I can't find my best statements for the title, Anyone help!!

<<
พฤษภาคม 2551
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
26 พฤษภาคม 2551
 

เยี่ยมแดนพุทธ..ศรีลังกา

สวัสดีอีกครั้งนะครับ มีโอกาสไปศรีลังกาพร้อมกับเพื่อนคนไทยและไต้หวัน รวม 3 คน เราไปกันเมื่อวันแรงงานที่ผ่านมาเองครับ กรรมกรทั้งสามจะพาไปเที่ยวนะครับ
สนามบินสุวรรณภูมิ ดึกแล้วครับ ประมาณ 3 ทุ่ม หลังจากผ่าน ตม.ก็มีรถสามล้อมาอวดโฉม
และก็มีกองทราย น่าจะเป็นควันหลงสงกรานต์มั้ง
สู่โคลอมโบ คาเธ่ย์แปซิฟิก CX703 บินมาจากฮ่องกงเลย ถึงโคลอมโบเที่ยงคืนกว่าแน่ะ ข้างๆ คือเจ้าจำปีนั่นเอง

อาหารมื้อดึก แต่ก็หมดนะ

ถึงแล้วจ้า ขอบคุณที่มาส่ง เฮ้อ ง่วงมากๆ

ยามเช้าที่ศรีลังกา อากาศดีครับ ถ่ายจากหน้าต่างห้อง


อีกรูป.. จากดาดฟ้า
ดูเคเบิ้ลทีวี ผมชอบเรื่องนี้นะ สยองดี
href="//www.bloggang.com/data/naideontang/picture/1211814027.jpg" target=_blank>


อาหารเช้ามื้อแรก แกงถั่ว นานแบบหนาๆ ลาบแขก(ผมคิดเองนะ อร่อยมากจานนี้ สีส้มๆ ข้างซ้าย)

สถานที่แรกที่ไปเที่ยวคือ สวนมหาเทวี มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่เป็นสัญลักษณ์

ดอกไม้บูชาสวยแปลกตาดี

มองไปตรงข้ามจะเป็นรัฐสภาศรีลังกา

ถ่ายแนวตรงบ้าง

หลังจากเดินกันสักพัก ผมและเพื่อนๆ ก็เดินออกมาจากสวน เพื่อจะไปที่มัสยิดกลางในโคลอมโบ (จำชื่อไม่ได้ครับ) ข้างกำแพงมีภาพสวยจากศิลปินสมัครเล่น (มั้ง) แขวนอยู่เยอะแยะเลย

แต่พวกเราเหมือนจะหลงทางเพราะจำชื่อถนนไม่ได้ เลยมีน้องชาวศรีลังกามาช่วยเหลือเลยถ่ายรูปกันเป็นที่ระลึก(คนซ้ายสุดนะ)

เดินผ่าน national museum ด้วยแต่วันนี้ปิด เลยอดดู

หิวน้ำมาก เลยแวะร้านขายของ เจอป้ายโฆษณาสีสดใสดี

แล้วเราก็นั่งรถตุ๊กๆ มาถึงจนได้ครับ มาสำรวจอีกที สามารถเดินทะลุถึงกันได้จากสวนมหาเทวีเลย ประมาณ 1.5 กิโล น่าเจ็บใจไม่น่าเสียค่ารถเลย

