Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
22 พฤศจิกายน 2553
 
All Blogs
 
ตอนที่ 5 (เมื่อความทรงจำเกี่ยวกับอดีตคนรักกลับมา ผม (ฉัน) จะทำยังไง)

ฮยอนจุงก้าวไปยืนข้างๆ เธอและแนะนำตัวกับแขกไม่ได้รับเชิญที่เขาไม่ค่อยจะถูกชะตาด้วยคนนั้นนัก...

“เอ่อ...สวัสดีครับ..” เขาพูดพร้อมกับโค้งคำนับเป็นการทักทายตามมารยาท

“อ๋อ...เอ่อ...สวัสดีครับ” ดองจุนทักทายเขากลับตามมารยาทเช่นกัน <ไอ้หมอนี่นะหรือ...มันไม่มีทางทำให้ฮเยจุงมีความสุขจริงๆ ได้หรอกหรือแม้แต่จะดูแลปกป้องเธอให้ดีๆ ยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำ> เขาคิดกับตัวเองขณะที่มองสำรวจเด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่ยืนอยู่ข้างๆ ฮวางโบอย่างไม่ค่อยจะสบอารมณ์....

“เอ่อ...ฉันขอพูดอะไรกับนายตามลำพังซักครู่จะได้มั้ย?” ดองจุนถามฮยอนจุงแบบจู่โจม

จนฮยอนจุงถึงกับตกใจและสับสนจนทำอะไรไม่ถูก..<ผู้ชายคนนี้มีอะไรจะพูดกับฉันกันนะ?...ให้ตายซิ...น่าโมโหชะมัด>.... “เอ่อ...โอเคฮะ” แต่สุดท้ายฮยอนจุงก็ตอบตกลงเขาไปถึงแม้จะไม่เต็มใจนัก ก่อนที่เขาจะหันไปพูดกับฮวางโบ.... “เอ่อ...พวกเราขอเวลาคุยกันเป็นการส่วนตัวซักครู่นะฮะ” ฮยอนจุงพูดกับเธออย่างอ่อนโยน

ฮวางโบได้แต่พยักหน้ารับและพยายามเรียกสติของตัวเองให้กลับมาด้วย หลังจากที่ถูกอารมณ์...ความรู้สึก...และความสับสนจู่โจมอย่างกะทันหันแบบนี้...

“งั้น...ฉันจะเข้าไปช่วยเพื่อนของเธอในครัวก็แล้วนะจ๊ะ” ฮวางโบตอบฮยอนจุง ก่อนที่จะหันหลังกลับและรีบเดินออกไปจากที่ตรงนั้นทันที เพราะเธอเองก็อยากจะหลบไปให้พ้นจากผู้ชายคนนี้...ที่ตั้งใจจะมาหาเธออยู่แล้วเหมือนกัน

และหลังจากที่ฮวางโบไปแล้ว...ดองจุนก็หันหน้ามาเผชิญหน้ากับฮยอนจุงแล้วพูดเสียงแข็งกับเขาว่า...

“ฉันขอพูดตรงประเด็นเลยแล้วกันนะ...คือว่า...ฉันอยากให้ฮเยจุงย้ายไปอยู่กับฉันมากกว่าอยู่กับนาย” ดองจุนพูดอย่างไม่อ้อนค้อม

“คุณว่าอะไรนะ?” ฮยอนจุงเลืกคิ้วขึ้นและทำหน้าเครียดขึ้นมาทันทีก่อนจะพูดออกไปด้วยความไม่พอใจ

“ฉันบอกว่า...ฉันอยากให้ฮเยจุงไปอยู่กับฉันไง....” ดองจุนพูดย้ำเสียงแข็งอีกครั้ง โดยไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น

ฮยอนจุงถึงกับส่ายหน้าและพูดสิ่งที่สะท้อนออกมาจากใจของเขาตั้งแต่ที่ได้ยินความคิดนั้นออกมาทันที... “ไม่...ไม่มีทาง” ฮยอนจุงปฏิเสธเสียงแข็งออกไปไม่แพ้กัน

ดองจุนถอนหายใจเสียงดังอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะพูดกับเขาอีก...

“อย่าทำตัวเป็นเด็กๆ ไปหน่อยเลยน่า เพราะนี่มันจะทำให้ฮเยจุงจำเรื่องต่างๆ ได้มากขึ้นถ้าเธอไปอยู่กับฉัน เพราะฉันรู้จักเธอมานานกว่านาย และฉันมั่นใจว่าฉันสามารถช่วยเธอได้มากกว่านายด้วย” ดองจุนพูดอย่างมั่นอกมั่นใจและถือดี

“ไม่..ก็บอกว่าไม่ไง” ฮยอนจุงยิ่งปฏิเสธเสียงแข็งมากขึ้นไปอีก

“พี่ฮเยจุงเขาคิดว่าผมเป็นสามีของเธอจริงๆ แล้วในตอนนี้ แล้วอีกอย่างคุณหมอเองก็เชื่อว่าเราควรจะปล่อยให้เธอหาข้อสรุปในเรื่องราวต่างๆ ได้ด้วยตัวของเธอเองมากกว่าด้วย...” ฮยอนจุงพยายามหาเหตุผลมาเข้าข้างตัวเอง

“วิธีแบบนี้เนี่ยนะ...วิธีนี้มันจะช่วยเธอได้ยังไง? มันมีแต่จะทำให้เธอหาข้อสรุปให้ตัวเองได้ช้าขึ้นซะมากกว่า” ดองจุนเองก็ไม่ยอมแพ้

และฮยอนจุงก็ส่ายหน้าออกมาอีกครั้ง... “แล้วอีกอย่าง...พี่เขาก็เพิ่งจะย้ายมาอยู่ที่นี่ด้วย...เพราะฉะนั้นยังไงเราก็ไม่ควรให้พี่เขาย้ายไปย้ายมาอยู่ดีนั่นแหละฮะ” ฮยอนจุงยังคงเถียงไม่เลิก

ดองจุนถอนหายใจแรงขึ้นเพราะความโมโห...<ไอ้เด็กนี่มัน...กำลังพยายามหาข้ออ้างเพื่อจะให้เธออยู่ที่นี่ต่อแน่ๆ> เขาคิดอย่างไม่สบอารมณ์.... “แล้วคนอย่างนายจะไปรู้อะไร?...ฉันว่าเราไปถามฮเยจุงให้รู้เรื่องไปเลยดีกว่า...ว่าเธอต้องการแบบไหนกันแน่ เพราะยังไงมันก็เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าเธอเริ่มจำฉันได้แล้วด้วย...” ดองจุนพูดเสร็จก็เดินตรงไปที่ห้องครัวทันที

-----------------------------------------------------------------------------

และขณะเดียวกัน...ทางด้านฮวางโบหลังจากเดินเข้ามาในห้องครัวเพื่อเปิดโอกาสให้ฮยอนจุงกับดองจุนได้คุยกันตามลำพังแล้วนั้น...

