ต่อสู้ได้เก่งจริง ๆ สู้เพื่อผลประโยชน์ตัวเอง ตายไว ๆ นะ สาธุ

  

ทักษิณ สิ้นกรรม
ประเทศจะร่มเย็น
ขออวยพรให้ทักษิณ และเพื่อนพ้อง มีดวงตาเห็นธรรม
กรรมใดทำไว้ ต้องรับผล

ไม่มีสิ่งใดหยุดได้นอกจากทักษิณสิ้นกรรมและไปจากโลกนี้
แล้วประเทศก็จะสงบร่มเย็น

  

ขอให้แผ่นดินไทยอย่าได้มีโอกาสได้กลบหน้าคนเยี่ยงนี้เลย

  

ไม่รู้นะ.. ผมเองก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าคุณทั้งสามข้างบน
คนตายห่..าเร็วๆ แผ่นดินประเทศไทยก็น่าจะสูงขึ้นเหมือนกัน..

  

ขอให้ท่านสุขภาพแข็งแรงค่ะ

  

เมื่อผมเป็นนายกรัฐมนตรี
ประเทศไทยได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง และไม่คาดคิดมาก่อน
จากโรคระบาดร้ายแรง 2 อย่าง

สร้างความเสียหายต่อทั้งสภาวะการณ์ของประเทศชาติ และการท่องเที่ยว

อันดับแรกได้แก่ โรคซาร์ส หรือโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง
ประชาชนได้รับคำเตือนให้สวมใส่หน้ากากทุกแห่ง
ในทางจิตวิทยาแล้ว การสวมใส่หน้ากากยิ่งเป็นการซ้ำเติมให้สถานการณ์ย่ำแย่มากขึ้น
ภาพที่ผู้คนใส่หน้ากากทุกที่บนท้องถนน มันเป็นสิ่งที่ดูแล้วค่อนข้างน่ากลัว

ผมต้องศึกษาอย่างเร่งด่วน และพยายามที่จะเข้าใจธรรมชาติของโรคระบาดดังกล่าว
ผมยืนยันกับตัวเองว่า ขณะที่โรคระบาดแพร่กระจายไปสู่มนุษย์
มันจะแพร่กระจายโดยการแลกเปลี่ยนของเหลวในร่างกายเท่านั้น

ผมยืนยันว่า การแพร่กระจายของเชื้อไวรัสไม่ได้ฟุ้งกระจายในอากาศ
ผมตัดสินใจที่จะเดินทางไปที่ท่าอากาศยานกรุงเทพฯ
ท่ามกลางความกลัวโรคระบาดที่เพิ่มขึ้น

ผมไม่ได้สวมใส่หน้ากาก
และไม่ได้สวมอุปกรณ์ป้องกันอื่นใดบนร่างกาย
ผมได้พบปะกับผู้คน และพูดคุยที่ท่าอากาศยาน
ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงสวมใส่หน้ากากป้องกันเชื้อโรค

ผมอธิบายว่า ทำไมผมถึงไม่ได้สวมใส่หน้ากาก
รวมถึงอธิบายถึงวิธีการว่าจะป้องกันการระบาดของโรคดังกล่าวได้อย่างไร
และชี้แจงด้วยว่า ทำไมการสวมใส่หน้ากากจึงไม่ใช่มาตรการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ

จากนั้น ทั้งหมดที่ผมทำได้ถูกแพร่ภาพปรากฏทางโทรทัศน์
มันได้ผลอย่างน่ามหัศจรรย์

เพียงวันถัดมาเท่านั้น เมื่อประชาชนจำนวนมากเห็นข่าวของผม
ที่เดินทางไปเยือนท่าอากาศยานอย่างปัจจุบันทันด่วน และไม่ได้สวมใส่หน้ากาก

เมื่อไม่มีภาพคนไทยสวมใส่หน้ากากปรากฏออกไป
ในไม่ช้าการท่องเที่ยวก็เริ่มฟื้นตัวอีกครั้ง
ในทางการแพทย์แล้ว เราได้ทุ่มความพยายามในการป้องกัน และต่อสู้กับโรคดังกล่าว

แต่ในฐานะผู้นำ ผมต้องคิดนอกกรอบ
และทำการตัดสินใจเพื่อพลิกฟื้นสถานการณ์ให้กลับคืนสู่ภาวะปกติ
หรือเกือบปกติให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

การตัดสินใจของผมได้ผล
เพราะว่าผมเกิดมาจากความรู้ ไม่ใช่ความกลัว ไม่ใช่อารมณ์

เพื่อที่จะพลิกฟื้นความเชื่อมั่นต่อไป
ผมได้เรียกร้องให้จัดการประชุมสุดยอดเกี่ยวกับโรคซาร์สในเอเชียตะวันออก
หรือ the East Asian SARS Summit ที่กรุงเทพฯ

ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว ก็ได้ผล และช่วยพลิกฟื้นความเชื่อมั่นของประชาชนมากขึ้น

**************************************************

ต่อมาเมื่อเราเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดนกอีก
การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของโรคดังกล่าว และความกลัวที่เพิ่มมากขึ้น
ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว และสุขภาพของประชาชนเท่านั้น
แต่ยังสร้างความเสียหายต่อธุรกิจสัตว์ปีกด้วย

ไก่ นก สัตว์ปีกทั้งหลายถูกทำลายเป็นจำนวนที่นับไม่ถ้วน
ประชาชนหยุดการบริโภคเนื้อไก่ และสัตว์ปีกอื่น ๆ
ผลกระทบที่แท้จริงไม่ใช่มาจากโรคระบาด แต่เป็นเพราะความแตกตื่นของประชาชน
ครั้งหนึ่ง ผมเคยศึกษาโรคระบาด และได้ค้นคว้าเกี่ยวกับธรรมชาติ
และการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดนก

ผมเดินทางไปที่ร้านขายไก่ทอด
และก็รับประทานไก่ทอดเป็นอาหารกลางวันต่อหน้ากล้องโทรทัศน์
ผมได้แสดงให้เห็นว่าจะทำอย่างไรในการปรุงอาหารที่ทำจากไก่ได้ดี และปลอดภัย

ผมอธิบายต่อสาธารณชนว่า
ให้ปรุงเนื้อไก่ และไข่ไก่ด้วยอุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส
หรือสูงกว่านั้นเพื่อที่จะได้ปลอดภัยจากเชื้อไวรัสไข้หวัดนก
และปลอดภัยสำหรับการบริโภค

จากนั้นความเชื่อมั่นของประชาชนก็กลับคืนมา
ธุรกิจสัตว์ปีกได้รับผลกระทบก็จริง แต่ก็ไม่ถึงขนาดเสียหายอย่างย่อยยับ

ดังนั้น ในฐานะผู้นำ เราต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลง
และกล้าตัดสินใจในสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อน โดยยืนอยู่บนพื้นฐานของความจริง และความรู้

เรายังต้องชักนำองค์กรต่าง ๆ ของเรา และอื่น ๆ
เพื่อเราจะได้ทำแบบเดียวกัน

  

ทำไมไปอวยพรให้พวกคอรับชั่นประเทศวะ
อยู่ในกะลามาหรือไง

  

ว่ากันไป 5555

ตามหลักแล้ว เราวิจารณ์ บทเขียน บทความแนวคิดได้นะคับ

แต่ผมว่า ถ้าเราไปพูดไปว่าเจ้าของบล็อกว่าทำไมเขียนแบบนั้น ไม่ว่าคนเม้นต์แบบนี้


หรือไปว่าเรื่องส่วนตัว มันก็ดูไม่ค่อยเป็นสุภาพบุรุษนะคับ

หวังว่า คุณ เนื่องคงไม่เข้าใจผมผิดนะคับ

เพราะการที่เราได้คิดวิเคราะห์ตรงตัวบทความกลับกลายเป็นมาทะเลาะคนเขียน

--------------------------------------------------------

เช่นเราควรวิเคราะห์ว่า อืม การอวยพรวันเกิดก็ทำกันได้ให้คนที่เรารัก

หรือไม่ก็อืม คนไทยเรายังเป็นโรคเป็นพยาธิ ฉะนั้นคำอวยพรก็บ่งบอก ธรรมเนียมคนเรา และภาวะโรค

เฮียนซุนคับ

  

เรียน คุณ Hiasoon ที่รัก

ผมคงต้องพูดอย่างนี้ เพราะคำพูดของคุณ น่ารัก ไม่ว่าคุณจะเป็นสีอะไรก็ตาม แต่คำพูดของคุณน่ารัก บ่งบอกได้ว่าคุณพร้อมจะรับฟังความเห็นที่แตกต่าง

ผมต้องบอกว่า "ผมโคตรเชื่อ"เลยว่า คนเรามีความเห็นแตกต่างกันได้ .. เพราะสิ่งที่คนเรารับรู้มา ไม่มีทางจะเหมือนกันได้ แน่นอน

และผมก็ยอมรับในความแตกต่างนั้นได้

หลายครั้ง ผมนึกในใจด้วยว่า คู่สนทนาของผม หลายคนรู้น้อยกว่าผมเยอะ หลายคนไม่รู้ในสิ่งที่ผมรู้ แต่ผมรู้ในสิ่งที่เขารู้

แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ไม่เคยเลยสักครั้ง ที่ผมจะบีบบังคับ ให้คู่สนทนาเชื่อ บางครั้งผมอาจจะให้ข้อมูลเขา เผื่อเขาจะเปลี่ยนใจ แต่เชื่อมั้ยว่า แม้ข้อมูลจะวางอยู่าตรงหน้าเท่าๆกัน แต่คนเราส่วนใหญ่จะเอาอคติ เอาความเห็นของตัวเองเป็นใหญ่ (อันนี้ รวมทั้งตัวผมด้วย) เพราะฉะนั้น ผมจะให้ความเป็นธรรมกับคนอื่น ผมจะไม่บีบคอใครให้มาเชื่อผม และผมจะไม่ด่าว่าใครโง่ เพราะคนเรามักจะมีขีดความสามารถในการรับรู้ที่ต่างกัน ชุดข้อมูลที่ต่างกัน

ผมต้องขอโทษด้วย ที่หยาบคายกับคนสามคนข้างบน แต่ผมต้องด่า(ก่อนด่า ผมย่อยอารมณ์โกรธไปจนเกือบหมดแล้ว ดังนั้น ที่ผมด่า ผมต้องการเพียงจะกระตุกจิตใจคน เท่านั้นเอง ) ผมว่า บางคนพูดดีๆ ด้วยไม่ได้หรอก ชั่วโมงนี้

ปกติ ผมจะไม่ค่อยหยาบคายอะไรนัก ถ้าลองไปอ่านบทความเก่าๆ ของผม จับน้ำเสียงดู ก็จะรู้ว่าผมเป็นคนอย่างไร ใช้เหตุ ใช้ผลได้ดีแค่ไหน..

คือถ้าจะเข้ามาอาศัยบล็อกเพื่อด่าคนอื่น ด่าแบบไม่มีรายละเอียดในการด่า ผมว่ามันทุเรศ และมักง่ายไปหน่อย..

ยังไงก็ขอบคุณนะครับ ที่คุณอุตส่าห์เตือนผม ผมพร้อมที่จะรับฟังความเห็นที่แตกต่างครับ

  

