#BEM เมื่อไหร่กำไรจะมาซักที? (โดยเพจ
นายแว่น-ลงทุน)
หลายคนที่ถือหุ้น BEM หรือ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) คงจะรู้สึก อึดอัด ไม่น้อย
สาเหตุเป็นเพราะราคาหุ้นไม่ค่อยขยับปรับตัวไปไหนซักกะที
ทำไมราคาไม่ขยับ?
นั่นก็เพราะธรรมชาติของกิจการรถไฟฟ้า เวลาเปิดเส้นทางใหม่ๆ คนมักจะน้อย และจะค่อยๆ ทยอยเต็มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป
ในช่วงที่เปิดดำเนินการสายสีม่วงใหม่ๆ คนน้อยมาก ขึ้นรถไฟฟ้าไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้นั่ง ได้นั่งทุกคนครับ
แต่มาระยะหลังโดยเฉพาะช่วงชั่วโมงเร่งด่วน คนเริ่มใช้บริการมากขึ้น ต้องมีลุ้นหน่อยว่าจะได้นั่งหรือเปล่า
และวันนี้เอง
รถไฟฟ้าสายสีม่วง เปิดเชื่อมต่อกับสายสีน้ำเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทาง BEM แจงว่าจะมีคนมาใช้บริการมากขึ้นถึงเท่าตัว หรือกว่า 3-5 หมื่นเที่ยวต่อวัน และจะทำให้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินได้รับผลดีไปด้วย
เพราะสายสีม่วงจะ feed คนเข้าระบบสายสีน้ำเงิน โดยปัจจุบันจำนวนเที่ยวเฉลี่ยของสายสีน้ำเงินทะลุ 3 แสนเที่ยวต่อวันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
และในอนาคตถ้าเดินรถครบลูปจะทำให้ผู้โดยสารเดินทางขึ้นเป็น 5 แสนเที่ยวต่อวัน
จำนวนผู้โดยสารที่คิดเป็นเที่ยวต่อวันนั้น ถ้าให้พูดตรงๆ ต้องบอกว่า ขึ้นค่อนข้างช้า เพราะธรรมชาติของรถไฟสายใหม่ๆ เวลาเปิดแรกๆ คนจะใช้น้อย และจะทยอยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
แต่สิ่งที่คาดว่าจะเติบโตอย่างรวดเร็วก็คือ ค่าโดยสารต่อเที่ยว มีนักวิเคราะห์บางสำนักได้ทำนายค่าโดยสารต่อเที่ยวเอาไว้หลังจากเปิดบริการสายสีน้ำเงินครบลูป พบว่า เติบโตเร็วมาก
ค่าโดยสารต่อเที่ยวสำหรับผมถ้าให้เปรียบกับหุ้นค้าปลีก คงเป็นยอดขายต่อสาขา ถ้ายอดขายต่อคนเพิ่มขึ้น รายได้ก็จะเพิ่มขึ้น และกำไรก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
เมื่อถึงจุดคุ้มทุน ก็จะเกิดเหตุการณ์ กำไรไหลมาเทมา ซึ่งถ้าเกิดขึ้นกำไรจะมาเร็วมาก
ล่าสุด เบม ประกาศผลประกอบการไตรมาสสอง กำไรเพิ่มขึ้นกว่า 40% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
สาเหตุที่กำไรเพิ่มขึ้นมาจากการรับรู้รายได้เต็มจากการจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง และการเปิดทางด่วนศรีรัช บวกกับการหักค่าเสื่อมราคาที่ลดลง เนื่องจากมีการยึดสัมปทานออกไปอีก 30 ปี
อย่างไรก็ตาม
หลายคนคิดในใจว่า
หุ้นตัวนี้กำไรมาช้า ทำให้ราคาไม่ขยับปรับไปไหน
แต่ผมเข้าใจว่า หากถึงจุดคุ้มทุน และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเดินครบลูป ในปี 2563 กำไรของ เบม น่าจะมาเร็วขึ้นนั่นเองครับ
ใครมีหุ้นตัวนี้ก็อดทนรอกันหน่อยนะครับ หวังว่าคงไม่ต้องรอเก้อนะ ^ ^
.
(จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินสูงเกิน 3 แสนเที่ยวต่อวันแล้ว)
#BEM ภาพชัดมากๆ ครับ ปริมาณผู้โดยสารจะโตช้าๆ จาก 3 แสนคนต่อวัน เป็น 5 แสนคนต่อวัน
แต่จำนวนเงินที่ต้องจ่ายต่อหัวโตเร็วกว่ามาก เพราะสถานีรถไฟฟ้ามากขึ้น คนเดินทางยาวขึ้น
เพื่อนๆ ใครมีบ้าน คอนโด ที่ดินเปล่า มาโพสขายได้ที่นี่ฟรีนะครับ//www.topofliving.com/property-exchange/
#หนังสือเสียง
กลยุทธ์ลงทุนหุ้นโตเร็ว
หนังสือ นายแว่นฯ มี audio book ด้วยนะครับ
คลิ๊กหนังสือเสียงที่นี่เลยครับ
แนะนำหนังสือ
เก็บหุ้นสร้างพอร์ต สไตล์ VI โต 10 เท่าในสิบปี
หนังสือเล่มนี้ เก็บหุ้นสร้างพอร์ตสไตล์วีไอ ผมเขียนขึ้นมาในช่วงที่ยากลำบากช่วงหนึ่งของตลาดหุ้นไทย คือเป็นช่วงตลาดไม่ไปไหนเลย หรือ Sideway นั่นเอง การลงทุนในภาวะตลาดแบบนี้ย่อมทำให้หลายคนรู้สึก อึดอัด ได้ไม่ยาก
แต่ในภาวะแบบนี้ก็มีข้อดีของมัน
ข้อดีดังกล่าวก็คือ
การที่ตลาดไม่ไปไหน แต่แรงเก็งกำไรยังคงมีอยู่ มันเปิดโอกาสให้นักลงทุนระยะยาวเก็บหุ้นกอดเอาไว้ กินปันผลไปเรื่อยๆ อย่างสบายใจ หรือแม้แต่นักลงทุนระยะสั้นๆ ก็สามารถทำกำไรได้หากเรามองพื้นฐานออก และมองแนวโน้มของราคาเป็น ซึ่งเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้มีทั้งสองเรื่องราวดังกล่าวอย่าง ครบถ้วน#NaiwaenInvestment
อ่านเรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ How to การบริหารจัดการเงิน อสังหา คลิ๊กอ่านที่นี่เลยครับ
[เกี่ยวกับผู้เขียน]
นายแว่นธรรมดา หนึ่งในกูรูหุ้น FINOMENA และผู้ก่อตั้ง //www.topofliving.com ผู้เขียนหนังสือ ลงทุนหุ้นโตเร็ว และหนังสือขายดี กลยุทธุ์จับจังหวะลงทุนหุ้น ปัจจุบันเป็นนักลงทุนอิสระ นักเขียนอิสระ ขอถ่ายทอดความรู้ด้านการลงทุน เผื่อเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ ทุกคนนะครับ
ติดต่อนายแว่นธรรมดาได้ที่นี่ครับ naiwaentammada@gmail.com