไม่มีข้อมูลหรือไม่มีไกด์







ความยิ่งใหญ่ของป้อมที่ต้องแหงนคอตั้งบ่าขึ้นมอง




ป้อมเมรานกาห์สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1459โดยมหาราชา ราโอ จอดดา (Rao Jodha) ทางขึ้นป้อมมีหลายประตูซึ่งแต่ละประตูก็จะมีประวัติความเป็นมาต่างกันไปเราจะทราบประวัติได้จากอุปกรณ์ที่เขาแจกนี่แหล่ะ อ้อ รู้มาที่นี่เป็นป้อมที่ยิ่งใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดในอินเดียด้วยรา





ตอนเดินเข้าป้อมเงยหน้าจะเห็นมุมนี้ค่ะ




ที่ข้างประตูทางเข้าจะเห็นรอยประทับฝ่ามือหลายรอย ซึ่งฝ่ามือเหล่านี้คือรอยฝ่ามือของหญิงสาวที่สามีพลีชีพในสนามรบ เมื่อสามีตายพวกเธอเหล่านั้นก็ต้องเข้าพิธีสตีเข้ากองไฟตายตามสามีไปด้วย




ฝ่ามือที่ว่านี่ล่ะค่ะ




เป็นประเพณีที่ชาวอินเดียปฏิบัติมานานจนกระทั่งอังกฤษได้สั่งยกเลิกไป ในยุคที่อังกฤษเข้ามาปกครองอินเดีย เพราะถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นร้ายแรง





เดินเข้าไปจะเห็นเป็นแบบนี้ค่ะ



ภายในป้อมเมรานกาห์มีวังหลายวังเลยทีเดียวเช่นพระราชวังไข่มุก พระราชวังดอกไม้เป็นต้น จุดแรกๆที่เดินเข้าชมเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเกี่ยวกับอาวุธยุทโธปกรณ์ เสลี่ยงคานหาม แปลของเด็กอ่อนที่ประดับประดาอย่างสวยงาม





วังต่างๆภายในป้อม




รวมทั้งมีภาพวาดของมหาราชาพระองค์ต่างๆอีกด้วยซึ่งต้องขอชมเชยอุปกรณ์ออดิโอของเขาจริงๆเพราะเสียงประกอบในเทปนั้นดูสมจริงสมจังมาก หากจุดไหนเป็นจุดที่จัดแสดงเกี่ยวกับเรื่องราวการรบ เขาก็จะมีเสียงแตร เสียงช้าง เสียงฟันดาบ เสียงต่อสู้ราวกับว่าเราได้ไปอยู่ในสนามรบๆจริงๆ






มหาราชาองค์ต่างๆ ภาพนี้ถ่ายผ่านกระจกค่ะเลยสะท้อนแบบนี้ล่ะ โทษทีนะคะ





ที่น่าชมเชยอีกอย่างก็คือเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ยืนเฝ้าตามจุดต่างๆในป้อมพวกเขาจะแต่งชุดเหมือนในสมัยก่อนเลย พอเราเดินไปชมก็เหมือนกับว่าเราได้ย้อนยุคไปอยู่ในสมัยของมหาราชาราโอ จอดดา เลยหล่ะ


เท่าที่สังเกตนะคะพระราชวังในป้อมเมรานกาห์มีขนาดค่อนข้างกว้างใหญ่ผิดกับพระราชวังในป้อมแอมเปอร์หรือในป้อมอักรา เพราะทั้งสองที่นั่นส่วนพระราชวังจะเล็กมากแต่จะเน้นที่ลานตรงกลางของวัง แต่ที่ป้อมเมรานกาห์แห่งนี้ลานระหว่างพระราชวังจะไม่กว้างนักแต่ห้องหับในพระราชวังจะกว้างขวางมาก








ความงามภายในตำหนักค่ะ ประดับกระจกสีสวยเชียว จำไม่ได้ว่าเป็นตำหนักที่ใช้พักผ่อนหรือตำหนักที่ใช้รับรองแขกบ้านแขกเมืองกันแน่ เพราะเข้าไปดูหลายห้อง




บางห้องก็จะมีสีออกโทนม่วง บางห้องก็จะออกสีทองดูสวยงามและแปลกตาดี ศิลปะการแกะสลักหินของที่นี่ก็สวยงามและละเอียดไม่แพ้ที่อื่น โดยเฉพาะตรงบานหน้าต่างและประตูจะสลักฉลุลายได้สวยงามปรานีตจริงๆ







