ช่วงนี้เป็นจังหวะที่นักลงทุนทั้งหลายกำลังรอสัญญาณเข้าไปลงทุนอย่างหนึ่งอย่างใด ไม่ว่าจะเข้าไปซื้อขายหุ้น ซื้อทองคำแท่ง ซึ่งพอจะซื้อขายได้คล่องตัว แต่คงจะไม่อยากไปซื้อที่ดิน ซึ่งซื้อขายกันยาก การซื้อขายหุ้นนั้น นักลงทุนพอจะเลือกซื้อหุ้นที่มีสภาพคล่องอย่างหุ้นของธนาคารต่าง ๆ เช่น ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือธนาคารกรุงไทย หรืออาจจะเป็นกลุ่มพลังงาน เช่น ปตท. หรือ ปตท.สผ. เป็นต้น
หุ้นธนาคารพาณิชย์ และหุ้นกลุ่มพลังงาน เหล่านี้เป็นหุ้นที่ซื้อง่ายขายคล่อง และธนาคารค่อย ๆ ไต่ระดับสูงขึ้น และระดับดัชนี เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2552 ไปอยู่ที่ 641.23 จุด ดัชนีสูงกว่าวันที่ 21 เมษายน 2552 ซึ่งอยู่ที่ 466.38 จุด ถึง 174.85 จุด
จะเห็นได้ว่าเพียงระยะเวลา 3 เดือนเศษ ๆ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้เคลื่อนไหวในแง่บวกขึ้นมาถึง 174.85 จุด ซึ่งดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ฯ สูงขึ้นมาเป็นอย่างมาก แม้ว่าสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม และสภาพการณ์ทางด้านการเมืองจะย่ำแย่ก็ตามที แต่ตลาดหลักทรัพย์ก็ยังสามารถขยายตัวออกไปได้ค่อนข้างดี
เมื่อพิจารณาถึงหลักทรัพย์หรือหุ้นที่สามารถขยายตัวออกไปก็จะเห็นว่าเป็นหุ้นที่กล่าวไว้ในช่วงต้น ๆ ก็คือหุ้นของธนาคารพาณิชย์ และกลุ่มพลังงาน ซึ่งจัดว่าเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดี หรือหุ้นบลูชิพ หุ้นเหล่านี้สามารถขยายตัวได้ดี และถึงแม้ว่าสภาพการเมือง และสภาพเศรษฐกิจจะไม่สู้ดีนัก แต่หุ้นเหล่านี้ก็จะตกต่ำไปไม่นานนัก
หุ้นพื้นฐานดี
ถึงแม้บางครั้งราคาหุ้นจะตกต่ำลงไปบ้าง ก็มีโอกาสจะฟื้นตัวขึ้นมาได้ช่วงเวลาผ่านไปสักระยะเวลาหนึ่ง นี่เป็นกฎเกณฑ์ธรรมดาของการซื้อขายหุ้น แต่เป็นไปได้ที่นักลงทุนที่เล่นหุ้น จนถึงกับหมดตัว ถ้านักลงทุนคนนั้นมีความโลภมาก อยากได้และเก็งกำไรจนสุดตัว ท้ายที่สุดก็ต้องทุนหายกำไรหดไปหมด อย่างไรก็ตามถ้าซื้อหุ้นตามสูตร ถ้าหุ้นตก เราก็ซื้อหุ้น ถ้าขึ้นเราก็ขาย เล่นหุ้นอย่างนี้โอกาสจะเจ๋งก็เป็นไปได้ยาก
ซึ่งเมื่อพิจารณาดัชนีตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน 2552 จนถึงราคาปิดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2552 จะเห็นได้ว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ราคาเฉลี่ยสูงขึ้นเรื่อย ๆ เช่น ปตท. ราคาในวันที่ 21 เมษายน 2552 เท่ากับ 176.50 บาท ราคาในวันที่ 4 สิงหาคม 2552 เท่ากับ 250 บาท หุ้น ปตท.สผ. ราคาในวันที่ 21 เมษายน 2552 เท่ากับ 100 บาท ราคาปิดในวันที่ 4 สิงหาคม 2552 เท่ากับ 141 บาท ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ราคาปิดในวันที่ 21 เมษายน 2552 เท่ากับ 9.95 บาท ราคาปิดในวันที่ 4 สิงหาคม 2552 เท่ากับ 18.80 บาท ไทยออยล์ ราคาปิด เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2552 เท่ากับ 31.50 บาท ราคาปิดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2552 เท่ากับ39.25 บาท หุ้นบ้านปู ราคาปิดเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2552 เท่ากับ 253 บาท ราคาปิดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2552 เท่ากับ 408 บาท
หุ้นที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ถือว่าเป็นหุ้นที่มีการซื้อขายดี หรือเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องสูง เป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดี หรือเป็นหุ้นบลูชิพ และเป็นหุ้นที่นักลงทุนนิยมเล่นกัน และถ้าจะลงทุนหรือซื้อขายกันในระยะเริ่มแรกก็ควรถือว่าเริ่มต้นซื้อขายหุ้นประเภทนี้เป็นปฐมฤกษ์แล้ว ถือว่าความสำเร็จจะอยู่แค่เอื้อมนี่
นักรบนอกตลาด
จำนวนผู้ชมออนไลน์ : Users Online
จำนวนผู้ชมทั้งหมด รวมทั้งหมด คน