“เอ่อ...เธอมีอะไรให้ช่วยรึเปล่าจ๊ะ?” ฮวางโบถามโจรังที่กำลังง่วนหั่นส่วนผสมต่างๆ สำหรับทำอาหารเช้าอยู่บนเคาน์เตอร์

โจรังถึงกับสะดุ้งขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเสียงของฮวางโบดังมาจากด้านหลัง แต่เธอก็ยังสามารถรวบรวมสติและหันหน้ากลับไปเผชิญหน้ากับฮวางโบตรงๆ ได้...

“แล้ว...เอ่อ...ฮยอนจุงเขาอยู่ที่ไหนล่ะค่ะ?” โจรังถาม

“อ๋อ...เขาเหรอ...เขากำลังคุยกับใครบางคนอยู่ที่หน้าประตูนะ” ฮวางโบตอบ

“อ้อ...งั้นหรือค่ะ” โจรังตอบพร้อมกับพยักหน้ารับ ก่อนจะเลื่อนจานแครอทที่อยู่บนเคาน์เตอร์ให้กับฮวางโบ... “งั้นคุณช่วยหั่นนี่ให้ฉันหน่อยก็แล้วกันค่ะ” โจรังพูด...

ฮวางโบหยิบแครอทขึ้นมาและเริ่มหั่นมัน...พร้อมกับถามคำถามกับโจรังไปด้วย... “เอ่อ...แล้วเธอกับฮยอนจุงรู้จักกันมานานแล้วหรือจ๊ะ?” ฮวางโบรวบรวมความกล้าถามคำถามที่มันคั่งค้างอยู่ในใจของเธอ

“ก็ตั้งแต่อยู่ไฮสคูลแล้วมั่งค่ะ” โจรังตอบก่อนจะนิ่งไปพักนึง... “แล้วที่จริงฉันคิดว่าฉันน่าจะเป็นจูบแรกของเขาด้วยนะ....เพราะฉันหลงรักเขาตั้งแต่ตอนที่เราอยู่ไฮสคูล และอีกอย่างฉันก็เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง เพราะฉะนั้น..ฉันก็เลย...อ๊ายยย!!~...ก็เลยเป็นฝ่ายจู่โจมจูบเขาก่อนนะค่ะ...” โจรังพูดไปหัวเราะไป พร้อมกับสังเกตปฏิกิริยาของฮวางโบที่มีต่อเรื่องนี้ไปด้วย

ฮวางโบถึงกับหยุดมือที่กำลังหั่นแครอททันที และจ้องไปที่โจรังเมื่อได้ยินอย่างนั้น แต่หลังจากนั้นเธอก็เริ่มหั่นแครอทใหม่และแกล้งหัวเราะออกมาเพื่อกลบเกลื่อนความไม่สบายใจของตัวเอง....

“โอ้!!~...จริงหรือจ๊ะ?” เธอพยายามบังคับน้ำเสียงให้เป็นปกติ

“ใช่ค่ะ...แต่บางที...ตอนนี้เขาอาจจะจำเรื่องนั้นไม่ได้แล้ว...ก็ได้มั่งค่ะ” โจรังพูดทีเล่นทีจริง

ฮวางโบเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็พยายามเปลี่ยนเรื่องพูดกับโจรังทันที ในขณะที่...ในเวลาเดียวกันดองจุนก็เดินเข้ามาถึงในห้องครัวนั้นพอดี และนั่นก็ทำให้ฮวางโบถึงกับตกใจจนต้องเดินถอยหนีเขาอย่างอัตโนมัติ...เธอไม่ชอบความรู้สึกแบบที่เธอเป็นอยู่ตอนนี้เลยจริงๆ ความรู้สึกบางอย่างที่เกิดขึ้นตอนที่ดองจุนมาอยู่รอบๆ ตัวเธอ เพราะเธอ...ยังไงก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่มีสามีแล้ว และเธอก็ไม่สามารถทำให้สามีของเธอต้องเสียใจเพราะเรื่องแบบนี้ได้ แต่แล้วซักพัก...ฮยอนจุงก็เดินตามเข้ามาสมทบและเดินไปอยู่ในส่วนที่เป็นบริเวณของเคาน์เตอร์ในห้องครัวนั้น...ส่วนดองจุนก็มองตามหลังฮยอนจุงไปด้วยสายตาที่ไม่ค่อยจะสบอารมณ์ ก่อนที่จะทำให้ตัวเองมั่นใจว่าไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้อีกต่อไปในเวลานี้ และเขาก็เริ่มพูดอะไรบางอย่างกับฮวางโบ…

“เอ่อ...ฮเยจุง...” ดองจุนเรียกชื่อเธอก่อนหยุดชะงักไป....<อะไรคือทางออกที่ดีที่สุดที่ฉันควรจะทำเกี่ยวกับเรื่องนี้กันแน่นะ? เธอยังอยู่ในอารมณ์ที่อ่อนไหวและเปราะบางมากอยู่เลย เพราะฉะนั้นฉันถึงพูดในสิ่งที่อยากพูดกับเธอไม่ได้....ฉันอยากจะบอกเธอใจแทบขาดจริงๆ นะว่าไอ้เด็กคนนี้มันไม่ใช่...ไม่ซิ...ไม่เคยเป็นสามีของเธอเลยซ้ำ...แต่ถึงฉันอยากจะบอกเธอมากแค่ไหนแต่ฉันก็คงบอกกับเธอตอนนี้ไม่ได้อยู่ดีใช่มั้ย...ฮเยจุง...?> เขาคิดขณะที่มองหน้าเธอ และเขาก็ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นขณะที่พยายามหาวิธีที่ดีที่สุดที่จะถามเธอ แล้วช่วงเวลาที่ทุกอย่างในห้องนั้นตกอยู่ในความเงียบมันก็ทำให้ฮวางโบถึงกับเครียดจนต้องกระชับมีดที่อยู่ในมือของตัวเองให้แน่นขึ้นไปอีก...ส่วนฮยอนจุงก็กำลังกังวลกับคำถามและคำตอบที่กำลังจะเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว...แต่เขารู้ว่าทั้งหมดมันขึ้นอยู่ฮวางโบเพียงคนเดียวเท่านั้นว่าเธอจะตัดสินใจอย่างไร...และส่วนโจรังก็กำลังแปลกใจกับสีหน้าและท่าทางแปลกๆ ของทุกคนที่อยู่ในห้องนั้นด้วย...แต่สุดท้ายดองจุนก็เอ่ยปากพูดกับฮวางโบต่อ....

