Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
1 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 
อย่าลืมฉัน....อย่าลืม ...คำสัญญา ตอนที่ 4

ความรักของเราอาจมีบางครั้งต้องห่างกันบ้าง แต่..ความผูกพัน ความเข้าใจจะทำให้เราได้กลับมารักกัน...ขอสัญญา...

เสียงทุ้มอ่อนโยนของใครบางคนเดินมายืนข้างๆเธอ เธอรีบยกมือขึ้นปาดน้ำตา ก่อนจะหันไปยิ้มให้คนสำคัญของเธอ
นั่นคือ คุณแม่ของเธอ ผู้หญิงที่ใจดีและไม่เคยทำให้เธอต้องเสียใจ

“ใครว่าหนูร้องไห้ค่ะ พอดีผงมันเข้าตาต่างหากค่ะแม่”

แม่ของเธอส่ายหน้าเป็นการบอกว่าไม่เชื่อ เพราะให้ดูยังไงมันก็คือน้ำตาชัดๆ แต่แม่ของเธอก็ไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องนี้เพื่อทำให้ลูกสาวของเธอต้องเสียใจอีกครั้ง

“มีอะไรจะพูดกับแม่หรือเปล่า”

“ไม่มีค่ะ” เธอรีบปฏิเสธทันควัน

“ลูกยังคิดถึงเขาอยู่ใช่มั๊ย”

“ไม่ค่ะ หนูเกลียดเขา” ฮวางโบพูดในขณะที่หยาดน้ำตาคลอออกมาอีกครั้ง

“ถ้าลูกเกลียดเขาจริง ก็ควรจะลืมเขาสิ ลูกไม่ควรให้ผู้ชายคนเดียวเข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิตของลูกมากไปกว่านี้น่ะ”

“หนูผิดเองค่ะ หนูผิดเอง ที่ทำให้เขาเกลียดหนู”เธอพูดขัดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มเศร้าๆ

“ไม่หรอกลูก ลูกไม่ผิดที่เขาไม่รักลูก เรื่องนี้ไม่มีใครผิด คิดแค่ว่า คนคนหนึ่งเลิกรักคนอีกคนหนึ่งเท่านั้นเอง”
ฮวางโบรู้สึกเจ็บกับคำว่าเลิกรักอีกคนจริงๆ

“แต่แม่ว่า เรื่องระหว่างลูกกับเขา มันยังคงพอมีทางที่จะหันหน้ามาคุยกันได้ ลูกไม่เสียดายวันเวลาที่อยู่ด้วยกันมาหรือ”

“แม่ค่ะ วันเวลาที่ผ่านมา มันไม่มีความหมายสำหรับเขาเลย มันไม่มีคุณค่าอะไรเลย ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ทำกับหนูแบบนี้”ทำนบน้ำตาร่วงพร่างพรูออกมาและไม่มีทีท่าจะหยุด

“แล้วลูกทำอะไรเขาล่ะ” แม่ของเธอพูดเหมือนกับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ใช่แล้วล่ะ ฮยอนจุงได้มาปรึกษาเรื่องนี้กับเธอตอนที่เกิดเรื่องใหม่ๆ แต่จากเหตุการณ์ตอนนี้ เธอคงทำอะไรไม่ได้มาก คงทำได้แค่ปลอบใจ และหวังว่าทุกอย่างมันคงจะดีขึ้นตามที่ฮยอนจุงได้ขอร้องไว้

“ลูกรัก ช่วงนี้ลูกเองก็เปลี่ยนไปมาก ลูกกลายเป็นคนไม่มีเหตุผล อารมณ์หงุดหงิดฉุนเฉียว บางครั้งที่สามีของลูกกลับมายังทันได้พูดคุยกัน ลูกก็ชักสีหน้าไม่พอใจแบบนั้น ลูกทำเหมือนเขาทำอะไรผิด ลูกทำเหมือนไม่ไว้ใจคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีน่ะ”

“แม่ค่ะ เขาเองก็ไม่เคยเห็นว่าหนูเป็นภรรยาเหมือนกัน เขากลับมาในเวลาที่หนูเข้านอน และจะออกจากบ้านหลังจากที่หนูออกไปนอกบ้าน ยิ่งช่วงหลังมานี้ เขารับงานแทบทุกวัน เขาพยายามทำตัวให้ยุ่งราวกับไม่อยากเห็นหน้า “

