State 1 (Loss Stock)

หุ้นในสภาวะขาดทุนดูไม่น่าสนใจ PE หาค่าไม่ได้ PBV < 1 ไม่มีเงินปันผล

หุ้นในสภาวะนี้เคยดีมาก่อน แต่ประสบกับปัญหาบางประการที่ทำให้ธุรกิจขาดทุน ต้องหาหนทางดิ้นรนเพื่อให้รอดพ้นจากการขาดทุน และสามารถกลับมากำไรอีกครั้ง! นักลงทุนที่เริ่มต้นลงทุนในหุ้นตั้งแต่ระยะแรกนี้ถ้ามองเห็นว่าจะกลับตัวแน่ ก็จะได้กำไรจากการดีดตัวของราคาขึ้นอย่างรุนแรง ตั้งแต่มีแววว่าจะกลับมามีกำไรได้จริง แต่ข้อเสียก็คือ มีความเสี่ยงสูง และมีโอกาสจะไม่กลับตัวจริง ก็จะต้องขาดทุนอย่างหนักครับ!

State 2 (Turn Around)

หุ้นเริ่มกลับมามีกำไร หรือเท่าทุนPE สูงมาก PBV ต่ำ ไม่มีเงินปันผล

หุ้นในสภาวะนี้เริ่มมีแววว่าจะกลับมามีกำไรได้อีกครั้ง อาจเกิดจากการปรับโครงสร้างภายในใหม่ มีการเปลี่ยนตัวผู้บริหารชุดใหม่ หรือแม้แต่เปลี่ยนธุรกิจไปทำธุรกิจใหม่ และทำได้สำเร็จจริง! เมื่อหุ้นเข้าสู่สภาวะนี้แล้ว ราคาจะตอบรับกลับมามากพอสมควร หากเป็นการกลับตัวเพียงชั่วคราวราคาหุ้นก็จะตกกลับลงไปอีกครั้ง และอาจลึกกว่าเดิม แต่หากเป็นการพื้นตัวจริง และยั่งยืนหุ้นก็จะยืนระยะอยู่ได้

State 3 (Stable)

หุ้นเริ่มกลับมามีกำไร หรือเท่าทุนภาพระยะสั้นหุ้นจะแกว่งตัวรุนแรง แต่ภาพใหญ่คือราคาไม่ค่อยไปไหน ไม่มีปันผล

เมื่อหุ้นเริ่มกลับมามีกำไรอีกครั้งได้สำเร็จ บริษัทที่กลับตัวได้แล้วก็จะต้องพิสูจน์ตัวเองอีกซักระยะ ด้วยการยืนระยะให้ได้ ระยะเวลาในช่วงนี้อาจจะยาวนาน หรือเป็นเพียงช่วงสั้นๆ อย่างไรก็ตาหากหุ้นไม่มีผลตอบแทนเป็นเงินปันผลที่เป็นรูปธรรมให้กับผู้ถือหุ้น เนื่องจากต้องเก็บกำไรที่ได้ไปลงทุนต่อ ก็อาจจะยืนระยะยาวนานเสียหน่อย จนกว่าจะเริ่มมีกำไร มีเงินเหลือมาปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอีกครั้ง หุ้นก็จะเริ่มเข้าสู่สภาวะต่อไป

State 4 (Growth Stock)

ช่วงนี้หุ้นเริ่มเข้าสู่ช่วงโตเร็ว นักลงทุนสามารถคาดการณ์ผลกำไรได้แน่นอนมากขึ้น PE สูงหลายเท่า PBV สูงขึ้น %DIV ต่ำ

เมื่อหุ้นเข้าสู่ช่วงเติบโต จะเริ่มเติบโตอย่างรวดเร็ว บางครั้งการเติบโตจะเป็นแบบ Exponential Growth คือมีการเติบโตเป็นเส้นโค้ง หรือเป็น Log Curve นักลงทุนหุ้นโตเร็วอาจจะเริ่มเข้ามาถือหุ้นตั้งแต่ช่วงที่ 3 และรอคอยให้เกิดช่วงที่ 4 เพราะเมื่อเข้าสู่ช่วงโตเร็วนักลงทุนจะสามารถคาดการณ์ผลกำไรได้แน่นอนมากขึ้น ช่วงนี้อาจใช้เวลายาวนาน หากหุ้นนั้นเติบโตและกลายเป็น “หุ้นผู้ชนะ” ซึ่งจะกินตลาดไปเรื่อยๆ ในช่วงนี้หุ้นจะเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่จ่ายเงินปันผลน้อย เนื่องจากต้องนำเงินทุนไปลงทุนต่อยอดการเติบโต... จนกว่าจะอิ่มตัว

State 5 (Dividend Stock)

ช่วงนี้หุ้นเริ่มเข้าสู่ช่วงอิ่มตัว เริ่มปันผลออกมาสูงขึ้น PE ลดลง PBV ลดลง %DIV สูงขึ้น

ช่วงสุดท้ายของการเปลี่ยนแปลงก็คือ ช่วงอิ่มตัว หรือช่วงที่เริ่มจ่ายเงินปันผลออกมาเยอะๆ สาเหตุที่หุ้นต้องจ่ายเงินปันผลออกมาสูง (%DIV สูง) นอกจากจะเกิดจากธุรกิจที่อิ่มตัว ไม่มีความจำเป็นต้องลงทุนหนักๆ เหมือนช่วงโตเร็วแล้ว การที่จ่ายเงินปันผลสูงๆ ก็เพื่อช่วยพยุงราคาหุ้นไม่ให้ตกมากจากภาวะอิ่มตัว นักลงทุนหุ้นโตเร็วมักจะขายหุ้นออกเมื่อมันอิ่มตัวแล้ว อย่างไรก็ตามหากธุรกิจมีแผนที่จะขยับขยาย จะเติบโตได้อีกก็สามารถลงทุนต่อไปได้เรื่อยๆ โดยการถือรับเงินปันผลระหว่างรอการเติบโตครั้งใหม่ครับ

คำเตือน การวิเคราะห์หุ้น การลงทุนรูปแบบต่างๆ และเทคนิคการลงทุนในหุ้นเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร ผู้เขียนบทความไม่รับผิดชอบต่อความเสี่ยง หรือความเสียหายในการลงทุนของผู้รับข้อมูลนะครับ

“เปิดรับสมัครสมาชิก”

เว็บบล็อก “นายแว่นธรรมดา” เปิดรับสมัครสมาชิกรายปีครับ โดยสมาชิกจะได้รับหนังสืออีบุ๊กส์ฟรี 1 เล่มจาก "ร้านหนังสืออีบุ๊กส์ นายแว่นธรรมดา" มีหนังสือเกี่ยวกับการเงิน การลงทุน การทำธุรกิจส่วนตัว ให้เลือกซื้อแล้วนะครับ สำหรับสมาชิก 9 ปี ดาวน์โหลดหนังสือฟรี 1 เล่มครับ... เข้าไปดูวิธีการสั่งซื้อหนังสือได้ที่นี่ครับ
//naiwaenstore.com/store/how-to-order/

Create Date : 09 มีนาคม 2558
Last Update : 9 มีนาคม 2558 8:38:41 น.		0 comments
Counter : 1064 Pageviews.
Share Tweet