รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
กันยายน 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
11 กันยายน 2554
 
All Blogs
 
เจริญสติแล้วนอนไม่หลับ

ผู้ที่เจริญสติแล้วจะมีอาการนอนไม่หลับ ที่เป็นอย่างนี้เพราะว่า เมื่อฝึกไปเมื่อความรู้สึกตัวได้เติบใหญ่ขึ้น ตัวจิตจะปรากฏให้เด่นชัดมากขึ้นบริเวณศรีษะ เมื่อตัวจิตปรากฏเด่นชัดแบบนี้ ผลที่ตามมาก็คือ การตื่น ประสาทจะว่องไว และ ปัญหาการนอนไม่หลับในเวลากลางคืน

การตื่น ประสาททีว่องไว เป็นผลดีในการที่จิตสามารถรับรู้สภาวะธรรมได้ดีขึ้น ได้เร็วขึ้น ได้ละเอียดมากขึ้น นี่คือ ข้อดี

แต่ปัญหาการนอนไม่หลับ นั้นเป็นผลเสียทางร่างกาย ทำให้สุขภาพเสื่อมโทรมลงไป

แต่ถ้านักภาวนาได้ฝึกฝนอย่างบ้าคลั่งมากเกินไป แล้วตัวจิตเกิดค้างเด่นบริเวณศรีษะ ไม่ยอมหายไปเลย นักภาวนาจะเกิดปัญหามากขึ้น นอกจากการนอนไม่หลับแล้วยังมีปัญหามึนศรีษะ รู้สึกศรีษะหนัก ๆ จิตใจไม่สดใส ท่านที่เคยเป็นมาก่อนย่อมจะรู้จักได้ดีในอาการนี้ แต่คนที่ยังไม่เคยเป็นมาเลย ก็อาจนึกไม่ออก

การที่ตัวจิตเกิดเด่นชัดบริเวณศรีษะนั้น จะมาจากสาเหตุที่จิตยังเป็นดวงและผู้ฝึกนั้นฝึกด้วยความเครียด ฝึกด้วยความอยาก ต้องการจะเอาสมาธิ เอาปัญญา มีการบังคับจิต ให้จิตไปผุดนิ่งในจุดที่ตนต้องการ ดังนั้น การฝึกที่ดีนั้น ควรฝึกด้วยอาการผ่อนคลาย อย่าได้อยากได้ อย่าได้อยากยึดอะไรเลย อย่าบังคับจิตให้นิ่งในจุดที่ตนต้องการ เพียงรู้สึกตัวที่เบา ๆ เป็นธรรมชาติไว้ ฝึกพอประมาณ ก็ให้หยุดพักบ้าง นี่คือ ทางสายกลางของนักภาวนา

กลไกการรู้แ้จ้งของจิต นี่ช่างพิศดารอย่างยิ่ง การฝึกที่บ้าคลั่งด้วยความอยาก ไม่สามารถจะทำให้ผู้ฝึกเข้าถึงธรรมที่ตนต้องการได้เลย มีแต่การปล่อยวางเท่านั้น จึงจะไปได้ถึงการรู้แจ้ง

เมื่อจิตค้างโต่งที่ศรีษะ การแก้ใขนั้น ก็คือ การหยุดฝึกฝนสักระยะหนึ่ง ไปพักผ่อนให้สบายใจ ไม่กี่วันก็จะดีขึ้น เมื่อดีขึ้นแล้ว ก็กลับมาฝึกใหม่ แต่ขอให้ฝึกด้วยการผ่อนคลายที่เป็นธรรมชาติ ฝึกพอประมาณ ฝึกบ้าง พักบ้าง

********
แนะนำฟัง รายการ คนสู้โรค ตอน ปัญหานอนไม่หลับ รายการวันที่ 31 ส.ค.54
//www.thaipbs.or.th/clip/index.asp?content_id=308655&content_category_id=814


Create Date : 11 กันยายน 2554
Last Update : 27 มกราคม 2555 9:44:06 น. 6 comments
Counter : 4387 Pageviews.

 
เป็นคนหนึึ่งที่มีปัญหานี้ค่ะ แต่ก็ตามที่อาจารย์ได้บอกไว้ว่าบางช่วงก็หลับดี บางช่วงก็ไม่หลับ แต่ไม่
หลับมีมากกว่าค่ะ เมื่อก่อนเคยหงุดหงิดเวลานอนไม่หลับ เพราะมันอยากจะหลับ แต่ตอนนี้ก็เฉยๆแล้วค่ะ ถ้าไม่หลับก็ภาวนาตามที่อาจารย์ได้สอนไว้
มันก็ต้องหลับอยู่ดีหลังตี ๓ ไปแล้วค่ะ ถ้าวันไหน
ต้องตื่นแต่เช้าก็จะหนักศีรษะมากเลยค่ะ

อาจารย์คะ เวลาฝึกก็ไม่ได้เครียดนะคะ ก็เดินจงกรม
แบบสบายๆ แต่จะมีวินัยต่อตัวเองในเรื่องเวลาค่ะ
เช่นเวลาหกโมงเย็นต้องไปเดินจงกรมก็ต้องทำทุกวัน
เหมือนเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ อย่างนี้เป็นความเครียดด้วยมั้ยค่ะ


โดย: จิตติ IP: 124.122.203.214 วันที่: 11 กันยายน 2554 เวลา:21:10:41 น.  

