Bloggang.com : weblog for you and your gang
บางระกำช้ำใจจริงรึเปล่า?? : 13 ต.ค. 54
บางระกำช้ำใจจริงรึเปล่า??
13 ตุลาคม 2554
ตอนนี้น้ำที่จังหวัดพิษณุโลกลดลงไปมากแล้วเพราะเขื่อนสำคัญลดการปล่อยน้ำลง มันทำให้เข้าใจได้ไม่ยากว่า ทำไมผู้คนมากมายจึงโทษว่าน้ำท่วมคราวนี้เกิดจากการบริหารจัดการเขื่อนที่มีปัญหา เช่นเดียวกับเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2538 ถึงแม้ทางกรมชลจะออกมาปฏิเสธว่า น้ำฝนปริมาณมากมายขนาดนี้ ยังไงน้ำมันก็ต้องท่วม แต่หากยังจำกันได้ เมื่อต้นฤดูฝนนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาได้ทำการพยากรณ์ว่า ปีนี้ฝนจะมาเร็วและก็จะไปเร็วด้วยเช่นกัน ให้เกษตรกรรีบทำนาเพราะปลายฤดูจะเกิดภาวะภัยแล้งเกิดขึ้น แต่การคำนวณนี้ก็อย่างที่เราท่านทราบกันว่า มันถูกต้องเพียงแค่ฝนจะมาเร็ว แต่มันไม่ได้ไปเร็วอย่างที่คาดการณ์เอาไว้ และผมก็เชื่อว่าการพยากรณ์ที่ผิดพลาดนี้เป็นต้นเหตุให้เขื่อนต่างๆทำการกักเก็บน้ำไว้มากมาย จนเมื่อถึงฤดูมรสุมก็ไม่อาจรับน้ำได้อีก ต้องปล่อยน้ำจำนวนมากมายมหาศาลที่เก็บเอาไว้ลงมาท่วมบ้านท่วมเมือง
แล้วจะโทษใครได้หรือไม่ ถ้าการพยากรณ์ถูกต้องว่าปีนี้น้ำจะมาก เขื่อนต่างๆคงพร่องน้ำตั้งแต่ต้นฝน ไม่เก็บไว้ถึงระดับวิกฤต เพราะก่อนหน้านั้นปริมาณน้ำในเขื่อนต่างๆก็มีน้อยอยู่ในระดับที่ใช้ปั่นกระแสไฟฟ้าแทบไม่ได้อยู่แล้ว จะโทษคนพยากรณ์หรือ ก็คงไม่ได้เช่นกัน เพราะถึงแม้ในยุคสมัยนี้เราจะเข้าใจระบบกระแสน้ำอุ่นน้ำเย็นในมหาสมุทธที่ทำให้เกิดภาวะภัยแล้งวาตภัยอุทกภัย ปรากฏการณ์ชื่อแปลกๆลานินย่า เอลนินโย่ จนสามารถทำนายได้แล้วก็ตาม แต่ปีนี้ หลังจากเกิดเอลนินโยมันก็ต่อด้วยลานินย่าทันที ทั้งที่ไม่เคยเกิดแบบนี้มาก่อน และปีต่อมาก็ยังตามด้วยลานินย่าต่ออีก ซึ่งปรากฏการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ไม่เคยเกิดปรากฏการณ์ซ้ำซ้อนติดๆกันแบบนี้ มั่นหมายถึงการเปลี่ยนแปลกภาวะภูมิอากาศโลก ดำเนินมาสู่จุดที่ไม่อาจคาดเดาได้อีกแล้ว วัฏจักรธรรมชาติเสียสมดุล และกำลังปรับเข้าสู่สมดุลใหม่ ซึ่งอาจใช้เวลายาวนานนับร้อยๆปี และเป็นเรื่องที่เราต่างต้องปรับตัวเพื่อสร้างสมดุลใหม่ในการอยู่ร่วมกับธรรมชาติด้วยเช่นกัน
การสร้างบ้านพักชั่วคราวริมถนนเห็นได้ทั่วไป
จากภาวะน้ำท่วมภาคเหนือที่เกิดขึ้นก่อนที่น้ำจะไหลบ่าเข้าท่วมภาคกลาง ความต่างหนึ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือพฤติกรรมของผู้คน ดูเหมือนคนเมืองจะรับไม่ค่อยได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น ต่างโทษกันไปกันมา ต่อว่าด่าทอหน่วยงานต่างๆ มาช่วยล่าช้า ดูแลพื้นที่ไม่ดีปล่อยให้น้ำเข้ามาได้ มีเจ้าหน้าที่ไม่พอไปช่วยยกข้าวของในบ้านก็ด่าว่า(ทั้งที่บ้านเจ้าหน้าที่ที่ไปช่วยก็น้ำท่วมไม่ต่างจากบ้านเค้าเหล่านั้น) น้ำท่วมเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ออกมาชุมนุนลื้อพนังกั้นน้ำโดยไม่ฟังเหตุฝังผลอะไรทั้งสิ้น เห็นแล้วมันอนาจใจจริงๆ มันแตกต่างจากชาวบ้านทางเหนือที่ผมได้สัมผัส มันตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง
ที่จอดรถกลายเป็นที่จอดเรือ
ผมได้มีโอกาสแวะไปพูดคุยกับเพื่อนๆที่บางระกำ ที่ที่อุทกภัยไม่เคยปราณี จนรัฐบาลประกาศให้นำร่องโมเดลการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก บางระกำโมเดล ที่นั่นพอมีข่าวว่าน้ำจะท่วมเขาก็เตรียมข้าวของหนีน้ำ ทำบ้านเรีอนชั่วคราวสำหรับการอพยพ เตรียมเรือรับกับภาวะน้ำท่วม มีการชุมนุนมีการเรียกร้องก็เพียงขอให้ชลอน้ำไว้บ้างเพื่อให้พวกเค้าเกี่ยวข้าวให้เสร็จเสียก่อน เพราะถ้าข้าวเสียหายนั่นหมายความว่าทั้งปีนั้นเขาอาจไม่มีแม้ข้าวจะกินเข้าไป และหนี้สินที่จะตามมาไม่รู้เท่าไร หรือในบางพื้นที่ที่มีชาวบ้านชุนนุนเพื่อขอให้ลื้อพนังกั้นน้ำ ก็เพราะว่าเขาต้องทนอยู่กับน้ำที่เน่าเหม็นแล้วเป็นเดือนสองเดือน ไม่ใช่เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังน้ำท่วมแบบคนเมือง
และเมื่อถามว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเขาโทษใครหรือไม่ คนบางระกำและคนจังหวัดห่างไกลจากเมืองกรุงต่างตอบเหมือนๆกันว่า มันเป็นภัยธรรมชาติ ก็โดนกันหมดแล้วจะโทษใคร ทุกฝ่ายต่างพยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว ไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น
และคำถามยอดนิยมที่มักถูกถามก็คือ ถ้าจะมีการปล่อยน้ำเข้าท่วมต่างจังหวัดเพื่อลดปริมาณน้ำที่จะเข้าสู่กรุงเทพ เขาจะว่าอย่างไร คำตอบที่ได้ยินบ่อยๆก็คือ ยินดีถ้ามันจะทำให้คนเมืองหลวงรอดพ้นจากอุทกภัย แต่ขอให้ให้ความช่วยเหลือเขาบ้าง ชลอน้ำไว้บ้าง และอย่าปล่อยให้เขาอยู่กับน้ำนานเป็นเดือนๆ
มีน้ำก็มีปลา
ผมไม่อยากโทษคนเมือง เพราะเขามีสิ่งมีค่ามากกว่า(ในความคิดของเค้า)ที่ต้องปกป้องเอาไว้ แม้ผมจะเห็นว่าน้ำที่ท่วมนาข้าวของชาวบ้าน ที่จะทำให้เค้าสิ้นเนื้อประดาตัวมันก็มีค่าไม่ต่างกัน หรืออาจจะมากกว่าในสำนึกของผม แต่ผมก็อยากให้คนเมืองมีสติและสำนึกถึงสิ่งต่างๆมากกว่าการออกมาโวยวายโทษนั่นโทษนี่ พังพนักกั้นน้ำ หรือไปขอกระสอบทรายเพื่อเอามาขายต่อ หรือขโขมยกระสอบทรายที่กั้นพื้นที่สาธารณะมาเพื่อกั้นบ้านของตัวเองเพียงเท่านั้น อยากให้คนเมืองส่องกระจกแล้วมองเห็นคนอื่นบ้าง นอกจากมองเห็นแต่ตัวเองคนเดียว
น้ำไม่เคยทำให้เด็กหายสนุก
ที่อำเภอบางระกำซึ่งห่างจากบ้านผมไม่กี่กิโล ที่ที่ใครๆก็ว่าต้องระกำช้ำใจกับภาวะน้ำท่วม แต่...ทราบหรือไม่ว่า คนบางระกำมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวสูงที่สุดเมื่อเทียบกับอำเภอต่างๆของจังหวัดพิษณุโลก และยังมีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นอีกด้วย ผมยังมองไม่เห็นว่าอะไรที่บางระกำแตกต่างจากอำเภออื่นๆ นอกจากน้ำท่วม หรือบางที... น้ำนั้นเองนำมาซึ่งความมั่งคั่ง