จนท.ในป้อมเขาน่ารักจริงๆ ค่ะคอยแนะนำว่าเราควรไปดูห้องไหนบ้าง อย่าพลาดห้องไหน



อีกมุมงามๆในตำหนัก







อันนี้สแกนจากภาพถ่าย สีอาจจะแปลกๆไปหน่อยนะคะ




ณ มนกับพี่เตี้ยเดินเลยห้องหนึ่งไป เขารีบเชื้อเชิญให้เดินย้อนกลับมาดู เพราะกลัวว่านักท่องเที่ยวอย่างพวกเราจะพลาดสิ่งที่น่าสนใจ แล้วพอเราไปยืนถ่ายภาพมุมสูงของเมืองสีน้ำเงิน คุณเจ้าหน้าที่ก็อาสามาเป็นตากล้องให้อีกด้วย ก็เลยรู้สึกว่า250รูปีที่จ่ายเป็นค่าเข้าชมคุ้มมากๆสำหรับป้อมเมรานกาห์แห่งนี้





เมืองสีน้ำเงินมองจากบนระเบียงในป้อมเมรานกาห์




สรุปเราใช้เวลาอยู่ในป้อมนานมากเรียกว่าคุ้มสุดๆกับเงิน 250รูปี กว่ายอมออกจากป้อมก็เสียเวลาไปหลายชั่วโมง

เมื่อเดินออกมาแล้วกะจะไปถ่ายรุปที่มุมสวยของป้อมเสียหน่อยเป็นมุมที่จะเห็นเมืองสีน้ำเงินชัดๆ แต่ปรากฏว่าเขาถ่ายหนังกันอยู่เลยอดค่ะไม่ได้เห็น

ออกจากป้อมก็ว่าจะไปที่ยวที่ จัสวัน ธาดา(Jaswanta Thada)จากการสอบถามข้อมูลมาทราบว่าที่นี่เป็นหลุมฝังพระศพและอนุสาวรีย์ของมหาราชา จัสวัน ซิงห์ที่2 ที่สำคัญที่จัสวัน ธาดาใช้หินอ่อนจากแหล่งเดียวกับที่นำไปสร้างทัชมาฮาลด้วยนะ





จัสวันธาดา






แต่มองแล้วรู้สึกว่าไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจจึงไม่เข้าไปชม อีกอย่างเราต้องรีบเดินทางไปไจซาลเมอร์อีกด้วยจึงไม่ได้แวะเข้าไปชม

ที่ต้องเผื่อเวลาเอาไว้เยอะๆก็เพราะทั้งคนขับทั้งรถไว้ใจไม่ค่อยได้ รถก็เดี๋ยวดีเดี๋ยวเสีย คนขับก็หลงทางบ่อยๆ

ด้วยเหตุนี้เราจึงไม่เสี่ยงในเรื่องของเวลา ยิ่งกว่านั้นวันนี้ตั้งใจจะไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่ป้อมไจซาลเมอร์ ดังนั้นเราจึงต้องกำชับราชให้ไปถึงเมือง
ไจซาลเมอร์ก่อน4โมงเย็น


ในที่สุดจึงลาจากเมืองจ๊อดปูร์ที่ป้อมเมรานกาห์นี่ล่ะค่ะ
หันมามองป้อมอีกครั้งก็ได้เห็นวิวแบบนี้



ป้อมมองจากมุมไกล


เราเดินทางมุ่งตรงสู่เมืองทางทิศตะวันตกของแคว้นราชาสถาน เมืองสีทองหรือเมืองไจซาลเมอร์ หรือ ไชสัลแม ในสำเนียงคนอินเดีย

ตั้งใจว่าจะไปขี่อูฐด้วย ตอนหน้ามาตามอ่านกันต่อนะคะว่าเมืองสีทองจะสวยสู้เมืองสีน้ำเงินจ๊อดปูร์กับเมืองสีชมพู ชัยปูร์ได้ไหม


ปิดท้ายกันที่รูปเมืองสีทองนะคะ





ปล.ตอนนี้รูปก็มากเนื้อเรื่องก็เยอะ ยังไงอย่าเพิ่งเบื่ออ่านกันก่อนนะคะ เพราะณ มนอยากให้คุณได้รู้เรื่องอินเดียเหมือนได้ไปเที่ยวพร้อมๆกันน่ะค่ะ





Create Date : 07 สิงหาคม 2551
Last Update : 12 สิงหาคม 2551 14:09:39 น. 34 comments
Counter : 4400 Pageviews.