ชักรูปหน้ามัสยิดเป็นที่ระลึก

ในมัสยิดห้ามถ่ายรูปครับ เลยถ่ายคุณลุงที่นั่งขอบริจาคอยู่หน้าวัดแทน

เราเดินกลับมาฝั่งตรงข้าม มีตลาดขายผลไม้อยู่ ดูแปลกตาดี

สวยไหมครับ มะพร้าวที่นี่ แต่น้ำไม่ค่อยหวานเท่าบ้านเรา

มองจากฝั่งตลาดไป จะเห็นรัฐสภา,มัสยิดกับหอนาฬิกา ใกล้ๆกันเลย

อีกด้านนึงเป็นโรงพยาบาลครับ ตึกสวยดีนะ

แล้วพวกเราก็เดินกลับมาเรียกรถครับ นี่ไงครับรถตุ๊กๆที่ผมพูดถึง น่านั่งไหม

ยังไม่ได้นั่งรถเลย เจอคุณลุงนั่งแกะอะไรอยู่ไม่รู้ เลยขอถ่ายรูปหน่อย

เราไปกันที่วัดพุทธแห่งแรกในโคลอมโบครับ วัดทีปพุทธรามายราม (ถ้าอ่านผิดขออภัยนะครับ ออกเสียงยากจริงๆ) มีความเกี่ยวข้องกับคนไทยมากครับ
เจดีย์วัด สวยไหมครับ

พระพุทธรูปกลางแจ้งครับ

พระพุทธรูปเหมือนพระพุทธชินราชมาก

ที่ว่าเกี่ยวข้องกับคนไทยมากคือ พระราชวงศ์ของไทยได้มาเยี่ยมและบูรณะวัดนี้ ดังที่จะกล่าวนี้
หอพระที่นี่บูรณะโดยเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์เมื่อปี 1999

และต้นไม้สองต้นนี้ ปลูกโดยกษัตริย์ไทย 2 พระองค์

ต้นแรกคือรัชกาลที่ 8เมื่อปี 1939

ต้นที่สองโดยรัชกาลที่ 9 ปี 1950

แล้วเราก็ไปทัวร์อีกวัดหนึ่งครับ จำชื่อไม่ได้อีกแล้ว เขาวางพระพุทธรูปเรียงเป็นชั้นๆ เหมือนบุโรพุทโธ เลย

พระพุทธรูปหยกขาว สิ่งล้ำค่าภายในวัดแห่งนี้

บริเวณหน้าวัดครับ

จากนั้นเราก็ไปเที่ยวย่านช้อปปิ้งกัน ไม่ค่อยมีอะไร มีแต่ผ้าเป็นส่วนใหญ่ คนพลุกพล่านมากๆ

มัสยิดสวยๆ ในย่านนั้น

ได้เวลาอาหารกลางวัน ฟาสต์ฟู้ดส์แบบแขก อร่อยมากครับ ไม่แพงด้วย

อิ่มแล้วก็เดินทางต่อ เราไปที่ fort railways station เพื่อจะถามข้อมูลเรื่องการไปสิริกิริยา ซึ่งเป็น theme ในการมาศรีลังกาครั้งนี้ ด้านหน้าสถานีครับ

ด้านหน้าจะมีตู้บริจาคเป็นพระพุทธรูปอยู่ในตู้ครับ

หลังจากได้ข้อมูลแล้วว่าเราคงต้องเหมารถและทัวร์แบบ 2 วัน 1 คืนแทน เพราะเวลาเราน้อยมาก ทำให้ไปได้แค่สิริกิริยา และแคนดี เท่านั้น ตรงนี้เป็นสภาพตลาดนัดตรงข้ามสถานีรถไฟครับ

หน้าวัดที่ทีปพุทธฯ (ลืมใส่)

เจดีย์สีขาวใหญ่มาก

จากนั้นเราไปเที่ยวที่ชายทะเล ซึ่งจะต้องผ่านเขตทหารด้วย ในโคลอมโบ จะมีป้อมทหารอยู่เป็นระยะๆ ดูไปก็น่ากลัวเหมือนกัน //www.bloggang.com/data/naideontang/picture/1213195740.jpg width='450' height='337' border=0>

ผู้คนรอรถไฟกลับบ้าน

และแล้วเราก็มาถึงทะเลซะที บริเวณนี้เรียก galle face ครับ

มีลวดหนามกั้นด้วย ดูแปลกๆ

มีคณะพระสงฆ์จากไทย ไปถ่ายรูปด้วย

อร่อยไหมจ๊ะ?

galle face ยามค่ำคืน

วันรุ่งขึ้นคณะเรา 3 คนและไกด์เป็นทั้งสารถีด้วย ก็มารับเราแต่เช้าเพื่อไปที่สิริกิริยา ซึ่งไกลจากโคลอมโบ ประมาณ 100 กิโลฯ นี่เป็นเส้นทางที่เราผ่าน