“ฮเยจุง...ฉันไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้เลยว่าฉันมีความสุขมากแค่ไหนตอนที่เธอเป็นคนมาเปิดประตู และก็...จำฉันได้ในทันทีในตอนนั้นน่ะ และเธอจำได้ใช่ไหมว่าฉันพูดอะไรกับเธอไปก่อนหน้านี้...ที่ฉันบอกเธอว่าเหตุผลเดียวที่ทำให้เธอจำฉันได้ มันเป็นเพราะว่าเรามีความทรงจำหลายอย่างร่วมกันมานานนะ...ใช่...มันถูกต้องที่สุด....เพราะเราเคยคบกัน...ตั้ง 8 ปีนิ...” ดองจุนพูดกับเธอ และนั่นก็ทำให้โจรังที่ยืนฟังอยู่ด้วยถึงกับตกใจจนอ้าปากค้าง ส่วนฮวางโบก็รีบหันหน้าไปมองฮยอนจุงทันทีเพื่อดูว่าเขาจะมีปฏิกิริยายังไงกับเรื่องนี้ แต่เขากลับหันหน้ามองไปทางอื่นและทำสีหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่....

“แล้วเอ่อ...ที่ฉันกำลังพยายามจะบอกเธอก็คือ...ฉันคิดว่ามันน่าจะดีกว่าถ้าเธอ...จะย้ายไปอยู่กับฉัน...ชั่วคราวนะ...เพราะว่า...ฉันคิดว่ามันน่าจะช่วยให้ความทรงจำของเธอมันกลับมาได้เร็วขึ้น....” ดองจุงพยายามหาข้ออ้างมาพูดกับเธอ

แต่ฮวางโบกลับตกใจจนเผลอทำมีดที่อยู่ในมือหลุดมือ แล้วหลังจากที่เธอเรียกสติของตัวกลับมาได้นิดหน่อยเธอก็พูดขึ้นมาบ้าง...

“แต่...แต่ฉันแต่งงานแล้วนะ เพราะฉะนั้นมันน่าจะดีที่สุดถ้าฉันจะอยู่กับสามีของฉันซิ..” ฮวางโบพูดเสียงแข็งและยืนกรานอย่างหนักแน่น

ดองจุนถึงกับถอนหายใจออกมาพร้อมกับส่ายหน้าอย่างผิดหวังเมื่อได้ยินเธอพูดแบบนั้น...<แต่..ความทรงจำทั้งหมดของเธอมันอยู่ที่ฉันนะ> เขาได้แต่คิดถึงแม้ว่าอยากจะตะโกนบอกกับเธอมากแค่ไหนก็ตาม...

“มันก็ใช่....แต่ว่า...ถึงยังไงฉันก็รู้จักเธอมานานกว่าเขานะ...และฉันก็คิดว่าวิธีนี้มันจะทำให้ความทรงจำของเธอยิ่งกลับมาเร็วขึ้นด้วย” ดองจุนยังคงพยายามโน้มน้าวเธอ

ฮวางโบหันไปมองที่ฮยอนจุงอีกครั้ง....<ทำไมเขาถึงดูไม่ตื่นเต้นอะไรเลยนะ? เขาไม่สนใจบ้างเลยหรือไงว่าตอนนี้กำลังมีชายอื่นมาพรากฉันไปจากเขาอยู่นะ?> เธอได้แต่คิดอย่างน้อยใจขณะที่มองไปที่เขาด้วยสายตาที่ผิดหวัง

ฮยอนจุงรับรู้และรู้สึกได้ถึงสายตาของฮวางโบที่จับจ้องมาที่เขา เพราะอย่างนั้นเขาจึงได้ตัดสินใจว่ามันถึงเวลาแล้วที่เขาควรจะพูดอะไรขึ้นมาบ้าง....

“แต่...ยังไงเธอก็เป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้วนะฮะ...เพราะฉะนั้น...มันคงดูไม่เหมาะถ้าเธอจะย้ายไปอยู่กับชายอื่นที่ไม่ใชสามีตัวเอง และอีกอย่างดูเหมือนว่าคุณหมอเองก็คิดว่าความทรงจำของเธอก็กำลังจะกลับมาเองในไม่ช้านี้ด้วย เพราะฉะนั้น...มันน่าจะดีที่สุดถ้าปล่อยให้ความทรงจำของเธอค่อยๆ กลับมาเอง...” ฮยอนจุงพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ในใจกลับแฝงไปด้วยความหงุดหงิด จนไม่สนใจใครบางคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วย

และใครคนนั้นก็คือ...โจรัง...นั่นเอง...เธอกำลังยืนจ้องเขม็งไปที่ฮยอนจุงด้วยสายตาโกรธๆ....<ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้แต่งงานกับเธอจริงๆ ซะหน่อยนะ!!> เธอพูดสวนเขาด้วยสายตาทันที แต่มันไม่สามารถพูดออกมาเป็นคำพูดได้...

