รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
3 มีนาคม 2557
 
All Blogs
 

เมื่อเกิดการลังเลใจในการภาวนา

นักมวยแชมป์โลกชื่อดังไม่ว่าคนใด ไม่เคยคนใดเลย ทีได้แชมป์ทันทีโดยไม่เคยแพ้มาก่อน
แต่เพราะแพ้ ถ้าถอดใจ ก็จะไม่มีวันชนะ แต่ถ้ามุ่งมั่นสู้ต่อไป หมั่นฝีกฝนอยู่เสมอ เขาก็ชนะได้เป็นแชมป์

การภาวนาก็เช่นกัน ไม่มีคนใดเลย ทีพอเริ่มภาวนาจะชนะมารในใจตนเองได้ทันที จะแพ้มาก่อนทั้งนั้น แต่เพราะศรัทธาและมุ่งมั่นในคำสอนของพระพุทธองค์ ก็จะชนะมารในใจได้ในทีสุด

แต่การภาวนานั้นเป็นเรื่องทียากกว่า เพราะเป็นสิ่งทีมองไม่เห็น ในคำสอนในพุทธศาสนาจึงมีคำสอนเรื่องพละ 5 อันได้แก่ 1..ศรัทธา 2..วิริยะ 3..สติ 4..สมาธิ 5..ปัญญา

จะเห็นว่า ศรัทธา จะเริ่มก่อน ถ้าศรัทธาแบบไร้ปัญญาก็จะกลายเป็นโง่เขลา ถูกหลอกได้ง่าย
แต่ศรัทธาทีดีต้องประกอบด้วยปัญญา จึงจะเข้าทางพละ 5 อันเป็นเส้นทางแห่งโลกุตระธรรมได้ต่อไป

มันเป็นสิ่งทีอยากยิ่งทีจะบอกว่า ศรัทธาใดเป็นศรัทธาแห่งปัญญา เรื่องนี้ต้องใช้ปัญญาของตนพิจารณาเอาเองเป็นขั้นต้น

เมื่อนักภาวนาลงมือภาวนาไป ไม่ว่าตามคำสอนของครูบาอาจารย์ท่านใด
ความจริงย่อมหนีความจริงไปไม่พ้น ยกเว้นแต่ว่า จะยอมโกหกตัวเองเท่านั้น
ความจริงทีหนีไม่พ้นก็คือ ทุกข์ ทำอย่างไรก็ต้องมีเกิดขึ้น นี่เป็นอริยสัจจ์ทีพระพุทธองค์ทรงสอนในอริยสัจจ์ 4

เมื่อได้ลงทุนลงแรงไปในการภาวนาบ้างแล้ว การไม่สามรถเอาชนะทุกข์ทีเกิดได้นี่แหละ จะทำให้นักภาวนาเกิดการลังเลใจขึ้นว่า สิ่งทีตนกำลังทุ่มเทอยู่นี้ สามารถชนะทุกข์ได้จริงๆ เลยหรือ

ผมกล้ายืนยันว่า ไม่มีใครสามารถเอาชนะทุกข์โดยทำให้ไม่ให้ทุกข์เกิดได้ แต่สามารถทีจะไม่ยีดติดในทุกข์ทีเกิดได้ ซี่งการชนะทุกข์แบบไม่ยีดติดในทุกข์ ก็คือ การชนะตัณหา อันเป็นอริยสัจจ์ในข้อที 2 ของอริยสัจจ์ 4

เมื่อสามารถชนะทุกข์แบบไม่ยีดติดในทุกข์ได้ จะเกิดสภาวะของ นิโรธ คือ ความไม่ทุกข์เกิดขึ้น ซึ่งนิโรธนี้ นักภาวนาใหม่ๆ ทีชนะทุกข์โดยไม่ยีดติด จะเป็นนิโรธทียังไม่เห็นแจ้งในความไม่ทุกข์ทีเกิดขึ้น เพียงแต่รู้ว่าตอนนี้ไม่ทุกข์แต่ยังไม่เห็นแจ้งจริงของสภาวะแห่งการไม่ทุกข์ทีเกิดนั้น แต่ถ้านักภาวนาสามารถชนะทุกข์แบบไม่ยีดติดไปบ่อยครั้งเข้า จะเกิดญาณปัญญามากขึ้น จนพบกับ นิโรธทีเป็นแบบทีเห็นแจ้งในความไม่ทุกข์ได้

การปฏิบัติพื่อให้เห็นทุกข์ ไมยีดติดในทุกข์ เกิดนิโรธทีรู้และเห็นแจ้งในความไม่ทุกข์ได้ นีคือหนทางแห่งมรรค อันเป็นอริยสัจจ์ในข้อที 4

ศรัทธาในพละ 5 ถ้าวิระยะโดยไม่เข้าสู่อริยสัจจ์ 4 แล้ว จะไม่มีทางเกิดตัวต่อมาได้ของพละ 5 คือ การไม่เกิดขึ้นของ สติ... ไม่เกิดขึ้นของ สมาธิ... ไม่เกิดขึ้นของปัญญา

หนทางแห่งศรัทธาด้วยปัญญาจึงมีทางตรวจสอบได้ด้วยตนเองว่า สิ่งทีตนกำลังวิระยะอยู่นั้น ได้สอดคล้องเป็นเส้นทางทีตรงต่ออริยสัจจ์ 4 แล้วหรือไม่ ถ้าไม่สามารถตรวจสอบด้วยตนเองได้
ก็ใช้ปากของนักภาวนานั่นแหละ สอบถามจากครูบาอาจารย์ท่านทีศรัทธาอยู่ให้เขาอธิบายให้กระจ่าง แล้วท่านก็ใช้ปัญญาของท่านเองคิดพิจารณาตรวจสอบต่อไป

ถ้าท่านได้ตรวจสอบอย่างแน่วแน่แล้วว่า วิธีการของครูบาอาจารย์ทีท่านศรัทธานี้ไม่บิดเบี้ยวไปจากอริยสัจจ์ 4 ต่อไปหน้าทีของนักภาวนาก็คือ วิริยะ หมั่นเพียรฝึกฝนอย่างไม่ย่อท้อต่อปัญหาใด ๆ ทีเกิดขึ้นในระหว่างทางแห่งการเข้าสู่องค์มรรค

อย่าปล่อยให้ความลังเลเข้ามาครอบงำในจิตใจ ยิ่งปล่อยนานไป ยิ่งท้อถอย ผมแนะวิธีการตรวจสอบให้ท่าน ถ้าท่านอ่านแล้ว พิจารณาแล้วว่า สามารถใช้ตรวจสอบได้จริง ท่านเพียงลงมือปฏิบัติเท่านั้นเอง




 

Create Date : 03 มีนาคม 2557
0 comments
Last Update : 3 มีนาคม 2557 7:05:10 น.
Counter : 2739 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.