แปลกแต่จริงนะ...มิน่าละต่างชาติชอบมาลงทุนกับคนไทย
เพราะคนไทนมองแค่รูปลักษณ์ภายนอก...เรียนไปก็งั้นๆๆแหละไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย...ทั้งที่เหตุการณืที่เกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ในช่วงเวลาที่ผ่านมา...ปรากฏให้เห็นแน่ชัดแล้วว่า...อะไรคืออะไร..คุณสามท่านข้างบนคะคุณลองเปิดใจให้กว้าง...ว่างใจให้เป็นกลางตามหลักของพระพุทธศาสนาท่านสอนไว้...ถึงไม่นับถือพุทธก็คงรู้ดีหากคุณได้รับการศึกษาที่ดีจากคนที่สอน...ถ้าไม่เชื่อรองดู...ถ้าคุณมีเชือกอยู่ 3 เส้น คุณจะเดินเส้นไหน...บนเส้นทางข้างล่างที่มีแต่อี่แล้งรอจิกคุณอยู่...ใช่การเขียนการคอมเม้นมันไม่แปลกเพราะมันเป็นการแสดงความคิดเห็น...ตามหลักภาษาไทย...ตามหลักกฏหมายละมันจะถือว่าคำพูดนั้นส่อถึงการหมิ่นประมาทถึงบุคคลที่ 3 หรือไม่...สงสัยอ่านหัวข้อไม่ขัดเจน...หรือจบมาจากต่างประเทศก็ไม่รู้...เพราะการกระทำบางอย่างสื่อถึง...สิ้นดี
ลองกลับไปถามอาจารย์ที่สอนภาษาไทยหน่อยนะคะว่า"อวยพร"หมายถึงอะไร...ยิ่งปีนี้เป็นปีที่รัฐบาลรณรงค์สัปดาห์ภาษาไทยอยู่ด้วย...หากท่านรู้ว่าคนของท่านใช้ภาษาหรือสื่อภาษาไทยในทางที่ผิดท่านคงเสียใจแย่....สงสัยหากท่านมีโอกาสได้เป็นนายกฯอีกมีหวังวันนั้นอาจได้ขึ้นเป็นวาระแห่งชาติก็ได้...
...คำขออวยพรให้กับนายกฯทักษิณ ชินวัตร ผู้นำการต่อสู้ เพื่อให้ได้ประชาธิปไตย ที่สมบูรณ์

...........กฏหมายไทยมีช่องว่างเยอะมากๆๆ......ใครเป็นคนเขียนย่อมรู้ว่าจะหลบหลีกเช่นไร...

  

vaccine...หน้ากาก....การกู้เงิน....นี่หรือที่ท่านต้องการ?
...ประเทศไทยเรามีปัญหากันทั่วทั้งจังหวัด....
....มีเด็กที่อยากเรียนกลับไม่ได้เรียน...งบไปไหนว้า...
....โอลืมไปตามกฏแรงโน้มถ่วงของโลก....สิ่งของทุกย่างย่อมถูกดึงดูดจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ...เปรียบได้กับเหนือและใต้ละมั้ง....พยาบาล 3000 อัตรา เรียนฟรี...พร้อมงาน...
แล้วจังหวัดอื่นละ....ไม่เดือดร้อนหรือไง....

.....ท่านกินไป...เราอยู่ดี....เราขอบคุณ...
....ดีกว่าคนกินไม่แบ่ง...กินไม่เป็น...เรายากจน...
....โปรดกับมากินด้วยกัน....เราสุขเอย...

  

ตามหลักจิตวิทยา...การอวยพร...ถือว่าเป็นยาขนานดีที่ไม่ตั้งสังเคราะห์เคมี...
.......ก็เหมือนคนป่วยย่อมต้องการกำลังใจ...เพื่อสู้กับเชื้อโรคที่เป็นภัยทำลายตัว...
...........การรักษาส่วนใหญ่...หากให้นำเสียงที่รื่นหูแสดงท่าทางที่เป็นห่วงเป็นใจจากที่เคยป่วย...ก็กลับมามีกำลังใจอีกครั้ง....
สู้ๆๆๆนะตากสิน....ท่านอย่ายอมให้ข้าศึกมาขโมยสมบัติของแผ่นดินไปใช้ในการสร้างรัฐของมันเด็ดขาด...สู้ๆๆ.....ทุกคนทางนี้รอท่านกลับมาและให้กำลังใจท่านเสมอ....
.................................

  

ขอให้ท่านนายกฯทักษิณ ชินวัตรโทรหาผมสักครั้ง แล้วทุกอย่างจะดีขึ้ง 087-3896312
ทุกสิ่งทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว

  

ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ เหรอครับ น่าหัวเราะครับ ผมว่าท่านชอบแบบคอมมิวนิตต์มากกว่า บริหารแบบคนเดียวไม่ต้องการใครมาค้าน

เราปกครองแบบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข