ธรรมสิ่งที่ใกล้ตัว
เมื่อท่านฝึกฝนการลูบแขนด้วยกฏ 3 ข้อที่ผมได้เสนอไปแล้วนั้น ท่านเคยสังเกตใหมครับว่า 1..เมื่อท่านลูบ มีความรู้สึกที่เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากการลูบนั้น นี่คือ สัมผัส หรือ ภาษาพระเรียกว่า ผัสสะ 2..แต่เมื่อท่านหยุดลูบ ความรู้สึกในข้อ 1 นั้นจะหายไป ถ้าท่านไม่ไปติดใจ ไม่ไปคิดถึงมัน ทั้งข้อ 1 และ 2 นี่แหละคือธรรม ท่านอาจเข้าใจว่าธรรมนี่แหละลึกซึ้ง แต่ทำไมสิ่งที่ผมเขียนในข้อ 1 และ 2 นี่มันช่างธรรมดาเหลือเกิน ไม่เห็นลึกซึ้งตรงไหน ผมจะชี้ให้ท่านเห็นครับ... ความลึกซึ้งหรือธรรมดานั้น มันขึ้นอยู่กับว่า มันเข้าไปลึกแค่ไหนในจิตใจ ทั้ง ๆที่สิ่งที่ได้รับมันเหมือนกัน เด็กที่เขามีพ่อแม่ เขาจะรู้สึกว่า พ่อแม่นี่คือธรรมดาที่สุด ไม่เห็นมีอะไรพิเศษ แต่เด็กที่กำพร้าพ่อแม่ เขาจะรู้สึกว่า พ่อแม่นี่คือสิ่งที่พิเศษที่สุด นี่เพราะการเข้าไปในจิตใจของเด็กทั้ง 2 ประเภทนี้ต่างกัน คนส่วนมาก เขาก็รู้จักข้อ 1 และ 2 กันทั้งนั้น แต่มันไม่ลึกซึ้ง เพราะจิตเขาไม่ได้สัมผัสมันอย่างจริงจัง วัน ๆ คนส่วนมากจะหลุมหลงอยู่กับโมหะ อยูุ่กับความคิดในเรื่องราวต่างๆ ซึ่งโมหะและความคิดนี้แหละที่เป็นตัวกั้นไม่ให้จิตไปสัมผัสความลึกซึ้งของข้อ 1 และ 2 ข้างต้น เมื่อผมแนะนำท่านให้รู้จักกับฏก 3 ข้อที่ใช้ในการฝึกฝนเพื่อการรู้กาย นั้นผมกำลังแนะนำให้ท่านให้สัมผัสกับข้อ 1 และ 2 ด้วยจิตของท่านโดยตรง เมื่อจิตมีการสัมผัสข้อ 1 และ 2 บ่อย ๆ ผลที่ตามมาคือความตั้งมั่นแห่งสัมมาสมาธิและจะนำไปสู่ปัญญาให้แก่จิตให้เห็นข้อ 1 และ 2 อย่างลึกซึ้ง ด้วยการเข้าใจไตรลักษณ์แห่งผัสสะ การไม่ยึดติดด้วยจิตเพราะท่านกำลังดำเนินด้วยกฏ 3 ข้ออยู่ ซึ่งไม่ใช่การคาดคิดเอาเอง เมื่อจิตสัมผัสความลึกซึ้งและเปล่งความรู้ความเข้าใจออกมาได้เองเมื่อไร นั้นแหละคือผลแห่งการปฏิบัติธรรมที่เป็นปัญญาของจิต ไม่มีใครชี้ให้จิตของท่านเห็นปัญญานี้ได้ นอกจากเขาจะเห็นเอง เข้าใจเอง อันเป็นปัจจัตตัง เมื่อจิตเข้าใจเรื่องไตรลักษณ์อย่างลึกซึ้ง จิตเห็นการยึดติดเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดทุกข์ จิตจะปฏิวัติตนเองให้เกิดการปล่อยวางขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การจะเกิดปรากฏการณ์นี้ได้ จิตจำต้องมีสัมมาสมาธิอันเป็นกำลังและความตั้งมั่นด้วย ซึ่งทั้งหมดก็มาจากการฝึกฝนด้วยคำสอนของพระพุทธองค์ที่ว่า อาตาปี สัมปชาโน สติมา การปฏิวัติตัวของตัวจิตนี้แหละคือผลของของการเห็นความลึกซึ้งของจิตที่เป็นปัญญาอย่างแท้จริง **** เรื่องท้ายบท ในพระไตรปิฏก มีการเขียนถึงพระรูปหนึ่งที่มีปัญญาทึบ พระรุ่นพี่สอนอย่างไรก็ปฏิบัติไม่ได้ พระพุทธองค์ทรงสอนให้เขาลูบผ้าขาวและบริกรรมไปด้วย จนจิตของพระรูปนี้เข้าใจถึงไตรลักษณ์อย่างแท้จริง ก็ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ **** ในอนัตตลักขณะสูตร ได้กล่าวถึงปัจจวัคคีย์ที่สำเร็จพระอรหันต์ด้วยการเห็นหลักธรรมแห่งอนัตตาเช่นกัน **** ทุกท่านมีสิทธินี้เช่นกัน เพียงอย่าเดินนอกคำสอนของพระพุทธองค์ในสติปัฏฐานสูตร อาตาปี สัมปชาโน สติมา
Create Date : 19 เมษายน 2554
23 comments
Last Update : 29 มกราคม 2555 15:05:04 น.
Counter : 1399 Pageviews.
โดย: ลุง 'บุรีราช' IP: 125.27.180.110 19 เมษายน 2554 15:54:59 น.
โดย: Nim IP: 124.121.64.125 19 เมษายน 2554 22:14:47 น.
โดย: ลุง 'บุรีราช' IP: 125.25.120.126 21 เมษายน 2554 6:48:11 น.
โดย: นมสิการ 21 เมษายน 2554 8:52:35 น.
โดย: คนไม่ธรรมดา IP: 223.205.165.58 21 เมษายน 2554 9:03:33 น.
โดย: นมสิการ 21 เมษายน 2554 9:56:32 น.
โดย: นมสิการ 21 เมษายน 2554 10:22:44 น.
โดย: ลุง 'บุรีราช' IP: 125.27.176.11 21 เมษายน 2554 16:04:10 น.
โดย: ธรรมชาติ IP: 203.113.0.206 21 เมษายน 2554 16:56:54 น.
โดย: จิตติ IP: 115.87.4.198 21 เมษายน 2554 17:20:26 น.
โดย: นมสิการ 21 เมษายน 2554 18:22:08 น.
โดย: นมสิการ 21 เมษายน 2554 18:27:12 น.
โดย: นมสิการ 21 เมษายน 2554 18:46:23 น.
โดย: นมสิการ 21 เมษายน 2554 18:59:10 น.
โดย: จิตติ IP: 115.87.4.198 21 เมษายน 2554 20:05:52 น.
โดย: คนใหม่ IP: 223.204.29.198 21 เมษายน 2554 23:00:15 น.
โดย: นมสิการ 21 เมษายน 2554 23:25:39 น.
โดย: คนใหม่ IP: 223.205.227.110 22 เมษายน 2554 12:03:52 น.
โดย: นมสิการ 22 เมษายน 2554 12:28:37 น.
โดย: คนใหม่ IP: 223.205.227.110 22 เมษายน 2554 17:49:23 น.
โดย: คนไม่ธรรมดา IP: 223.206.174.202 24 เมษายน 2554 9:46:07 น.
โดย: นมสิการ 29 มกราคม 2555 15:15:01 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [? ]
หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน.... จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ... บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้ เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ ** ****** บทความต่าง ๆ ใน blog นี้ ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ****