Better to reign in Hell than serve in Heaven
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728 
 
9 กุมภาพันธ์ 2549
 
All Blogs
 
ไม่เอาทักษิณแล้วจะเอาใคร

ชอบความเห็นของคุณ'นายเจ็ดตัวอักษร'ที่ตอบไว้ในกระทู้
//www.pantip.com/cafe/library/topic/K4086325/K4086325.html
เลยขออนุญาติคัดเอาบางส่วนมาเก็บไว้ใน blog ครับ

[quote]
1. ผมไม่รู้ครับ เพราะผมไม่ได้จบจากคณะรัฐศาสตร์ แต่ในฐานะที่ทำงานด้านวิศวกรรม
ที่เน้นการใช้เหตุผล ใช้หลักวิทยาศาสตร์ มากกว่า อารมณ์ความรู้สึก
ขออนุญาติอภิปรายความเห็นของท่านเจ้าของกระทู้สักนิดครับ

2. ประการแรก...ระบบ หรือสังคมทุนนิยมเป็น "วิวัฒนาการ" เศรษฐกิจของโลกครับ
ไม่ใช่เพราะเป็นสิ่งที่คุณทักษิณ "ดลบันดาล" ให้เป็นไป คุณทักษิณ หรือคุณ หรือผม ต่างก็เป็น
"ปลาในกระแสธารแห่งทุนนิยม" ทั้งนั้น อยู่ที่ว่าเราจะหลอกตัวเองหรือไม่?

3. ประการต่อมาคือ...เราต้องการ "นายกรัฐมนตรีที่สมบูรณ์แบบ"
ในขณะที่ตัวเราเองก็ยัง "ไม่สมบูรณ์แบบ" จะเป็นไปได้อย่างไร ดังคำว่า
"ผู้นำจะเป็นอย่างไร ประชาชนในชาติก็เป็นเช่นนั้น"

เราเลือก "คนธรรมดา" มาเป็นตัวแทนเรา เพื่อทำหน้าที่เป็น นายกรัฐมนตรีเพื่อมาบริหารประเทศ
หรือว่า เราเลือก "พระอริยเจ้า" มาเป็นตัวแทนเรา เพื่อทำหน้าที่เป็น นายกรัฐมนตรี?

4. ชีวิตของผู้คน เศรษฐกิจ การเมือง เป็นตัวกำหนด จริยธรรม ความคิด นามธรรมนั่นเอง
แม่ที่ต้องไปขโมยนมสดในห้างสรรพสินค้า ก็เพราะเศรษฐกิจที่ยากจนเป็นตัวบังคับไม่ใช่หรือ?
คุณทักษิณ ก็เป็นคนๆหนึ่งที่แหวกว่ายในกระแสทุนนิยม เหมือนกับผม เหมือนกับคุณ
เหมือนกับแม่เด็กคนนั้น ฯลฯ ถ้าคุณคาดหวังความสมบูรณ์แบบจากคุณทักษิณ
ก็เหมือนกับคุณคาดหวังว่า อูฐจะสนเข็มได้ มีแต่เสียเวลาแท้ๆ เพราะโลกที่คุณอยากให้เป็น
(โลกอุดมคติ) กับโลกที่มันเป็น (โลกวัตถุ) มันไม่สอดคล้องกัน
ความทุกข์ก็เกิดขึ้น

5. สังคมทุนนิยมดังที่ผมว่าไว้แล้วว่า "เป็นวิวัฒนาการของโลก" ไปตามลำดับ
สังคมทาส ไปเป็น สังคมศักดินา จากสังคมศักดินา ไปเป็น สังคมทุนนิยม
มันไม่ใช่คุณทักษิณเสกสรรให้มันเป็น และคุณทักษิณก็ไม่ได้วางรากฐานของปัญหาไว้
ต่อให้ไม่มีคุณทักษิณ (เป็นคุณอภิสิทธิ เป็นคุณบรรหาร เป็น ฯลฯ) เป็นนายกรัฐมนตรี
ก็ทำอะไรไม่ได้ และไม่มีวันจะทำอะไรได้กับ ปัญหาที่สังคมทุนนิยมสร้างไว้ได้เลย
เหมือนกับเป็นปลาที่ว่ายแหวกในกระแสทุนนิยมที่เน่าเฟะ ปลาทำได้แค่สองประการครับคือ
ทำอย่างไรก็ได้ให้ตัวรอด และเกิดเป็นวิวัฒนาการอันใหม่ หนึ่ง หรือ
ตายไปเองในน้ำเน่านั้นเพราะปรับตัวไม่ได้ หนึ่ง

