#จับหุ้นทำเงิน หุ้นนอกสายตา
เวลาผมเริ่มต้นหาหุ้นลงทุนซักตัว หลายครั้งผมก็ชอบไปดูหุ้นที่คนยังไม่สนใจ เมื่อผมเจอหุ้นตัวนั้น สิ่งหนึ่งที่แทบจะเป็นปัญหาสำหรับผมทุกครั้งก็คือ หาข้อมูลหุ้นตัวนั้นยากเหลือเกิน คำว่า หาข้อมูลยากสำหรับผมก็คือ หาคนพูดถึงหุ้นตัวนั้นๆ ที่คนยังไม่สนใจยากมากๆ ไม่ว่าจะเป็นในห้องกระทู้หุ้นดังๆ หรือตามหน้าหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นออนไลน์ หาอ่านยากจริงๆ
หากผมเจอหุ้นซักตัวแล้วหาข้อมูลยากๆ ที่จริงแล้วผมแอบดีใจนะครับ เพราะเมื่อไหร่ที่การหาข้อมูลโดยทั่วไปตามแหล่งข่าวต่างๆ เป็นเรื่องยาก อาจหมายถึง เจ้ามือหุ้น (ซึ่งไม่รู้มีอยู่จริงหรือไม่) ยังไม่ได้สร้าง ข่าวดี มาหลอกล่อแมงเม่าอย่างเราๆ ให้เข้าไปซื้อหุ้นราคาแพงๆ ผมเองมักจะเรียกหุ้นประเภทนี้ว่า หุ้นนอกสายตา
แต่ผมก็ต้องบอกไว้นิดว่า สิ่งที่ผมคิดอาจไม่จริงเสมอไป บางครั้งเราอาจเจอหุ้นนอกสายตา ไม่มีใครสนใจจริงๆ เพราะกิจการมันแย่มากๆ หรือตะวันตกดินไปแล้วก็มี อย่างไรก็ตาม หากเราสนใจจะลงทุนหุ้นนอกสายตา ผมมีทริคเล็กๆ ที่จะขอแนะนำดังนี้
ประการแรก มองหาหุ้นที่เคยย่ำแย่ แต่กำลังจะดีขึ้นในอนาคตอันใกล้
หุ้นที่เคยย่ำแย่ แต่กำลังจะกลับมาดี หรือ หุ้นพลิกฟื้น นั้นเป็นอะไรที่ต้องบอกว่าหาไม่ง่ายเลยครับ แต่สำหรับผมแล้วคิดว่า ไม่ได้ยากเกินความสามารถของเราที่จะมองหา
ยกตัวอย่างง่ายๆ ในช่วงเวลานี้ สิ่งที่สะดุดตา สะดุดหูเราทุกวันก็คือ ตัวเลขการส่งออก ที่เริ่มฟื้นตัวขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเรารู้ว่าตัวเลขการส่งออกฟื้นตัว และเริ่มฟื้นตัวอย่าง ต่อเนื่อง ติดกันสองสามไตรมาส ทำให้เรามองไปข้างหน้าแล้วเห็นว่า เศรษฐกิจโลกอาจเริ่มดีขึ้น เนื่องจากการส่งออกนั้นเกี่ยวเนื่องกับเศรษฐกิจข้างนอกมากกว่าข้างในประเทศของเรา พอรู้แบบนี้หุ้นกลุ่มที่เราต้องเข้าไปคิดวิเคราะห์ก็คือ หุ้นส่งออก หุ้นขนส่งทางเรือ ทางอากาศ เป็นต้น
ประการที่สอง มองหาหุ้นเล็กที่รอวันเติบใหญ่
สำหรับธีมที่สองของหุ้นนอกสายตาก็คือ หุ้นเล็กแต่ใจใหญ่ สำหรับผมแล้ว หุ้นเล็กๆ ที่คนไม่สนใจนั้นมีอยู่ค่อนข้างมากในตลาดหุ้นบ้านเรา แต่หุ้นเล็กเหล่านี้จะเติบใหญ่หรือไม่นั้นเป็นเรื่องที่บอกได้ยากไม่แพ้ธีมแรก
ทว่า การซื้อหุ้นพลิกฟื้น ถ้ามันเป็นหุ้นประเภท วัฏจักร เรายังพอเห็นผลงานในอดีต ช่วงที่เป็นวัฏจักรขาขึ้นของกิจการอยู่บ้าง ว่ามันทำกำไรได้จริง มีการเติบโตในช่วงๆ หนึ่งของขาขึ้นในการทำธุรกิจ
แต่หุ้นเล็กนั้น ต้องบอกว่า ไม่มีประวัติอะไรเลย ดังนั้นการซื้อหุ้นเล็กที่รอวันใหญ่ มันสุ่มเสี่ยงกับการที่เราจะไปซื้อถูก หุ้นปั่น วิธีการของผมก็คือ ผมจะเลือกซื้อหุ้นเล็กที่พอจะมีประวัติดีๆ บ้าง เช่น ทำกิจการแล้วมีกำไรดี มีหนี้พอสมควร ผมพอจะอนุโลมให้มีหนี้สินได้บ้างเพราะเข้าใจว่า การจะเติบโตในเฟสแรกๆ ต้องโตด้วยหนี้ก่อน เมื่อมันแข็งแรงแล้ว จะเข้าสู่เฟสสอง คือ การโตด้วยกระแสเงินสด และหนี้สินต่อทุนมันจะลดลงไปเอง
การลงทุนหุ้นเล็กที่รอวันใหญ่ ต้องบอกว่า มีความเสี่ยงกว่ามาก แต่เราสามารถปิดความเสี่ยงเหล่านั้นได้ด้วยการเลือกหุ้นน้ำดี เราต้องวิเคราะห์เชิงคุณภาพ อ่านให้ขาดว่า กิจการนั้นๆ จะโตจริงหรือไม่ แล้วค่อยมาวิเคราะห์เชิงตัวเลขอีกที โดยเน้นหุ้นที่มีประวัติการดำเนินงานที่ดีก่อนจะไปเลือกหุ้นที่ไม่เคยกำไร แต่ราคากำลังวิ่ง!
