Bloggang.com : leela_danat : ..@ day Story..THE MOVIE..

..@ day Story..THE MOVIE..

อะแฮ่ม

ห่างหายไปนานแสนนาน

กลับมมาอีกครั้ง

พร้อมกะข่าวคราวของคนรู้จัก

เมื่อวานนี้ เจ้าตัวบอกให้ไปอ่าน สยามรัฐ ออนไลน์

เพื่อตามข่าวการทำภาพยนต์เรื่อง a day story the movie

อ่านจบแล้ว ก้อรู้สึกดีๆไปด้วย

และอยากร่วมให้กำลังใจในสิ่งที่กำลังทำอยู่

วันนี้เลยยกข่าวที่ว่า มาบอกกล่าวต่อๆกันในที่แห่งนี้ด้วยนะคะ

พิเศษสำหรับแฟนคลับ a day ค่ะ ..

หาคนลงขันทำหนัง
a day story the movie
คู่มือเด็กดื้อฉบับภาพยนตร์

ไพฑูรย์ ยอดรัก คนหนุ่มท่าทางไฟแรง นักเขียนอิสระ เจ้าของผลงานเขียนเรื่อง “ผีสึนามิ” และเป็นผู้กำกับเทเลมูฟวี่เรื่อง “เรื่องเล่าสาวไซด์ไลน์” ได้มาเยี่ยม “บันเทิงสยามรัฐ” และบอกว่า มีโปรเจกต์สำคัญคือ กำลังจะทำหนังเรื่อง a day story the movie คู่มือเด็กดื้อฉบับภาพยนตร์ โดยมีที่ปรึกษาคือ คุณปรัชญา ปิ่นแก้ว โพรดิวเซอร์ ผู้กำกับคนดังแห่งค่ายบาแรมยู และ คุณโหน่ง - วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ ผู้ก่อตั้งนิตยสาร a day

ที่ น่าสนใจคือ เขาบอกว่า อยากจะทำหนัง ทั้งที่ยังไม่มีเงินทุน แต่ตั้งใจจะลงขันจากผู้คนที่สนใจ ฟังดู กล้า บ้า ดี ก็เลยอยากจะช่วยสนับสนุน ให้ช่วยตามฝันให้สำเร็จ เผื่อจะได้เป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆ ต่อไป ส่วนรายละเอียดเป็นอย่างไร ต้องฟังเจ้าตัวเขาคุยให้ฟัง

- คุณคือใคร

“ผม คือ ไพฑูรย์ ยอดรัก ผู้กำกับและนักเขียนอิสระ ซึ่งเคยมีผลงานออกมาหลายชิ้น แต่เอาหัวเป็นประกันเลยว่า แปดในสิบของคนที่อ่านอยู่ไม่เคยได้ยินชื่อนี้ (ฮา ฮา)ดังนั้น มันหมายความว่าผมเป็นเพียงคนเดินดินธรรมดาที่มีความฝันและอยากทำงานที่ตัว รัก”

- อะไรคือแรงบันดาลใจที่ทำให้คุณคิดทำหนังเรื่องนี้
“เพราะ นี่คือเรื่องราวของคนเล็กๆ ที่หอบหิ้วความฝันอันใหญ่โต ไม่ต่างอะไรไปจากผม และอีกหลายๆ คนในสังคมที่มีความฝัน เพียงแต่เรื่องราวนี้สามารถสร้างฝันให้เกิดขึ้นบนโลกของความจริงได้ โดยคนที่มีตัวตนอยู่จริงและคนเหล่านั้นยังมีชีวิตอยู่ มันเป็นสิ่งมหัศจรรย์ในการได้มองผู้ซึ่งทำให้ฝันของตัวเองเป็นจริง และปัจจุบันยังคงอยู่บนจุดยืนที่ดีและพร้อมจะให้โอกาสกับทุกคน”

- จุดประสงค์ของการทำหนังครั้งนี้คืออะไร
“เป็นสื่อเล็กๆ สื่อหนึ่งที่ต้องการนำเสนอเรื่องราวดีๆ แบบ Feel Better ที่ ครบรส เพื่อสร้างกำลังใจที่ดีสู่สังคม ถ้าหากมองหนังเป็นสื่อ เพราะด้วยสภาวการณ์ของสังคมในปัจจุบัน ทุกคนต่างต่อสู้ แต่การใช้ชีวิตอยู่มันก็ยากมากอยู่แล้ว แล้วการใช้ชีวิตพร้อมการเดินตามความฝันหล่ะ มันจะยิ่งยากขนาดไหน หนังเรื่องนี้จะบอกให้คุณรู้ว่าความยากนั้นมันไม่ได้อยู่ที่อุปสรรค แต่มันอยู่ที่ตัวของคุณต่างหากว่า มีใจที่จะสู้ขนาดไหน ถ้าเปรียบผมก็จะเปรียบ a day story the movie เป็น หนังเล็กๆ ที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคนทุกอาชีพ ให้ทำตามความฝัน และสร้างไฟที่เป็นแรงผลักดันที่จะทำฝันให้เป็นจริง หนังเล็กๆที่มากด้วยความสุขใจ อิ่มใจ กับความตั้งใจที่มุ่งมั่น และประสบความสำเร็จ หนังเล็กๆ ที่ตอกย้ำว่า โชคชะตาเป็นเพียงเศษเสี้ยว ที่ไม่ได้สำคัญไปกว่า ความมุ่งมั่น และความตั้งใจ ทำให้คนยึดมั่นและหวงแหนแรงบันดาลใจผู้ชมเบิกบานใจ สนุกสนาน เกิดพลัง และพร้อมที่จะลุกขึ้นมาหาวิธีจัดการกับความฝัน แล้วทำให้มันเป็นจริง”

- โปรเจคการร่วมลงขันทำหนังเกิดขึ้นมาได้อย่างไร

“ผม หาทุนไม่ได้ครับ เพราะหนังเรื่องนี้เป็นหนังเล็กๆ ที่เน้นการสร้างกำลังใจและแรงบันดาลใจ ดังนั้นมันอาจจะไม่ได้เข้าตากลุ่มทุนเท่าไหร่นัก แต่หลังจากที่ได้ปรึกษากับ พี่ปรัช- ปรัชญา ปิ่นแก้ว พี่ปรัชก็แนะนำว่าทำไมเราไม่เดินตามทางที่ a day เคย ทำมาด้วยการให้ผู้ชมร่วมกันลงขันซื้อหุ้น โปรเจคการร่วมลงขันถึงเกิดขึ้นมาได้ ผมคิดว่าขนาดพี่ปรัชยังแนะนำแบบนี้เลย แล้วผมในฐานะคนที่จะทำคงเลี่ยงไม่ได้ เพราะการร่วมทุนแบบนี้ก็ไม่ได้ต่างจากการเดินหาทุนจากค่ายหนังอยู่แล้ว แต่การร่วมลงขันชวนคนทั่วไปมาเป็นเจ้าของหนังเป็นอะไรที่แปลกใหม่ และ ลุ้นสุดๆ

- คุณคิดหวังว่าคนจะให้ความร่วมมือเหมือนเมื่อครั้ง a day magazine มากน้อยแค่ไหน
“ผมตั้งความคาดหวังไว้สูง เพราะผมคิดว่าทุกคนที่รู้จัก a day ต้องทราบถึงคุณค่าของการกำเนิดของนิตยสารเล่มนี้ รู้ซึ้งถึงความเป็นมาของ a day story ว่า นี่เป็นเรื่องที่สร้างแรงบันดาลใจได้มากมายขนาดไหน และย่อมไม่ปล่อยโอกาสที่จะสนับสนุนการเผยแพร่เรื่องราวที่ดีงามแบบนี้ให้ออก ไปสู่สังคมรูปแบบใหม่”

- คุณคิดว่าคนกลุ่มไหนที่จะสนใจการร่วมลงขันทำหนังในครั้งนี้

“ผมแบ่งผู้ร่วมลงขันออกเป็นสามกลุ่ม กลุ่มแรกที่สำคัญที่สุดก็คือผู้ที่ติดตามนิตยสาร a day เพราะนี่คือคนวงใน ผู้ซึ่งน่าจะทราบเรื่องราวต่างๆ ก่อนคนกลุ่มอื่น สองคือผู้ที่สนใจชมภาพยนตร์ทั่วไป และสามคนในวงการภาพยนตร์ไทย”