 
แง้ว สวยอ่ะพี่นะ...แล้ววันนี้พี่นะพาแม่เที่ยวไหนเอ่ย สุขสันต์วันแม่ค่ะ

ป.ล.หนูม่ะได้ตั้งกระทู้นะตัวเอง แต่เป็นพี่สาวรึเปล่าก็ไม่ยู้


โดย: หมูบินของพี่นะ (Bann_Andaman ) วันที่: 12 สิงหาคม 2551 เวลา:14:48:35 น.  

 

สุขสันต์วันแม่นะคะ
สร้าง Comment ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง..คลิ๊กที่นี่


สวัสดีค้าคุณ ณ มน มานั่งอ่านนั่งดูรูปด้วยคนค่ะ อ่านมาสะดุดตรงที่บอกว่า ถ้าสามีตายในสนามรบแล้วภรรยาก็ต้องตายตาม แต่ก่อนตายก็ต้องมาประทับฝ่ามือก่อน โห รักกันขนาดนี้เลยเหรอคะเนี่ย นับถือ ๆ

วันแม่พาแม่ไปเซอร์ไพร์สที่ไหนป่าวคะ? มีความสุขมากๆ น๊า


โดย: Malee30 วันที่: 12 สิงหาคม 2551 เวลา:17:06:52 น.  

 
ตามมาเที่ยวต่อคะ
ดูฝามือแล้วรู้สึกหยองๆนะคะ
สามีตายก็ต้องตายตามไปด้วย
เหอๆ อะไรกันนี่ รักกันน่าดูเลยนะคะ


โดย: นู๋แป๋ว (nupaew ) วันที่: 12 สิงหาคม 2551 เวลา:18:40:33 น.  

 
พี่นะ แวะมาเยี่ยมอีกแล้วค่า วันนี้พาเด็กเลี้ยงม้ามาเยี่ยมด้วยล่ะ





จำกันได้กา...รูปนี้หนูทำไม่ค่อยเนียนเลยอ่ะ


โดย: หมูบิน (Bann_Andaman ) วันที่: 13 สิงหาคม 2551 เวลา:14:46:16 น.  

 
หมูบิน...ขอบใจมากจ้าที่พาแฮมแฮม มาเยียมถึงบ้านทีเดียว

นู๋แป๋ว..จะว่าเป็นเพราะความรักก็ไม่เชิงหรอก มันเป็นประเพณีที่ผุ้หญิงในสมัยนั้นละเมิดไม่ได้น่ะจ้ะ พี่ว่าบางคนก็คงไม่อยากตายหรอกแต่ว่าขัดขืนไม่ได้

คุณฝน...ตอบเหมือนตอบนู่แป๋วเลยค่ะ คือรักก็ส่วนหนึ่งแต่ที่สำคัญคือเป็นประเพณีที่ผู้หญิงขัดขืนไม่ได้อ่ะค่ะ

ปล. วันแม่ แม่ไปอยู่กับยายค่ะ เลยไม่ได้พาไปไหนนอกจากโทรไปบอกรัก



โดย: ณ มน วันที่: 14 สิงหาคม 2551 เวลา:11:15:00 น.  

 
พี่หมีขอตามมาเที่ยวอินเดียด้วยอีกคน ยังไม่เคยไปเลยสักครั้ง

555+++สำหรับเรื่องลดน้ำหนัก พี่หมีว่าอยู่ที่ใจของน้อง ณ มน ค่ะว่าอยากลดหรือเปล่า ไม่ยากอย่างที่คิดนะคะ

ถ้าพกความตั้งใจมาเต็มร้อยเรื่องอื่นไม่ใช่ปัญหา


โดย: หมีสีชมพู วันที่: 14 สิงหาคม 2551 เวลา:12:27:06 น.  

 
Clip แข่งอูฐ เชคฮัมดัน

ยังไม่หมดนะพี่นะ บังเิอิญว่าวันนี้มีเพื่อนคนนึงเอาคลิปมาฝาก แต่ว่าเค้ามิใช่สมาชิก
หนูก็เลยทำลิงค์ให้ นี่ก็เลยเอามาเผื่อพี่นะด้วย เห็นคลิปแล้วนึกถึง
นิยายที่หนูเขียนเลย..แบบว่ามีแข่งอูฐด้วย เหอๆๆ


โดย: หมูบิน (Bann_Andaman ) วันที่: 14 สิงหาคม 2551 เวลา:12:54:37 น.  