“แล้วเคยหันหน้าเข้าหากัน หรือพูดคุยกันบ้างหรือเปล่า”

“ไม่ค่ะแม่ หนูมีความรู้สึกเหมือนกับว่า เวลาที่เขามาคุยด้วย หนูจะรำคาญ และ จะรู้สึกน้อยใจหรือหงุดหงิดเวลาที่เขาไม่คุยด้วย คือไม่ว่าเขาจะทำอะไรมันดูขัดหนูไปหมด”

“ลูกจ๊ะ บางครั้งการที่เราแสดงอาการกริยาออกไปโดยไม่รู้ตัว ทำบ่อยๆมันเลยเป็นความเคยชิน จนทำให้เราไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำมันผิดหรือถูก แต่สำหรับลูกตอนนี้ แยกกันสักพัก แม่ว่าก็ดีน่ะ เผื่ออะไรจะดีขึ้น”

“แต่แม่ค่ะ...”

“ลูกจ๊ะ การพูดคุยกันบางทีมันอาจจะทำให้ทุกอย่างอาจจะดีขึ้นน่ะ เพียงแต่ว่า ช่วงนี้อาจจะต้องใช้เวลาบ้างในการปรับความเข้าใจ แม่เข้าใจจิตใจทั้งลูกและฮยอนจุงดี”

“แม่ค่ะ ...”

“หรือว่าลูกอยากจะเลิกกับเขาจริงๆ ฮึ บอกแม่มา”

“แม่ค่ะ”

“ลูกอยากเลิกกับเขางั้นหรือ ลูกไม่เสียดายวันเวลา ลูกไม่เสียดายอุปสรรคที่ช่วยกันฝ่าฟันมาจนกระทั่งมีฮึนฮีหรอกหรือ”

“เสียดายค่ะ แต่แม่ค่ะเพราะหนูรักเขามาก หนูไม่อยากทะเลาะกับเขาอีก หนูไม่อยากให้เขาต้องเจ็บปวดเพราะหนูอีก หนูจึงอยากปล่อยเขาไป” เพียงแค่คิดจะต้องเลิกกับเขา น้ำตาของเธอไหลออกมาอีกครั้ง

“ถ้าลูกรักเขาจริง ทำให้ลูกไม่พยายามล่ะ ทำไมลูกไม่แก้ปัญหาล่ะ ลูกจะยอมแพ้แบบนี้ไปง่ายๆเหรอ”

เธอร้องไห้สะอึกสะอึ้นเสียใจอย่างสุดซึ้ง เธอควรทำอย่างไร เธอควรอยู่รอเวลาเพื่อให้หวังให้วันหนึ่งเขากลับมาใช่ไหม

“ว่าแต่ ลูกได้คุยกับฮยอนจุงเรื่องนั้นหรือยัง”

“ยังค่ะ แต่มันก็ดีเหมือนกันที่เขาไม่รู้น่ะค่ะ เพราะรู้ไปก็คงจะไม่มีประโยชน์”

“เอาเถอะจ๊ะ “ แม่ของเธอลูบหัวเบาๆอย่างปลอบโยน “ แม่ว่าวันนี้ลูกคงเหนื่อยมากเกินไปแล้วล่ะ เข้านอนได้แล้วล่ะ พรุ่งนี้ลูกต้องไปซื้อของไม่ใช่หรือ” แม่ของเธอพูดพลางจูงมือเธอเดินเข้าห้องไป

“ค่ะแม่” ระหว่างนั้น เธอเอื้อมมือไปจับมือแม่ของเธอไว้

“แม่ค่ะ หนูขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่แม่มีให้กับหนู วันที่หนูแต่งงานแม่ก็มีความสุขกับหนู วันที่หนูปวดร้าวและไม่สมหวัง แม่ก็ทุกข์ไปกับหนู หนูไม่รู้จะตอบแทนแม่ยังไงดี”

“ลูกจ๊ะ แม่คนนี้คือแม่ของลูก แม่จะปล่อยให้ลูกสาวของแม่ต้องโดดเดียวในขณะที่สามีออกไปทำงานนอกบ้านได้ยังไงกัน นอนหลับฝันดีน่ะ”

แม่ของเธอเดินออกจากห้องนอนแล้วเดินตรงไปยังห้องรับแขกหยิบโทรศัพท์ขึ้นโทรหาฮยอนจุง แต่เขาไม่รับสาย เธอกดอยู่หลายครั้งจนคิดว่าเขาคงจะติดงานอย่างแน่นอน เธอได้แต่ถอนหายใจและเดินเข้าห้องนอนไป



