@@@///--มุ่งมั่นต่อไปก็เพื่อชีวิต--///@@@
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2548
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
7 สิงหาคม 2548
 
All Blogs
 

26 พฤศจิกายน 2547


22.23 น.
กุฎิพานิชย์วิทย์ วัดธารน้ำไหล
สวนโมกขพลาราม ต.เลม็ด
อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี 84110

26 พฤศจิกายน 2547

นำพรแด่…..น้องโอ๋

เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นวันลอยกระทง พิเศษที่วันนี้ทำวัดเย็นที่สระนาฬิเก ฟังเทปท่านอาจารย์พุทธทาสเทศน์เรื่องวันลอยกระทง และสวดบทพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ช่วงที่โยมกำลังนำกระทงลงลอยในสระนาฬิเก ถ้าไม่อยู่ถึงวันนี้ก็ไม่รู้ได้ว่าที่สวนโมกข์ก็มีการลอยกระทงแบบนี้ ไร้ความรื่นเริงมีแต่ธรรมะล้วน ๆ ทุกขั้นตอนของพิธี

ไฟฟ้าดับไปได้นานแล้ว ใต้แสงเทียนกำลังนึกและเขียนถ้อยคำอยู่ในขณะนี้ โอวันตินรสหวานน้อย ๆ กับน้ำร้อนที่ค่อนข้างอุ่นเพราะไฟที่ต้มน้ำไม่ค่อยแรงเท่าไหร่ เสน่ห์ของการต้มกาด้วยเทียนไขห่อหระดาษทิชชู่ บนขาตั้งเทียนพรรษารองด้วยฝาบาตรทองเหลือง เป็นวิธีง่าย ๆ ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในวัดให้คุ้มค่าเสน่ห์มันอยู่ที่เรากำลังนั่งมองดูไฟ เปลวไฟที่กำลังไหม้กาต้มน้ำ ดั่งเรากำลังนั่งก่อกองไฟกลางแจ้งจะอยู่บนยอดภู หรือริมทะเล เหม่อมองดูเปลวไฟนั้นมันลามเสียเปล่งแสงขับไล่ความมืดและอากาศหนาวเย็น อยู่คนเดียวปล่อยใจลอยไปกับท้องฟ้าปลอดโปร่งในคืนเดือนเพ็ญอย่างในวันนี้ วันลอยกระทงของปี 2547 แต่วันนี้เมื่อปีที่แล้วเรายังนั่งอยู่ที่ศูนย์ ศสพ. 101 กับกาแฟแก้วและบุหรี่มวน ควันจาง ๆ ล่องลอยปะทะความหนาวในค่ำคืน ไม่ต่างอะไรกับทุก ๆ ปีที่ผ่านไป ไม่ค่อยได้ออกเที่ยวในค่ำคืนเทศกาลมากสักเท่าไหร่ในชีวิต

มีอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีมาแล้วที่ไปลอยกระทงที่จังหวัดสุโขทัยกับคณะน้อง ๆ ที่สถาบันเก่า (ราชมงคล วข.นนทบุรี) เป็นการไปลอยกระทงที่ไกลครั้งหนึ่งในชีวิตเป็นประสบการณ์ที่ดีที่ได้มีโอกาสอย่างนั้น แต่ที่บึงพลาญชัยยังไม่เคยเลยทั้ง ๆ ที่อยู่ร้อยเอ็ดตั้ง 3 ปี (’46,’45,’44) เพราะเป็นคนที่ไม่ชอบงานเทศกาลที่ต้องพบกับผู้คนเยอะ ๆ ประมาณนั้น

วันนี้ที่สวนโมกข์เองก็มีโยมมาลอยกระทงไม่มากนัก ดูเหงา ๆ พิกล อีกอย่างช่วงนี้พายุเข้า เมื่อวานฝนตกใหญ่เลยทำให้วันนี้วันงานไม่คึกคักอาจเพราะกลัวฝนฟ้าไม่เป็นใจเลยก็ได้ แต่วัดแบบนี้คงไม่คึกคักเท่ากบวัดบ้านหรือวัดในเมืองใหญ่ ๆ ทั่ว ๆ ไป

ขากลับก่อนเข้ากุฏิแวะไปนั่งจิบกาแฟที่กุฏิหลวงพี่ที่รู้จักกัน ฟังเพลง MP3 เพลงฝรั่ง เพลงไทยทำให้นึกถึงอดีตสมัยก่อนบวช ถ้าบรรยากาศแบบนี้ต้องมีดีกรีสักหน่อยถึงจะเหมาะก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อยจนพอแก่เวลาก็กลับมานั่งต้มกาดูเปลวไฟย้อนรำลึกถึงหมู่เพื่อนนวกะที่ลาสิกขาไปก่อน ช่วงนั้นเรามีกิจกรรมแบบนี้บ่อย เป็นธรรมดาเมื่อเรามีความสัมพันธ์มันก็ต้องมีความประทับใจในมิตรภาพ ในกิจกรรม หรือเหตุการณ์ที่เกิดมีร่วมกันกลายเป็นอดีตของความทรงจำที่ดี ๆ ให้หวนรำลึกถึงถ้าลองพิจารณาดูดี ๆ จะเห็นบ่วงที่ผูกมัดทำให้เกิดความทุกข์ทางใจ เพราะเราไปติดกับอารมณ์ในอดีตที่เป็นสุขหรือทุกข์นั้นก็ได้แต่ถ้าปล่อยวางได้มันก็ไม่เป็นทุกข์ แต่อาจจะดูเหมือนคนไร้หัวจิตหัวใจไม่แคร์อารมณ์หรือความรู้สึกของผู้อื่นเลยก็ได้กลายเป็นเราไม่ทุกข์แต่คนอื่นที่สัมพันธ์กับเราทุกข์แทนถ้าเข้าใจสิ่งนี้ความไม่ยึดมั่นถือมั่นไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนเพราะที่สุดปลายทางของชีวิตทุกคนล้วนต้องแตกดับด้วยกันทั้งนั้น

วันนี้เราเกิดมาดูโลก เวลาก็กำลังทำงานของมันไป คือการนับถอยหลังไปสู่การแตกดับของชีวิต ไม่จากเป็นก็จากตายถ้าเรามองในมุมนี้ก็มีแต่ต้องละต้องวาง ไม่ยึดมั่นเหนี่ยวสิ่งใดไว้จะได้ไม่ต้องสร้างภาระให้ต้องแบกหาม จะได้ลาจากโลกนี้ไปอย่างเบาสบาย และอยู่อย่างเบาสบายก่อนจากลาเช่นกัน แต่ในอีกมุมหนึ่งการอยู่ในโลกอย่างเข้าใจโลกด้วยการเรียนรู้ ที่จะมีชีวิตอย่างไม่กัดเจ้าของนั้นก็เป็นอีกหนทางหนึ่ง เข้าใจคำว่า การคิด ; คิดอย่างถูกต้อง รู้จักการอดทน ; มีขันติและรู้จักการรอคอยก็สามารถแก้ปัญหาชีวิตและนำพาชีวิตนั้นให้ดำเนินต่อไปได้ หรือจะใช้หลักธรรมของฆราวาสผู้ครองเรือนโดยมี สัจจะ ทมะ ขันติ จาคะ ก็สามารถนำพาชีวิตไปรอดได้เช่นกัน หลายอย่างเราสามารถลองได้ เรียนรู้ได้ ทุกสิ่งคือการเรียนรู้ แล้วอยู่ที่ว่าเราจะเลือกเดินทางใดที่เหมาะแก่เรา ไม่ลำบากเจ้าของจนเกินไปนัก ทางสายกลางของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่จุดหมายอยู่ที่เดียวกันคือ ความไม่ทุกข์นั่นเอง
ที่สามารถถ่ายทอดออกมาได้ก็เพราะการศึกษาทั้งการอ่าน การฟัง และลงมือทำ เรียนรู้กับความคิดความรู้สึกจิตวิญญาณภายในของตนเองและสังเกตจากสภาพแวดล้อมรอบข้าง ทั้งบุคคล สัตว์ ธรรมชาติทั้งหลาย แต่ช้าก่อนหลวงพี่ยังไม่บรรลุธรรม นี้เป็นเพียงความรู้ที่สะสมมาเท่านั้น ทำได้บ้างไม่ได้บ้างแต่ก็อยากให้ลองเก็บไปคิดไปวิเคราะห์ดูเท่านั้น

บอกก่อนว่าเมื่อเรายังไม่มีพันธะ เรายังเป็นอิสระไม่ต้องแคร์ความรู้สึกคนรอบข้างแต่เมื่อเริ่มเป็นเจ้าเข้าเจ้าของบ่วงก็คือพันธะเริ่มเกิดทั้งภายในจิตใจนี่เป็นสำคัญ มันจะทุกข์เมื่อไม่ได้ดังใจ ไม่สมปราถนาหรือแปรเปลี่ยนไปเพราะไม่เข้าใจธรรมชาติของความเปลี่ยนแปลงไม่แน่นอน ทุกอย่างมันไม่เที่ยงมีแปรเปลี่ยนเสมอ สังเกตอารมณ์ความคิดของตนเองก็ได้มันเปลี่ยนตลอดเวลาสลับกันไป ส่วนใหญ่เราจะไม่พยายามทำความเข้าใจเรียนรู้ตรงนี้กันมันเลยเกิดเรื่องเลยทุกข์ใจกัน