6. ....คุณวรณัยอ้างว่า "...ในสังคมที่ไร้จิตใจและขาดความ"อ่อนน้อม ถ่อมตน"
ขาด"ความเพียร" และขาด"ความพอเพียง" อันเป็นสิ่งที่สังคมและวัฒนธรรมไทย
เคยสั่งสอนกันมา"....คุณวรณัยก็เป็นผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะประวัติศาสตร์ไทย
หรือประวัติศาสตร์สยาม...ในสังคมไทยสมัยอดีต (สมัยอยุธยา) ก็มีความ "ฟอนเฟะ"
ไม่แตกต่างจากสมัยนี้เลยแม้แต่น้อย...ถ้าเป็นคริสต์ก็คงจะยกตัวอย่าง นครอย่างโซดอม
ที่ถูกพระเจ้าเผาผลาญเพราะความโสมมของคนในยุคนั้น ในวรรณกรรมไทยที่พูดถึงเรื่อง
"ชาวบ้าน" ที่สุดแล้ว คือเรื่อง "ขุนช้าง-ขุนแผน" เณรพลายแก้วก็ปีนเข้าหานางพิม
ไม่ต่างจาก ความโสมมของสงฆ์ในปัจจุบัน....ฯลฯ แสดงว่า สังคมไทย วัฒนธรรมไทย
แต่ก่อนแต่ไร ก็ "ไม่ได้ดี" อย่างที่ได้ "สั่งสอน" กันมา ไม่ใช่หรือ?

7. เศรษฐกิจพอเพียงนี่ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ หรือใหญ่โตอะไร ก็คือ
ระบบเศรษฐกิจแบบศักดินาของเดิมนั่นเอง
แต่ละบ้านปลูกพืช เลี้ยงสัตว์
ตามที่ดินเล็กๆของตัว เหลือจากกินจากใช้ จากส่วย จากภาษี ก็นำไปตลาด
แลกเปลี่ยนกันเล็กๆน้อยๆ ตามอัตถภาพ ตามความสัมพันธ์ทางการผลิต
และตามพลังการผลิตในยุคนั้นๆ แต่ปัจจุบันนี้โลกวิวัฒน์ไปเป็น สังคมทุนนิยมแล้ว
การผลิตเพื่อกำไร ทุกกิจกรรมเป็นไปเพื่อผลกำไรทั้งสิ้น เราจะมามัวย้อนหลังไปถึงอดีตเพื่ออะไรกัน?
สัตว์โลกที่สูญพันธุ์ไปก็เพราะมัวแต่ย้อนมองอดีต โดยไม่ปรับตัวให้เข้ากับโลก ไม่ใช่หรือ?

8. แน่นอนครับ กระบวนการแก้ปัญหาของคุณทักษิณอาจจะ "ไม่ใช่วิธีการที่ดีที่สุด"
แต่มันก็ดีที่สุดแล้วที่สังคมทุนนิยมให้คำตอบได้ ในเวลานี้ คนไม่มีเงิน ก็เอาเงินไปแจกไปจ่าย
เพื่อให้เขาเอาไปเป็นทุนในการประกอบอาชีพ ถ้าคนที่ได้รับเงินไปแล้วเอาไปซื้อของฟุ่มเฟือย
ก็เห็นจะโทษใครไม่ได้ เหมือนกับฝนตกมา บ้านหนึ่งเก็บใส่ตุ่มไว้กินยามแล้ง
อีกบ้านใช้เพาะปลูกได้ผลผลิต อีกบ้านอยู่เฉยๆ จะให้ได้ผลเหมือนกันอย่างไร?
ถ้าเช่นนั้นวิธีการนี้ผิดพลาด ในอดีตกาลรัฐบาลของกษัตริย์ก็ใช้วิธีการแจกจ่ายเงิน
แจกจ่ายเมล็ดพันธุ์พืช ลดภาษี ในช่วงวิกฤติของรัฐ นี่ก็คงเป็นวิธีที่ผิดพลาดเช่นกัน
ตามตรรกะของคุณวรณัย????

9. ผมยอมรับในสิทธิของอ. อมรา ยอมรับในสิทธิของคุณวรณัย ยอมรับในสิทธิของคุณสนธิ
และยอมรับทุกๆสิทธิที่แสดงความเห็นในทางการเมือง....

10. แต่ที่คุณวรณัยยกมาในกระทู้นี้นั้น ผมไม่ใคร่เห็นด้วยเพราะ เป็นเหตุผลที่ยกมาเพื่อ
"หาความสมบูรณ์แบบ" ซึ่งไม่มีความสมบูรณ์แบบในโลกนี้ เป็นเหตุผลที่ยกมาเพราะมีมุมมองแบบ
"นิ่ง กลไก และตายด้าน" ซึ่งโลกนี้คือ โลกแห่งความเปลี่ยนแปลง เป็นวิวัฒนาการ
และเป็นเหตุผลที่ยกมาเพื่อ "ยกคำพูดหรูๆดูดีมีหลักการ" มาทำลายคนหนึ่งที่มีแนวทางไม่ตรงกับของคุณ
เพื่อยกอีกคนที่คุณนับถือให้เด่นขึ้นมา ทำลายสิ่งที่เป็นจริง และเป็นไปของโลก นี่ไม่ใช่วิธีวิทยาศาสตร์
และไม่มีประโยชน์โดยสิ้นเชิง ผมคิดว่า คนระดับคุณ วรณัย น่าจะแสดงความเห็นที่ "มีระดับ" กว่านี้นะครับ!

จากคุณ : นายเจ็ดตัวอักษร [ 7 ก.พ. 49 19:29:48 ]
[/quote]


[quote]
6. กติกาของบ้านเราเรียกว่า กฎของบ้าน กติกาของสังคมก็มีหลายระดับที่เรียกว่า ศีลธรรม
กฎของหมู่บ้าน ฯลฯ ไปจนถึงกระทั่งระดับประเทศก็เรียกว่า "กฎหมาย หรือรัฐธรรมนูญ"
แน่นอนครับว่า การทำอะไรที่ถูกกฎหมาย บางครั้งก็อาจจะไม่ถูกในแง่ของศีลธรรม ไม่ถูกใจ ฯลฯ
แต่เราก็จำเป็นต้องยึดถือกฎหมายเป็นหลัก อะไรที่ถูกกฎหมายก็คือถูก อะไรที่ผิดกฎหมายก็คือผิด
เพราะศีลธรรมมันไม่ใช่มาตรฐาน
ลองถามดูว่า ศีลธรรมแบบพุทธ แบบคริสต์ แบบอิสลาม
แบบนับถือผี ฯลฯ ร้อยพ่อพันแม่ สังคมจะอยู่กันได้อย่างเป็นสุขได้อย่างไรถ้าต่างเอาสิ่งที่
"ไม่เป็นมาตรฐานร่วม" มาใช้ตามอำเภอใจ

7. เหมือนกับฟุตบอล กติกาบอกว่า กรรมการผู้ตัดสินเป็นผู้ตัดสินที่เด็ดขาดแต่ผู้เดียว
ในบางกรณีมีการเสียบสกัดอย่างรุนแรง แต่กรรมการไม่เห็น และไม่ตัดสินว่าผิด คนดูไม่พอใจว่า
"ถูกกติกาแต่ไม่ถูกจริยธรรม" แล้วเฮโลกันมากระทืบนักเตะคนนั้น มันจะใช้ได้อย่างไร?
สังคมก็เช่นเดียวกัน กฎหมายคือสิ่งที่เป็นหลัก ประชาธิปไตยก็ต้องคู่กับวินัย จะมีอย่างใดอย่างหนึ่งเกินไป
ก็ไม่ได้ ถ้าประชาธิปไตยมากเกินกว่าวินัย ก็เรียกว่า "อนาธิปไตย" ถ้าวินัยมากเกินกว่าประชาธิปไตย
ก็เรียกว่า "เผด็จการ" ผมไม่ต้องการทั้งสองอย่าง ไม่มีใครต้องการทั้งสองอย่าง
และประเทศก็ไม่ต้องการทั้งสองอย่าง

จากคุณ : นายเจ็ดตัวอักษร [ 8 ก.พ. 49 01:17:32 ]
[/quote]