ในวงสัมมนาที่เคร่งเครียดไปด้วยข้อสงสัยของสมาชิกในวง จองมินเริ่มนั่งถกเถียงปัญหาอยู่กับคยูจง

“นายว่าพี่เขาเปลี่ยนไปหรือเปล่า” คยูจงเอ่ยขึ้นหลังจากที่ทนเห็นพฤติกรรมแบบนี้ของฮยอนจุงไม่ได้

“ชั้นว่าเขาเปลี่ยนไปน่ะ ตั้งแต่ย้ายกลับมาอยู่ที่นี่” จองมินพูด

“ใช่ เขาสองคนกำลังมีปัญหากัน แต่ชั้นไม่แน่ใจหรอกน่ะ ว่าเรื่องอะไร” คยูจง

“หรือว่า เขามีผู้หญิงคนอื่น” จองมินอดนึกถึงผู้หญิงคนนั้นไม่ได้

“นายหมายถึงใคร” คยูจงชักเริ่มสนใจขึ้นมาทันที

“ก็คิมจัยอึนไง พักหลังนี้ชั้นเห็นเขาสองคนนัดเจอกันบ่อยๆ” จองมินพูดราวกับรู้เรื่องดี

“นี่นายไปแอบรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไงเนี่ย “คยูจงอดถามขึ้นไม่ได้

“ชั้นบังเอิญรู้มาน่ะ ว่าผู้หญิงคนนั้นเขากลับมากรุงโซล และดูเหมือนว่า ผู้หญิงคนนี้รู้จักฮยอนจุงดีด้วย “ จองมินพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“นายอย่าบอกว่า เป็นแฟนเก่าของพี่เขาน่ะ” คยูจงหันไปถาม

“ชั้นก็ไม่แน่ใจนักหรอก” จองมินพูดพลางกอดะอกตัวเอง

“งั้น นายไปสืบมาให้หน่อย ว่าผู้หญิงคนนั้นเขาเป็นใคร ชั้นยอมให้หลานสาวคนเดียวของชั้นต้องเป็นเด็กขาดความอบอุ่นไม่ได้หรอก” ยองแซงเริ่มหาหนทาง

“ใช่ ชั้นก็ทนไม่ได้เหมือนกัน อึนฮี อาทนเห็นหนูต้องเป็นเด็กมีปัญหาไม่ได้” คยูจงนึกถึงหลานตัวเองขึ้นมาทันที

“ดังนั้น พวกเราต้องช่วยกัน น้องเล็กแกไปเปิดดูตู้เย็นสิว่าเหลือโซจูหรือเบียร์บ้างหรือเปล่า” น้องเล็กรีบวิ่งไปในห้องครัวอย่างด่วนจี๋และวิ่งกลับมารายงาน “มีอยู่หน่อยนึง ว่าแต่จะเลี้ยงในโอกาสอันใดไม่ทราบ”

“ไม่ต้องถามมากเลย นายรีบออกไปหาซื้อมาเพิ่มเติมอีก พรุ่งนี้เราไม่มีงานไม่ใช่เหรอ คืนนี้เราน่าจะเมากันซักคืนน่ะ”

“แล้วนายใช้ให้เด็กยังไม่หย่านมไปซื้อเนี่ยน่ะ” ยองแซงรีบค้าน

“นี่มันเกาหลีน่ะเว้ย ไม่ใช่เมืองไทย รีบไปได้แล้ว” จองมินไม่วายกัดเล็กๆ

“เดี่ยวชั้นจะไปเป็นเพื่อนนายเอง รอชั้นแป๊บน่ะ” คยูจงเดินเข้าไปหยิบแจ๊กเก็ต

“ทำไมยังนิ่งอยู่อีกล่ะ รีบไปเซ่..” จองมินตะโกนถาม

“แล้วเงินล่ะ นายคิดว่าใช้ให้ชั้นไปซื้อโดยที่ไม่ให้เงินเนี่ยน่ะ”

“โธ่เว้ย ให้ตายสิ นายเคยพกกระเป๋ามั่งหรือเปล่าเนี่ย” ยองแซงลุกขึ้นหยิบเงินในกระเป๋าออกมาปึ๊งใหญ่ยื่นให้