 
เรื่องความเครียดขอให้คุณสังเกตอย่างนี้ครับ

แรกสุด ให้ไปสถานที่อะไรก็ได้ที่รู้สึกสบายใจ ผ่อนคลายมากๆ ไม่ต้องไปคิดถึงอะไรด้วย ให้เพียงสบายใจก็พอแล้ว ลองสังเกตดูจิตใจตนเองว่าเป็นอย่างไร < นี่คือสภาพที่ไม่เครียด

แล้วทีนี้ ให้เดินจงกรมเลย ในขณะเดิน สังเกตจิตใจตนเองดูว่าต่างจากเมื้อกี้ที่ไม่เครียดอย่างไร สิ่งที่ต่างนี้คือความเครียดที่เกิดขึ้น

แต่ถ้าคนที่เขาเห็นความว่างของตัวจิตของตนเองได้แล้ว เวลาเครียด เขาจะเห็นเป็นก้อนพลังงานโผล่มาตรงแถวบริเวณศรีษะ ซึ่งพลังงานนี้จะเหมือนกับตอนที่เรากำลังคิดอะไรอยู่ นั้นคือความเครียดครับ

มันค่อนข้างยากที่จะไม่ให้เครียดในการภาวนาสำหรับคนใหม่ ๆ มันจะเกิดเสมอ แต่ถ้าเรายังไม่เห็นมัน ก็ยากจะบอกได้ว่า เครียดหรือไม่เครียดในการภาวนา ซึ่งก็ทำได้เพียงว่า ขอให้ภาวนาด้วยความผ่อนคลายให้มากทีสุด ซึ่งวิธีการก็คือ ให้ทำภาวนาเหมือนทำเล่น ๆ ไม่ได้จริงจังอะไร จะช่วยได้มาก อีกวิธีหนึ่งที่ใช้ได้ดีที่หลวงพ่อเทียนสอนก็คือ ให้มองไปไกลๆ อันนี้ก็ช่วยได้ดีเช่นกัน



โดย: นมสิการ วันที่: 11 กันยายน 2554 เวลา:23:02:34 น.  

 
ขอบพระคุณค่ะ. จะลองสังเกตดูค่ะ


โดย: จิตติ IP: 124.122.203.214 วันที่: 12 กันยายน 2554 เวลา:1:47:42 น.  

 
เรียนอาจารย์และ กัลยณมิตรที่อยู่ ภาคกลาง กรุงเทพ จากที่ติดตามข่าว สถานะการณ์เรื่องน้ำท่วมช่วงนี้ไม่ค่อยน่าไว้ใจ ขอให้อาจารย์และทุกๆท่า่น ระแวดระวังและเตรียมตัวด้วยครับ ด้วยความห่วงใย


โดย: Littleyogi IP: 223.206.197.231 วันที่: 18 กันยายน 2554 เวลา:20:11:30 น.  

 
ขอบคุณครับ เรื่องภัยธรรมชาติ เพราะมนุษย์ไปทำเขาไว้ก่อน ธรรมชาติจึงมาเรียกคืน การใช้ทรัพยากรที่เกินตัว เกินจำเป็น ทำให้เกิดสภาวะโลกร้อน เมื่อโลกร้อนขึ้น น้ำทะเลถูกความร้อนเผามากขึ้น เป็นเมฆปริมาณมากขึ้น เกิดการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิระหว่างท้องทะเลและพื้นดินมากขึ้น ให้พายุเกิดได้ง่ายขึ้นและปริมาณที่สูงขึ้น

ลูก ๆ หลาน ๆ ที่เพิ่งเกิดในระยะนี้ ผู้ใหญ่ควรร้องไห้ที่เขาเกิดมา ไม่ใช่ดีใจ เพราะเด็กเหล่านี้ จะต้องเผชิญกับอหันตภัยที่ยิ่งใหญ่มากขึ้นทุก ๆ ปี ตราบเท่าที่ โลกยังมีแต่ผู้นำโลกด้านเศรษฐกิจ การทหาร การเมือง แต่ไม่มีผู้นำโลกด้านสิ่งแวดล้อม



โดย: นมสิการ วันที่: 19 กันยายน 2554 เวลา:9:44:04 น.  

 
ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน


โดย: นมสิการ วันที่: 27 มกราคม 2555 เวลา:9:45:47 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.