สงสัยวันนี้กาแฟมันดีดเลยร่ายซะยาวเลย อ่านเล่น ๆ ก็แล้วกัน ถ้ามีโอกาสคงได้รวมเล่ม จดหมายโต้ตอบระหว่างหลวงพี่กับโอ๋ น่าจะเป็นหนังสือเล่มเล็ก ๆ ที่มีผู้แต่งร่วมสองคนน่าจะดีนะ หนึ่งในความฝันคือการมีหนังสือหรือเขียนหนังสือเป็นของตัวเองสักเล่ม นี่คงพอจะรวมกับเขาได้บ้างล่ะ เป็นหนังสือทำมือก็ยังดี

ท้ายที่สุดก็ได้ยินเสียงเค้าจุดพลุงานวันลอยกระทงแว่วมาแต่ไกล ๆ ต้นไม้บดบังเลยอดชมความงดงามของพลุไฟนั้น ก็รักษาสุขภาพด้วยนะ

ตอนนี้หลวงพี่เริ่มหายดำจากที่เดินตากแดดแล้วแต่ยังคงหลงเหลือร่องลอยจางๆ อยู่อย่างไรแล้วได้ที่อยู่ใหม่ก็เขียนมาบอกนะยังอยู่ที่สวนโมกข์ถึงสิ้นเดือนนี้และอาจเลยไปอีกสักสัปดาห็ ประมาณนี้หรืออย่างน้อยก็อยู่รอจดหมายตอบกลับของโอ๋จากฉบับนี้แหละ (ค่ำคืนวันลอยกระทง)
ธรรมะสวัสดี
จิรสก.โกภิกขุ


“ถึงแม้ทุกคนจะรู้ว่าชีวิตมันต้องเปลี่ยนแปลง แต่คนจำนวนมากก็ยังไม่กล้าอยู่ดี

เพราะคิดไปคิดมาคงบอกตัวเองว่าอย่าดีกว่า ก็เลยไม่ได้ทำ หรือทำแต่ไม่รอบคอบ
ผมว่าคนที่เสี่ยงแล้วรอบคอบมันล้มยาก ทุกกนกลัวล้มเหลวเหมือนกันนั่นแหละ ใครอยากจะเจ็บตัวบ้างถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็ต้องรอบคอบมากขึ้นแค่นั้นเอง”
เชื่อไหมทะเลมีไว้ดู:

บทสนทนาข้างทะเลตอนกลางวัน
วชิรา ; กระต่ายตายแล้ว




จากใจ…
วันลอยกระทงปีนี้โอ๋ก็เหมือนทุกปี….กระทงไม่หลงทางเพราะลอยคนเดียวไม่ต้องนัดใคร ๆ ให้ยุ่งยาก การไม่ต้องแคร์ความรู้สึกของใครมันก็ดีคะแต่บางครั้งเราก็ต้องมีใครสักคนที่ยอมรับเราได้ปรึกษาหรือแม้แต่คอยให้กำลังใจยามที่เราท้อแท้ แค่นี้มันก็เพียงพอแล้ว

การรักใครสักคนไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวเอง แค่ปรับตัวเข้าหากันมันก็มีความสุขแล้ว

7 ธันวาคม 2547
โอ๋




 

Create Date : 07 สิงหาคม 2548
2 comments
Last Update : 21 สิงหาคม 2548 10:38:01 น.
Counter : 565 Pageviews.

 


.
.
มาเยี่ยมค่ะ

 

โดย: ไม่ได้ตั้งใจโสด 7 สิงหาคม 2548 13:27:58 น.  

 

เขียนอะไรได้เป็นเรื่องเป็นราวมีสาระดีจังเลย รู้สึกว่าช่วงนี้เราเขียนอะไร "เปื่อยๆ" ยังไงก็ไม่รู้ รออารมณ์ "เฉื่อยๆ" และ "เหนื่อยๆ" จางไปก็หวังว่าจะสามารถเขียนอะไรได้เรื่องได้ราวใหม่ได้ อิอิ

อ่านแล้วนึกถึงตอนที่เคยบวชชีพราห์มณ์เลย ไม่ได้บวชโกนหรอก นุ่งขาวห่มขาว ไม่ได้มีงานอะไร แต่ปิดเทอมไปวัดนั้นบ่อย แล้วก็เลยลองบวชดู ก็ดีนะ แต่ตอนนี้เราห่างวัดห่างศาสนามานานมากเลยล่ะ กิเลสชักหนาขึ้นทุกทีแล้ว

Take care นะคะ

 

โดย: to be continued 8 สิงหาคม 2548 14:45:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


naigod
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เพราะชีวิตมีความฝัน..
..จึงเป็นความงดงามของการมีชีวิต
Friends' blogs
[Add naigod's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.