
 |
|
 |
 |
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | |
|
|
|
|
 |
 |
|
|
+++ประสบการณ์ระทึกขวัญในสนามบิน LHR Part5(Final)+++
ก่อนที่ผมจะไปเตนท์ถัดไปผมได้พบกับคนไทยอีก 1 คน
เข้าใจว่าเธอไปทำงานเป็นแม่บ้านที่สเปน
ซึ่งการที่เธอมาอยู่ที่นี่ก็เพราะเธอเจอเหตุการณ์คล้ายๆ ผม
ใช่ครับเธอเปลี่ยนเครื่องไม่ทันตั้งแต่วันที่ 2 July เช่นกัน
และเธอก็ได้โรงแรมฟรีในคืนแรกเช่นกัน
แต่สิ่งที่เธอต่างจากผมก็คือ เธอไม่มีตั๋วรถบัสกับจากโรงแรมมาสนามบินฟรี
และที่มีเงินติดต่อเพียงแค่ 160 บาท
ผมไม่ได้พิมพ์ผิดนะครับแค่ 160 บาท ไม่ใช่ 160 ปอนด์
เพราะเธอส่งเงินของเธอทั้งหมดมาให้น้องเธอตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว
ตอนที่เธอขึ้นรถบัสเพื่อกลับจากโรงแรมมาที่สนามบิน เธอไม่มีเงิน 4 ปอนด์จ่ายค่ารถบัสด้วยซ้ำ
แต่โชคดีที่เธอได้รับความช่วยเหลือจากคนออสเตเรียที่ออกเงินค่ารถให้เธอฟรีๆ ไม่งั้นเธอคงกลับมาสนามบินไม่ได้
และผมว่าภาษาอังกฤษเธอก็ไม่แข็งแรงพอจะต่อรองขอให้ BA ช่วยเธอด้วย
เมื่อผมออกมานอกเตนท์แรกตอนประมาณ 9 โมงกว่าๆ
ผมก็พบกับความประหลาดใจเรื่องหนึ่งคือ
คนที่ดูแลความเรียบร้อยในขณะนี้ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
แต่เป็นตำรวจถือปืนกลมือขนาดเล็ก!!!!
และถือในสภาพพร้อมยิงทุกเมือด้วย!!!!
ตกลงสถานะของพวกผมเป็นพวกผู้หลบหนีข้ามเมืองจริงๆ แล้วใช่มั๊ยเนีย O_o
ใครที่กำลังสงสัยว่าทำไมผมไม่เอารูปตำรวจถือปืนกลมาให้ดู
ผมก็คงต้องขออนุญาตออกตัวบอกไว้ก่อนว่า
รูปทั้งหมดที่ผมถ่ายผมอาศัยความไวในการรีบถ่ายรีบเก็บโดยไม่ใช้แฟลช
เพราะเจ้าหน้าที่ของทางสนามบินจะเข้ามาว่าทันทีที่เห็นคนถือกล้องตั้งท่าจะถ่ายรูป
เพราะเค้าไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปในบริเวณสนามบิน
ห้ามถ่ายมะเหงกอะดิ ตรูถ่ายเอาๆ ตั้งแต่ตอนตรูมาถึงรอบแรกแล้ว
ถ่ายให้ยาม ให้ Staff ให้ตำรวจเห็นยังเคยเลย ในสถานการณ์ที่ไม่ใช่แบบนี้น่ะ
งึ่มๆ ไอ้ Staff บ้า แง่งๆๆๆ
ที่เซ็งไม่ใช่เพราะอะไรนะ
อยากถ่ายรูปปืนกลกระบอกนั้นมากเลย เพราะเข้าใจว่าเป็นรุ่นใหม่มาก
แถม Design ก็โฉบเฉี่ยว เท่ห์สุดๆ \(^0^)/
กลับมาเข้าเรื่องต่อดีฝ่า
หลังจากผมออกมาจากเตนท์ผมก็เริ่มสงสัยว่าทำไมแถวมันชะงักมาพักใหญ่แล้ว
ซึ่งสาเหตุก็มาจากคนที่ยืนรอตรง Car Park เดินมาโวยเจ้าหน้าที่จัดคิวของสนามบิน
เรื่องที่เค้าทำตามที่เจ้าหน้าที่บอกทุกอย่าง ออกไปต่อแถวทนยืนอากาศหนาวๆ ตั้งแต่ตี 4
ทำไมพวกเค้าถึงได้เข้าเตนท์ถัดไปหลังพวกผมที่ยืนอุ่นสบายในเตนท์
ไอ้ฝั่งทางเตนท์ผมมันก็ไม่ยอม มันก็เถียงกลับอะดิ
เถียงกันไปเถียงกันมาอยู่พักใหญ่ทีเดียว
เลยไม่มีใครได้ไปซักคน
อยู่นักธุรกิจใหญ่ผิวหมึกชาวมะกันที่อยู่ข้างหลังผม ก็พูดขึ่นมาว่า
