ผิดไหม? ถ้าคนไข้อย่างผมไม่เชื่อหมอ ผิดไหม? ถ้าคนไข้อย่างผมไม่เชื่อหมอ 4 ธันวาคม 2555 ผลพวงจากการทำงานไม่มีวันหยุดติดกันมาเดือนหนึ่ง ทำให้ผมป่วยแล้วก็ป่วย แหม...ช่างคุ้มกันเสียจริงเลยครับ ถ้าเราทำงานจนตายไปก็ใช่ว่าใครจะจดจำทำอนุศรให้ มีแต่จะชมเชยอย่างจริงใจว่า "โง่...บ้างานจนตาย 555" แต่มันแย่ตรงที่ไม่ทำก็ไม่ได้นะสิครับ หลังจากป่วยชุดแรกไปแล้ว โรคที่สองก็ตามมาติดๆ ที่เอามาเล่าไม่ใช่อะไรหรอกครับ แต่เชื่อว่ามันจะเป็นประโยชน์กับใครอีกมากมายที่ไม่ใส่ใจสุขภาพ และไม่ได้ศึกษาเรื่องราวของโรคภัยต่างๆดีพอ และเชื่อหมอไปเสียหมด แต่ถึงเราท่านนั้นไม่ได้เรียนมาเฉพาะทางแบบหมอๆทั้งหลาย แต่ว่า... เชื่อผมเถอะครับ ศึกษาเอาไว้นั้นและดีที่สุด อาการป่วยคราวนี้ของผมเริ่มขึ้นเมื่อคืนก่อนนี้เอง ผมนอนไม่หลับปวดศีรษะมาก ไข้ขึ้นสูง ตามตัวมีจ้ำสีแดงเล็กๆปรากฏทั่วตัว ทั้งศรีษะ แขน ขา หน้า หลัง เป็นหมดยกเว้นฝ่ามือฝ่าเท้า แต่จ้ำนั้นมีไม่มากนะครับ มีแค่ประมาณยี่สิบจุดเท่านั้น และมันก็คันยิบๆเลยทีเดียว พอเช้าจ้ำแดงๆก็กลายเป็นตุ่มน้ำใสๆ ไม่ได้ขึ้นพร้อมกันหมด แต่ขึ้นเป็นชุดๆ บ้างก็เพิ่งเป็นจ้ำใหม่ บ้างก็กำลังเป็นตุ่มน้ำ ตุ่มน้ำในรูปเป็นภาพของวันที่สองซึ่งตุ่มจะเล็กกว่าที่ขึ้นวันแรกมาก บางตุ่มอยู่ในร่มผ้ามันคันมาก ผมเลยเอายาทาแก้คันพวกผสมสเตย์ลอยทา ผลคือตุ่มไหนที่ทาแล้ว มันก็ลามใหญ่ขึ้นทันตาเลย แบบในภาพเทียบตุ่มที่ทายาจะใหญ่กว่าตุ่มปกติ พอตุ่มน้ำยุบแล้ว ก็จะเป็นแบบในภาพ แต่ตุ่มก็ยังทยอยขึ้นเป็นชุดๆ วันที่สองไข้ลดลงเหลือแค่ตัวรุมๆเท่านั้น มีอาการปวดท้องเหมือนโรคกระเพาะอักเสบเพิ่มขึ้นมา ปวดหลัง คอ ไหล่ ผมก็เลยไปพบแพทย์ เพราะเกรงเป็นโรคติดต่อง่าย จะได้ไม่เอาไปติดเด็ก ผมไปโรงพยาบาลของรัฐตั้งแต่สามโมงเช้ากว่าจะได้ตรวจคือบ่ายสามโมงเย็น สุดๆไปเลย เกิดเป็นข้าราชการนี่มันช้ำใจจริงๆ พอหมอสอบอาการ ตรวจร่างกาย ก็ถามปิดท้ายอีกนิดหน่อย "ทานยาแล้วไข้ลดไหม" ผมตอบ "ลดครับ ไข้ลดไม่ยาก แต่พอหมดฤทธิ์ยาไข้ก็ขึ้นอีก" "เจ็บลคอไหม" ผมตอบ "ไม่เจ็บ ไม่มีเสมหะ ไม่มีน้ำมูก" "ตุ่มที่เห็นเป็นตุ่มเลือดนะ หมอคิดว่าเป็นไข้เลือดออก เดี๋ยวจะให้เจาะเลือดดู" ผมตอบ "ไม่ดีกว่าครับ จัดยามาเลยดีกว่า ผมมีธุระต้องรีบไป" หมอแสดงความไม่พอใจ แต่ผมก็ยืนยันไม่เจาะเลือดตรวจ และไม่ได้พูดอะไรกับหมอเพิ่มเติมอีก ผมรับยาที่ใบเสร็จเขียนว่าป่วยเป็น "คออักเสบ" ผมเลือกยาบางส่วนใส่ตู้บริจาคยาเก่า เหลือแค่ยาลดไข้กับยาแก้คันเท่านั้น แล้วก็กลับบ้านไป ผมไม่อยากต่อสาวความอะไรต่อกับหมออีก เพราะยังไงก็แพ้อีโก้เขาอยู่ดี เพียงแต่ผมเคยป่วยเป็นไข้เลือดออกมาสามครั้งแล้วในชีวิต ผมบอกได้เลยว่าหมอวินิจฉัยครั้งนี้น่าจะผิดหรือไม่ก็ชุ่ยเกินไป ผมไม่ได้เรียนหมอมา แต่การวินิจฉัยรักษาโรคเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ที่ต้องใช้ประสบการณ์ร่วมด้วย และผมก็ไม่คิดว่าหมอทุกคนจะเชี่ยวชาญและทุ่มเทให้กับคนไข้ได้จริงๆ ตอนผมประสบสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนแขนหลุด แขนผมติดหมุนได้เพียง 45 องศาเท่านั้น หมอเจ้าของไข้ผมบอกแต่เพียง "คุณต้องทำใจรับสภาพ ว่ามันจะไม่กลับมาเหมือนเดิมอีก" แต่เพราะว่าผมไม่เชื่อ ก็เลยไปพบแพทย์ท่านอื่น ซึ่งท่านบอกผมว่า "แค่นี้สิวๆสบายอยู่แล้ว เดือนหน้ากลับไปว่ายน้ำได้เลย" ท่านให้ผมเข้าทำกายภาพ ซึ่งเพียงวันแรกที่ แขนผมก็หนุนได้ 90 องศาแล้ว ทำเพียงสัปดาห์เดียว แขนผมหมุนได้รอบ และกลับไปว่ายน้ำได้ภายใน 3 หนึ่งเดือนแบบที่คุณหมอท่านว่า(ช้าไปสองเดือน) ถ้าวันนั้นผมเชื่อหมอหน้าอ่อนคนนั้น ซึ่งรักษาผมอย่างขาดจรรยาบรรณ พูดจาทำลายความหวังและหนทางในการรักษาฟื้นฟูของผมจนหมดสิ้น ถ้าผมเชื่อเขา วันนี้ผมก็เป็นคนพิการไปจริงๆแล้วสิ ผมผิดไหมถ้าผมจะบอกว่า ผมไม่เชื่อหมอ ไม่เชื่อว่าตัวเองเป็นไข้เลือดออก ก็นะ... ถ้าผื่นเลือดมันขึ้นทั่วตัวหัวจดเท้าแบบนี้ ผมคงโดนแอดมิสเข้าโรงบาลแล้วล่ะ ก็ขนาดผื่นขึ้นจุดสองจุดซึ่งต้องเอายางรัดถึงจะผุดขึ้นมา ยังนอนซมปางตายเลย   Create Date : 04 ธันวาคม 2555 11 comments Last Update : 4 ธันวาคม 2555 18:16:32 น. Counter : 45891 Pageviews. Share Tweet