“ชั้นจะจ่ายเงินเฉพาะที่มีประโยชน์เท่านั้น สำหรับเหล้าเบียร์ เชอะ Just say No” ว่าแล้วก็รีบเดินออกไป

ไม่นานเสียงไขกุญแจหน้าห้องดังขึ้น ฮยอนจุงเพิ่งกลับเข้ามาบ้าน
“นี่ นายหายหัวไปไหนมาเนี่ย” จองมินเอ่ยปากทัก

“กินข้าวมาหรือยัง มานั่งคุยกันก่อนสิ นานแล้วน่ะที่พวกเราไม่ได้นั่งคุยกันแบบนี้” ยองแซงตบที่โซฟาว่างๆ

“ไม่มีอะไรจะคุยนี่นา” ฮยอนจุงพูดพลางทิ้งตัวลงบนโซฟา

“แต่พวกเรามีเรื่องจะคุยกับนายเยอะแยะเลยน่ะ”

“ถ้านายจะถามถึงเรื่องครอบครัวชั้นละก็ ไม่มีทาง เรื่องนี้มันเป็นเรื่องในครอบครัวชั้นไม่เกี่ยวกับนาย”

“แล้วเรื่องผู้หญิงคนนั้นล่ะ” ยองแซงเอ่ยถามสิ่งที่คาใจขึ้นทันที

ฮยอนจุงอึ้งไปพักใหญ่ก่อนจะตอบ “นั่นก็ไม่มีอะไรนี่นา นี่วันนี้พวกนายว่างมากหรือไง ถึงได้มานั่งถามชั้นแบบนี้อ่ะ”

“ก็แค่ชั้นเบื่อๆเลยอยากชวนแกนั่งกินเบียร์เป็นเพื่อนก็แค่นั้น ว่าแต่ ทำไมไปนานแบบนี้น่ะ นี่มันไปซื้อที่ข้างล่าง หรือ ว่า ไปซื้อที่โรงเบียร์เนี่ย”

“มาแว้ววววว” น้องเล็กเดินเข้ามาถือถุงดำภายในบรรจุเบียร์และอีกมือหนึ่งดูดไอติมโคนมาตลอดทาง
“แล้วกับแกล้มล่ะ นายไม่ซื้อมาเลยเหรอ” จองมินไม่วายบ่น

“ก็นายบอกให้ชั้นซื้อเบียร์มาอย่างเดียวนี่นา ชั้นก็ซื้อมาตามที่บอก เกิดชั้นซื้ออย่างอื่นขึ้นมานายไม่ว่าชั้นอีกเหรอ นายนี่เอาใจยากชมัดเลย” น้องเล็กบ่นพลางดูดไอศรีมต่อไป

“เดี๋ยวชั้นไปทอดแฮมให้ก็ได้ พวกนายนั่งคุยกันไปก่อนน่ะ” คยูจงสวมบทแม่บ้านเดินเข้าไปทำกับแกล้ม 2-3 อย่าง
ไม่นานบทสนทนาก็เริ่มขึ้นในขณะที่เบียร์เริ่มหมดไปได้เกือบโหล

“เกิดอะไรขึ้นกับนายว่ะ นายถึงได้กลับมาอยุ่ที่นี่” ยองแซงเริ่มวกเข้าเรื่อง

“ก็ไม่มีอะไรมากหรอก ก็แค่ลิ้นกับฟันน่ะ มันก็ต้องมีกันบ้าง”

“แล้วทำไมถึงกับต้องออกมาอยู่ที่นี่ด้วยล่ะ แล้วพี่สะไภ้กับหลานล่ะ ใครจะดู” คยูจงอดห่วงไม่ได้

“ตอนนี้แม่ของเธอมาอยู่เป็นเพื่อนแล้วล่ะ พวกนายไม่ต้องเป็นห่วงหรอก” ฮยอนจุงพูดพลางกระดักเบียร์เข้าปาก

“แล้วเมื่อไรพี่ถึงจะกลับไปอยู่ด้วยกันอีกล่ะฮะ” น้องเล็กเริ่มเข้าเรื่องบ้าง

“ไม่รู้สิ” ฮยอนจุงพูดพร้อมกับกระดกเบียร์หมดกระป๋อง น้องเล็กรีบเปิดกระป่องใหม่อันอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ฮยอนจุงเริ่มเมาได้ที่ แล้วความในใจของเขาก็ค่อยๆพรั่งพรูออกมา