"ไม่มีแผนก็ไม่บอก ถ้ามาบอกเค้า เค้าทำให้ฟรีก็ได้"
แล้วเค้าก็เริ่มเล่าแผนรับมือปัญหานี้แนวทางของเค้าให้ Staff ฟัง
ซึ่งจากที่ผมฟังแผนของเค้าผมเชื่อว่าคน 25,000 คน จะสามารถได้ตั๋วกลับภายใน 3 ชมอย่างแน่นอน
และน่าจะจบปัญหาไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วด้วย
ซึ่งเค้าก็บอก Staff ต่อว่า ตกลงวันนี้มีเครื่องบินกลับ Pheonix หรือว่างบ้่างรึเปล่า
ถ้าไม่มีก็ให้บอกมาเลย เค้าจะได้ออกจากแถวไปหาโรงแรมนอน
ไม่ใช่บอกว่าให้รอมาจองตั๋วตอนตี 5
หรือบอกว่า I don't know
เพราะเค้าไม่ต้องการจะอึในสนามบินอีกแล้ว!!!
หลังจากการทุ่มเถียงที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เริ่มเปลี่ยนจากใช้เหตุผลมาเป็นอารมณ์
เจ้าหน้าที่ก็ตัดสินใจใช่ปืนกลยิงกราด เอ๊ยยไม่ใช่ ตัดสินใจแก้สถานการณ์ก่อนจะแย่กว่านี้
ด้วยการให้ 2 แถว สลับกันเข้าเตนท์ถัดไปแทน
โดยระหว่างนั้นคุณแม่บ้านชาวไทยที่ผมเจอแกก็รีบแซงท้ิงในผมไป 4 ช่วงคิวด้วยความปานลมกรด
ทิ้งให้ผมยืนอึ้งอยู่อีกนาน
ในอีกครึ่งชมต่อมาในที่สุดผมก็ได้เข้าเตนท์ที่ 2
หวังว่าคงจะไม่มีเตนท์ที่ 3 รออีกนะ
หลังจากสถานการณ์ความไม่สงบเมื่อครู่ครี่คลายไป เหล่าตำรวจก็เริ่มบางตาขึ้นแล้วเช่นกัน
เข้าใจว่าอาจเป็นเพราะเป็นเวลาปรกติที่ผู้โดยสารเริ่มเข้ามาในสนามบินแล้ว
เลยไม่จำเป็นต้องมีตำรวจรักษาการณ์
ตอนที่ผมเข้ามาในเตนท์นี้ขาผมเริ่มจะแข็งเป็นหินแล้ว
เพราะผมยืนต่อเนื่องมาเกือบ 6 ชม
ผมเหลือบไปเห็นคนยายชาวเยอรมันคนนึงกำลังทำท่าแปลกๆ ด้วยการยืนตรงแล้วงอเข่า 2 ข้างสลับกันไปมา
ผมก็เลยถามเค้าว่าผมทำบ้างได้รึเปล่าซึ่งมันก็ช่วยให้ดีขึ้นในระดับนึงนะ
ผมก็เลยยกนิ้วโป้งให้แกแล้วบอกว่า โอ้พระเจ้าจอร์จ มันยอดมาก (^0^)b
พอผมหันกลับไปทางเดิมผมเห็นคู่สามีภรรยาชาวเยอรมันที่อยู่ข้างหน้าก็เริ่มทำตามผม
และก็เริ่มมีคนในเตนท์นี้อีกไม่ต่ำกว่า 30 คนทำตาม
มันช่วงเรียกรอยยิ้่มเล็กๆ ของผมคืนมาหลังจากผมแทบไม่ได้ยิ้มเลยตั้งแต่กลับมาที่สนามบิน
(ไม่นับรวมยิ้มสตอเบอรี่เวลาคุยกับเจ้าหน้าที่นะ จุ๊ๆ อย่าไปบอกใครเค้านะผมอาย :$)
อีกครู่ใหญ่ต่อมาผมก็ได้ออกไปนอกเตนท์นี้
และก็ได้เจอกับเจ้าหน้าที่กำลังเถียงกันเอง เรื่องการให้บริการ
เพราะมีผู้โดยสารว่าทำไมถึงไปให้่บริการคนที่ไม่ได้เข้าคิว
พวกเราต่อแถวมาตั้งแต่ตี 4 อยู่ๆ มีคนเดินดุ่มมาจากนอกเตนท์มาให้่เจ้าหน้าที่จองตั๋วให้ เจ้าหน้าที่ก็ทำให้ก่อน
เจ้าหน้าที่ก็ตอบว่าเค้าไม่รู้
เค้าได้รับคำสั่งให้มา Re-Ticket เท่านั้น ไม่ได้รับแจ้งให้ต้องดูแลคนตามคิว
เดี๋ยวปั๊ดเหนี่ยวเลย เรื่องแค่นี้คิดเองไม่ได้เหรอฟะ แง่งๆๆๆๆๆๆๆ
ในที่สุดผมก็ได้่คุยกับเจ้าหน้าที่ Re-Ticket
ซึ่งผมใช้ความสามารถพิเศษส่วนตัวขอตั๋วบินกลับในวันเย็นวันที่ 4 ได้
