หาหุ้นโตเร็วสไตล์VI : อยากพิชิตหุ้นพลิกฟื้น เพื่อให้พอร์ตโตเร็วต้องทำไง
หาหุ้นโตเร็วสไตล์VI : อยากพิชิตหุ้นพลิกฟื้น เพื่อให้พอร์ตโตเร็วต้องทำไง สำหรับนักลงทุนหุ้นโตเร็ว การมองหาหุ้นโตเร็วตลอดเวลาถือเป็นภารกิจหลัก เมื่อเป็นดังนี้นักลงทุนหุ้นโตเร็วก็จะต้องหาหุ้นทุกประเภทที่มีแววจะเติบโตอย่างรวดเร็ว หุ้นที่เข้าข่ายที่นักลงทุนหุ้นโตเร็ว หรือ Growth Investor จับตามอง ได้แก่ หุ้นโตเร็ว Growth Stock ที่มีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ตามภาวะกิจการที่ดีขึ้น อาจเป็นเพราะตัวกิจการเองอยู่ในอุตสาหกรรมเมกะเทรนด์ และเจ้าของกิจการสามารถสร้างข้อได้เปรียบด้านการแข่งขันได้อย่างยั่งยืน แบบนี้หุ้นก็จะเติบโตไปเรื่อยๆ จนกว่าจะอิ่มตัว หุ้นวัฏจักร Cyclical Stock สำหรับหุ้นวัฏจักรที่ขาย หรือผลิตสินค้าที่มีความเป็น โภคภัณฑ์ หรือ Commodity Goods Stock หุ้นประเภทนี้เวลาตกต่ำก็จะมีช่วงเวลาที่ค่อนข้างจะยาวนาน แต่เมื่อวัฏจักรพลิกกลับมาเป็นขาขึ้นก็จะมีกำไรเพิ่มขึ้นอย่างมาก นักลงทุนหุ้นโตเร็วก็จะสนใจหุ้นประเภทนี้เช่นกัน และคอยตรวจติดตามอย่างใกล้ชิด หุ้นพลิกฟื้น Turn Around Stock หุ้นพลิกฟื้นนั้นเป็นหุ้นที่ถ้าลงทุนเป็นจะได้ผลตอบแทนกลับมาอย่างรวดเร็ว และหลายเด้ง หุ้นพลิกฟื้นส่วนใหญ่จะมาจากกิจการที่ดูย่ำแย่ และนายตลาด หรือ Mr.Market ไม่ให้ราคา ทุกคนมองว่ามันไม่ดี แต่ถ้ามันกลับมาได้ก็จะเด้งขึ้นอย่างรวดเร็ว หุ้นแบบนี้ก็อยู่ในขอบข่ายความสนใจของนักลงทุนหุ้นโตเร็วเช่นกัน อยากพิชิตหุ้นพลิกฟื้น เพื่อให้พอร์ตโตเร็วต้องทำไง หุ้นพลิกฟื้น หรือ Turn Around Stock ตามประสบการณ์ส่วนตัวเราสามารถคาดหวังว่าราคาจะเติบโตได้ราว 3 เท่าตัว หรือ 3 เด้ง แต่ก่อนราคาจะปรับตัว 3 เท่าตัว หุ้นเหล่านี้มีลักษณะที่ต้องบอกว่าไม่เสมอไป แต่ออกแนวๆ ดังต่อไปนี้ ประการแรก มี PBV ต่ำกว่า 1 เท่า การ scan หาหุ้นประเภทพลิกฟื้น ผมมักจะเริ่มต้นด้วยการหาหุ้นที่มี PBV หรือ Price Per Book Value ต่ำๆ ถ้าหุ้นตัวไหนมี PBV ต่ำกว่า 1 เท่า ถือว่าเข้าข่ายน่าไปหาข้อมูลต่อ ... คำถามก็คือ ทำไมต้องมี PBV ต่ำกว่า 1 เท่า นั่นเป็นเพราะหุ้นที่มี PBV ต่ำๆ มันหมายความว่าเราซื้อหุ้นที่ได้สินทรัพย์สูงกว่ามูลค่าจริง ยกตัวอย่างเช่น หุ้น A มีสินทรัพย์ 1000 ล้านบาท มีหนี้สิน 500 ล้านบาท ดังนั้นหุ้นตัวนี้จะมีทุน หรือส่วนของผู้ถือหุ้น = 1000 500 = 500 ล้านบาท