ทุ่งนาและภูเขา ดูแล้วสดชื่นๆๆ

ไกด์พาเราแวะดื่มกาแฟระหว่างทาง มีหลายร้านมากๆ เป็นชาวบ้านที่เขาปลูกกาแฟ แล้วมาคั่วกันสดๆ ขายริมถนนเลย กลิ่นกาแฟหอมมากๆครับ

หน้าตากาแฟครับ กินแล้วตาสว่างเลย เข้มมากๆ

เมื่อเราถึงเมืองสิริกิริยาแล้ว ไกด์ก้พาไปพักผ่อนก่อน ที่รีสอร์ทน่ารักแห่งหนึ่ง ตอนกลางคืนมีงานบุญแถวๆโรงแรม ได้ยินเสียงพระสวดด้วย ดีจริงๆ บริเวณที่พัก

บริเวณล็อบบี้แบบ open-air

หลังจากพักเหนื่อยกัน ก็ได้เวลาไปเขาสิริกิริยาเสียที อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมมากนัก ถ่ายตรงหน้าสำนักงานขายตั๋วเข้าชม

ขอไม่อธิบายความเป็นมามากนะครับ สิริกิริยาเป็นเขาที่สร้างเป็นพระตำหนักของกษัตริย์ศรีลังกาในสมัยหนึ่ง ซึ่งถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์แห่งหนึ่งของโลก เพราะเป็นเขาที่สลักเสลาจากมือมนุษย์

ชาวคณะถ่ายรูปหน้าทางเข้า เป็นคลองขุดรอบๆ พระตำหนักที่ไกด์ท้องถิ่นบอกว่ามีจระเข้ด้วย อำหรือเปล่าไม่รู้

บริเวณโดยรอบเคยเป็นน้ำพุและที่สรงสนานของกษัตริย์และนางสนมที่มีนับพัน ด้านซ้ายและขวา อิจฉาว้อย

เริ่มเดินขึ้นมาแล้ว เป็นการเดินขึ้นและข้ามเขาทั้งลูกเลยนะเนี่ย

เดินมาสักพัก ก็ถ่ายรูปกันอีก หน้าตายังสดใสอยู่นะจ๊ะ

หนทางอีกยาวไกล

ขึ้นไปสักพัก จะสามารถมองเห็นไกลๆได้ ที่เห็นเป็นโบราณสถานแห่งหนึ่ง มีพระพุทธรูปกลางแจ้งปางลีลามั้ง

ดูบันไดสิ เพื่อนผู้หญิงของผมร้องโวยวายไม่ยอมขึ้น จะลงท่าเดียว เลยต้องหลอกว่าถ้าไม่ขึ้น จะลงไปทางเดิมไม่ได้แล้ว

ตรงนี้เป็นลานประกอบพิธีบูชานะครับ

ขึ้นมาเกือบสูงสุดแล้ว บริเวณนี้เป็นทางขึ้นพระตำหนักครับ ช่างสลักก้อนหินเป็นรูปราชสีห์ ซึ่งตอนนี้เหลือบริเวณเท้าสองข้างเท่านั้น เห็นขนาดแล้วก็เดาไม่ออกว่า เมื่อก่อนตอนเต็มๆ ตัวจะใหญ่โตขนาดไหน

ในที่สุดเราก็ขึ้นมาจนถึงห้องบรรทมจนได้ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเลยครับ ไกด์บอกว่าข้างหน้าเป็นทิศของเมืองโคลอมโบ

ถ่ายรูปเป็นสักขีพยานกันหน่อย

ขอลองนอนบนนี้หน่อยนะครับ เป็นบุญหัว

รูปนี้เป็นภาพเขียนของช่างสมัยนั้น บรรยายถึงนางสนมของกษัตริย์ จริงๆ มีหลายรูปมาก แต่ลงแค่นี้เพราะอยากให้เห็นด้วยตาตนเอง

บริเวณนี้เคยเป็นสระสรงน้ำของนางสนม

ดูผนังหินตรงนี้(ที่เป็นสีขาว) เคยมีภาพเขียนอยู่ แต่มีมือดีมาลอกสกัดเอาภาพออกไป เสียดายนะครับ

จากนั้น เราก็ไปสปากัน เพื่อคลายเครียดจากการเดินข้ามเขามา ผมไม่ได้ถ่ายรูปมานะครับ เพราะต้องถอดเสื้อผ้าไว้ข้างนอก
วันรุ่งขึ้น เราก็เดินทางไปเมืองแคนดี้ เพื่อไปไหว้พระเขี้ยวแก้ว ชุมชนทางระหว่างเมือง


ตัวเมืองแคนดี้

ร้านขายของหน้าวัด

ทะเลสาบครับ สวยสงบดีเนอะ

วัดพระเขี้ยวแก้วครับ ค่าเข้าสำหรับคนต่างชาติคือ 500 รูปีศรีลังกา เสียดาย จนท.ไม่ให้ถ่ายรูปด้านในเด็ดขาด

บริเวณทางเข้า ต้องเดินเท้าเปล่ากลางแดด เพราะเขาให้ถอดรองเท้าตั้งแต่หน้าประตูเลย เป็นผู้ดีตีนแดงจริงๆ

ดอกไม้สำหรับบูชาครับ

ผู้คนเดินแถวเข้าวัด ดูสีหน้าเขาตั้งใจมากจนเครียดเลยเนาะ

หลังจากไหว้พระแล้วก็ออกมาเดินรอบๆทะเลสาบ พบฝูงลิงอยู่มากรอบๆ เลยครับ ดูคู่นี้สิ ทำอะไรอยู่?

แล้วเราก็เดินทางต่อกลับโคลอมโบ ระหว่างทางต้องวิ่งวนไปมาบนเขาหลายรอบครับ ไกด์หยุดให้ชมบริเวณนี้ เรียกว่า Bible Rock

เมื่อถึงโคลอมโบ เราก้พักผ่อนกันที่โรงแรมเก็บข้าวของสักพัก ก็ไปเดินเล่นในเมืองต่อตอนเย็นๆ ตอนยืนติดไฟแดงตรงสี่แยก มีคุณลุงเล่นฉิ่งฉาบหยอกล้อกับรถที่ติดอยู่ น่าสนุกนะครับ

เราสัมผัสบรรยากาศรถเมล์กัน ไปห้างmajestic เป็นห้างที่ใหญ่ที่สุดย่านนั้น

แล้วเราก็ส่งท้ายกันเต็มคราบกับ โรตี,แกงปลากับแกงมังสวิรัติ 2-3 อย่าง อร่อยมากๆครับ ไม่ได้โม้

จากนั้น เราก็กลับไปเอาของและนั่งรถไปสนามบินบันดาราไนยเก เตรียมเช็คอินครับ ไฟลท์ของ CATHAY ดึกมากเกือบตีสอง ถึงกรุงเทพหกโมงเช้า

ผ่านตม.มาแล้ว มีของสวยๆ ให้ดูเป็นหัตถกรรมพื้นเมืองของศรีลังกา หน้ากากแบบต่างๆ

ก่อนกลับขอพรกัน ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ กระผมขอจบรีวิวเพียงเท่านี้นะครับ บ๊าย บาย




 

Create Date : 26 พฤษภาคม 2551
1 comments
Last Update : 17 มิถุนายน 2551 20:40:26 น.
Counter : 2654 Pageviews.

 
 
 
 
แวะมาเยี่ยม เนื่องจาก ชอบชื่อนี้จัง

ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ

อยากได้เที่ยวแบบนี้จังเลย
 
 

โดย: นู๋แอน (one mind seven guys ) วันที่: 24 กันยายน 2551 เวลา:15:16:43 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

นายเดินทาง
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชื่อ นายเดินทาง
location กรุงเทพฯ
ชอบ เที่ยวไปเรื่อยๆ ครับ
[Add นายเดินทาง's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com