มีนาคม 2550

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
19
20
21
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
All Blog
ล้านคน ก็ล้านความถูกต้อง ถ้าไม่ยึดกติกา ประเทศชาติคงต้องพัง?
จะมีใครสักคนที่ คิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิด.. นั้นคงเป็นเรื่องหายาก..อาจจะเรียกว่ายาก ยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรเสียอีก ท่านพุทธทาส เคยกล่าวไว้ในหนังสือเล่มหนึ่งของท่านว่า ทุกๆคนนั้นมักจะคิดว่า ตัวเอง ทำถูกต้องเสมอ เรียกว่า มีล้านคน ก็มีอยู่ล้านความถูกต้อง
ปัจจุบัน.ประเทศชาติของเรา กำลังประสบกับภาวะนี้ เช่นกัน.. แต่ไหน แต่ไร ยังไม่เคยพบเจอว่าประเทศชาติของเรา จะมีลักษณะ "เสียงแตก" เช่นนี้ มาก่อน..
อย่างแรกเลย คือ. ปกติจะเห็นว่านักวิชาการ มักจะมองไปแนวทางเดียวกัน มักเห็นสอดคล้องกัน ตลอดมา เป็นส่วนมาก แต่ขณะนี้ นักวิชาการ ต่างเห็นแยก แตกกัน ไปคนละทิศ ละทาง บางคนยอมรับว่า การยึดอำนาจ เป็นวิธีการที่ถูกต้องเหมาะสมกับสถานการณ์ แต่บางคนบอกว่า ไม่จำเป็น ไม่เหมาะสม ทำลายระบอบประชาธิปไตย หลักนิติธรรม นิติรัฐ ถอยหลังเข้าคลอง
บางคนจะเอา ม.7 บางคน แต่บางคนบอกว่านั่นเป็นวิธี "พิเศษ" ซึ่งไม่อยู่ในระบอบประชาธิปไตย
บางคนมองว่าระบอบทักษิณเลวร้าย เรียกกันว่า เป็น"ทุนนิยมสามานย์ " บางคนก็บอกว่า ต้องแยก เป็นเรื่องๆ เรื่องไหนดี ก็ต้องสนับสนุน เรื่องจริงบางอย่าง ต้องยอมรับ ไม่ควรดัดจริต แต่ต้องมีการจัดการ(หวยบนดิน) โลกาภิวัฒน์หลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องปรับตัว
บางคน มองว่ามีการแทรกแซง องค์กรอิสระ แต่บางคน กลับมองว่า การแทรกแซง เป็นเรื่องปกติ อเมริกา ต้นแบบ ก็ยังมีการแทรกแซง และนั่นคือส่วนหนึ่งของการบริหาร หรือการ"นำ" ที่เข้มแข็ง เพื่อไปสู่เป้าหมายของผู้นำ ไม่ใช่ว่า จะต้องบริหาร แบบ "ไม่บริหาร" เพราะการบริหาร ย่อมนำไปสู่ รายจ่าย หรือความสูญเสีย ประโยชน์ ของคน จำนวนหนึ่งเสมอ แม้จะเป็นประโยชน์ ทางตรง หรือทางอ้อม อาทิ ประโยชน์ทางใจ ความเชื่อถือ ของนักวิชาการเอง ที่มีมาแต่เดิม แต่นี่ก็คือ ประโยชน์อย่างหนึ่ง ที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งได้ นี่คือรายจ่าย ประเภทหนึ่ง
นอกจากนั้น ยังมีประเด็นอื่นๆ อีกมาก มาย ที่สร้างความขัดแย้ง ทางความคิด ในหมู่นักวิชาการ บางคน. แทบจะเลิก"นับถือ"กันเลย
ต่อมา เป็นข้อที่สอง นั่นคือ ปรากฏการณ์ ความขัดแย้งระหว่าง สื่อมวลชน กับคนอ่าน ซึ่งอันนี้เป็น"เรื่องจริง" ที่สัมผัสได้ทั่วไป เป็นเรื่องจริงที่สื่อ"ไม่มีวัน"จะลงข่าว หรือออกข่าว .. หลายคนเลิกอ่านหนังสือพิมพ์ไปเลย เลิกฟังข่าว เพราะทนฟังในสิ่งที่ตัวเอง ไม่อยากจะได้ยิน ไม่ได้ เพราะรู้สึกว่า ทุกข์ใจ ยอมรับ ในสิ่งที่ตัวเอง เห็นว่า "ไม่ใช่"- "ไม่ถูกต้อง" ไม่ได้ ซึ่งนับเป็นครั้งแรก ที่สื่อบางฉบับ ชักนำ ประชาชน ไม่ได้ อย่างที่เคย ซึ่งนอกจาก ประชาชนจะ"ทะเลาะ"กับหนังสือพิมพ์แล้ว ยังทะเลาะกับ พิธีกร นักวิชาการ บรรดาอาจารย์ ทั้งหลายแหล่ ที่ชอบเขียนบทความ แสดงความคิดเห็น ของตัวเอง ออกไปสู่สาธารณะ ด้วย