แถมได้บินเป็น Business Class ซะด้วย
เย้ๆๆๆ ID4 จงเจริญ
นาฬิกาผมบอกเวลาว่าขณะนี้เป็นเวลาเที่ยงตรงพอดี
ผมชักเริ่มเข้าใจแล้วสิ ว่าเวลาที่อาจารย์ประถมยืนสอนหนังสือทั้งวันมันเหนื่อยยังไง
หลังจากผมได้ตั๋วผมก็รีบวิ่งกลับเข้าไปใน Terminal เพื่อเอา Code ของผมไปออก Boarding Pass ด้วยตู้ออกตั๋วอัตโนมัติ
โดยไม่ลืมที่จะโทรไปแจ้งให้คุณแฟนทราบ และฝากคุณแฟนให้ช่วยโทรบอกที่บ้านให้ด้วย
จากนั้นผมก็ไปหากาแฟกับพานินี่กินที่ร้านสตาร์บัคเพืิ้่อฉลองชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่
นั่งแช่อยู่เกือบถึง 2 ทุ่มก่อนจะนึกเรื่องสำคัญที่แสนยิ่งใหญ่เรื่องหนึ่งขึ้นมาได้
ตรูบิน Business Class นี่หว่าทำไมตรูไม่ไปนั่งในเลาจ์ฟะ O_o
ว่าแล้วก็เข้าไปยลซะหน่อยซิ เด็กบ้านนอกจนๆ อย่างเร็วจะมีโอกาสครั้งเดียวในชีวิตก็ครั้งนี้แหละ
ต้องเอ้าให้คุ่้ม (ฮา)
ด้วยความบ้านนอกของผม ผมเดินไปถามพนักงานต้อนรับด้วยว่าผมต้องจ่ายตังค่ากินมั๊ยครับ
พนักงานสาวสวยก็ยิ้มให้ผมปนขำ พร้อมบอกว่ากินและดื่มได้เท่าที่คุณต้องการเลยค่ะ
ถ้าคุณอยากกินข้าวเชิญชั้นบน แต่ถ้าอยากดื่มอย่างเดียวเชิญชั้นล่างค่ะ
ด้วยความงกของผม ผมก็เลือกเดินไปชั้นบนก่อนเลย (ฮา)
หลังจากกินจนอิ่มแปล้ผมก็เหลือบไปเห็นห้องอาบน้ำ ชักอยากอาบน้ำซะแล้วสิ
เพราะขนาดตัวเองยังเหม็นกลิ่นตัวเองเลย
ระหว่างกำลัง 2 จิต 2 ใจก็เหลือบไปดูนาฬิกา
จิํบอ๋ายแล้วจะ 3 ทุ่มครึ่งแล้วนี่หว่า เครื่องออก 4 ทุ่ม นี่ Gate จะปิดแล้วใช่มั๊ยเนี่ย
ผมเลยรีบลากกระเป๋าวิ่งไปที่ Gate 8 แล้วเริ่มโล่งใจเพราะคิวยังอีกยาว
จากนั้นผมก็เกิดไอเดียอยากทดลองอะไรแปลกๆ เลยเดินไปหาพนักงานที่ไม่ได้ให้บริการอยู่
พร้อมทั้งยื่น Boarding Pass ให้เค้าดู
"ใช้ Fast track ได้รึเปล่าครับ"
พนักงานก็ยิ่มให้แล้วตอบว่าแน่นอนค่ะ
จากนั้นก็จัดการให้ผมลากกระเป๋าเดินฉุยฉายเข้าไปได้เลย
Business Class จงเจริญ \(^0^)/
หลังจากขึ้นเครื่องก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรพิเศษมากครับ
ผมดิ่มแชมเปญฉลองชัยให้ตัวเองไป 3 แก้ว
แล้วก็เผลอหลับไป 9 ชั่วโมง โดยไม่ได้ปรับเก้าอี้เป็นเตียงนอนยาว
พอตื่นขึ้นมาก็ช่วงอาหารเช้าก่อนเครื่องจะลงจอดพอดี
พอมาถึงสุวรรณภูมิปุ๊บผมก็รีบวิ่งไปหาพนักงาน AOT ทันที
พร้อมเอา Baggage ID ของผมให้พนักงานดู แล้วถามว่า
"กระเป๋าผมหายใช่มั๊ยครับ"
พนักงานคนไทยก็หันมาผมอย่างงงๆ แล้วเช็คให้ผม พร้อมทั้งบอกว่า
"ใช่ค่ะกระเป๋าของคุณไม่ได้เดินทางมาด้วย"
ผมก็เลยขอแบบฟอร์มแล้วกรอกอย่างชำนาญ
เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเจอสถานการณ์นี้ (ฮา)
เมื่อผมกรอกเอกสารเสร็จผมก็เดินออกจากประตูไปก่อนที่กระเป๋าไปแรกจะลงมาในสายพาน