 
อิจจจจจจจจจจจจจจจจจจฉา

คนได้ไปเที่ยวที่สวย ๆ อ่ะคับ


โดย: อืม...ครับ เชิญตามสบาย วันที่: 14 สิงหาคม 2551 เวลา:15:55:36 น.  

 
ไปด้วยคนค่ะ แบมอยากว่าแบมได้อ่านหนังสือคุณ ณ มนแ้ล้วนะคะ

หวานนัก รักนี้ สนุกค่ะ


โดย: yadegari วันที่: 15 สิงหาคม 2551 เวลา:6:18:09 น.  

 
คุณแบม...ขอบคุณนะคะที่มาตามเที่ยวด้วยกันแล้วก็ติดตามอ่านหนังสือของณ มนด้วย
ปล.พี่พีทน่ารักไหมคะ

โจ...โจอิจฉาณ มนที่ได้เที่ยว แต่ณ มนอิจฉาโจที่ถ่ายรุปสวยอ่ะ สรุปเราเสมอกัน

หมูบิน...เข้าไปดูมาแล้ว โห ทรงพระเท่จังเลยเนาะ แต่ละช็อตนี่สาวๆจะใจละลายกันได้ง่ายๆนะ

พี่หมี...ค่ะถ้าเราตั้งใจจริงเราทำได้แน่ แต่นะอ่ะท่าทีทีเหลวไม่ค่อยตั้งใจจริงสักที สุดท้ายเลยยังกลมๆอยู่นี่ล่ะค่ะ


โดย: ณ มน วันที่: 15 สิงหาคม 2551 เวลา:12:01:26 น.  

 
ภาพและคำบรรยายเยอะตามที่เจ้าบ้านบอกนะครับ อ่านมาจนคิดว่าจะอ่านข้ามๆแล้ว แต่พอดีอ่านจบพอดีครับ

เที่ยวโบราณสถานนั้นถ้าไม่รู้ประวัติอะไรเลย จะเที่ยวไม่สนุกครับเหมือนกับดูอะไรเก่าๆ อธิบายภาพพร้อมคำบรรยายแบบนี้ดีแล้วครับ เผื่อใครสนใจอ่านก็อ่านครับ ^^


โดย: ฮิโระ (ordinary_hero ) วันที่: 15 สิงหาคม 2551 เวลา:12:52:15 น.  

 


มีเพื่อนได้คลิปนี้แล้วร้าวรานอ่ะ พี่นะ


โดย: บินหลา (Bann_Andaman ) วันที่: 15 สิงหาคม 2551 เวลา:12:56:46 น.  

 
บรรยายซะ
ทำให้ผมอยากเปลี่ยนโปรแกรมการเดินทางกะทันหัน

ภาพสวย
เล่าเรื่องสนุกครับ


โดย: แสง สีรุ้ง วันที่: 15 สิงหาคม 2551 เวลา:14:41:24 น.  

 
ถึงไหนน้อออออออออออ คับ


โดย: อืม...ครับ เชิญตามสบาย วันที่: 15 สิงหาคม 2551 เวลา:16:06:13 น.  

 
ตามมาเที่ยวเมืองแขกต่อจ๊ะ

เดี๋ยวนี้พระราชวังกลายสภาพเป็นโรงแรมกันเกือบหมดแล้วมั้ง แต่ละแห่งสร้างได้งดงาม ประณีต มีรายละเอียดยิบเลย เห็นแล้วอยากตามรอยไปเที่ยวมั่งจัง


โดย: haiku วันที่: 15 สิงหาคม 2551 เวลา:16:25:16 น.  

 
แอร๊ยยย อยากไปมากกกกกกกกกก

คอยดูนะครับ สักวันหนูจะต้องไปอินตะระเดียให้ได้


โดย: waidhaya วันที่: 16 สิงหาคม 2551 เวลา:3:29:20 น.  

 
แค่ตามอ่านยังรู้สึกเหนื่อยเลยนะเนี่ย


โดย: 9A วันที่: 16 สิงหาคม 2551 เวลา:10:01:08 น.  