แล้วสรุปว่าเป็นอะไรอ่ะมิน ดูแลตัวเองบ้างเน้อ   โดย: coji 5 ธันวาคม 2555 15:41:10 น.

สว้สดีค่ะ อ่านแล้ว ถ้าเป็นน้องคงตีตายค่ะ ไม่สนใจตัวเองเลย ดื่้ออีกด้วย หมอก็คือหมอนะคะไม่ใช่เทวดา บางทีตรวจ ฟ้ง กด คลำ ก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นโรคอะไร ต้องมีเครื่องช่วยเช่นเจาะเลือด x-ray , scan ตามขั้นตอน ถ้าคนป่วยไม่ร่วมมือก็หนักใจเหมือนกนนะคะ ทีเมกา ถ้าคนไข้ดื้ออย่างนี้ หมอและทางรพ. ก็ไม่อยากถูกฟ้องร้องทีหล้ง คนไข้ต้องเซ็นต์ว่าไม่ยอมรับการรักษาตามหมอแนะนำด้วยนะคะ แต่อย่างไร ตอนนี้คุณก็ต้องคิดถึงคนรอบข้างนะคะ ไม่ใช่แค่ต้วเอง เราต้องแข็งแรง สุขภาพดี เพื่อดูคนข้างๆ ได้นานๆ หลานชายพี่เกิดเดือนธันวาน่ารักทีเดียว เริ่มคลานได้แล้ว อายุครบปีวันที่ 25 นี่ ใกล้เคียงกับน้องคูณนะคะ https://www.youtube.com/watch?v=bIUOu6bKO1Q&feature=youtube_gdata_player newyorknurse   โดย: newyorknurse 6 ธันวาคม 2555 6:18:04 น.