ประการสุดท้าย เมื่อหุ้นนอกสายตาเติบโตแล้ว ข้อมูลในหน้าอินเตอร์เน็ตจะหลั่งไหลดั่งสายน้ำ
สิ่งที่ผมพบเจอเสมอๆ กับหุ้นนอกสายตาก็คือ เมื่อหุ้นนอกสายตาเติบโตแล้ว ข้อมูลในหน้าอินเตอร์เน็ตจะหลั่งไหลดั่งสายน้ำ อันนี้ผมพูดจริงๆ ไม่ได้ล้อเล่นนะครับ และสิ่งนี้ก็เป็นดัชนีชี้วัดกลายๆ ว่า หากมันไม่เคยมีข่าวดีออกมาบ้างเลย คุณอาจจะเลือกหุ้นผิดตัวก็ได้
เมื่อหุ้นนอกสายตา เปลี่ยนสถานะ ไปเป็นหุ้นในสายตา หรือแม้แต่เป็นหุ้นยอดนิยม คราวนี้ผู้คนจากไหนก็ไม่รู้จะหลั่งไหลมาซื้อหุ้น ซึ่งมันจะมาพร้อมกับ ข่าวดี อย่างมากมาย ทะลักท่วมท้นเต็มจอมือถือ หรือจอคอมฯ ที่คุณใช้เทรดหุ้น มาถึงตอนนี้ข่าวสารเกี่ยวกับหุ้นตัวนี้จะมีเยอะแยะเต็มไปหมด คงไม่ต้องบอกนะครับว่าเราควรทำอย่างไรเมื่อถึงจุดๆ นี้
อย่างไรก็ตามการซื้อหุ้นนอกสายตามีความเสี่ยงไม่แพ้การลงทุนหุ้นประเภทอื่นๆ ที่จริงอาจจะเสี่ยงกว่า และเราต้องอาศัยความอดทนทรมานในการรอคอยมากกว่า ในระหว่างรอ เราอาจเห็นหุ้นตัวอื่น ขึ้นเอาๆ แต่หุ้นเรายังนิ่งสนิท สำหรับคนที่ไม่ชอบรอคอย การเล่น หุ้นโมเมนตัม หรือหุ้นที่กำลังขึ้นอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ไว้ผมจะเล่าให้ฟังในตอนต่อๆ ไปนะครับ
#นายแว่นลงทุน
เพื่อนๆ ใครมีบ้าน คอนโด ที่ดินเปล่า มาโพสขายได้ที่นี่ฟรีนะครับ//www.topofliving.com/property-exchange/
#หนังสือเสียง
กลยุทธ์ลงทุนหุ้นโตเร็ว
หนังสือ นายแว่นฯ มี audio book ด้วยนะครับ
คลิ๊กหนังสือเสียงที่นี่เลยครับ
แนะนำหนังสือ
เก็บหุ้นสร้างพอร์ต สไตล์ VI โต 10 เท่าในสิบปี
หนังสือเล่มนี้ เก็บหุ้นสร้างพอร์ตสไตล์วีไอ ผมเขียนขึ้นมาในช่วงที่ยากลำบากช่วงหนึ่งของตลาดหุ้นไทย คือเป็นช่วงตลาดไม่ไปไหนเลย หรือ Sideway นั่นเอง การลงทุนในภาวะตลาดแบบนี้ย่อมทำให้หลายคนรู้สึก อึดอัด ได้ไม่ยาก แต่ในภาวะแบบนี้ก็มีข้อดีของมัน ข้อดีดังกล่าวก็คือ การที่ตลาดไม่ไปไหน แต่แรงเก็งกำไรยังคงมีอยู่ มันเปิดโอกาสให้นักลงทุนระยะยาวเก็บหุ้นกอดเอาไว้ กินปันผลไปเรื่อยๆ อย่างสบายใจ หรือแม้แต่นักลงทุนระยะสั้นๆ ก็สามารถทำกำไรได้หากเรามองพื้นฐานออก และมองแนวโน้มของราคาเป็น ซึ่งเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้มีทั้งสองเรื่องราวดังกล่าวอย่าง ครบถ้วน#NaiwaenInvestment
อ่านเรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ How to การบริหารจัดการเงิน อสังหา คลิ๊กอ่านที่นี่เลยครับ
[เกี่ยวกับผู้เขียน]
นายแว่นธรรมดา หนึ่งในกูรูหุ้น FINOMENA และผู้ก่อตั้ง //www.topofliving.com ผู้เขียนหนังสือ ลงทุนหุ้นโตเร็ว และหนังสือขายดี กลยุทธุ์จับจังหวะลงทุนหุ้น ปัจจุบันเป็นนักลงทุนอิสระ นักเขียนอิสระ ขอถ่ายทอดความรู้ด้านการลงทุน เผื่อเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ ทุกคนนะครับ