“เอ่อ....เดี๋ยวนะค่ะหนุ่มๆ...ฉันไม่อยากจะขัดจังหวะพวกคุณหรอกนะค่ะ แต่ว่าที่คุณคนนี้พูดมามันก็ถูกนะค่ะ...เอ่อ...ฉันหมายถึง...คุณคนนี้เขาน่าจะรู้จักคุณฮวางโบดีกว่าฮยอนจุงนะ...เพราะเขาเคยคบกับคุณฮวางโบมาตั้ง 8 ปี แต่..เอ่อ...สำหรับฮยอนจุง...คุณฮวางโบเพิ่งจะ...แต่งงานกับ...เอ่อ...เขา...ได้ไม่ถึงปีเลย” โจรังพูดขึ้นด้วยท่าทางลำบากใจ

แต่ฮวางโบไม่สนใจ...เธอเดินตรงเข้าไปหาฮยอนจุงและยืนใกล้ๆ เขาทันที... “ไม่อ่ะ...ฉันจะอยู่กับสามีของฉัน” เธอพูดยืนกรานอย่างหนักแน่น

ฮยอนจุงแอบอมยิ้มอย่างพอใจขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินอย่างนั้น...และรอยยิ้มนั้นมันก็เป็นรอยยิ้มที่แทบจะไม่มีใครสังเกตเห็นเลยแม้แต่ตัวโจรังที่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยก็ตาม....ส่วนโจรังหลังจากฟังฮวางโบยืนกรานแบบนั้นก็หยิบแครอทขึ้นมาหั่นอย่างกระแทกกระทันด้วยความไม่พอใจทันที.... “งั้นก็ดี...ดีมากกก....แล้ว...คุณน่ะ...จะอยู่ทานอาหารเช้าด้วยกันกับเรามั้ยค่ะ?” โจรังพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันอย่างไม่สบอารมณ์

“อ๋อ...เอ่อ...ไม่ล่ะครับ...ขอบคุณที่ชวนครับ” ดองจุนตอบ ก่อนจะหันไปพูดกับฮวางโบอีกครั้ง.... “ถ้าเธอคิดว่านั่นดีที่สุดสำหรับเธอ..ขอแค่...ให้เธอรู้เอาไว้นะว่าฉันจะอยู่ที่นี่เสมอถ้าเมื่อไหร่ที่เธอต้องการฉัน...จำเอาไว้นะฮเยจุง” เขาพูดกับเธออย่างอ่อนโยนก่อนจะฝืนใจเดินออกจากห้องครัวนั้นไปอย่างช้าๆ และทิ้งฮวางโบที่เขาห่วงเอาไว้ข้างหลัง...<แล้วฉันจะกลับมาหาเธออีก...> เขาคิดกับตัวเองก่อนจะเดินออกจากอพาร์ทเมนท์ของฮยอนจุงไป

--------------------------------------------------------------------------

และหลังจากที่ทานอาหารเช้าด้วยกันและโจรังก็กลับไปแล้ว...ฮวางโบก็ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาและถอนหายใจออกมาอย่างแรงทันที....

“เฮ้อออ....วันแรกที่กลับมาบ้านทำไมมันถึงได้เหนื่อยแบบนี้นะ จนฉันคิดว่าฉันน่าจะอยู่ที่โรงพยาบาลดีกว่า เพราะอย่างน้อยฉันก็รู้สึกผ่อนคลายมากกว่าเมื่ออยู่ที่นั้นอ่ะ” เธอบ่นออกมาอย่างเหนื่อยล้า

ฮยอนจุงได้แต่ยิ้มก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวนั้นเช่นกัน...

“ก็มันเป็นเพราะใครกันล่ะฮะ? เพราะคุณเองไม่ใช่หรือที่อยากตื่นแต่เช้าแล้วลุกขึ้นมาทำอาหารแบบนี้แถมเมื่อกี้ยังจะไปล้างจานอีก...ผมก็พยายามบอกคุณแล้วให้คุณไปพักผ่อน แต่คุณเองนั่นแหละที่ไม่ยอมฟังผมเลยยยย...” ฮยอนจุงแกล้งบ่นเธอกลับเช่นกัน

“แล้วมันผิดด้วยหรือที่ภรรยาอย่างฉันจะพยายามทำให้คุณสามีของตัวเองประทับใจน่ะ?” ฮวางโบพูดพร้อมกับก้มหน้ายิ้มด้วยความเขินอาย

“ฮ่าฮ่า...ไม่ผิดหรอกฮะ” ฮยอนจุงพูดพร้อมกับยิ้มเขินแข่งกับเธอไปด้วย

“งั้นที่นี่...ให้ผมนวดเท้าให้คุณภรรยาเป็นการตอบแทนนะฮะ” เขาพูดพร้อมกับยื่นมือไปดึงเท้าของเธอมาวางบนตักของตัวเอง

ฮวางโบรู้สึกเหมือนกับว่าเหตุการณ์แบบนี้มันเคยเกิดขึ้นกับเธอมาก่อน เธอพยายามจะขัดขืนเขาแต่ก็ไม่ทันซะแล้ว เพราะฮยอนจุงเริ่มลงมือนวดเท้าให้ไปแล้ว ก่อนที่เธอจะพูดห้ามหรือดึงเท้าของตัวเองกลับมาซะอีก และตอนนี้หัวใจของเธอกำลังเต้นระรัวอย่างแปลกประหลาด...และเธอก็เริ่มหัวเราะราวกับคนบ้าไม่มีผิดเพี้ยน....

“นี่...เธอรู้มั้ย....จากมุมมองที่ฉันเห็นอยู่ตอนนี้....ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าเราสองคนกลับมาเป็นคู่ข้าวใหม่ปลามันกันอีกครั้งเลยนะ...อิอิ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงสดใสและเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข

<ฮ่าฮ่า....ผมก็คิดเหมือนกันฮะ> เขาคิดแล้วก้มหน้ายิ้มกริ่มอยู่คนเดียว... “แล้วมันดีมั้ยล่ะฮะ...เราคิดซะว่านี้ถือเป็นประสบการณ์ที่ทำให้ชีวิตแต่งงานของเรามีสีสันและรสชาติมากขึ้นดีมั้ยฮะ” ฮยอนจุงพูดติดตลกกับเธอ

ฮวางโบหัวเราะร่วนพร้อมกับยกมือขึ้นตีเขาและเตะขาไปมาเบาๆ ส่วนฮยอนจุงก็หัวเราะออกมาพร้อมกับเธอเช่นกันและพยายามจับข้อเท้าของเธอให้อยู่นิ่งๆ....

