นิพพาน แบบ จิตอิสระ หรือ อาการไม่ยีดมั่นถือมั่นของจิต

1..บทความเรื่อง " นิพพาน แบบ จิตอิสระ หรือ อาการไม่ยีดมั่นถือมั่นของจิต " เป็นความเข้าใจส่วนตัวของผู้เขียน  ผู้เขียนไม่รับรองความถูกต้อง ท่านที่เข้ามาอ่าน  ขอให้อ่านแล้ว พิจารณาด้วยปัญญา

2..ในเรื่องของนิพพาน  มีบทความก่อนหน้าที่ผู้เขียนได้เขียนไว้ในการเข้านิพพาน 2 รูปแบบ คือ
รูปแบบที่ 1  การเข้านิพพานด้วย ฌานตื้น ด้วยการใช้พลังของสัมมาสติไปรู้ลมหายใจที่ไหลแรง
รูปแบบที่ 2  การเข้านิพพานด้วย ฌานลึก ด้วยการใช้ ญาณ ในการสลายตัวจิตผู้รู้ ให้เป็นความว่างและความสว่าง

บทความก่อนหน้าอยู่ที่ลิงค์นี้  https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=01-2022&date=29&group=17&gblog=242  

3..นอกจากการเข้านิพพาน 2 รูปแบบที่กล่าวในข้อ 2  ยังมีการเข้านิพพานได้อีกรูปแบบหนี่ง ที่พระไตรปิฏก เรียกว่า การไม่ยีดมั่นถือมั่น (( ของจิต ))

นิพพาน รูปแบบนี้ ก็จะมี นิพพาน ได้ 2 ชนิดด้วยกัน คือ
A ..นิพพานแบบไม่มีขันธ์
B...นิพพานแบบมีขันธ์

4...การไม่ยีดมั่นถือมั่นของจิต เป็นเช่นไร
4.1  ในคนทั่วไป เมื่อ เรือน เกิดขึ้น ขันธ์ก็จะเกิดขึ้นที่ เรือน 
ถ้าจิตผู้รู้ ไม่มีพลังของสัมมาสติ สัมมาสมาธิที่มากพอ  ตัวจิตผู้รู้ จะเคลื่อนเข้าไปยีดติดขันธ์ ด้วยอำนาจของตัณหา
(( อ่านเรื่อง สภาวะธรรมของนิพพาน  ที่ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=01-2022&date=25&group=17&gblog=238   )))

อาการที่จิตผู้รู้ เคลื่อนเข้าไปที่ เรือน นี้ คือ อาการของการยึดติดที่ขันธ์
ถ้า จิตผู้รู้ ไม่เคลื่อนเข้าไปที่ เรือน ก็จะเป็น การหลุดออกจากการยีดติดได้
ซี่ง การที่จิตผู้รู้ ไม่เคลื่อนเข้าไปที่เรือน จะมีสภาวะธรรมเกิดอยู่ 2 แบบด้วยกัน

แบบที่ 1..เป็นอาการที่จิตผู้รู้ ไม่เคลื่อนเข้าไปในเรือน หรือ ไม่ยึดติดขันธ์ด้วยอำนาจของสมาธิ
การไม่ยีดติดแบบนี้ มีการใช้สมาธิระดับฌานที่มีความจงใจในการเข้าสมาธิเพื่อไม่ให้ตัวจิตผู้รู้เคลื่อนเข้าไปในเรือน  อาการแบบนี้ จะเป็น ฌานจิต ที่มีตัวจิตผู้รู้ที่เป็นดวงปรากฏขึ้น
เมื่อมีตัวจิตผู้รู้ที่เป็นดวงปรากฏขึ้น 
เรือน ก็ยังปรากฏอยู่ เพียงแต่จิตผู้รู้ ไม่เคลื่อนเข้าไปที่ เรือน
(( หมายเหตุ เมื่อจิตผู้รู้ เป็นดวง ความเป็นตัวตน ยังมีอยู่ )) 

เมื่อ จิตผู้รุ้ ยังเป็นดวง ยังมี เรือน ปรากฏอยู่ แบบนี้ จึงเป็น ฌานจิต  ที่ยังไม่ใช่่ นิพพาน

แบบที่ 2...อาการที่จิตผู้รู้ ไม่เข้าไปยีดติดที่ เรือน  โดยจิตผู้รู้ ไม่เป็นดวง ก็จะเป็น นิพพาน ซึ่ง อาการแบบนี้จะมี 2 แบบ คือ แบบมีขันธ์ และ แบบไม่มีขันธ์ ทีเขียนไว้ในข้อ 3

5.. นิพพาน แบบไม่มีขันธ์  
แบบนี้ จะต้องไม่มีการใช้ขันธ์ ทำงาน อายตนะทุกชนิด จะทำงานแบบ สักแต่ว่า ที่มีกล่าวใน พาหิยะสูตร

เมื่อไม่มีขันธ์ ทำงาน ตัวจิตผู้รู้ ก็ต้องใช้ ญาณ  ((แบบสักแต่ว่า)) เห็นเข้าไปใน โลกภายใน (( โลกภายใน ก็คือ โลกของตัวจิตผู้รู้  เปรียบได้ดัง ห้องส่วนตัวของคนเรา เมื่อ คนเราอยู่ในห้องส่วนตัว เราก็จะเห็น สิ่งต่างๆ ในห้องส่วนตัวของเรา แต่จะไม่รับรู้สิ่งต่างๆ ที่อยู่นอกห้อง ))