ถ้าหุ้นตัวนี้มี 500 ล้านหุ้น เท่ากับราคาหุ้นละ 1 บาท (คิดที่ราคาทุน) หากเราซื้อหุ้นตัวนี้ได้ในราคาเพียง 0.5 บาท เท่ากับเราซื้อหุ้นได้ในราคาต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี คือ 1 บาทต่อหุ้น หรือหุ้นตัวนี้มี PBV เพียง 0.5 เท่านั่นเอง ประการที่สอง หุ้นมีกำไรสะสมติดลบหรือไม่ สิ่งที่ต้องพิจารณาในลำดับต่อไปก็คือ หุ้นที่เราเล็งๆ ไว้ว่ามันจะพลิกฟื้นกลับมาได้นั้นมีกำไรสะสมติดลบหรือไม่ เพราะหากหุ้นที่เราเล็งมีกำไรสะสมติดลบ โอกาสที่หุ้นจะพลิกกลับมาเป็นบวกก็จะยากตามไปด้วย สำหรับนักลงทุนหุ้นพลิกฟื้นบางคนที่มากประสบการณ์อาจเลือกลงทุนในหุ้นที่มีกำไรสะสมติดลบ เนื่องจากเขาคิดว่า ราคาจะยังไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงอย่างแน่นอน เพราะกำไรสะสมที่ติดลบไม่ได้มีความน่าดึงดูดนักลงทุนในตลาดเอาเสียเลย และหากกิจการดีขึ้น เริ่มพลิกกำไรกลับมาเป็นบวก จะทำให้หุ้นขึ้นได้หลายเด้งนั่นเอง ประการที่สาม หุ้นมีผู้บริหารที่จริงใจหรือไม่ สำหรับกิจการที่ย่ำแย่ขนาด กินทุน หรือมีกำไรสะสมติดลบนั้น ต้องอาศัยทั้งแรงกาย แรงใจ และแผนการที่จะพลาดไม่ได้ของทีมผู้บริหารที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจจริงที่จะทำให้กิจการเหล่านั้นพลิกกลับมาเป็นบวกได้อีกครั้ง ดังนั้นการดูตัวผู้บริหารจึงเป็นเรื่องสำคัญ นักลงทุนผู้มุ่งมั่น และมองเห็นว่าถ้ากิจการพลิกกลับมาได้ ก็จะโตอย่างรวดเร็ว มักจะเข้าไปประชุมผู้ถือหุ้น หรือฟังความคิดเห็นของผู้บริหารตามงานแถลงผลประกอบการ หรือติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด บางคนใช้วิธีดูบุคลิกของผู้บริหาร และพิจารณาแผนการพลิกฟื้นกิจการว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ถ้ามีแววดี โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็มีความเป็นไปได้สูง ประการสุดท้าย ต้องมีความมั่นใจ และอดทนอย่างสูง บางครั้งการพลิกฟื้นกิจการไม่ใช่เรื่องที่ทำเสร็จภายในไม่กี่เดือน หลายครั้งใช้เวลาเป็นปี เริ่มด้วยการจัดการหนี้สิน เพิ่มสภาพคล่อง โดยตัวอย่างของขั้นตอนการพลิกฟื้นกิจการ มีดังต่อไปนี้ - จัดการหนี้สิน ... บางกิจการแค่หาเงินมาจ่ายดอกเบี้ยก็หมดเวลาทำงานแล้ว กิจการที่คิดจะพลิกฟื้นต้องรีบจัดการหนี้สินให้เร็ว ด้วยการหาแหล่งทุนมาเพิ่มเข้าไปในธุรกิจ แต่ไม่ควรกู้ระยะสั้นมาลงทุนระยะยาวเป็นอันขาด เพราะหากขาดสภาพคล่องเมื่อไรจะถึงขั้นล้มละลายทันที