พอน้ำมาชาวบ้านก็ทำเครื่องมือหาปลา
บางระกำมีประเพณีกินปลาชมหมา เพราะอำเภอนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยปลานานาพันธุ์ และเป็นถิ่นกำเหนิดของหมาบางแก้วที่เลื่องชื่อว่ารักเจ้าของนักหนา(และกัดเก่งโครตๆ) หมาบางแก้วเป็นหมาที่ว่ายน้ำเก่งมาก และยังสามารถจับปลากินได้ (นั่น หมายังปรับตัวได้) น้ำที่หลากจากแม่น้ำยม จากอุทยานแห่งชาติแม่ยม ไม่ได้มีแต่น้ำเท่านั้น ยังนำพันธุ์ปลามาให้ชาวบางระกำจับ และนำแร่ธาตุอาหารมาบำรุงผืนดิน ทำให้พืชพรรณอุดม
มีปลามากมายใต้ถุนบ้านก็มี
คำถามคือ ถ้าน้ำไม่ท่วมบางระกำ ชาวบางระกำยังจะมีรายได้เฉลี่ยสูงที่สุดในจังหวัดพิษณุโลกอีกหรือไม่ บางระกำยังจะมีปลาไว้จับกินในงานประเพณีอีกหรือเปล่า ความเดือนร้อนที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของธรรมชาติ หรือเพราะเราใช้ชีวิตไม่เหมาะสมกับธรรมชาติเองรึเปล่า
บนถนนก็มีปลา
นักวิชาการต่างพูดเสมอๆว่าบางส่วนของ พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ อยุทธยา เหล่านี้เป็นแก้มลิงธรรมชาติ ต้องปล่อยให้น้ำท่วม ถ้าน้ำไม่ท่วมที่นี่ก็จะต้องไปท่วมที่อื่น(กรุงเทพใช่ไหม) แต่ผมอยากถามต่อว่า แล้วกรุงเทพ นนทบุรี ปทุมธานี ไม่ใช่แก้มลิงธรรมชาติขนาดยักษ์รึอย่างไร
ถนนที่กลายเป็นคลอง
ปัญหาเรื่องที่เกิดขึ้นคงต้องหาทางป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก เขตเศรษฐกิจสำคัญคงต้องรักษาไว้ แต่ผังเมืองก็คงต้องปรับเปลี่ยนใหม่ กรุงเทพและปริมณฑลควรหยุดการขยายตัวได้แล้ว เพราะยังไงก็ต้องยอมรับว่ามีสภาพพื้นที่เหมาะสมกับเกษตรกรรมมากกว่าการเป็นเมือง และสุ่มเสียงกับภาวะน้ำท่วม รวมถึงอาจจมทะเลได้ในอนาคต เมืองต้องขยายไปในพื้นที่ที่เหมาะสมกว่านี้ การบริหารจัดการน้ำต้องมีเครื่องมือมากขึ้น เขื่อนคงปฏิเสธไม่ได้ แต่ต้องมีการบริหารจัดการที่เหมาะสม พื้นที่เกษตรกรรมต้องมีการวางแผน ทั้งชนิดพันธุ์พืชระยะเวลาการเพาะปลูก รวมถึงการชดเชยความเสี่ยงต่างๆ บ้านเมืองสาธารณูปโภคสาธารณูปการต้องมีการปรับใหม่ทั้งหมด คงต้องคิดนอกกรอบออกไปจากเดิม(คิดเหมือนเดิมก็เดือนร้อนเหมือนเดิมนั่นหล่ะ)
ธรรมชาติผลิกผันจนไม่อาจคาดเดาได้แล้ว ถ้าเราไม่ปรับตัว ไม่แก้ไขอะไรเลย ก็คงถูกธรรมชาติคัดสรรให้ต้องหายไปจากแผ่นดินเหมือนกับไดโนเสาร์นั่นหล่ะครับ และถ้าอยากหาคนรับผิดชอบ อยากโทษอะไรสักอย่าง คนคนนั้นแท้จริงก็คือคุณนั่นหล่ะ หรือคุณจะปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของต้นเหตุภาวะการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลกที่เกิดขึ้น
Create Date : 13 ตุลาคม 2554
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2555 11:07:52 น.