การเห็น โลกภายใน นี้ ผู้ที่จะเห็นได้ ต้องมี ดวงตาเห็นธรรม และ รู้จักการใช้ ญาณ ในการเห็นด้วย
ซึ่ง ถ้าไม่มีการใช้ขันธ์ทำงาน ในโลกภายใน จะมี 2 สิ่งปรากฏอยู่  สิ่งแรก ก็คือ ความว่างเปล่า และ อีกสิ่งหนี่ง ที่เป็นเงาจาง ๆ มาก ๆ  ที่เป็นก้อน ไม่ใหญ่นัก ลอยอยู่นิ่งๆ   ส่วนนี้ จะเห็นได้ยากมาก เมื่อเห็นได้ทั้ง  2 สิ่งนี้  ก็จะได้นิพพานแบบไม่มีขันธ์   ถ้าไม่พบสิ่งที่ก้อนจางๆ  พบแต่ความว่างของโลกภายใน  ก็ยังไม่ได้พบกับนิพพาน แต่จะได้พบกับ อรูปฌาน 
(((ขอเปรียบเทียบให้เข้าใจเพิ่มอีก ขอให้นึกถึงห้องส่วนตัวที่ว่างๆ  ไม่มีสิ่งของอะไรเลย        แต่มี ควันธูปจาง ๆ ลอยอยู่ในอากาศ  เราก็เห็นความว่างของห้อง และ ควันธูป ได้ )))

นิพพาน แบบไม่มีขันธ์ ควรทำด้วยในขณะที่เป็นอิริยาบท นิ่ง เช่น นั่งหรือนอน

6..นิพพานแบบมีขันธ์   การทำงานที่เป็นอิสระต่อกันระหว่าง ขันธ์ และ ญาณของจิตผู้รู้
แบบนี้ จะมีขันธ์ทำงาน อายตนะ มีการทำงานปกติ นึกคิดได้
ตัวจิตผู้รู้ ใช้ ญาณ มองเข้าไปที่ โลกภายใน ที่ไม่ซ้อนทับกับ มโน (ดูภาพข้างล่างประกอบ )
พร้อมกับในขณะที่ขันธ์ทำงานไป ให้การทำงานของขันธ์ เป็น สิ่งที่สนใจรู้ ((ขอตั้งชื่อว่า  รู้แบบ Primary  ))  ซี่งคนเราก็จะสามารถ อ่านหนังสือได้ ฟังเสียงรู้เรื่องว่า เสียงอะไร คนพูดอะไร เข้าใจได้  โดยการรู้ของ จิตผู้รู้ที่ใช้ ญาณ นี้ ให้เห็นแบบ  Secondary คือ ไม่สนใจที่จะไปเห็น แต่เห็นได้เองด้วยพลังของ ญาณ ที่ไม่ถูกดูดเข้าไปที่ขันธ์

เนื่องจากขันธ์ทำงาน ญาณที่จิตผู้รู้เห็นโลกภายในแบบสักแต่ว่า จะเห็นเป็นก้อนอะไรก็ไม่รู้จักชื่อ ลอย ๆ  นิ่ง ๆ ปรากฏอยู่ ขอให้เห็นก้อนนี้ แบบไม่สนใจ 

นิพพาน แบบมีขันธ์ นี้ นักภาวนาอาจพบว่า บางครั้งจะมีอาการแน่นหน้าอกเกิดขึ้น
ที่เป็นอย่างนี้  คือ ขันธ์ ดึง จิตให้หลุดออกจาก ญาณได้ เพราะกำลังของ สมาธิอ่อนตัวลง
ลงไป ถ้า มีสติที่ไวพอ ก็จะรู้ทัน แล้วแก้ไขได้ โดยการเพิ่มการกำลัง ญาณ ให้มากขึ้น
แต่ถ้า สติไม่ไวพอ รู้ไม่ทัน การ จิตทืหลุด ญาณ จะเป็นดวงขึ้น แล้ว เคลื่อนเข้่าไปใน เรือน
ทำให้เกิดอาการแน่นหน้าอกได้มากขึ้นและเกิดได้ยาวนานขึ้น
ถ้า แน่นหน้าอก ไม่หลุดออก ให้แก้ด้วยการไอแรงๆ  หลายๆ  ครั้ง ก็จะหลุดออกมาได้



7..ใบไม้ในป่า 
ผู้เขียนได้เสนอแนวทางการเข้า นิพพาน มา 3 บทความ ซี่งผู้เขียนก็ไม่แน่ใจว่า จะมีรูปแบบอื่นอีกหรือไม่ เปรียบดัง ใบไม้ในป่าใหญ๋ ที่มีมากมาย 
จบเรื่องนี้ เพียงเท่านี้






 

Create Date : 31 มกราคม 2565		0 comments
Last Update : 19 มิถุนายน 2565 16:25:17 น.
Counter : 811 Pageviews.
Share Tweet