[quote]
3. "...ทุนนิยมกับคอรัปชั่นทางนโยบายเป็นคนละเรื่องกันนะครับ และประชาชนต้องรู้เท่าทันด้วย
ไม่ใช่หลงคิดว่านี่คือกติกาปกติของทุนนิยม" สำหรับผมแล้ว ทุนนิยม กับคอรัปชั่นทางนโยบาย
(ซึ่งเป็นคำสวยๆ ซึ่งก่อน พ.ศ. 2540 ยังไม่เคยมีมาก่อน เพราะผมก็ไม่ค่อยเข้าใจนัก
คิดว่าคงใช้คำนี้กับคุณทักษิณได้เพียงแค่ท่านเดียว) มันก็คือ สิ่งเดียวกันโดยสิ้นเชิงครับ
ทุนนิยม (Capitalist) มีเป้าหมายคือ "สามารถทำได้ทุกวิถีทางเพื่อให้ได้กำไรสูงสุด"
แม้จะต้อง "ล่าอาณานิคม" ก็ตาม สำหรับ คอรัปชั่นทางนโยบาย ผมเดาเอาว่า คงหมายถึง
"การเสนอนโยบายแห่งรัฐด้วยวิธีการทุนนิยมเพื่อสอดคล้องกับผลประโยชน์ของกิจการส่วนตัว
หรือพรรคพวกตัว" ซึ่งเป้าหมายของมันก็คือ "กำไรสูงสุด" นั่นเอง และแบบที่สองก็ต้องอาศัยกลไก
แบบทุนนิยม ลองดูในอเมริกาซึ่งเป็นแม่แบบของทุนนิยม การรุกรานอิรัก ก็คือ คอรัปชั่นเชิงนโยบายนั่นเอง
เพราะใช้นโยบายแห่งรัฐ (อเมริกา) เข้ายึดครองอิรัก เพื่อผลประโยชน์แห่งบรรษัทน้ำมันทั้งหลายแหล่
ที่อยู่เบื้องหลังทำเนียบขาวแห่งรีพับรีกัน...

5. เราต้องยอมรับความจริงว่า ระบอบที่เราว่าเป็นประชาธิปไตยนั้น จริงๆแล้วก็คือ
เป็น "ระบบเผด็จการของกระฎุมพี และนายทุน" โดยหลักการ....คือ ไม่ว่าท่านจะเลือกพรรคใด
หรือท่านใดเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ละพรรค หรือแต่ละท่านนั้น ต่างก็เป็น "ตัวแทนแห่งนายทุน
หรือทุนนิยมทั้งสิ้น" นโยบายแห่งรัฐนับจาก ชาติชาย รสช อานันท์ 1-2 ชวน 1 บรรหาร
ชวลิต ชวน 2 จนกระทั่งมาถึง ทักษิณ 1-2 ก็คือนโยบายแห่งทุนนิยม คือสิ่งที่เรียกว่า
คอรัปชั่นเชิงนโยบายทั้งสิ้น! เพราะเป้าหมายมีไว้เพื่อ ผลประโยชน์สูงสุดของชนชั้นตัว พรรคตัว เพื่อนตัว
ญาติพี่น้องตัวทั้งสิ้น! แม้ว่าจะเป็นนโยบายที่เห็นแก่ผลประโยชน์พรรคพวกตัวเหมือนกัน
แต่การเคลื่อนไหวของผู้ที่อ้างว่า "รักชาติ รักแผ่นดิน" ก็แผ่วเบาราวกับสายลมพัดสากกระเบือ
และจะเห็นได้ว่า "รักษากติกาอย่างเคร่งครัด" คือรอให้ถึงการเลือกตั้งใหม่อย่างใจเย็น เพราะอะไร
เพราะมันไม่ได้กระทบต่อชนชั้นกลางในเมืองอย่างชัดเจน แม้จะมีสารพัดม้อบจากต่างจังหวัด
กระทั่งถูกสุนัขไล่กัด บางคนก็ยังเห็นเป็นเรื่องขำๆ??? (ยกเว้นกรณี ชวลิต ซึ่งใช้ตรรกะนี้อธิบายได้เช่น
เดียวกันว่า เพราะมีผลกระทบต่อชนชั้นกลางอย่างรุนแรง) นั่นแสดงให้เห็นว่า ประเด็นที่ชัดเจนคือ
"เป้าประสงค์เป็นรายบุคคล" มากกว่า "เป็นนโยบายของรัฐ" ดังที่อ้างกัน

จากคุณ : นายเจ็ดตัวอักษร [ 8 ก.พ. 49 03:35:29 ]
[/quote]



โดยความเห็นส่วนตัวแล้วผมคิดว่าคนไทยเราหวังมากเกินไปครับ
"ประชาชนเป็นอย่างไร ก็ได้รัฐบาลเป็นแบบนั้น"
จะไปหวังให้มีแต่คนดีปกครองบ้านเมือง คงเป็นเรื่องยากที่จะทำได้
และผมก็ไม่คิดว่าจะได้เห็นในชั่วชีวิตนี้ แค่มองดูระบบการศึกษากับ
แนวคิดที่เราสอนเด็กรุ่นใหม่ๆแล้ว ก็คงจะเป็นอย่างนี้ไปอีกอย่างน้อย
30-40 ปีหล่ะครับ

ส่วนเรื่องแนวคิดเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียง ผมก็เชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ในสังคมไทยปัจจุบัน
พูดแต่ปากใครก็พูดได้ แต่เอาเข้าจริงจะมีสักกี่คนที่ใช้ชีวิตแบบพอเพียงได้
แต่สังคมไทยเราก็เป็นแบบนี้แหละครับ ชอบพูด แต่ไม่ชอบทำ

ถ้าจะถามผมว่าอนาคตประเทศไทยจะเป็นอย่างไร
ลองมองดูประเทศฟิลิปปินส์ตอนนี้สิครับ จะเห็นภาพเศรษฐกิจและสังคม
ของประเทศไทยในอีกสิบปีข้างหน้า อยู่รำไร



Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2549
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2549 14:36:11 น. 5 comments
Counter : 529 Pageviews.