 
อ่านจบก็นั่งจินตนาการไปต่างๆ นานาค่ะ
กับป้อมปราสาท ประมาณว่า อ่านแล้วนึกถึง
นิยายเรื่องหนึ่ง ที่เค้าบอกว่าเอาสถานที่
จากลักษณะแบบนี้ละคะ มาเขียน ... พอมาอ่าน
บล็อกคุณ ณ มน เลยคิดว่า นี่ล่ะ เป็นฉากหนึ่ง
ที่เค้านำมาเขียนเลยล่ะค่ะ ... .


สวยจัง


โดย: JewNid วันที่: 16 สิงหาคม 2551 เวลา:21:07:10 น.  

 
อยากไป อินเดีย มากมากเลย


โดย: แมท (everything on ) วันที่: 16 สิงหาคม 2551 เวลา:21:08:55 น.  

 
เพื่อนของเพื่อนผม ไปเที่ยวอินเดีย กลับมาเขียนเล่าเป็นหนังสือขายดีโด่งดัง
....
ส่วนผม.....อยากกิน โรตีมะตะบะ


โดย: แร้ไฟ วันที่: 17 สิงหาคม 2551 เวลา:5:25:52 น.  

 
แร้ไฟ...ณ มนก็ไปมาแล้วกลับมาเขียนหนังสือเหมือนกันค่ะ แต่ว่ามันยังไม่โด่งดังสักที แหะแหะ

แมท...อินเดียน่าไปนะคะมีสถานที่น่าสนใจเยอะเลย

จิวนิด...ณ มนเองตอนเดินเที่ยวก็จินตนาการไปเรื่อยค่ะว่า เมื่อก่อนนี้คนที่อยู่ในนี้เขาจะใช้ชีวิตกันยังไงน้อ สนุกดีค่ะเที่ยวไปจินตนาการไป

โจ...หวา เฉลยแค่นี้ก็ไม่รู้อยู่ดีว่าไปถึงไหน

หมูบิน...ได้ดูแล้วว่าแต่ผู้หญิงในคลิปนี่เป็นน้องสาวท่านหรือ เวลาเขาไม่อยู่ในประเทศเนี่ย เขาก็แต่งตัวเหมือนหญิงสาวทั่วโลกเนอะ น่ารักดี
ปล.คลิปนี้ไม่ร้าวรานเท่าไหร่เพราะยังไม่รู้ว่าหญิงสาวแสนสวยท่านนี้เป็นใคร ถ้ารู้ล่ะก็ไม่แน่ แต่คลิปแรกนั่นพี่ลงไปนอนดิ้นเลยล่ะ

9A....โห อะไรคะแค่อ่านตามเหนื่อยแล้วเหรอ แบบนี้ต้องพาไปเที่ยวด้วยแล้วล่ะ จะได้ฝึกร่างกายให้แข็งแกร่ง


waidhaya...พี่สนับสนุนและเป็นกำลังใจอย่างมากเลย ไปให้ได้นะรับรองคุ้มจริงๆ

ไฮกุ...จริงๆแหละเนอะที่วังกลายเป็นโรงแรมซะมากเพราะว่ามันต้องใช้ค่าบำรุงรักษามากน่ะเอง
วังและสถานที่เที่ยวต่างๆในอินเดียสวยจริงๆนะอยากให้ไฮกุลองไปเที่ยวดูสักครั้งรับรองจะติดใจ

แสงสีรุ้ง...โห ดีใจจังค่ะที่ณ มนนำเที่ยวแล้วทำให้คุณเกิดอยากเปลี่ยนทริปว่าแต่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวไหนเอ่ย

ฮิโระ....โชคดีจังที่ฮิโระไม่เบื่อซะก่อน 555เพราะอ่านจบพอดี ณ มนจะพยายามเล่าแบบไม่ยืดยาวมากนะคะ แต่บางทีก็อดไม่ได้ที่อยากจะให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆในบลอกได้รับความรู้ของสถานที่ต่างๆที่ไปเที่ยวน่ะค่ะ


โดย: ณ มน วันที่: 18 สิงหาคม 2551 เวลา:11:06:46 น.  

 
ขอไปเที่ยวด้วยคนคร๊าบบบบบบบ



โดย: ตาอ้วนชวนคุย วันที่: 18 สิงหาคม 2551 เวลา:12:23:03 น.  

 

แวะมาทักทายกันในวันว่าง ที่หอบเอาความคิดถึงมาหา แบบไม่ได้มามือเปล่า แต่เอาดอกไม้มาฝาก จากอุ้ม
สร้าง Comment ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง..คลิ๊กที่นี่

อลังการงานสร้างจริงๆ เน๊าะ
ชอบๆ ขอบคุณที่นำภาพงามๆ มาฝาก
อยากไปเที่ยวจังเลยล่ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 18 สิงหาคม 2551 เวลา:14:52:02 น.  

 
พีนะ วันนี้หมูบินมีเรื่องจะกวนพี่นะล่ะ ครืองี้ค่ะ หมูบิน
แต่งนิยายออนไลน์ไว้ และได้ส่งฉบับรีไรต์ไปที่สนพ.แห่งหนึ่ง ซึ่งตอนนี้หนูบิน
ก็ยังลงฉบับรีไรต์ให้ชาวนิยายออนไลน์ได้อ่านกันอยู่ แต่ตอนนี้ มีอีกที่หนึ่ง
สนใจงานของหนู และบอกให้หนูติดต่อกลับ ง่า....หนูจะทำไงดีคะ
ที่แรกยังไม่ตอบหนูมาเลยว่าจะโอเคมั้ย แล้วหนูจะทำไงดีเนี่ย กลัวตอบรับทางนี้
แล้วมันจะผิดกฎเหล็กจังค่ะ อะคึ อะคึ


โดย: หมูบิน (Bann_Andaman ) วันที่: 18 สิงหาคม 2551 เวลา:16:14:21 น.  

 
จินตนาการสร้างอะไรได้หลายอย่างค่ะคุณ ณ มน
แบบว่าเราก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน เห็นอะไรโดนๆ หน่อย
ก็คิดไปอีกเรื่องได้เลย แบบนี้สงสัยว่า ต่อมจินตนาการ
ของเราจะโตมากเลยนะคะ เพราะว่าไม่ค่อยมีอะไร
เป็นขีดจำกัดเลยอ่ะคะ ^^



โดย: JewNid วันที่: 18 สิงหาคม 2551 เวลา:21:57:04 น.  

 
ตาอ้วน...ยินดีต้อนรับลูกทัวร์ค่า

จิวนิด...ใช่แล้วค่ะจินตนาการนี่สำคัญมาก เหมือนจิวนิดเลยค่ะเห็นอะไรนิดหน่อยก็มานึกต่อยืดยาว เหมือนที่มาของนิยายเรืองที่สองของณ มนค่ะ ต้นเหตุมันมีนิดเดียวแต่ณ มนเอามาเขียนได้เรื่องหนึ่งเลยนะคะ ^^

อุ้มสี...ที่อินเดียสถานที่แต่ละแห่งอลังการแบบนี้ล่ะค่ะ พอเราเดินไปเที่ยวรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นมดอ่ะค่ะ

หมูบิน...เมลมาคุยกันดีกว่า พี่ไปให้เมลแอดเดรสที่บลอกของหนูแล้วนะ


โดย: ณ มน วันที่: 19 สิงหาคม 2551 เวลา:12:05:57 น.  

 
สวยนะเนี่ย อยากไป เกือบจะได้ไปแล้วล่ะพี่นะ เพราะเดือนตุลาหนูจะไปภูฏานแล้วทัวร์มันจะแวะอินเดียด้วย แต่พอดีมีการเปลี่ยนแปลงกะทันหันเลยไม่แวะอินเดียแล้ว ไปภูฏานอย่างเดียว เค้าเลยอดอ่ะ แต่ก็จะเอารูปมาฝากเป็นตัวประกันนะ อิอิ

ป.ล. อะไร เค้าก็บรรยายภาพบ้างแล้วนะ แต่บางอันที่ไม่รู้ประวัติความเป็นมาหรือไม่รู้ว่ามันคืออะไร เค้าก็จะแกล้งข้ามไปซะเฉยๆ ฮา


โดย: เบบูญ่า วันที่: 19 สิงหาคม 2551 เวลา:12:42:32 น.  

 
สวย สวย สวย สวย สวย สวยย อะ
สวย สวย สวย สวย สวย สวยย อะ


น่าไปมั่กๆเลยง่ะ

แต่แองจีกลัว แขก เนี่ยดิ

ยิ่งดูรูป ก็ชักจะอยากอ่านนิยายเรื่องนั้นขึ้นมาอีกแระ

หนังสือชื่ออะไรแล้วนะคะ
ที่คนเขียนชื่อ ณ มน แล้วมีซีนในอินเดีย อะ

จี้จะเสิร์ชหาจริงๆละ

ตอบด้วยนะจ๊า


โดย: angy_11 วันที่: 19 สิงหาคม 2551 เวลา:13:08:35 น.  

 
ตามมาเที่ยวต่อค่ะ วิวงามเนอะ


โดย: rambujan วันที่: 19 สิงหาคม 2551 เวลา:19:51:34 น.  

 
rambujan....มาเที่ยวด้วยกันค่ะ รับรองจะประทับใจ

จี้...แขกไม่น่ากลัวหรอก เพราะเราจะน่ากลัวกว่าแขก เอ๊ย ไม่ใช่ เพราะถ้าเราป้องกันตัวเองดีและไม่คิดอะไรมากมายเราก็จะสนุกสนานกับการทอ่งเที่ยวอินเดียจ้า

ส่วนหนังสือของณ มนเดี๋ยวจะไปบอกที่บลอกจี้นะจ๊ะ

เบบูญ่า....โหยยยยย อิจฉาอ่ะได้ไปภูฏานด้วย งี้ต้องเอารูปมาเป็นตัวประกันเยอะๆนะ


โดย: ณ มน วันที่: 20 สิงหาคม 2551 เวลา:11:16:00 น.  

 
ฮ่าออิจฉาที่คนอื่นได้ไปภูฎาน งั้นมีอิจฉาทที่2 เพราะมีเพื่อนในก๊วนคนรักเชค
ไปเทียวตุรกีหม่ำอาหารอาหรับของแท้หละพี่นะ


โดย: บินหลา (Bann_Andaman ) วันที่: 20 สิงหาคม 2551 เวลา:15:48:31 น.  

 
ชอบรูปเมืองสีน้ำเงินจริงๆครับ คิดได้ไงเนอะ

เห็นแล้วอยากมีโอกาสไปสัมผัสความอลังการบ้างจังเลย

ในวันหนึ่ง

ปล. ผมได้รับการ์ดแล้วนะครับ พี่ ณ มน "การ์ดใบหนึ่ง"



โดย: Nutty Professor วันที่: 21 สิงหาคม 2551 เวลา:1:51:02 น.  

 
แวะมาค่อยๆพิศดูความงามของปราสาทในป้อมเมรานกาห์ ลวดลายสวยแล้วละเอียดมากเลยอ่ะ

งานศิลปะของคนโบราณ ไม่ว่าชาติไหนก็งดงามเนอะ


โดย: haiku วันที่: 21 สิงหาคม 2551 เวลา:12:01:26 น.  

 
ไฮกุ..ใช่แล้วค่ะเขาแกะสลักได้ละเอียดสวยงามมากเลย

บินหลา...โห อิจฉากำลังสองจริงๆล่ะ อยากไปตุรกีมั่งอ่ะ อยากหม่ำอาหารอาหรับ

โก้...คนรับดีใจ คนส่งให้ก็หน้าบานน่ะสิ


โดย: ณ มน วันที่: 22 สิงหาคม 2551 เวลา:10:56:37 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ณ มน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




ณ มน ชื่อนี้แปลว่า "ที่หัวใจ" ตอนแรกตั้งใจจะใช้เป็นเพียงนามปากกาที่ใช้เขียนหนังสือเท่านั้น

แต่สุดท้ายก็นำมาใช้เปิดบลอคจนได้ แหะแหะ

ณ มนเป็นคนธรรมดาๆ ชอบเดินทาง ชอบคุย ชอบเล่าชอบเมาท์ไปเรื่อย ถ้าไม่เบื่ออ่านเรื่องเล่าที่บางคราวก็เฮฮา บางคราก็ไร้สาระล่ะก็ แวะมาเยี่ยมเยือนกันได้ค่ะ ^_^


บอกเล่าเก้าสิบกันนิดนะคะว่า
บทความและข้อเขียนทุกชิ้นในบลอกนี้
ได้รับการคุ้มครองตาม พรบ. ลิขสิทธิ์ค่ะ
เข้ามาอ่านได้นะคะ แล้วก็แสดงความคิดเห็นได้ด้วย
แต่อย่าลอกกันนะคะ


***********


ผลงานของณ มนค่ะ























































ผู้เยี่ยมชม
Friends' blogs
[Add ณ มน's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.