Better to reign in Hell than serve in Heaven
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728 
 
2 กุมภาพันธ์ 2549
 
All Blogs
 
ความในใจของเกย์คนหนึ่ง (ถึงคนทั่วไป) ตอนที่ 18

บทความนี้คัดมาจากเรื่อง ความในใจของเกย์คนหนึ่ง (ถึงคนทั่วไป) ที่คุณวิศรุตแต่งขึ้น
โพสต์ครั้งแรกที่ห้องถนนนักเขียน
//www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4062569/W4062569.html


<<< ตอนที่ 17
ตอนที่ 19 >>>




พ.ศ. 2529

ขณะที่ผมกำลังทำหน้าที่เบิกอุปกรณ์กีฬาอยู่ ช่วงที่เรียนผมก็สนิทกับศราวุธเหมือนเดิม คุยกันบ้าง แต่ไม่ได้ไปเล่นกีฬากับเขาเพราะผมอ้างได้ว่าติดภารกิจบางอย่าง แต่ช่วงกินข้าวผมก็ยังกินข้าวอยู่กลุ่มเดียวกับเขา โดยมีสุทธิพงษ์ที่กำลังทำตัวเป็นพระเอก โดยไปกินข้าวกับอดิศัย

การกระทำของเขามุ่งทำให้ผมดูเป็นผู้ร้ายไปเสียฉิบ ผมเองก็เสียใจเหมือนกันครับที่ต้องตัดสินใจทำอย่างนั้นไป แต่จะให้ทำยังไงได้ครับ ผมเองมีทางเลือกซะที่ไหน

ตอนนั้นผมรู้สึกดีครับที่ได้เบรคความรู้สึกที่มีต่อศราวุธที่กำลังพัฒนาขึ้นในใจผม การเบรคครั้งนี้น่าจะมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย ในช่วงปลายๆ ม.4 นั่นเองที่ผมเริ่มสังเกตตัวเองว่า ผมเริ่มชอบมองผู้ชายที่หน้าตาหล่อและหุ่นดีบ่อยขึ้น

เขาเรียกว่าบ่อยจนผิดสังเกต และที่สำคัญคือเริ่มหานิตยสารที่มีรูปผู้ชายที่หน้าตาหล่อและโชว์รูปร่างท่อนบน ช่วงนั้นผมยังไม่รู้จักนิตยสารเฉพาะกลุ่ม และอีกประการหนึ่งผมอาจจะชอบมองแค่หน้าตาหรือแผงอก ผมจึงสามารถเสาะหานิตยสารบนแผงได้

สมัยนั้นสเป็คของผมคือหนุ่มตี๋ ขาวและหุ่นดี (คุณสมบัติทั้งหมดที่เดชามีครับ อิ อิ) ผมจึงชอบซื้อนิตยสารหนังฮ่องกงพวกทีวีวิดีโอไทม์ โกลด์สตาร์อะไรพวกนั้น มันก็ช่วยสามารถชดเชยความต้องการทางเพศที่มีอยู่ในใจลึกๆไปได้ครับ

ตอนที่ผมเบรคความรู้สึกที่ผมเองมีต่อศราวุธทำให้ผมมีโอกาสที่จะเห็นความเคลื่อนไหวของคนอื่นมากขึ้น ความเคลื่อนไหวหนึ่งในตอนนั้นคือข่าวลือที่ว่า อ.สมเกียรติน่าจะเป็นเกย์ ถ้าเทียบกับเกณฑ์ของผมแกน่าจะเป็นเกย์สีเทาครับ

ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ผมก็อาจจะพอสรุปได้ว่าเกย์ที่มีแนวโน้มที่จะสร้างปัญหาได้ ถ้าเขาเก็บกดไว้คือเกย์สีเทา เพราะเกย์สีฟ้าเองสามารถที่จะเป็นที่ยอมรับในวัยเด็ก แต่เกย์สีเทาอาจจะเข้ากับเพื่อนผู้ชายในกลุ่มได้ไม่ดีเท่า ส่วนความสัมพันธ์ในกลุ่มผู้หญิงก็อาจเรียกได้ว่ายังมีปัญหาอยู่

ใครที่อยู่ในสภาวะเช่นนี้สามารถที่จะไปทำร้ายคนอื่นได้ ผมเองไม่ค่อยสนใจข่าวลือของ อ.สมเกียรติสักเท่าไหร่ เพราะคิดว่าแกไม่ค่อยเกี่ยวกับผม ผมเลยชอบสังเกตสิ่งต่างๆ ด้วยตาของผมเองมากกว่า

จากการสังเกตด้วยตา ผมก็จะเห็นอะไรหลายๆอย่างที่หลายคนอาจจะมองไม่เห็นหรือไม่ทันสังเกต อย่างแรกเลยคือ ความสัมพันธ์ที่ล้ำลึกเฉพาะทางใจระหว่าง อ.สอนพุทธศาสนาคือ อ.มานพ กับ อ.สอนพละคือ อ.เจษฎา เพราะผมเห็นเขาคุยกันค่อนข้างบ่อย

ตอนแรกๆมันก็ไม่น่าจะมีข้อสังเกตอะไรหรอกครับ แต่ความถี่ที่ยืนคุยกันมันมากจนกระทั่งไม่คิดไม่ได้แล้ว คือตอนที่เดินมาเจอกันถ้ามีเวลาก็ต้องหยุดยืนและคุยกัน ผมสังเกตว่าคนที่จะเป็นคนเริ่มก่อนมักจะเป็น อ.มานพ และแน่นอนที่ อ.สมภพจอมโหดจะไม่ชอบ

"เออ ... เจษ พี่ว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันนะ"

ผมพยายามเลี่ยงหลบไป แต่เงี่ยหูฟัง

"พี่ว่าเจษจะสนิทกับเจ้ามานพมากไป"

อ.เจษฎางง "สนิทมากไป หมายถึงอะไรครับพี่"

อ.สมภพแสดงสีหน้าที่รู้สึกเบื่อหน่าย

"มันดูไม่ค่อยจะเป็นผู้ชายเลย ไอ้ประเภทยืนคุยกันใต้ต้นไม้ หัวร่อต่อกระซิกกันมันดูไม่ดีเลย มันอุจาดในตา"

เมื่อเห็น อ.สมภพพูดถึงขั้นนั้น อ.เจษฎาก็รู้สึกว่าไม่เป็นธรรมเหมือนกัน "แต่นั่นมันก้เป็นเรื่องส่วนตัวของผมนะครับ" การพูดเช่นนี้ดูจะไม่ฉลาดนักเมื่อ อ.สมภพพูดขึ้นว่า

"เรื่องส่วนตัวของทุกคนในหมวดก็ถือเป็นเรื่องส่วนรวมที่ทุกคนจะต้องช่วยกันดูแล เรื่องนี้เจษต้องพยายามทำความเข้าใจหน่อยนะ ไม่งั้นอาจจะลำบากได้" อ.สมภพทำน้ำเสียงออกโหดๆ แต่ยังไมได้แสดงอารมณ์ออกมามากนัก แต่เพียงแค่นั้นก็ทำให้ อ.เจษฎาถึงกับคิดหนัก

หลังจากนั้นพฤติกรรมของ อ.เจษฎาจะค่อยๆเปลี่ยนไปในการทำตัวออกห่าง อ.มานพ เวลาเดินสวนกันก็แค่ยิ้มให้ แต่ไม่อยากจะทักทายเหมือนก่อน จน อ.มานพเริ่มแปลกใจ "อ.เจษ ผมไปทำอะไรให้คุณไม่สบายใจหรือเปล่าครับ"

"มะ ... ไม่มีหรอกครับ แค่ผมงานเยอะขึ้น และ เออ ... ไม่ค่อยจะมีเวลา"

อ.มานพหน้าเศร้านิดๆ "ไม่ค่อยจะมีเวลาเหรอครับ"

"ใช่แล้วครับ" พอพูดจบ อ.เจษฎาก็เดินจากไป ทิ้งให้ อ.มานพรู้สึกว่า อ.เจษฎาเปลี่ยนไป หลังจากนั้น อ.มานพก็ซึมๆจน อ.โสภาสังเกตได้และทักขึ้น

"มีอะไรเหรอพ่อมานพหนุ่ม เห็นช่วงนี้ซึมๆไปนะ"

อ. มานพหันไปเห็นพี่โสภา เขาจึงยิ้มให้ "ไม่มีอะไรหรอกครับพี่ ผมก็เหนื่อยจากการสอนครับ ก็เลยไม่ค่อยจะกระปรี้ประเปร่าสักเท่าไหร่"

"พี่ว่า ไม่กระปรี้กระเปร่ากับรู้สึกเหงาๆมันคนละเรื่องกันนะ หรือว่า โดนใครเขาหักอกมาเหรอ"

อ.มานพรู้สึกไม่พอใจกับคำพูดนั้นมาก "เออ ... ผมติดธุระครับพี่ ผมขอตัวก่อนนะครับ"

ตอนที่เขากำลังจะเดินออกไป อ.มานพเดินสวนกับ อ.แสงดาวพอดี พอ อ.แสงดาวเจอกับ อ.โสภาเธอจึงทักขึ้น

"มานพเขาเป็นอะไรไปเหรอ"

อ.โสภาส่ายหัว "พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน กำลังคุยกันอยู่ดีๆก็หน้ามุ๊ยแล้วเดินออกไปเลย พี่ก็ไม่แน่ใจนะว่าเขากำลังรีบหรือเป็นอะไรกันแน่"

อ.แสงดาวอดที่จะตั้งข้อสังเกตไม่ได้

"ทำไม อ.ผู้ชายที่นี่ถึงดูแปลกๆไปหมดนะ ถ้าไม่ดุเกินไปก็มักจะเก็บตัว ถ้าไม่สนิทกันมากๆไปเลยก็มักจะมีความสัมพันธ์กันแบบผิวเผินทั้งๆที่มันไม่น่าที่จะเป็นแบบนั้น"

อ.โสภาก็ได้แต่ฟัง แต่ก็ไม่ค่อยได้แสดงความเห็นอะไรมากนัก ช่วงนั้นพี่จอมกับพี่สุชาติก็เจอกันบ้าง แต่ไม่ค่อยพูดกันเพราะมีรูปหล่อแดนเถื่อนอย่างพี่สิงห์คำรณคอยกันท่า ทำให้คู่นี้ก็ยิ่งห่างเหินกันมากขึ้นเรื่อยๆ

ช่วงนั้นก็จะมีคู่ที่คล้ายๆคู่นี้อยู่เหมือนกัน คือคู่ของอัคนีกับวิวัฒน์ แต่ความรู้สึกลึกๆจะแตกต่างจากคู่พี่จอมกับพี่สุชาติมาก เวลาที่วิวัฒน์เจอกับอัคนี เขามักจะพูดว่า

"เป็นไง กรูสวยไหมวะ"

อัคนีกลัวเพื่อนเก่าจะโกรธก็เลยบอกไปว่า "ก็สวยดีอยู่หรอก" คำพูดก็ยังฟังทะแม่งๆอยู่นะเนี่ย

นอกจากนั้นยังมีคู่ใหม่ที่ผมสังเกตเห็นได้ไม่ยากคือพี่ภูวไนย นักเรียนหนุ่มหล่อมาดเด็กเรียนที่อยู่ชั้น ม.5 กับนักเรียน ม.5 อีกคนที่ผมรู้จักเขาในนามพี่อัสดา

ช่วงที่พี่ภูวไนยมาเล่นบาสตอนเช้า พี่อัสดามักจะชอบนั่งมองอยู่ห่างๆ แต่อย่างไม่กะพริบตา การทำอย่างนั้นบ่อยครั้ง ทำให้ผมสังเกตได้ว่าแกไม่เคยดูเกมส์เลย แกดูแต่พี่ภูวไนยเพียงคนเดียวเท่านั้น

พอกลับถึงบ้านสหชัยก็เข้ามาพูดดีกับผมมากขึ้น และชอบมาขลุกอยู่กับผมซึ่งต่างจากตอนที่เราเจอกันใหม่ๆ ตอนที่มานอนเล่นที่ห้องผม เขามักจะพูดว่า "วันนี้มีความสุขจังเลย ดูฟ้ามันสวยไปหมดเลยนะ อยากให้ทุกวันเป็นแบบวันนี้จัง"

ผมไม่ได้ตอบอะไรไป แต่กำลังงงหนักขึ้น ผมค่อนข้างแน่ใจว่าสหชัยกำลังมีความรัก แต่ไม่รู้ว่าเขากำลังรักใคร มันจะต้องไม่ใช่ผมแน่นอน แต่คนที่เขารักคือใครกันแน่นะ

ขณะที่ความสัมพันธ์ของทุกคู่กำลังอึมครึมและดูนิ่งๆ (พี่จอม+พี่สุชาติ อ.มานพ+ อ.เจษฎา พี่ภูวไนย+พี่อัสดา ผมกับศราวุธ) ผมก็นึกไม่ถึงว่าขณะที่ผมกำลังจะไปแสดงผลงานทางวิชาการที่โรงเรียนปทุมคงคา มันจะทำให้ผมแอบประทับใจเล็กๆกับใครบางคน และความประทับใจนั้นยังคงยาวนานมาจนถึงวันนี้

=====================================================



Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2549
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2549 12:43:23 น. 2 comments
Counter : 688 Pageviews.

 


โดย: อพันตรี วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:14:35:00 น.  

 
ว่าจะไม่เม้มแล้วเชียวเพราะว่าไม่เคยเม้มบล๊อกใครเลย แต่ผมติดแล้วสิครับแล้วเห็นคนเม้มน้อยก็กลัวว่าพี่จะไม่มาเขียนอีก ผมติดตามตลอดครับเป็นกำลังใจให้ครับ แต่ว่า(ที่จริงไม่อยากพูดหรอกครับกลัวพี่ไม่สบายใจ)ลูกผุ้ชายต้องบวชให้แม่นะครับ พี่เป็นคนดีนะครับแต่ทั้งหมดไม่เท่ากับที่ได้บวชให้แม่หรอกครับ รักนะพี่คนดี


โดย: cs IP: 58.136.98.220 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:12:44:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นาย Q
Location :
Over the rainbow United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





BlogStat:
Friends' blogs
[Add นาย Q's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.