”ชั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ชั้นรู้แต่ว่าเธอกลายเป็นคนขี้งอนไร้เหตุผลด้วยเรื่องเล็กน้อย หรือเป็นเพราะชั้นรักเธอ เลยคาดหวังคาดหวังมากมาย มากเกินกว่าที่เธอจะเข้าใจชั้นได้ แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญนักหรอก”

“เธอชวนชั้นทะเลาะทุกครั้งที่ได้เจอ ล่าสุดเธอทะเลาะกับชั้น ทำร้ายชั้นต่อหน้าลูก นั่นคือสาเหตุหลักที่ชั้นรับไม่ได้ ชั้นเจ็บปวดได้แต่ลูกของชั้นเจ็บปวดไม่ได้”

“ชั้นเคยคิดว่าชั้นมีความอดทนมากพอ แต่เมื่อมาวันหนึ่ง ความอดทนเริ่มหมด เริ่มไม่เพียงพอ ความรักที่เรามีให้กันมันก็ช่วยอะไรไม่ได้ ชั้นก็ไม่เคยคิดมาก่อนน่ะ ว่าการเลิกลาจะง่ายดายและรวดเร็วขนาดนี้ ชั้นเองก็รู้สึกเสียใจเหมือนกัน”

จองมินเริ่มกระชับประเด็น “แต่นายยังไม่ได้เลิกกันซ่ะหน่อย ยังไง นายก็ยังรักเธออยู่ไม่ใช่เหรอ พวกนายสองคนยังมีโอกาสได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกอย่างแน่นอน”
“ใช่ นายลืมไปแล้วเหรอ ว่านายเคยบอกว่า พวกนายสองคนเกิดมาเพื่อกันและกัน พระเจ้าส่งเธอมาให้นาย เธอก็ต้องกลับมาอยู่กับนายสิ” ยองแซงยื่นเบียร์ให้ฮยอนจุงอีกกระป๋อง

“ชั้นขอถามอะไรหน่อยน่ะ ผู้หญิงคนนั้น” คยูจงเริ่มถามข้อที่เป็นปัญหาที่สุด

ฮยอนจุงอึ้งไปสักพักใบหน้าเคร่งเครียดเล็กน้อย “ใช่ เธอกลับมาแล้ว ชั้นได้เจอและคุยกับเธอหลายครั้งแล้วล่ะ เราสองคนเคยรักกัน และ ตอนนี้ชั้นก็.....ช่างมันเถอะ อย่าไปพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่ะ เพราะมันไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร” ฮยอนจุงดื่มเบียร์ในกระป๋องจนหมด

“แต่ชั้นว่าเรื่องนี้มันสำคัญน่ะ มันสำคัญต่อชีวิต และ ครอบครัวของนายด้วย นายไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะมาทำลายครอบครัวแกเหรอ”

“นายคิดแบบนั้นเหรอ ชั้นว่าบูอินไม่ใช่ผู้หญิงที่เที่ยวหึงสามีโดยไม่มีเหตุผลหรอกน่ะ”

“นายจะไปรู้ใจแทนเธอได้ยังไง ผู้หญิงก่อนแต่งกับหลังแต่งน่ะ ร้อยละ 80 นิสัยมักจะเปลี่ยนไป ยิ่งเธอมีสามีที่เด็กกว่าและยังเป็นไอดอลอีกด้วย” วิญญานศิราณีเริ่มเข้าสิงจองมิน

“งั้นหรือ อืม ชั้นก็ไม่คิดว่าบูอินจะรู้เรื่องระหว่างชั้นกับเธอน่ะ เพราะชั้นปิดมันเป็นความลับ เธอไม่มีวันรู้หรอก”

“วันนี้ยัง แต่พรุ่งนี้ล่ะไม่แน่ ใครจะไปรู้ ผมว่าพี่ควรจะตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลมจะดีกว่าน่ะฮะ” คยูจองเตือนราวกับรู้ความระส่ำของครอบครัวพี่ของเขาดี

“ชั้นว่าชั้นไปนอนดีกว่าน่ะ คุยกับพวกนายตั้งเยอะแล้ว ชั้นไปนอนก่อนล่ะ พรุ่งนี้ชั้นมีนัดกับเธอด้วย” ฮยอนจุงขอตัวแล้วลุกขึ้นยืนเพื่อขอตัวเข้านอน