newyorknurse ไม่ได้ดื้อหรอกครับ แต่คุณพยาบาลลองอ่านอาการแล้วเปิดตำราแพทย์ตรวจตามดูสิครับ จะพบว่าหมอคนนั้นไม่ได้สัณนิฐานตรงตามตำราเลย หมอท่านอื่นก็ดูให้แล้วว่าหมอคนนั้นวินิจฉับแบบนี้ชุ่ยจริงๆ   โดย: nainokkamin 6 ธันวาคม 2555 10:06:40 น.

อ่านแล้วก็ด้วยความเป็นห่วงจริง ๆ ... จริงอยู่หมอไม่ใช่เทวดา เพราะฉนั้นก็อาจมีวินิจฉัยโรคผิดได้ แม้จะไม่ควรเลยก็ตาม เพราะทุกอย่างนั่นคือชีวิต เราเองก็เจอมาเยอะทั้งกับตัวเองและคนรอบข้าง เขาถึงแนะว่าถ้าไม่แน่ใจก็ต้องตรวจซ้ำ หรือเปลี่ยนหมอใหม่ ไม่เชื่อแต่ต้องไม่ปฏิเสธการรักษาที่จำเป็นต้องทำนะคะ เพื่อตัวเองและคนที่เราต้องดูแล ซึ่งหมายถึงเราก็ต้องดูแลตัวเองด้วย   โดย: ฟ้าใสวันใหม่ 6 ธันวาคม 2555 10:08:42 น.

เข้าใจค่ะ หมอบางคนก็มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง และไม่ฟังคนป่วย แต่คุณน้องมีญาติเป็นหมอก็หมดกังวลค่ะ เรื่องหมอพูดมากเขาจะเคือง แต่ต้องบอกเลยว่าหมอส่วนใหญ่ที่เมืองไทยไม่ชอบให้คนไข้ซักถามมาก ถามมากอาจจะบอกว่าไม่เชื่อก็อย่ามาซี ทีเมกา หมอต้องอธิบายให้คนไข้เข้าใจแจ่มแจ้ง และถ้าเราไม่พอใจ เราไปหาหมออีกคนได้ เรียก second opinion ประกันจ่ายด้วย ดีใจที่รักษาสุขภาพ เพราะห่วงหลานอยู่ค่ะ และที่จริงคนไทยก็ดื้อพอควรไม่ค่อยอยากไปหาหมอ พี่เลยกลัวน้องจะไม่อยากไปหาหมอ หายไวๆนะคะ newyorknurse   โดย: newyorknurse 6 ธันวาคม 2555 16:01:41 น.

สวัสดีก่อนเที่ยงค่า สรุปแล้วเป็นอะไรคะ แล้วตอนนี้หายดีแล้วยังเอ่ย ยังไงก็ขอให้หายไว ๆ นะคะ มีแรงพอจะแวะไปดูสวนกระป๋องที่บ้านเรา ก็ขอเชิญด้วยนะคะ ดูต้นไม้ดอกไม้จะได้สดชื่น ๆ เด้อ   โดย: ฟ้าใสวันใหม่ 7 ธันวาคม 2555 11:31:30 น.

อีสุกอีใสนี่เคยเป็นสักเจ็ดแปดปีที่แล้วอ่ะ แต่ไม่มีแผลเป็นเลย หมอบอกให้อาบน้ำบ่อยๆ รู้สึกว่าร้อนก็ให้อาบเลย ไม่ต้องหมักไว้ ไม่ต้องพึ่งยาเขียว กินยาที่หมอให้ แล้วก็มียาทาตลับเล็กๆเอง ผิดกับตอนที่น้องสาวเราเป็น เหม็นยาเขียว เหม็นเน่าโอ๊ย ไม่อยากนึก แล้วนี่หายดียังอ่ะ   โดย: coji 9 ธันวาคม 2555 9:31:51 น.