 
ถ้าไม่เอานายกเป็นคุณทักษิน ก็นึกไม่ออกว่าจะมีใครที่เหมาะสมมาแทนได้เลย เฮ้อ!

เศรษฐกิจพอเพียง ไม่ใช่กลับไปปลูกข้าว ปลูกผัก เลี้ยงปลาเลี้ยงไก่เองนะครับ เข้าใจผิดแล้ว
เศรษฐกิจพอเพียงสำหรับคนในเมือง และในโลกทุนนิยม ก็คือไม่ใช้จ่ายเงินเกินตัว ไม่เอาเงินอนาคตมาใช้ ไม่ลุ่มหลงในสินค้าที่ฟุ่มเฟือย
ที่ผ่านมาสื่อส่วนใหญ่ present ภาพเศรษฐกิจพอเพียงแบบผิดๆ


โดย: สำเภางาม วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:20:09:50 น.  

 
"เศรษฐกิจพอเพียงสำหรับคนในเมือง และในโลกทุนนิยม ก็คือไม่ใช้จ่ายเงินเกินตัว ไม่เอาเงินอนาคตมาใช้ ไม่ลุ่มหลงในสินค้าที่ฟุ่มเฟือย"

นั่นแหละครับที่ผมเข้าใจ พูดหน่ะพูดได้ แต่จะทำได้สักกี่คน
ไม่เอาเงินอนาคตมาใช้ไม่ได้หรอกครับ ถ้าปัจจุบันไม่มีเงิน
แล้วจะ้้เอา้เงินที่ไหนมาลงทุน ยุคเศรษฐกิจแบบทุนนิยมเดี๋ยวนี้
จะลงทุนอะไรต้องใช้เงินทั้งนั้น
"It takes money to earn money"

ผมว่าคนส่วนใหญ่รู้ว่าเศรษฐกิจพอเพียงคืออะไร
รู้ว่าไม่ใช่ให้กลับไปปลูกข้าว ปลูกผัก เลี้ยงปลาเลี้ยงไก่เอง
แต่ที่คุณบอกมาว่า "ไม่ใช้จ่ายเงินเกินตัว ไม่เอาเงินอนาคตมาใช้
ไม่ลุ่มหลงในสินค้าที่ฟุ่มเฟือย" ผมอยากรู้จังว่าจะทำได้สักกี่คน
สังคมไทยเราไม่ได้เจริญถึงขั้นนั้น
ยิ่งฐานะทางเศรษฐกิจของประเทศตอนนี้ ไม่เอาเงินอนาคตมาใช้
แล้วจะไปเิอาเงินที่ไหนมาลงทุนแข่งกับประเทศอื่นได้


โดย: นาย Q วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:1:49:05 น.  

 
เห็นด้วยครับคุณ นาย Q

ผมเป็นคนนึงที่เห็นว่าสังคมเราบางครั้งไปเห็นดีเห็นงามกับสิ่งที่ไม่ได้จะเข้าใจมันดีนักว่ามันคืออะไรบ้าง มี implication อะไรบ้าง


โดย: Tony Almeida วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:13:50:13 น.  

 
เข้ามาอ่านด้วยครับ
เห็นด้วยกับนาย Q


โดย: yyswim วันที่: 5 กรกฎาคม 2549 เวลา:20:35:52 น.  

 
1. ขอบคุณครับที่ได้อ่านงานเขียนของผม ตอนนี้ห้องราชดำเนินถูกปิดไปเสียแล้ว (8/04/50) ตอนนี้ผมก็เลยกลายเป็นเจ้าไร้ศาล ไม่มีที่สถิตย์เสียแล้ว จากเจ้าเลยกลายเป็นสัมพเวสี ฮ่าๆ ไว้คงได้คุยกันครับ


โดย: นายเจ็ดตัวอักษร IP: 124.120.61.197 วันที่: 9 เมษายน 2550 เวลา:2:09:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นาย Q
Location :
Over the rainbow United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





BlogStat:
Friends' blogs
[Add นาย Q's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.