เมื่อเห้นว่าคุณแม่กับน้องชายเป้นผู้มารอรับผมก็ดีใจมากๆ
เพราะแวบหนึ่งผมเคยแอบ เสียกำลังใจ เพราะไม่มั่นใจว่าจะได้่กลับมาหาพวกเค้าอีกรึเปล่า
เป็นเที่ยวบินที่ทรานสิทนานที่สุดในชีวิตผมเลยครับ เพราะรวมแล้ว 48 ชม พอดี
ส่วนกระเป๋าผมก็เพิ่งจะมาถึงตอนตี 1 ที่ผ่านมา
เพราะจริงๆ แล้วที่ตั้งกระทู้นี้ก็เพราะได้รับแจ้งว่าเจอกระเป๋าแล้ว
บังอาจโทรศํพท์มาปลุกเรา จนทำให้เรานอนไม่หลับ ต้องลองดูหน่อยซิว่าเราจะพิมพ์จบก่อนหรือกระเป๋าจะมาก่อน
ปรากฏว่ากระเป๋ามาก่อนตั้งหลายชั่วโมงแฮะ (ฮา)
เช่นเคยครับ เหตุการณ์นี้ผมไม่โทษ BA เพราะ BA ก็ยังคงเป็นสายการบินที่ดีที่สุดสายการบินหนึ่งในชีวิตผม
แถมยังเป็นสายการบินแรกที่ผมได้บิน Business Class ซะด้วย (ฮา)
แถมยังให้ห้องนอนคืนละ 100 ปอนด์ในลอนดอนฟรีอีกต่างหาก
คนที่ผมจะโทษก็ยังคงเป้นผู้ก่อการร้ายเช่นเคย ที่ทำให้ทริปนี้ของผมมีปัญหาตลอด
น่าจับเอาปืนกลสุดเท่ห์มายิงทิ้งจริงๆ แง่งๆ (ฮา)
แต่ถ้ามีใครถามว่าให้ผมไปลอนดอนอีกเอามั๊ย
ผมตอบได้ทันทีเลยครับว่าไป เพราะยังดู Musical ไม่ครบ (ฮา)
แต่ถ้าเป็นไปได้ผมขอลงสนามบินอื่นนะ ไม่เอา LHR แล้ว
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะครับเดี๋ยวผมคงต้องขอไปนอนก่อนง่วงเหลือเกิน
ถ้ามีข้อซํกถามอะไร เขียนเอาไว้นะครับเดี๋ยวพอผมตื่นผมจะกลับมาตอบครับ
ขอบคุณมากครับ
เกือบลืม
คำแนะนำถ้าหากคุณเจอสถานะการณ์ตกเครื่องบินที่อังกฤษ
1. เมื่อเจอปัญหาให้ตั้งสติก่อนเลย เพราะถ้าคุณตั้งสติไม่ได้อะไรที่แย่ๆ ก็จะตามมาอีกเยอะ
2. ไปหาเจ้่าหน้าที่คนที่ใส้เสื้อสีคลุมสีสะท้อนแสงก่อนเลย ถามเค้าว่าเราทำยังไงได้บ้างในสถานการณ์แบบนี้
3. พูดกับพนักงานทุกคนด้วยความสุภาพ เพราะเค้าเองก็ต้องทำงานเหนื่อยมากขึ้นจากสถานการณ์ที่คุณเจอ
4. ห้ามโวยวาย ด่าทอ พูดคำหยาบ เพราะมันไม่เคยช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น มีแต่จะทำให้่ทุกอย่างแย่ลงก็เดิม
5. ทุกครั้งที่ขอให้ใครช่วยอะไรโปรดใช้ประโยคข้อร้องแบบสุภาพ ถ้านึกประโยคไม่ออก ให้พูดอะไรก็ได้แล้วลงท้ายด้วยคำว่า "Please" เพราะมันเป็น Magic Word
ุ *************************************************************** พึงระลึกไว้อยู่เสมอว่าสถานการณ์เหล่านี้อาจจะเป็นเรื่องด่วนสำหรับคุณแต่กับเค้าอาจจะเป็นเรื่องที่เจออยู่ประจำ
ซึ่งการที่เค้าจะตัดสินใจช่วยหรือไม่ช่วยคุณ ก็ขึ้นอยู่กับมารยาทของตัวคุณเอง
****************************************************************
โดยส่วนตัวผมทุกครั้งที่ผมเข้าไปหาพนักงานในทุก Counter ผมจะเข้าไปด้วยรอยยิ้ม ตามประสาคนยิ้่มง่าย แล้วบอกเค้าว่า
"วันนี้เหนื่อยหน่อยนะครับ ไม่ต้องห่วงครับผมไม่โทษคุณหรอก
ผมโทษผู้ก่อการร้าย เพราะความปลอดภัยของคนหมู่มากต้องมาก่อนอยู่แล้ว"