“แต่ฉันว่า...ชีวิตแต่งงานของเราคงไม่จำเป็นต้องมีสีสันและรสชาติขนาดนั้นก็ได้มั่ง” ฮวางโบบ่นพึมพำออกมาเบาๆ

“เฮ้อออ...คุณรู้ได้ไงฮะ? คุณยังจำอะไรไม่ได้ด้วยซ้ำ” ฮยอนจุงแกล้งทำเสียงดุเธอ

แล้วนั่นก็ทำให้เธอหัวเราะออกมาอีก... “นี่!!~” เธออุทานออกมาพร้อมกับเริ่มเตะขาไปมาอีกครั้ง... “ฮยอนจุง...เธอคงไม่ได้ทึกทักอะไรเอาเองเพื่อหาเรื่องช่วยภรรยาที่กำลังป่วยของเธออยู่หรอกนะ แต่...แค่เธอสนใจแล้วมาบ่นฉันด้วยเรื่องพวกนี้แล้วล่ะก็ ขอบอกไว้เลยนะว่ามันไม่ช่วยอะไรหรอกน่า...” เธอพูด

“มันต้องช่วยได้ซิฮะ คุณอย่าลืมซิฮะว่าคุณกำลังความจำเสื่อมอยู่นะ เพราะฉะนั้นอย่าพยายามทำอะไรอีกเลย ปล่อยให้ผมได้ช่วยคุณบ้างเถอะนะฮะ” ฮยอนจุงพูดกับเธออย่างอ่อนโยน

“ชิส์....เธอรู้มั้ย...คิมฮยอนจุง...ว่ากำลังพูดเรื่องที่น่าหัวเราะที่สุดในโลกเลยนะ” ฮวางโบพูด แต่ก็อดปลื้มกับสิ่งที่เขาพูดไม่ได้

“แต่...เพื่อนของเธอนะ....” ฮวางโบเริ่มเอ่ยเรื่องที่ค้างคาใจเธออยู่มาตลอดทั้งวัน

“ใครหรือฮะ? โจรังหรือ?” ฮยอนจุงถามเธออย่างสงสัย

“อืมมมม” ฮวางโบตอบ

“ทำไมฮะ...โจรังทำอะไรงั้นหรือ?” เขาถามเธอ

“คือ...ฉันคิดว่า...เขาชอบเธอน่ะ” ฮวางโบพูดด้วยความอึดอัดใจ

ฮยอนจุงนิ่งไปพักนึงก่อนจะก้มหน้าลงแล้วลงมือนวดเท้าให้ฮวางโบต่อ...

“แล้วอะไรทำให้คุณคิดอย่างนั้นล่ะฮะ?” ฮยอนจุงถามเธอ

“อืมม..ก็...เขาคอยส่งสายตามองเธอตลอดตอนที่เราอยู่ที่โต๊ะกินข้าวด้วยกันเมื่อเช้านี้ไง แล้ว...เขา...ยังบอกฉันด้วยว่าเขาเคยจูบกับเธอตอนที่พวกเธอเรียนอยู่ไฮสคูลด้วยกันนะ...แล้วนี่...เธอพอจะจำเรื่องพวกนี้ได้บ้างมั้ยจ๊ะ?” ฮวางโบถามเขาอย่างไม่สบายใจ

ฮยอนจุงเงยหน้าขึ้นมองพร้อมกับนึกย้อนไปถึงความหลัง...

“อืมม...จำได้สิฮะ...ก็โจรังเขาเป็นจูบแรกของผมนี่ฮะ แล้วคุณจำจูบแรกของคุณได้รึเปล่าฮะ? โอ้...ใช่ผมลืมไป...ว่าคุณความจำเสื่อมอยู่นี่น่า...ฮ่าฮ่า” เขาพูดแหย่เธออีกแล้ว และฮวางโบเองหัวเราะออกมาเสียงดังและตีเขาเบาๆ อีกครั้ง...

“หยุดเลยนะ!!~” เธอทำเป็นถลึงตาใส่เขาและตัดสินใจแก้เผ็ดฮยอนจุงให้รู้สำนึกซะบ้าง “แต่...ฉันมั่นใจว่าจูบแรกของฉันต้องเป็นดองจุนแน่ๆ...” เธอแกล้งพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

ฮยอนจุงถึงกับอึ้งไปเลยเมื่อได้ยินเธอพูดแบบนั้น และมันทำให้ฮวางโบรู้สึกพอใจไปด้วยที่เห็นท่าทางของเขาเปลี่ยนไปกระทันหันแบบนี้...<นี่คือสิ่งที่เธอสมควรจะได้รับแล้วล่ะ...คิมฮยอนจุง> เธอคิดอย่างซะใจ และท่าทางของเขาแบบนี้ก็ทำให้เธอรู้สึกพอใจมาก จนกระทั่งเขาเผลอนวดเท้าเธอแรงไปโดยไม่รู้ตัวจนทำให้เธอรู้สึกเจ็บ... “โอ๊ยยย!!~” ฮวางโบร้องตะโกนออกมาพร้อมกับชักเท้ากลับอย่างอัตโนมัติทันทีเพราะความเจ็บ

ฮยอนจุงสะดุ้งตื่นจากภวังค์และเงยหน้าขึ้นมองเธอทันที... “โอ๊ะ...ผมขอโทษฮะ...คุณเจ็บมากรึเปล่าฮะ” เขาถามเธอด้วยความห่วงใย

“ไม่จ๊ะ..ไม่เป็นไร” ฮวางโบตอบพร้อมส่งยิ้มอันอ่อนโยนให้กับเขา... “แล้ว...เอ่อ...การที่ฉันพูดถึงดองจุน...มันทำให้เธอหงุดหงิดมากอย่างงั้นหรือ...” ฮวางโบถามเขา

“ไม่ฮะ...ไม่...เพียงแต่...คุณมีตาปลาอันเบ้อเริ่มอยู่ที่นิ้วเท้าของคุณต่างหากล่ะฮะ” ฮยอนจุงทำเป็นเฉไฉและแกล้งพูดแหย่เธอแทน

“นี่!!~” ฮวางโบอุทานออกมาพร้อมกับยกมือขึ้นตีเขาอีกครั้ง และนั่นก็ทำให้ฮยอนจุงหัวเราะออกมาอย่างมีความสุขหลังจากที่ได้แกล้งแหย่เธอเล่นจนสำเร็จอย่างสวยงามอีกครั้ง...

<คุณนี่ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย....ว่ายิ่งคุณตอบสนองกลับมาแบบนี้มาเท่าไหร่...มันก็ยิ่งทำให้ผมสนุกที่ได้แกล้งคุณนะรู้ตัวมั้ยฮะ?> ฮยอนจุงคิดขณะที่มองเธออย่างสุขใจ ในขณะที่เธอกำลังทำหน้ามุ่ยเพื่อตรวจดูเท้าของเธอเพื่อให้แน่ใจว่าเท้าของเธอไม่ได้มีตาปลาอยู่จริงๆ อย่างที่เขาพูดแน่ๆ แต่แล้วจู่ๆ ฮยอนจุงก็พูดอะไรบางอย่างขึ้นมา....

