รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
23 ตุลาคม 2556
 
All Blogs
 

การฝีกฝนสติปัฏฐานนั้น ก็คือปลุกความสามารถของจิตให้รู้ความรู้สีกได้ดีขึ้นกว่าเดิม

นักภาวนาที่บอกว่า ตัวเองได้เจริญสติปัฏฐานมาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว แต่ไม่ก้าวหน้าเลย ผมกล้าบอกได้ครับว่า  นักภาวนาท่านนั้นไม่ได้เจริญสติปัฏฐานอย่างถูกต้อง ผลจึงไมเกิดขึ้นในด้านการดับทุกข์  


ขอให้ดูรูปข้างล่างนี้  ท่านจะเข้าใจว่า ทำไมหนอการฝีกฝนสติปัฏฐานจึงถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง






ในกลไกการทำงานของจิตนั้น คนทุก ๆ คนมักจะคุ้นเคยกับการใช้จิตในด้านขวามือกันอยู่แล้ว เพราะในชีวิตประจำวัน ถ้าไม่ใช้จิตด้านขวามือให้ทำงาน คนก็จะอาศัยอยู่ในโลกใบนี้ไม่ได้เลย ดังนั้น เมื่อคนเกิดมาไม่ว่าจะเรียนหนังสือหรือไม่ ก็ต้องใช้จิตด้านขวามือในการดำรงค์ชีวิต  คนทีเรียนหนังสืออีกเช่นกัน ก็ต้องใช้ด้านขวามือจึงจะเรียนหนังสือจบ คนทำงานก็ต้องใช้ด้านขวามือจึงจะทำงานได้ผลงานออกมาได้จนเป็นผลสำเร็จ

แต่ด้านซ้ายมือละ ปรากฏว่า คนละเลยไม่มีการใช้เลย 
เมื่อไม่มีการใช้ ด้านซ้ายมือก็จะฝ่อ ไม่มีความสามารถ

การฝีกฝนสติปัฏฐาน ก็คือ การฝีกฝนให้จิตทำงานด้านซ้ายมือ ซี่งคนทีไม่เคยฝีกฝน พอมาฝีกฝนด้านซ้ายมือ เขาก็เหมือนกับกลับเป็นเด็กน้อยทีพี่งหัดเดินเช่นกัน  ใหม่ๆ ก็ย่อมเดินไม่คล่อง มีปัญหา แต่พอฝีกไปมาก ๆ เข้า จิตทีทำงานด้านซ้ายมือก็จะมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซี่งก็จะเหมือนผู้ใหญ่ทีเดินได้คล่องแคล่ว แถมวิ่งหรือกระโดดได้อีกด้วย

กลไกของจิตนั้น เมื่อได้ฝีกฝนด้ายซ้ายมือเป็นอย่างดี  สิ่งทีได้รับจะเป็นการทำงานของจิตทีซ่อนเอาไว้  และจะใช้งานได้เองโดยอัตโนมัติทันทีเมื่อทุกข์เข้ามาเยือน ทำให้การดับทุกข์นั้นเกิดขึ้นไ้ด้เพราะกลไกตัวนี้

นักภาวนาทีว่า ทำไมฝีกฝนสติปัฏฐานมานานแล้วไม่ก้าวหน้า ก็ขอให้สำรวจตัวเองได้เลยครับว่า
เวลาท่านฝีกนั้น ท่านกำลังฝีกให้จิตรู้ความรู้สีกทางกาย ทางใจหรือไม่ อันเป็นด้านซ้าย  และเวลาฝีกฝน จิตท่านมีความอยาก มีการเพ่งจ้องหรือไม่ อันเป็นด้านขวา

ถ้าท่านฝีกแต่ด้านซ้าย ฝีกบ่อยๆ  ฝีกเสมอ ๆ  ไม่ให้มีด้านขวา นีคือการฝีกทีเข้มข้นในสติปัฏฐาน

ท่านอาจสงสัยว่า แต่พอในชีิวิตจริง ท่านต้องใช้ด้านขวา แล้วด้านซ้ายจะทำงานได้หรือ
ผมตอบให้ครับว่า ได้ครับ เพราะกลไกด้านซ้าย มันเป็นอิสระจากด้านขวามือนั่นเองครับ 
เพียงท่านฝีกด้านซ้ายให้ขำนาญ ให้คล่อง พอท่านใช้ด้านขวา แล้วเมื่อทุกข์เกิด ด้านซ้ายก็ทำงานได้เองอย่างอัตโนมัติได้ทันที  แถมทำงานอย่างรวดเร็วเสียด้วย แต่ถ้าท่านยังฝีกมายังไม่ชำนาญพอ การทำงานด้านซ้ายก็อาจไม่เต็มประสิทธิภาพ ทำให้ทุกข์ทีเกิดมา ไม่สามารถหยุดมันได้

ร่างกายต้องกินอาหารทุกวัน ต้องออกกำลังสม่ำเสมอ สุขภาพจึงจะดี
จิตใจนั้นก็เช่นกัน ท่านต้องหมั่นฝีกด้านซ้ายอยู่บ่อยๆ  ซี่งการฝีกก็มีทั้งแบบในรูปแบบที่สอนกันตามสำนักต่างๆ  และในชีวิตประจำวัน ทีท่านควรฝีกเสมอ ๆ อย่าให้ขาด แล้วผลของสติปัฏฐานก็จะเกิดตามมาเมื่อด้านซ้ายมีประสิทธิภาพสูงขึ้น





 

Create Date : 23 ตุลาคม 2556
0 comments
Last Update : 23 ตุลาคม 2556 10:56:45 น.
Counter : 2158 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.