ไม่ผิดเลยสักนิด หมอบางคนอ่อนประสบการณ์ วินิจฉัยไม่เก่ง โดยเฉพาะหมอที่อายุน้อยๆ จบใหม่ เราก็ต้องเข้าใจ แต่เราเองต้องเลือกหมอเอาเอง ดูตาม รพ.ที่คิดว่า โอเค หน่อย เลือกหมอที่มีชื่อเสียงเก่งๆ เสียเวลาหน่อยก็ดีกว่าเสี่ยง เคยเจอหมอเด็กๆ ที่วินิจฉัยไม่ตรง กับอาการเราสังเกตุได้ เจอพยาบาลพูดจาไม่ดี จะให้เรานอน รพ. ท่าเดียว แต่เราไม่นอนเพราะรู้อาการตัวเอง สงสัยเห็นเราเบิกได้มั้ง .......ซึ่งอาการที่เราเป็นมันไม่จำเป็นต้องนอน หรือต้องงดน้ำงดอาหารอะไร พวกหมอสาวเด็กๆ พยาบาล ก็ไม่พอใจเรา แล้วพูดจาเสียงกระด้างว่า คราวหลังเป็นอะไรไม่ต้องมาให้ รพ.นี้รักษานะ แล้วเค้า ก็บอกว่า พี่ต้องเซ็นรับว่าไม่ยอมให้ทางเรารักษา ก็เลยพูดกับหมอเด็กๆกับพยาบาลขี้อารมณ์เสียว่า ไปเอาเอกสารมาเดี๋ยวพี่จะรีบเซ็นเพราะเสียเวลาไปมากแล้ว คราวหลังหัดพูดจาให้สมกับเป็นหมอและพยาบาลหน่อยนะ อย่าให้ตัวเองต้องทำให้ รพ. เสียชื่อ ด้านการให้บริการ เพราะตัวเราเองเป็นแค่จุดจุดหนึ่งของ รพ. ทั้งหมอและพยาบาลหน้าซีดนิดหน่อย ไม่โกรธหรอก แต่ไม่พอใจนิดหน่อยที่เมืองไทยมีหมอ พยาบาลแบบนี้ ห่วงความรู้สึดคนไข้อีกหลายๆคนที่เจอ   โดย: Nopparat IP: 119.42.87.216 1 มกราคม 2556 19:03:50 น.

สรุปตุ่มนี้เกิดจากอะไรคะ   โดย: แมว IP: 27.55.145.184 11 พฤษภาคม 2556 7:07:32 น.

เราก้อเป็นยังไม่หาย ลามทั่วตัว ตอนนี้มาที่ขาแล้ว ตกลงเราเป็นอะไร หาหมอ.เปลี่ยนยามา4 รอบแล้ว ก้อยังไม่หาย เครียดจัง.   โดย: เล็กๆน้อยๆ IP: 49.48.79.193 3 ตุลาคม 2556 12:49:43 น.

เราก็เป็นเหมือนในภาพคือ เริ่มจากตุ่มเล็กๆคันๆที่หลัง ตอนแรกคิดว่าเป็นสิวที่หลังก็เลยไม่ได้สนใจ เพราะสิวที่หลังรักษายังไงก็ไม่หายแต่พอถึงบทที่มันจะหายมันก็หายเกลี้ยงซะงั้น ก็เลยปล่อยมัน ปรากฎว่ามันเริ่มใหญ่ขึ้นนูนขึ้นเป็นสีนำ้ตาลคันมากมันไม่กลมเหมือนตุ่มทั่วไป บางตุ่มมันออกยาวเหมือนเสี้ยวพระจันทร์ เราเริ่มใช้ยาเบตาดีนแต่เอาไม่อยู่ สังเกตจากอาการคันที่ไม่ลดลงเลยเปลี่ยนไปใช้ยายาแก้คันยิ่งคันหนักขึ้น จาก ๔ ตุ่มที่หลังมาขึ้นอีก๒ตุ่มที่หน้าอก เลยไปหาหมอ หมอให้ครีมมาทาชื่อ DEXAN-VG ointment 0.12% ปรากฎว่าทาแค่ไม่กี่วันดีขึ้นมาก หายคัน รอยนูนยุบเร็วมากแต่รอยสีนำ้ตาลยังอยู่ต้องใช้เวลานานกว่าสีมันจะจาง ตอนแรกคิดว่ามันเป็นเชื้อราเพราะคันมากแต่มันเป็นเชื้อแบคทีเรีย ยาฆ่าเชื้อราจึงใช้ไมได้ผล เฮ้อ...ไปหาหมอซะตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องทนคันมาตั้งนาน ใครที่เป็นอยู่ไม่แน่ใจก็ไปหาหมอนะ   โดย: ชิบะ IP: 192.99.14.36 16 มีนาคม 2557 11:55:11 น.