“พี่ฮยอนจุงฮะ ว่าแต่อาการปวดหัววิงเวียนของพี่หายหรือยังฮะ พี่ไปหาหมอบ้างหรือเปล่า ผมว่า พี่ควรจะหาเวลาไปตรวจบ้างน่ะ เผื่อเจอโรคร้ายอะไร พี่ก็ยังรักษาทัน” น้องเล็กถามด้วยความเป็นห่วง

“ไอ้นี่ มันใช่เวลามาถามเรื่องนี้มั๊ย หา!!” จองมินหันไปฟาดกระบาลน้องเล็กเบาๆ

“ชั้นค่อยยังชั่วแล้วล่ะ ไม่เป็นไรมากหรอก ชั้นอาจจะพักผ่อนน้อยน่ะ ชั้นไปล่ะ” ว่าแล้วเขาก็เดินเข้าห้องนอนไป

เขาทิ้งตัวนอนลง และนึกถึงใบหน้าลูกสาวที่ร้องได้หาพ่อ เขาไม่เคยต้องอยู่ห่างจากลูกนานขนาดนี้มาก่อน ทุกค่ำคืน เขาจะต้องเป็นผู้ส่งลูกสาวเข้านอนเสมอ แต่ว่าวันนี้...... และ เมื่อนึกถึงใบหน้าของภรรยา น้ำตาก็ไหลออกมาไม่รู้ตัว <บูอิน คุณหลับสบายดีไหม ตอนนี้คุณเป็นยังไงบ้าง คุณคิดถึงผมบ้างหรือเปล่า สำหรับผม...ผมไม่เคยลืมคิดถึงคุณเลยน่ะ>
เขานอนร้องไห้อยู่อย่างนั้นจนในที่สุดก็หลับไป

ยามลมหนาวพัดมาปะทะกับหัวใจของคนที่กำลังโดดเดี่ยวและอ้างว้าง
มันเหมือนฉันได้ยินเสียงหัวเราะของเธอ แล้วฉันต้องร้องไห้อีกครั้ง เพราะว่าอยู่อย่างโดดเดี่ยว
คิดถึงดวงตาคู่นั้นที่มองฉัน มีถ้อยคำหนึ่งที่ไม่อาจได้ ฉันเอ่ยออกมาไม่ได้จริงๆ

โปรดติดตาม อย่าลืมฉัน อย่าลืม คำสัญญา ตอนที่ 5



Create Date : 01 สิงหาคม 2553
Last Update : 1 สิงหาคม 2553 22:21:29 น. 4 comments
Counter : 509 Pageviews.

 
ยายจ๋า เป็นกำลังใจให้นะ เรื่องนี้ลุ้นมากเลย มีทุกอารมณ์ด้วย แต่ที่สำคัญทำไมถึงได้รู้สึกเศร้าแบบนี้จัง สงสารทั้งโบและจุงเลยอ่ะ ฝนชอบเรื่องนี้นะ สู้ๆต่อไปนะยาย


โดย: kimyoungbi IP: 182.232.91.200 วันที่: 1 สิงหาคม 2553 เวลา:23:48:19 น.  

 
ยาย(นาจา)ค่ะ เนื่องนี้มันDrama เกินไปหรือเปล่าคะ อ่านที่ไรบีบหัวใจทุกครั้งเลยคะ..เศร้ามากๆๆเลย TT____TT


โดย: luck IP: 58.136.48.144 วันที่: 2 สิงหาคม 2553 เวลา:12:50:52 น.  

 
สงสารทั้งคู่จังเลย

ขอบคุณนะคะยาย


โดย: ning IP: 115.87.76.38 วันที่: 3 สิงหาคม 2553 เวลา:20:00:11 น.  

 
ยายมันเศร้าอ่ะ...เลยเก็บไว้ก่อนยังไม่อ่าน แต่ตอนนี้มีน้องๆมาร่วมด้วย หลายอารมณ์ดีเนาะ เศร้าด้วยขำด้วยเฮ้อ...บ้าไปแว้วววว ยังไงก็ขอบคุณยายมากๆเลยน้า ยายสู้ๆๆ


โดย: มินมิน IP: 125.25.238.74 วันที่: 5 สิงหาคม 2553 เวลา:23:12:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อุคจ๋านาจาไทยแลนด์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"

:: Online User
Friends' blogs
[Add อุคจ๋านาจาไทยแลนด์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.