13 comments
Counter : 1627 Pageviews.
Share
Tweet
คนเรามีสิ่งมีค่าที่ต้องรักษาต่างกันค่ะ
และบางครั้งมันก็ทำให้คนเห็นแก่ตัว...มากขึ้น
โดย: ดอกแก้ว (
tanH2O
) วันที่: 13 ตุลาคม 2554 เวลา:14:49:54 น.
ในนาไม่มีข้าว แต่ก็ยังมีปลาหากินกันอยู่
อีกหลายที่ไม่เคยท่วมเหมือนบางระกำ
คงระกำกันไปอีกหลายเดือน
โดย:
the mynas
วันที่: 13 ตุลาคม 2554 เวลา:16:22:18 น.
ขุดทะเลสาปเลยพี่มิน ภาคเหนือตอนล่างเป็นที่ราบลุ่มรับน้ำจากภูเขาอยู่แล้ว เพื่อชลอหรือลดกระแสน้ำไม่ให้ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยามากเวนคืนที่แล้วเอามาสร้างแก้มลิง ทำในหลาย ๆพื้นที่เลยครับ ก็เป็นแนวทางหนึ่งครับ โชคดีจังบ้านพี่มินน้ำไม่ท่วม
โดย:
Patteera
วันที่: 13 ตุลาคม 2554 เวลา:19:22:01 น.
ภาพได้บรรยากาศ..ดีคับ..สมัยเด็กๆชอบให้น้ำท่วมเพราะจะได้เกาะบันไดบ้านแล้วก็ว่ายน้ำเล่น
จำได้ว่าเป็นโรคตาแดงเป็นประจำ ... สนุกน้ำท่วม ..แต่เรื่องความทุกข์ของผู้ใหญ่เด็กๆอย่างเราไม่เคยรับรู้ฮ่า
โดย: ขุนเพชรขุนพลอย (
ขุนเพชรขุนราม
) วันที่: 14 ตุลาคม 2554 เวลา:4:32:37 น.
ภาพชีวิตจริงๆเลยนะครับ
ข้าราชการคงต้องเหนื่อยกว่าปกติ
อย่าหมดกำลังใจนะครับ
โดย:
Nagano
วันที่: 14 ตุลาคม 2554 เวลา:10:10:01 น.
เมื่อคราวนกเตนเข้าใหม่ๆ ไปติดกล้องวงจรปิดที่บางระกำ
ขาไปเห็นแผงขายปลากะว่าขากลับจะแวะซื้อ
ปรากฎว่ารถตามหลังมาเป็นขบวนเลยไม่ได้จอดซื้อกลัวคันหลังด่า
ปล.ใส่แว่นดำปิดบังแววตา.....หรือจ๊ะ
โดย: พี่นู๋อ้อ (
pinuaoo2006
) วันที่: 14 ตุลาคม 2554 เวลา:17:31:48 น.