- คุณตั้งใจใช้การร่วมทุนลงขันทำหนัง เพียงเพื่อเป็นประเด็นในการโปรโมทหนังเรื่องนี้หรือเปล่า

“ไม่ ใช่ครับ แต่ผมคงปฏิเสธไม่ได้ว่านี่เป็นผลพลอยได้อย่างหนึ่งจากการร่วมลงทุนลงขัน เพราะการกระจายข่าวออกไปก็คือ การประชาสัมพันธ์อย่างหนึ่ง แต่ที่จริงยิ่งกว่าคือผมอยากได้คนมาร่วมลงขันนะครับ”

- อะไรคือจุดเด่นที่จะเป็นเสน่ห์ดึงดูดให้คนสนใจโปรเจคร่วมลงขันทำหนังในครั้งนี้
“การ หาทุนแบบลงขัน ก็เหมือนการเปิดโอกาสในการร่วมสนุกที่คาดหวังในผลตอบแทนได้ไม่มากก็น้อย ซึ่งการร่วมสนุกในครั้งนี้ เป็นการลงขันซื้อหุ้นเพื่อสร้างหนังที่มาจากเรื่องจริง ของคนกลุ่มเล็กๆ ที่ประสบความสำเร็จในการทำงานจากความมุ่งมั่นตั้งใจ อดทนรอคอย และทุกวันนี้คนเหล่านั้นยังคงสานต่อความฝันให้กับผู้อื่น หนังเล็กๆ ที่ปรุงแต่งเนื้อหาด้วยความคิดสร้างสรรค์ ความสนุกสนาน ง่ายต่อความเข้าใจ ซึ่งจะทำให้ผู้ชมอิ่มเอม และมีพลังที่จะดำเนินชีวิต และก้าวตามความฝันต่อไป เพราะทุกคนย่อมมีความฝันของตัวเองถึงแม้นี่จะไม่ใช่ความฝันของคุณ แต่การได้มีโอกาสสนับสนุนกลุ่มคนซึ่งสู้ที่จะเดินตามความฝันเป็นสิ่งที่ไม่ ต่างไปจากการสนับสนุนฝันของตัวเอง และผมก็เชื่อว่าไม่ใช่เรื่องง่ายนักในการที่จะมีคนเดินออกมาบอกคุณว่ามาเป็น เจ้าของหนังซักเรื่องเถอะ นี่เป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตเลยครับ สำหรับการเป็นเจ้าของหนังของทุกคน และที่สำคัญเป็นหนังที่ถ่ายทอดเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นจริงในสังคมไทย เรื่องราวทั้งหมดจะทำให้ผู้ชมอิ่มเอม เบิกบาน”

- นี่เป็นโปรเจคแรกของเมืองไทยหรือจะเรียกว่าของโลกได้มั้ยที่มีคนเสนอหาคนดูหนังร่วมลงทุนทำหนัง
“ผมว่าใช่นะ ในความคิดของผม คงยังไม่มีใครบ้าพอที่คิดจะทำ ที่ผมเริ่มเพราะผมชอบในส่วนที่เป็นที่มาที่ไปซึ่งสนุกมากๆ”

- ผลประโยชน์ที่ผู้ร่วมลงขันจะได้รับคืออะไร

“การ ลงหุ้นก็คือการลงทุน ดังนั้นสิ่งที่คุณจะได้อย่างแน่นอนเลยคือเงินปันผลจากกำไรที่หนังเรื่องนี้ ทำได้ตามเปอร์เซ็นต์ที่คุณลงทุน นอกจากนี้ก็ยังมีการได้มีโอกาสเข้าชมภาพยนตร์เรื่องนี้ในรอบพิเศษ Director’s cut และที่สำคัญที่สุดคือ คุณได้เป็นกำลังในการพลิกโฉมหน้าของวงการหนังไทย เพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ในการสร้างภาพยนตร์”