“แต่ว่า..ผมถามคุณจริงๆ นะฮะ...ว่าคุณ...เอ่อ...คุณจำเรื่องของผู้ชายคนนั้นได้มากน้อยแค่ไหนหรือฮะ?” สุดท้ายเขาก็ถามในสิ่งที่ค้างคาใจเขามาทั้งวันกับเธอ

“อืมมม...จริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้มากมายอะไรนักหรอก...มันก็เป็นแค่...ความรู้สึกเท่านั้นเองอ่ะ” เธอตอบพร้อมกับยักไหล่ให้เขาแบบชิวๆ

แต่นั่นกลับยิ่งทำให้ฮยอนจุงถลึงตาใส่เธออย่างหงุดหงิดก่อนจะถามเธอกลับไป.... “ความรู้สึก...ความรู้สึกอะไร...แบบไหนกันฮะ?” เขาถามเธอด้วยน้ำเสียงแข็งทันที

ฮวางโบได้แต่มองหน้าฮยอนจุงก่อนจะตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องคุยกับเขา....

“ว่าแต่ว่า...เธอคงไม่อยากเป็นสามีที่ไม่เอาไหน เพราะปล่อยให้ภรรยาที่กำลังป่วยของตัวเองทำงานหนักมากเกินไปหรอกใช่มั้ยล่ะ...เพราะฉะนั้นตอนนี้เธอช่วยไปล้างจานให้ฉันหน่อยซิจ๊ะ...นะ...นะ...ฮยอนจุง” เธอพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

แต่ฮยอนจุงกลับยิ่งรู้สึกหงุดหงิดเพราะเขารู้ว่าฮวางโบกำลังพยายามเฉไฉเปลี่ยนเรื่องเพื่อที่จะได้ไม่ต้องตอบคำถามเขาอยู่...

“ไม่เอาฮะ...ผมว่าเรามาเล่นเกมส์เป่ายิงฉุบตัดสินกันดีกว่าว่าใครจะเป็นคนไปล้างจาน...” ฮยอนจุงพูดแก้เผ็ดเธอ เพราะเขาไม่อยากยอมแพ้เธอง่ายๆ

“โอเค...เอางั้นก็ได้” ฮวางโบตอบเขาอย่างกระตือรือร้น

“คอยดูนะ...ผมจะต้องทำให้คุณไปล้างจานจนเมื่อเปื่อยให้ได้เลยคอยดู” ฮยอนจุงพูดอย่างเอาจริงเอาจัง จนฮวางโบถึงต้องหัวเราะออกมากับท่าทางของเขา....

“ทำไมเวลาเธอพูดต้องทำท่าทางน่ากลัวแบบนั้นด้วยล่ะ?” ฮวางโบอดที่ถามเขาไม่ได้ทั้งๆ ที่เธอยังหัวเราะไม่ยอมหยุด

“เป่า...ยิง...ฉุบ!!” ฮยอนจุงพูดจู่โจมเธอ แต่สุดท้ายฮวางโบก็เป็นฝ่ายที่ได้หัวเราะอย่างผู้มีชัย

“ต้อง 2 ใน 3 ซิฮะ!!” ฮยอนจุงพูด “เป่า...ยิง...ฉุบ!!” เขาจู่โจมเธออีก และคราวนี้ฮยอนจุงเป็นฝ่ายที่ได้ยิ้มออกมาบ้าง เพราะเขาเป็นฝ่ายชนะเธอ

“ผมหวังว่านิ้วของคุณมันคงจะไม่เป็นตะคริวไปซะก่อนนะฮะ” ฮยอนจุงแหย่เธอ

“เป่า...ยิง...ฉุบ!!” และแล้วนัดนี้ฮวางโบก็ฝ่ายพ่ายแพ้เขาอีกครั้ง... “ทำไมฉันถึงได้รู้สึกคุ้นเคยกับความรู้สีแบบนี้นักนะ?” ฮวางโบพูดอย่างเซ็งๆ

“ฮ่าฮ่า...เพราะมันเป็นเรื่องยากที่คุณจะเอาชนะสามีของคุณอยู่แล้วไงฮะ” เขาพูดพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างมีความสุข หลังจากที่ได้เอาชนะเธอได้

ฮวางโบหัวเราะออกมาเสียงดังทันทีหลังจากที่ได้ยินคำตอบของเขา...<ฮ่าฮ่า...การที่ต้องมาใช้ชีวิตอยู่กับเจ้าบ่าวเด็กอย่างเขาเนี่ยมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ จริงๆ เลยนะ..แล้วทำไมเขาถึงชอบทำให้ฉันสับสนอยู่เรื่อยเลย?> เธอได้แต่คิดกับตัวเอง ก่อนจะบ่นพึมพำออก “ไม่...ไม่เป็นไร เรื่องแค่นี้เอง...สบายมาก”

-------------------------------------------------------------------

แล้วหลังจากที่ล้างจานเรียบร้อยแล้ว ฮวางโบก็ล้มต้วลงนั่งข้างๆ ฮยอนจุงที่กำลังก้มหน้าก้มตาอ่านการ์ตูนของตัวเองอยู่บนโซฟาแบบไม่สนใจใครอีกครั้ง และตอนนี้เธอก็นั่งใกล้เขามากซะจนเธอรู้สึกได้ถึงไออุ่นที่ออกมาจากตัวเขาเลย ในขณะที่ฮยอนจุงกลับตัวแข็งทื่อจนทำอะไรไม่ถูกและได้แต่อ่านข้อความในหนังสือการ์ตูนของตัวเองในประโยคเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมาเพราะความเขินโดยไม่รู้ตัว

“ชิลลาง~ แล้วไหนเอนเตอร์เทรนเนอร์สำหรับฉันล่ะ” เธอเสียงอ่อนเสียงหวานกับเขา

“อืมมม...นี่ฮะ....ลองอ่านนี่ดูซิฮะ” เขาพูดพร้อมกับหยิบหนังสือการ์ตูนเล่มหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะรับแขกให้กับเธอ

ฮวางโบเปิดการ์ตูนเล่มนั้นดูผ่านๆ ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า....

