#เปิดสูตรวีไอพลิกกำไรให้ยั่งยืน ... ทำไม PTG จึงเป็นหุ้นที่โต 10 เท่าใน 5 ปี
.
การมองหาหุ้นที่สามารถเติบโตรวดเร็ว เอาแบบโตสิบเท่าในสิบปีนั้น ถือเป็นงานหลัก และงานหนักของนักลงทุนระยะยาว บางครั้งเราขุดเจอแล้ว แต่หุ้นมันขึ้นไปไกล และหลายครั้งก็ตกกลับมาที่เดิม สร้างความน่าผิดหวังให้กับนักลงทุนในวงกว้าง
.
ในห้วงปีที่ผ่านมา ดูเหมือนตลาดเราจะไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ยังมีหุ้นที่สามารถเติบโตสูงถึง 10 เท่าในห้าปีได้เหมือนกัน หุ้นตัวนั้นก็คือ #PTG หรือ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) เรามาดูกันดีกว่าว่า ปัจจัยอะไร ที่ทำให้เติบโตได้สิบเท่า หรือ กิจการมีเมล็ดพันธุ์แห่งการเติบโตซ่อนอยู่ข้างในบ้าง นายแว่นลงทุน ขอเล่าให้ฟังดังนี้นะครับ
.
ประการแรก การเติบโตของยอดขาย
.
หากเราพิจารณาให้ดีจะพบว่า หุ้นตัวนี้มียอดขายที่เติบโตมาโดยตลอด โดยยอดขาย หรือรายได้ที่เก็บข้อมูลได้ตั้งแต่ปี 2552 จะพบว่า ยอดขายในปีนั้นอยู่ที่ราว 4 หมื่นกว่าล้านบาทต่อปี และยอดขายก็เติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี จนปีล่าสุดเติบโตเกือบแตะระดับแสนล้านบาท
.
แน่นอนที่สุดว่า การเติบโตของยอดขาย นั่นหมายความว่า กิจการของเขาขายดีขึ้น และกิจการนี้ต้องมีกลยุทธ์ที่ดีพอที่จะเพิ่มยอดขายให้เติบโตอย่างรวดเร็ว
.
ประการที่สอง กลุยทธ์การขยายสาขาบนถนนสายรอง
.
สิ่งที่น่าสนใจอีกประการก็คือ กลยุทธ์การขยายสาขาบนถนนสายรอง ... หากเราเป็นคนขับรถ เราย่อมไม่อยากไปเต็มน้ำมันไกล ๆ อยากเติมน้ำมันในปั้มบนถนนที่เราขับผ่านเป็นประจำ เพราะความคิดในหัวของคน ถ้าเราต้องขับรถเพื่อไปเติมน้ำมันโดยเฉพาะเจาะจง จะทำให้เรารู้สึกว่า ... มันเปลืองน้ำมัน เพราะขับไปเติมก็เปลือง เติมเสร็จขับกลับมาก็เปลืองน้ำมัน
.
การที่ PTG ไปเปิดปั้มบนถนนสายรองนั้น ถือเป็นกลยุทธ์ที่ดีมาก เพราะปั้มน้ำมันใกล้บ้าน หรือเป็นทางผ่านในสมัยก่อนไม่มีแบรนด์ ทำให้คนไม่กล้าเติม แต่เมื่อเขานำแบรนด์มาสวม และทำให้ดูสะอาดตาขึ้น ปรากฏว่า คนก็กล้าเข้าไปเติมมากขึ้น และมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่สำคัญการนำปั้มเก่ามาตกแต่งใหม่ใช้งบลงทุนต่ำมากเมื่อเทียบกับการสร้างปั้มน้ำมันขึ้นมาใหม่
.
ประการที่สาม อัตรากำไรสุทธิที่บางมาก ๆ
.
ถ้าเราพิจารณาจากข้อมูลย้อนหลังสิบปี เราจะพบว่า หุ้น PTG มีอัตรากำไรสุทธิที่บางมาก ๆ แต่ยอดขายนั้นเติบโต และมีวอลุ่มของยอดขายสูงมาก สิ่งนี้หมายความว่า หากอัตรากำไรสุทธิมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย จะส่งผลกระทบต่อ กำไรสุทธิ ในบรรทัดสุดท้าย
.
สิ่งที่อยู่เบื้องหลังการขึ้นลงของอัตรากำไรสุทธิก็คือ ค่าการตลาด ซึ่งเป็นมาร์จิ้นที่ผู้ให้บริการปั้มน้ำมันจะได้รับจากการนำน้ำมันมาขายตามปั้ม โดยค่าการตลาดมักจะเหวี่ยงขึ้น ๆ ลง ๆ ตามตลาดน้ำมัน
.
หากค่าการตลาดสูง อัตราการทำกำไรของกิจการก็จะสูง หากค่าการตลาดต่ำ อัตราการทำกำไรของกิจการก็จะต่ำ และมันจะเริ่มผันผวนมากยิ่งขึ้น ถ้ายอดขายน้ำมันมีปริมาณมากขึ้น ลองคิดดูว่า การเปลี่ยนแปลง ค่าการตลาด เพียงน้อยนิดจะส่งผลต่อกำไรสุทธิมหาศาล
.
ยกตัวอย่างเช่น ยอดขาย 40,000 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 1% จะทำกำไรได้ 400 ล้านบาท
แต่ถ้ายอดขายเติบโตเป็น 100,000 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิเท่าเดิมจะทำกำไรได้ 1,000 ล้านบาท
.
จะเห็นได้ว่า ยิ่งยอดขายเยอะ ค่าการตลาดที่เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยจะส่งผลต่อกำไรสุทธิเป็นอย่างมาก หากอัตรากำไรสุทธิลดลงก็จะส่งผล ด้านลบ อย่างมากเช่นกันครับ
.
ข้อสรุป และข้อคิดก็คือ ... หุ้น PTG ในห้วงปีที่ผ่านมามีการเติบโตของยอดขายรวดเร็วมาก ด้วยกลยุทธ์ปั้มบนถนนสายรอง และค่าการตลาดที่เติบโตในช่วงที่ผ่านมาทำให้หุ้นโตได้ 10 เท่าในระยะเวลาแค่ 5 ปี แต่หลังจากนี้ไป ค่าการตลาดที่เคยทำให้เติบโตเร็ว อาจกลายเป็นผลอีกด้าน เพราะยอดขายที่เพิ่มขึ้นก็ต้องแบกรับความผันผวนที่สูงขึ้นนั่นเองครับ #นายแว่นลงทุน
.
ติดตามในรูปแบบคลิปที่นี่เลยครับ
https://youtu.be/SQlxOo3cKTc
...............................................................................................................
.
#แนะนำคอร์สเรียนออนไลน์ ... "พลิกหินหาหุ้น ด้วยกระแสเงินสด"
.
คอร์สนี้เหมาะสำหรับมือใหม่ หรือนักลงทุนที่ลงทุนมาระยะ 1-2 ปีนะครับ
.
https://www.skilllane.com/courses/Unlock-Stock-Cash-Flow
.
ใครสนใจเข้าร่วมกลุ่ม "ถอดรหัสหาหุ้นเติบโต" add เข้ากลุ่มได้ที่นี่เลยครับhttps://www.facebook.com/groups/781681738849907/
.
หรือติดตามผ่านช่องทางยูทูปที่https://www.youtube.com/chan
/UCcQxvgiObaaA2DI3UOqrXZw/feed
.
และสามารถอ่านบทความนี่น่าสนใจได้ที่นี่ https://www.topofliving.com/นายแว่นลงทุน