- เนื่องจากเรื่องราวในเรื่องนี้ตัวละครมีตัวตนจริงๆ อยู่ในสังคม คุณตั้งใจใช้ตัวตนจริงของตัวละครมาแสดงหรือไม่
“คง ใช้ในบางตัวละครโดยเน้นเฉพาะตัวละครที่จะพาให้หนังได้รับความน่าสนใจ แบบที่คนทั่วไปเห็นแล้วอยากดูหนังเรื่องนี้อะไรประมาณนั้น แต่สำหรับในตัวละครหลักผมคงไม่สามารถใช้ตัวตนจริงมาแสดงได้ เพราะนี่คือการสร้างภาพยนตร์ที่มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริง ไม่ใช่การทำอัตชีวประวัติของใคร อีกอย่างหนึ่งนี่เป็นเพียงหนังเล็กๆ การที่ผมจะไปร้องขอให้คุณโหน่ง (วงศ์ทนง) มาแสดงคงจะมากเกินไปหน่อย แล้วไม่เฉพาะคุณโหน่งเท่านั้นหรอกนะ แต่เป็นทุกคนเลย เพราะผมคิดว่า กลุ่มคนที่มีส่วนร่วมกับ a dayเมื่อสิบปีที่แล้ววันนี้ต่างมีภาระหน้าที่ส่วนตัวอยู่ แต่จะมาแจมก็ไม่น่าพลาด”

- นักแสดงนำของเรื่องคือใคร

“หนัง เรื่องนี้ยังอยู่ในช่วงการรวมทุนอยู่เลยครับ คงยังไม่สามารถพูดถึงนักแสดงนำได้ แต่ถ้าถามว่าผมมีใครอยู่ในใจก็คงต้องตอบว่าไม่มี และถ้าเป็นไปได้ใครที่คิดว่ามีรูปร่างลักษณ์คล้าย คุณโหน่ง คุณปิงปอง ก็สามารถติดต่อเข้ามา Cast ได้เลยผมยินดีเปิดรับครับ”

- ผู้ร่วมลงขันทำหนังมีสิทธิแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหนัง หรือเสนอความคิดเห็นได้มากน้อยแค่ไหน
“อัน นี้ผมคงต้องขอให้ทุกคนไว้ใจในความตั้งใจของผม ซึ่งผมสามารถยืนยันได้ว่าผมจะตีความ และทำหนังเรื่องนี้ออกมาอย่างสุดความสามารถ ไม่ให้ผู้ร่วมลงขันต้องผิดหวัง เพราะโดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าผมเป็นคนที่มีความเป็น commercial art อยู่เต็มตัว”

- 10,000 หุ้นกับเงิน 10 ล้านบาท คุณคิดว่าพอทำหนังแน่ใช่มั้ย
“พอครับเพราะผมตั้งใจจะใช้ความคิดสร้างสรรค์ให้เยอะกว่าใช้เงินครับ”

- คุณคาดการณ์ว่าหนังเรื่องนี้จะเริ่มต้นถ่ายทำเมื่อไหร่ และเสร็จสิ้นเมื่อไหร่
“หลัง จากเสร็จสิ้นการรวมหุ้นลงขันในปลายปีนี้ ต้นปีหน้าก็คงเริ่มดำเนินการและจะแล้วเสร็จภายในหกเดือนหลังเริ่มถ่ายทำ เหมือนจะนานนะครับสำหรับการทำงานในปัจจุบัน แต่อย่าลืมว่าตัวผมเองต้องใส่ใจ ให้ความละเอียดกับเม็ดเงินที่ต้องใช้จ่ายเพราะได้รับความไว้วางใจมาแล้ว พูดง่ายๆ คืออะไรประหยัดได้ก็จะประหยัด แต่สิ่งที่ทดแทนต้องคงคุณภาพการตอบสนองไม่ต่างจากเดิมครับ”