“นี่...ถึงฉันจะความจำเสื่อม...แต่ฉันแน่ใจเลยนะว่าฉันไม่ได้ชอบอ่านอะไรประเภทนี้อ่ะ” เธอพูดกับเขาอย่างมั่นใจ

ฮยอนจุงหันหน้าไปมองเธอก่อนจะแกล้งทำสีหน้าเคร่งครึมใส่เธอ.... “งั้น...ตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณแกล้งทำเป็นชอบพวกมันต่อหน้าผมซินะฮะ?” ฮยอนจุงแกล้งทำเสียงเข้มใส่เธอ

ฮวางโบถึงกับหน้าถอดสีทันทีเมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้น.... “อะไรนะ? เธอว่าฉันแกล้งทำเป็นชอบพวกมันต่อหน้าเธองั้นหรือ? เดี๋ยวนะ...รอเดี๋ยวก่อน...บางที...บาทีฉันอาจจะชอบพวกมันจริงๆ ก็ได้นะ...ขอเวลาให้ฉันลองอ่านพวกมันแป๊บนึงนะ” ฮวางโบพูดด้วยเสียงสั่นเครืออย่างลุกลี้ลุกล้นเพราะกลัวว่าฮยอนจุงจะโกรธเธอจริงๆ

ฮยอนจุงถึงกับยิ้มพอใจออกมาทันที ขณะที่มองความน่ารักของเธอที่กำลังพยายามอ่านการ์ตูนของเขาอย่างลุกลี้ลุกล้น เพียงเพื่อต้องการจะยืนยันกับเขาให้ได้ว่าเธอชอบอ่านพวกมันจริงๆ ไม่ได้แกล้งทำเฉพาะอยู่ต่อหน้าเขาเท่านั้น แล้วเขาก็เริ่มทำสีหน้าเคร่งครึมอีกครั้งเพื่อแกล้งเธอต่อ...

“เฮ้ออออ!!~ ดูคุณทำเข้าซิ....คุณอย่ามาแกล้งทำเป็นชอบพวกมันต่อหน้าผมอีกเลยน่า” เขาพูดพร้อมกับแกล้งถอนหายใจออกมาแรงๆ

“เพราะยังไงไม่ช้าก็เร็วความจริงมันก็ต้องถูกเปิดเผยออกมาอยู่ดีว่าคุณไม่ได้ชอบอ่านพวกมันจริงๆ” เขาพูดพร้อมกับแกล้งทำสีหน้าเคร่งครึมต่อไป

“ไม่นะ...ไม่...ฮยอนจุง...ฉัน...ฉันคิดว่าพวกมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรอย่างที่ฉันคิดหรอก...แล้ว...แล้วฉันก็ไม่คิดว่าฉันจะแกล้งทำเป็นชอบพวกมันต่อหน้าเธอด้วย...จริงๆ นะ ฮยอนจุง” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือราวกับจะร้องไห้

ฮยอนจุงถึงกับยิ้มกว้างออกมาอีกครั้ง... “ฮ่าฮ่า...ผมแค่ล้อคุณเล่นนะฮะ ความจริงคุณไม่เคยชอบการ์ตูนของผมเลย...ฮ่าฮ่า” เขาพูดไปหัวเราะไปอย่างมีความสุข ที่ได้แกล้งเธอสำเร็จอีกครั้ง

ฮวางโบยิ้มพร้อมกับตีที่แขนของเขาอย่างแรง... “คนบ้า...เธอรู้รึเปล่าว่าฉันกังวลกับเรื่องนี้มากแค่ไหนอ่ะ? เพราะฉันคิดว่าฉันกำลังโกหกเธออยู่!! เธอรู้อะไรมั้ย...ฉันเกลียดที่สุดคือการโกหก เพราะการโกหกเรื่องเล็กๆ มันอาจจะนำไปสู่การโกหกที่ใหญ่โตกว่านี้ได้ และมันก็อาจจะนำไปสู่ความเข้าใจผิดที่ร้ายแรงตามไปด้วย และนั่นมันไม่ดีเลย...เพราะฉะนั้นมันจะดีที่สุดถ้าเราจะไม่โกหกกัน”

ฮยอนจุงถึงกับอึ้งและคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด...เขาเองก็ไม่ได้พูดความจริงกับเธอ และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาอีกแล้ว....

“คุณอยากเล่นเกมส์เป่ายิงฉุบอีกมั้ยฮะ...คราวนี้มาดูกันว่าใครจะเป็นคนทำอาหารเย็นกัน?” เขาชวนเธอเล่นเกมส์เพื่อเปลี่ยนเรื่อง

และสุดท้าย...ฮยอนจุงก็เป็นพ่ายแพ้ และนั่นส่งผลทำให้อาหารเย็นในวันนั้นของพวกเขา...เป็นบะหมี่สำเร็จรูปฝีมือฮยอนจุงนั่นเอง พวกเขาใช้เวลาพักผ่อนอยู่ด้วยกันทั้งวันโดยมีคำถามของฮวางโบที่คอยถามฮยอนจุงอยู่ตลอดเวลาเกี่ยวกับเรื่องชีวิตการแต่งงานของพวกเขาก่อนหน้าที่เธอจะประสบอุบัติเหตุว่าเป็นยังไงบ้าง ฮยอนจุงได้แต่ตอบคำถามเธอแบบจริงครึ่งไม่ครึ่ง และพยายามหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามทั้งหมดของเธอ และพวกเขายังได้รับโทรศัพท์จากแม่ของฮวางโบ...คนที่กำลังดีใจสุดๆ ที่ได้ยินเสียงของฮวางโบดูมีความสุขอยู่ในตอนนี้ และยังเพื่อนสนิททั้งหลายแหล่ที่พากันหัวเราะและแสดงความยินดีกับการแต่งงานของพวกเขาทั้งคู่อีก...