- ลดต้นทุน ... วิธีการที่ง่ายที่สุด และได้ผลดีเห็นทันตาก็คือ การลดต้นทุน โดยเฉพาะต้นทุนขาย ถ้าลดลง หรือกดไม่ให้เพิ่มขึ้นมาได้ก็มีความหวังแล้วล่ะครับ
- หาทางเพิ่มยอดขาย ... วิธีการที่ทำควบคู่กันไปด้วยก็คือ การเพิ่มยอดขาย ยอดขายที่เข้ามาจะช่วยทำให้กระแสเงินสดของกิจการดีขึ้น แต่ต้องระวังในกรณีที่ยิ่งมียอดขายเยอะยิ่งต้องใช้เงินหมุนเยอะ (กรณีกิจการที่มีเครดิตเทอมยาวนาน)
- ปรับโมเดลธุรกิจให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบัน ... บางครั้งกิจการที่ดูย่ำแย่อาจเป็นเพราะโมเดลของกิจการมันล้าสมัย ผู้บริหารที่มองเห็นตรงจุดนี้แล้วปรับเปลี่ยนให้ตรงจุดก็มีโอกาสที่จะทำให้กิจการดีขึ้นมาได้
อย่างไรก็ตามการลงทุนหุ้นพลิกฟื้น ต้องใช้ความอดทนอย่างสูง ต้องรอจนกว่ากิจการจะพลิกกลับมาบวกได้สำเร็จ มันอาจจะยาวนานจนทำให้นักลงทุนท้อถอย สิ่งที่สำคัญก็คือ ความมั่นใจ นักลงทุนหุ้นพลิกฟื้นจะเข้ามาตอนกิจการมีปัญหา และจะจากไปตอนกิจการประสบความสำเร็จอย่างงดงามเสมอ การอดทนรอคอยจึงเป็นกลยุทธ์ที่จำเป็นสำหรับการณ์นี้ แต่ถ้าเราคิดผิด ก็ควรรีบตัดขาดทุนเสียก่อนที่แผลจะลุกลามปานปลายนะครับ คำเตือน การวิเคราะห์หุ้น การลงทุนรูปแบบต่างๆ และเทคนิคการลงทุนในหุ้นเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร ผู้เขียนบทความไม่รับผิดชอบต่อความเสี่ยง หรือความเสียหายในการลงทุนของผู้รับข้อมูลนะครับ #หนังสือน่าอ่าน เจาะหุ้น VI เกาะกระแสเมกะเทรนด์ กระแสเมกะเทรนด์ในยุคใหม่มีอะไรบ้าง และเราจะลงทุนอย่างไรให้เกาะไปกับกระแส เพื่อไม่ให้ตกรถ หนังสือเล่มนี้จะบอกเล่าประสบการณ์ลงทุนในหุ้น จะทำให้คุณไม่ต้องเสี่ยงกับหุ้นที่เราไม่รู้จัก และปลอดภัยจากการลงทุนได้มากขึ้นอย่างแน่นอนครับ บทนำ จุดเริ่มต้นของการลงทุนแนววีไอ บทที่ 1 เลือกหุ้นอย่างไรให้ปลอดภัย บทที่ 2 เจาะหุ้นเหล็ก บทที่ 3 ยุคแห่งพลังงานสะอาด และเมกะเทรนด์โรงไฟฟ้า บทที่ 4 บทเรียนหุ้นพลังงานทดแทน บทที่ 5 เจาะแก่นหุ้นเล็กโตไว บทที่ 6 วีไอซื้อหุ้นต้องดูอะไรบ้าง? บทที่ 7 ประสบการณ์ลงทุนหุ้นโภคภัณฑ์ บทที่ 8 ประสบการณ์ลงทุนหุ้นรถไฟฟ้า และหุ้นคอนโดมิเนียม
Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2560 |
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2560 10:24:07 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1349 Pageviews. |
|
|