- ถ้ามีคนร่วมลงขันไม่ถึง 10,000 หุ้น หนังเรื่องนี้จะเกิดหรือไม่
“เกิด ครับ หากการร่วมลงขันไม่ได้รับความสนใจจนถึงจุดที่ผมตั้งหวังไว้ผมเองก็ต้องเดิน หน้าหาวิถีทางอื่นในการจัดการกับความฝันต่อไป เพียงแต่นี่เป็นเส้นทางที่ผมเลือกจะทำก่อนเนื่องจากสิ่งนี้เป็นหัวใจของหนัง คือการเดินตามฝันอย่างสุดแรงเกิด”

- ในฐานะผู้กำกับและเจ้าของโปรเจค คุณคิดว่าหนังเรื่องนี้จะให้อะไรกับคนดูบ้าง
“ก่อน อื่นผมไม่อยากให้เรียกผมเป็นเจ้าของโครงการ ผมเป็นเพียงผู้กำกับ ส่วนเจ้าของโครงการคือ คุณที่ร่วมลงขันทุกคน สิ่งที่หนังเรื่องนี้จะให้กับคนดูและสังคมคือพลังในการก้าวเดินไปตามความฝัน โดยไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคทั้งหลายที่ประดังเข้ามา คือการได้ชื่นชมกับสื่อที่ดีงามอันจะช่วยทำให้คุณมีกำลังใจมากขึ้นในการ ดำเนินชีวิต ความสนุกสนานที่เต็มไปด้วยสาระ ร่วมถึงรูปแบบการจัดการกับความฝันที่มีอยู่มากมายบนโลกใบนี้ และวิถีใหม่ของการหาทุนทำหนัง”

- คุณคาดหวังในความสำเร็จของโปรเจคนี้ไว้มากน้อยแค่ไหน
“ผม คาดหวังไว้สูงครับ ทั้งในด้านความรู้สึกและในแง่ของธุรกิจ หนังเรื่องนี้จะยกระดับความรู้สึกของคนในสังคมในทุกๆ ด้าน ยกคุณขึ้นจากความท้อแท้และปัญหาที่รุมเร้าชีวิต ให้คุณมองเห็นความหวังได้ แม้แต่ในหนทางที่มืดมิดที่สุด นี่คือสิ่งหลักที่ผมมุ่งหวัง แต่ด้วยการทำภาพยนตร์เป็นธุรกิจ การคาดหวังในผลกำไรก็คงต้องมีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ซึ่งผมก็มองว่าหนัง เรื่องนี้สามารถทำกำไรได้ โดยการมองนี้ไม่ได้มาจากตัวผมเพียงคนเดียว แต่มาจากการประเมินของผู้ใหญ่หลายคนในวงการภาพยนตร์ว่า a day storythe movie นี้สามารถประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจได้โดยไม่ยากหากใส่ใจที่จะนำเสนอ”

- คุณได้อะไรจากการทำหนังเรื่องนี้

“ผมได้ทำงานที่ผมรัก บวกกำไรอีกนิดหน่อยสำหรับผู้ร่วมลงขันทุกท่านครับ”

ที่เหลือก็อยู่ที่คุณๆ แล้วล่ะครับว่า สนใจจะ “ร่วมสนุก” กับ “ฝัน” ของเขาหรือไม่

ขอบคุณข้อมูลจาก

//www.siamrath.co.th/UIFont/NewsDetail.aspx?cid=91&nid=44732 ค่ะ

และอ่านเรื่องราวเพิ่มเติมได้ที่

//adaymovie.exteen.com/

Create Date : 22 สิงหาคม 2552

Last Update : 22 สิงหาคม 2552 11:45:28 น.

2 comments

Counter : 4123 Pageviews.

อ่ะ

มาอีกที
ช่วยกันทำมาหากิน อิอิ

โดย: อันซ่าส์ IP: 124.121.11.121 วันที่: 22 สิงหาคม 2552 เวลา:19:55:56 น.

มาเยี่ยมเจ้าของบล๊อค..
ว่าแต่..ลงทุนซักหุ้นดีไหม..
เค้าขายอ๊ะป่าว 1 หุ้นอ่ะ..

แล้วต้องไปหาซื้อที่ไหน..อ่ะ

โดย: แม่น้องเอ็มเค IP: 125.27.68.148 วันที่: 26 สิงหาคม 2552 เวลา:14:12:35 น.