ประโยคนี้จะช่วยเรียกรอยยิ้มของพนักงานทุก Counter กลับคืนมา แล้วคุณจะคุยกับเค้าง่ายขึ้น
ถ้าเค้าเต็มใจช่วยคุณอะไรๆ มันก็อาจจะไม่แย่อย่างที่คิด
สุดท้ายนี้ผมขอภาวนาให้ไม่มีใครเจอสถานการณ์อย่างเดียวกับผมอีก
แต่ถ้าคุณจำเป้นต้องไปต่อเครื่องที่ LHR พึงระลึกไว้เสมอว่า ควรเผื่อเวลาไว้ซํก 5-6 ชม ในการต่อเครื่อง
โดยเฉพาะในช่วงที่เป้นฤดูท่องเที่ยวอย่างช่วงนี้
เพราะไม่งั้นคุณอาจจะได้ตกเครื่องนานกว่าผมก็เป็นได้
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านอีกครั้งครับ 
น้ำค้างในยามเช้า ณ กรุงเทพ ประเทศไทย 07/07/07
Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2551 |
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2551 18:19:58 น. |
|
23 comments
|
Counter : 4061 Pageviews. |
|
 |
|
|
โดย: MuHN วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:19:53:27 น. |
|
โดย: wilmington วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:10:28 น. |
|
โดย: i'm not superman (i'm not superman ) วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:8:44:02 น. |
|
โดย: แกงส้มชะอมกุ้งใส่ผักบุ้งนิดนึง (น้องแกงส้ม ) วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:20:23 น. |
|
โดย: น้ำค้างในยามเช้า (น้ำค้างในยามเช้า ) วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:18:21:00 น. |
|
โดย: tateum IP: 61.28.147.149 วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:13:58 น. |
|
โดย: จิ้งจอกสาวฝึกหัด IP: 58.8.6.236 วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:53:35 น. |
|
โดย: wilmington วันที่: 12 มีนาคม 2551 เวลา:17:55:57 น. |
|
โดย: เปียเกียว วันที่: 17 มีนาคม 2551 เวลา:19:33:44 น. |
|
โดย: เมล็ดกาแฟ IP: 110.169.168.146 วันที่: 22 พฤษภาคม 2554 เวลา:11:30:20 น. |
|
โดย: MuHN วันที่: 6 เมษายน 2557 เวลา:22:58:08 น. |
|
โดย: Mariomab IP: 190.2.133.230 วันที่: 12 มิถุนายน 2564 เวลา:13:05:43 น. |
|
โดย: BennieRar IP: 190.2.130.167 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2564 เวลา:15:37:55 น. |
|
โดย: Louisunalo IP: 89.38.97.125 วันที่: 10 ธันวาคม 2564 เวลา:16:43:31 น. |
|
โดย: DJCharlesSyday IP: 46.166.182.65 วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา:10:38:59 น. |
|
โดย: EdwardLeape IP: 37.46.113.236 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2566 เวลา:6:34:14 น. |
|
โดย: Jamesdob IP: 79.137.89.102 วันที่: 20 ธันวาคม 2567 เวลา:11:55:21 น. |
|
| |
|
น้ำค้างในยามเช้า |
 |
|
 |
|