ถัดมา เป็นความขัดแย้ง ทางความคิดเห็น ของประชาชนทั่วไป ที่ไม่ยอมรับ และเลิก นับถือ บรรดา"ตัวละคร" ที่มีชื่อเสียงและเคยได้รับความเชื่อถือทั้งหลาย ที่ปรากฎตัวต่อสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นดารา ศิลปิน ราษฏรอาวุโส นักจัดรายการวิทยุ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ คนชั้นสูง ราชนิกูล นักการเมือง นักการทหาร นักเรียน นักศึกษา นักธุรกิจ
และที่พิเศษก็คือ ได้เห็นความขัดแย้ง ที่มักจะไม่เคยเห็นมาก่อน ก็คือความขัดแย้ง ระหว่างสื่อ มวลชน กับ สื่อมวลด้วยกันเอง หนนี้ "หมาเฝ้าบ้าน" จึงเลยฟัดกันเอง
และสุดท้าย เป็นความขัดแย้งทางความเห็น ระหว่าง ประชาชนกับประชาชนทั่วไป ทั้งในระดับที่เป็นชาวบ้านร้าน ตลาด (ที่แน่ๆ เลยก็คือ เสียงของคน 16 ล้าน กับเสียงของคน 9 ล้านคน) และในระดับที่มีการจัดตั้ง อย่าง กลุ่มพันธมิตร กับกลุ่มคนวันเสาร์ กลุ่ม 19 กันยาต้านรัฐประการ องค์กรอื่นๆ อีก 8 องค์กร รวมทั้งสมาพันธ์ประชาธิปไตย ที่มีนายแพทย์สันต์ นายแพทย์เหวง และนางประทีป อึ้งทรงธรรม(ฮาตะ) เป็นแกนนำ และจะนับรวม "กลุ่มคนสงขลา ที่จะขึ้นมาอารักขา พล.อ. เปรม"ด้วยก็ได้
ที่กล่าวมาทั้งหมด ขอท้าว่า ล้านบาท เอาขี้หมากองเดียว เชื่อได้ว่า ทุกคนที่กล่าวมากทั้งหมด ก็คิดว่า ตัวเอง ถูกต้องที่สุด
การที่ทุกคน หรือกลุ่มคนใด คิดว่าความเห็นของตัวเอง ถูกต้อง ไม่ให้ความนับถือใคร กลุ่มใด นอกจากกลุ่มของตัวเอง เป็นภาวะที่มีความอันตรายอย่างยิ่ง เพราะจะนำไปสู่ภาวะการแตกความสามัคคี ของคนในชาติ อย่างรุนแรง และมี"พื้นที่" ใหญ่โต กว้างขวาง อย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
มองในแง่ดี นี่คือแบบเรียนที่ คนไทยจะได้มีโอกาส เรียนรู้ และพัฒนา"รูปแบบ" ที่เราจะอยู่ร่วมกัน
แต่ถ้ามองในแง่ร้าย หากคนในชาติ ขาดสติ ไร้การนำที่ดี ไม่มี วิธีคิดและหลักยึดที่ดี ก็ไม่แน่ใจว่า ประเทศชาติจะไปรอดในหนนี้หรือไม่
ในทัศนะส่วนตัวของผู้เขียน ขอให้"อภัย" และขอการรับ"อภัย"เนื่องด้วย"กรรม"ที่เรามีต่อกัน จากคนไทย ไม่ว่าทางกาย หรือทาง"ใจ"และขอประกาศผูกมิตร กับคนทุกคน ในชาติ และอยากจะบอกว่า หนทางที่ดี ที่สุดของชาติเรา ก็คือ เราจะต้อง เลิกยึดถือในตัวบุคคล ที่คิดว่าจะนำเราไปสู่ "สิ่งที่ดี" ได้"แน่นอน" เสีย และมาร่วมกันสร้างจิตสำนึกใหม่ ในกระบวนการ ที่เรียกว่า" การทำให้กฎหมาย เป็นใหญ่" และการมีวินัย ใน"กติกา" กันเถอะ แม้ว่ากติกาที่จะใช้นั้นจะยัง"ไม่สมบูรณ์" และผู้ตัดสิน อาจตัดสิน ผิดพลาด ในบางครั้งก็ตาม อย่างน้อยที่สุด เพราะเราจะได้ไม่ต้องเกลียดกัน เพราะกติกานั้น ไม่มี"ตัว"ให้เกลียด และ การได้ตกลงใจในกติกาและ ยอมรับปฏิบัติตาม ไม่ว่ามันจะดี หรือไม่ดี อย่างไรก็ค่อยๆ แก้ไขไปตาม"กติกา" นั้นย่อมดีกว่า และสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากกว่าที่จะสร้างวัฒนธรรม"ตะแบง" ซึ่งจะนำความฉิบหายมาสู่ชาติเรา



Create Date : 22 มีนาคม 2550
Last Update : 22 มีนาคม 2550 5:45:50 น.
Counter : 559 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เนื่อง มาจากเหตุ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]