“ทำไมพวกเขาถึงได้มาแสดงความยินดีกับพวกเราเอาป่านนี้นะ?” ฮวางโบถามขึ้นอย่างสงสัย หลังจากที่วางสายจากเบบี้...น้องเขยของเธอแล้ว

“อย่าไปใส่ใจคนพวกนั้นเลยฮะ...โดยเฉพาะเจ้าคนสุดท้ายที่โทรมานั่นน่ะ...เพราะหมอนี่นอกจากจะเกิดช้ากว่าคนอื่นแล้ว ยังทำอะไรช้ากว่าคนอื่นด้วย” ฮยอนจุงตอบ และนั่นก็ทำให้ฮวางโบหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินคำตอบของเขา แล้วหลังจากนั้นพวกเขาก็แยกย้ายไปทำธุระส่วนตัวของตัวเอง....และในขณะที่ฮวางโบกำลังอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวจะนอนนั้น...จู่ๆ เธอก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้... <เอ๊ะ...เดี๋ยวนะ!!~ นี่เขาคงไม่ได้..คิดจะ...ฉัน...กับ...เขา...ในคืนนี้หรอกนะ? อ๊ายยย....คงไม่มั่ง....เขาคงไม่ทำแบบนั้นหรอก!! แต่...พวกเราแต่งงานกันแล้วนี่ แล้วถ้าเกิดเขาจะ...แบบนั้นขึ้นมาจริงๆ...อ๊ายยย...มันก็เหมือนกับเป็นคืนแรกที่เราแต่งงานกันนะซิ...เพราะฉันจำคืนแรกที่เราแต่งงานกันไม่ได้จริงๆ...แล้วนี่...ฉันจะทำยังไงดีล่ะ....> เธอคิดอย่างกระวนกระวายก่อนที่จะก้าวเท้าออกจากห้องน้ำในชุดนอนแบบที่น่ารักๆ ของเธอ และเมื่อเธอเดินไปที่ห้องนั่งเล่น...ก็ปรากฏว่าฮยอนจุงไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว เธอเดินไปที่ห้องครัว...เขาก็ไม่อยู่ที่นั่นอีกเช่นกัน และแน่นอนว่าเขาคงไม่ได้อยู่ในห้องน้ำด้วย...เพราะฉะนั้น...ฮวางโบตกใจจนอ้าปากค้าง....<นี่เขาต้องอยู่ในห้องนอนแน่ๆ!! แล้วนี่ฉันจะทำยังไงดีล่ะเนี่ยทีนี้? ฉันจะทำยังไงดีนะ? ฉันยังไม่พร้อมจริงๆ นะ! ToT!> เธอคิดอย่างกระวนกระวายขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่จะก้มลงมองที่ชุดนอนของตัวเอง....<ชุดนอนนี่มันก็น่ารักดีอยู่หรอกนะ...แต่....เขาชอบแบบน่ารักหรือแบบเซ็กซี่มากกว่ากันล่ะ?> เธอคิดพร้อมกับยกมือขึ้นเกาหัวตัวเองอย่างเซ็งๆ....<อ๊ายยย!!~ ฉันอยากจะบ้าตาย!!> เธอบ่นกับตัวเองในขณะที่หันหลังและกำลังจะเดินไปที่ห้องน้ำอีกครั้งเพื่อเปลี่ยนชุดนอนที่แตกต่างไปจากนี้ แต่แล้ว...เสียงของฮยอนจุงก็ดังขึ้นมาจากในห้องนอน...

“บูอินฮะ....มาในนี้เร็วฮะ!!” ฮยอนจุงตะโกนเรียกเธอ...และนั่นก็ทำให้หัวใจของฮวางโบแทบจะหยุดเต้นก่อนจะกลับมาเต็นเร็วเป็นสองเท่าด้วยความตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก

<อ๊ายย!!...ฉันจะทำยังไงดี...ฉันจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย?> เธอคิดอย่างกระวนกระวายก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ที่ประตูห้องนอนนั้น...แล้วก็ตัดสินใจเดินกลับออกมา...ก่อนที่จะเดินไปที่ประตูนั้นอีกครั้ง...เธอเอามือไปสัมผัสที่ลูกบิดประตู...แล้วก็ชักกลับมาอีก...เธอยื่นมือไปจับมันอีกครั้ง...แล้วก็กำลังจะชักมันกลับมา...แล้วจู่ๆ เสียงของฮยอนจุงก็ดังขึ้นอีก....

“บูอินนน!!!” เขาตะโกนเรียกเธอจนเธอถึงกับสะดุ้ง ก่อนที่เธอจะตัดสินใจเปิดประตูเพื่อเข้าไปในห้องนอนนั้นด้วยความตื่นเต้น....

-----------------------------------------

โปรดติดตามต่อไป...ตอนที่ 6 (ความทรงจำ...ที่ไม่ลืมเลือน)





Create Date : 22 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 22 พฤศจิกายน 2553 8:25:37 น. 2 comments
Counter : 525 Pageviews.

 
จบแบบให้มีลุ้นต่อทุกครั้งเลยนะค่ะ ขอบคุณมากนะค่ะสำหรับฟิคน่ารัก น่ารักแบบนี้..


โดย: luck IP: 58.136.48.4 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2553 เวลา:12:55:49 น.  

 
สวัสดีทุกคนฉันจะไม่ลืมการทำงานที่ดีของดรบาบา Osha ในชีวิตของฉัน ผมเป็นคนไม่ดีชะมัดและแพทย์ยืนยันว่าฉันไม่สามารถได้รับการเยียวยาอย่างสมบูรณ์สำหรับนี้ฉันรู้สึกผิดหวังและเพิ่มฉันเป็นเมื่อเวลาผ่าน เมื่อฉันหมายออนไลน์ดรบาบา Osha ผมหารือถึงสถานการณ์ของฉันกับเขาและเขากล่าวว่าไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ เขาถามฉันไปส่งภาพของฉันที่ฉันได้และเขาซื้อวัสดุบางอย่างซึ่งเขาใช้สำหรับฉันและฉันก็สามารถที่จะฟื้นสุขภาพปกติของฉันหลังจากสัปดาห์ เมื่อฉันไปที่แพทย์ตรวจร่างกายเขาสร้างความประหลาดใจและบอกว่าไม่น่าเชื่อว่าสุขภาพของผมเป็นเรื่องปกติและน้ำหนักตัวของฉันอย่างเท่าเทียมกันตามปกติ ขอบคุณที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉันไป Baba Osha ถ้าคุณที่จะติดต่อไปยังเขา nigeriavoodoo@gmail.com อีเมล์ของเขา
ขอแสดงความนับถือ
ดร. บาบา Osha


โดย: Baba Osha IP: 196.46.246.50 วันที่: 19 มกราคม 2556 เวลา:22:29:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อุคจ๋านาจาไทยแลนด์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"

:: Online User
Friends' blogs
[Add อุคจ๋านาจาไทยแลนด์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.