เปิดใจ ปรับตัว เรียนรู้
เรื่องและภาพวันนี้ ตรงใจที่สุดอีกแล้ว
ขอแชร์ไปหาคนเมืองบางคนในเฟสบุคหน่อยนะ
เพลงยังเพราะเหมือนเดิมคร๊าบบบ
โดย:
coji
วันที่: 15 ตุลาคม 2554 เวลา:9:33:56 น.
เข้ามาอ่าน
ชอบทั้งภาพและคำ
คิดตามไปเรื่อยๆ
ได้แง่มุมคิดที่แตกต่างครับ
โหวตให้ในสาขา Tropical นะครับ
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 15 ตุลาคม 2554 เวลา:10:00:40 น.
เข้ามาก็ได้เห็นภาพวิถีชีวิตของคนที่อยู่กับน้ำท่วมได้อย่างลงรูปรอย พร้อมมุมมองแง่คิด ขอบคุณที่นำมาเสนอนะครับ
โดย: bite25 ไม่ได้ล็อกอิน IP: 223.204.33.109 วันที่: 15 ตุลาคม 2554 เวลา:15:38:40 น.
สว้สดี ค่ะ
ที่บ้านน้ำไม่ท่วมนะคะ
newyorknurse
โดย:
newyorknurse
วันที่: 17 ตุลาคม 2554 เวลา:9:38:15 น.
ขอเป็นกำลังใจกับผู้ประสบภัยน้ำท่วมทุกคน
โดย: ooy (
ooybangyom
) วันที่: 17 ตุลาคม 2554 เวลา:10:40:39 น.
ชอบมุมมองของภาพสวยจัง!
อืม!!บางระกำ..
โดย:
Lika ka
วันที่: 3 พฤศจิกายน 2554 เวลา:9:21:50 น.
ภาพสวยสะท้อนชีวิต แถมข้อคิดที่เขียนก็ถูกใจแปะเลย
LIKE Mak Mak
โดย:
deco_mom
วันที่: 14 พฤศจิกายน 2554 เวลา:18:00:41 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
nainokkamin
Location :
พิษณุโลก Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [
?
]
Group Blog
สวนนกขมิ้น
ในความทรงจำ
Home Theater
เรื่องเล่า
มุมสะท้อน
หน้าต่างบานแรก
ห้องสมุด
ห้องครัว
เพื่อนในสวน
ห้องส่วนตัว
ตุลาคม 2554
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
13 ตุลาคม 2554
บางระกำช้ำใจจริงรึเปล่า?? : 13 ต.ค. 54
All Blogs
เที่ยวสวนทุเรียนกันครับ
ชมน้องๆเฟยเยี่ยนเล่นกายกรรม
ไปวิ่งมาราธอนกัน
เที่ยวงานลอยกระทงเมืองสองแควรับสายลมหนาวกันครับ : 10 พ.ย. 54
ชมกระทงงามที่บึงราชนก : 10 พ.ย. 54
แมงหัวหงอกแห่งทุ่งแสลงหลวง : 10 พ.ค. 54
บางระกำช้ำใจจริงรึเปล่า?? : 13 ต.ค. 54
ความสุขกับถนนดอกไม้ของคุณตาบุญเพ็ญ : 3 ส.ค. 54
Friends' blogs
pinuaoo2006
กาแฟสดกะพรรณไม้งาม
ดอกฝิ่นในสายลมหนาว
ooybangyom
the mynas
กะว่าก๋า
เจ๊ดา
นกฮูกสีน้ำตาล
coji
doyngam
DZym
canx
puipom
mutcha_nu
DR.MOO CAN DO
at heart
แม่เฮือน
แม่สลิ่ม
Lika ka
Patteera
Calla Lily
tanH2O
ซองขาวเบอร์ 9
Bug in the garden
Nagano
newyorknurse
bite25
อารีย์
Marquez
ทานะ
ฟ้าใสวันใหม่
เหนือฟ้า พาไป
wink99_th
deco_mom
peeamp
lastmoon
dinga27
คนสวนบ้านคลอง
กระแตไต่ไม้
ann3377
Webmaster - BlogGang
[Add nainokkamin's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
และบางครั้งมันก็ทำให้คนเห็นแก่ตัว...มากขึ้น