Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2548
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
12 ธันวาคม 2548
 
All Blogs
 
ช้างดำ

ผมสังเกตว่า กล้วยไม้ที่มีชื่อเรียกว่า “ช้าง” จะเลี้ยงง่ายเกือบทุกตัว ไม่ว่าจะเป็นช้างกระ ช้างสารภี ช้างผสมโขลง แม้กระทั่งช้างดำที่กำลังจะกล่าวถึง ยกเว้นเสียก็แต่ พญาฉัททันต์ หรือ Vandopsis gigantea ซึ่งอาจจะปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ยากสักนิด “ช้างดำ” เป็นกล้วยไม้ในสกุล Pomatocalpa ชื่อชนิด spicata เป็นกล้วยไม้ขนาดเล็กที่ปลูกเลี้ยงง่าย ในประเทศไทยพบได้เกือบทุกภาค อาศัยอยู่ที่ป่าราบต่ำ โดยเฉพาะบนต้นไม้ใหญ่ที่จุดใกล้ๆ กับน้ำตก เราสามารถพบกล้วยไม้ชนิดนี้ในประเทศเวียดนาม ลาว มาเลเซีย อินโดนีเซีย ทั้งเกาะสุมาตราและบอเนียวได้เช่นกัน ครั้งแรกที่พบช้างดำถูกจัดให้อยู่ในสกุล Cleisostoma หลังจากนั้นปี 1907 นักอนุกรมวิธานจัดหมู่ใหม่โดยบรรจุมันอยู่ในสกุล Saccolabium จนกระทั่งเปลี่ยนเป็น Pomatocalpa spicata เป็นชื่อปัจจุบัน

ผมไม่รู้ว่าทำไมกล้วยไม้ชนิดนี้ทำไมจึงได้ชื่อว่าช้างดำ เพราะดอกที่เป็นช่อ มีดอกย่อย 20-30 ดอกต่อช่อ มีสีเหลืองส้ม มีลายสีแดงพาดที่กลีบดอก กลีบดอกค่อนข้างแข็ง มีขนเล็กๆ คลุมอยู่ สันนิษฐานเอาว่าเหตุที่เรียกช้างดำก็เพราะสีของใบที่มีสีเขียวเข้มออกไปทางดำ โดยเฉพาะต้นที่พบในจุดที่มีร่มไม้บังอยู่มาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ากล้วยไม้ชนิดนี้ไม่ชอบแสงเสียเลย ช้างดำต้องการแสงระดับปานกลาง และไม่เหมาะที่จะปลูกกลางแจ้ง ควรปลูกในโรงเรือนที่มีการพรางแสงประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ และมีความชื้นในโรงเรือนไม่ต่ำกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ในเวลากลางวัน

ระบบรากของช้างดำเป็นแบบกึ่งอากาศ ไม่เหมือนรากของช้างและแวนด้าที่เป็นรากอากาศ การปลูกช้างดำจึงควรมีเครื่องปลูกด้วย อาจใช้กาบมะพร้าวสับ ถ่านหุงข้าว หรืออิฐมอญก็ได้ ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของบริเวณที่ปลูกเลี้ยง อาจใช้วิธีแปะติดขอนไม้ก็ดูสวยงามดี ที่สวนกล้วยไม้อาจารย์ระพี ภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน ใช้วิธีเกาะติดกระถางดินเผาคว่ำก็ดูรากเดินดีทีเดียว ใครชอบกล้วยไม้ดอกเล็กๆ ต้องชื่นชอบตัวนี้แน่นอนครับ




Create Date : 12 ธันวาคม 2548
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2552 21:57:52 น. 10 comments
Counter : 2601 Pageviews.

 
มารับความรู้ครับ
ผมเคยเจอบางตัวเป็นเหลืองล้วนนะครับไม่มีมาร์คกิ้ง อย่างในภาพครับ แต่ก็เป็นชนิดเดียวกัน มีคนรู้จักทำด๊อกเตอร์กับกล้วยไม้สกุลนี้นะครับ กำลังรอบทคัดย่ออยู่ครับพี่


โดย: JUNGLE MAN วันที่: 12 ธันวาคม 2548 เวลา:18:59:59 น.  

 
ทำไมหนอถึงชื่อช้างดำ .. เป็นเพราะอะไรไม่รู้ค่ะ
แต่ขอแอบสันนิฐานเอามั่วๆนะ ..
(เพราะยังไม่เคยมีเป็นของตัวเอง)
(ยังไม่มีคนให้สักหน่อ)

คือพอเจ๊อะช้างดำทีไรน่ะ ซอกใบมันดำค่ะ
แล้วใบของช้างดำมันจะเยอะๆ เวลาที่ช้างดำโผล่ออกมา
เหมือนโผล่ออกมาจากมุมมืด .. ก็เลยชื่อ ช้างดำ

รึเปล่าน๊า???


โดย: คำหล้า (ปาปิลัน ) วันที่: 13 ธันวาคม 2548 เวลา:0:43:34 น.  

 
สวัสดีก๊าบน้าโหด มารับความรู้ค่า หนูคำหล้าซำบายดีบ่


โดย: ดา ดา วันที่: 13 ธันวาคม 2548 เวลา:11:43:55 น.  

 
หน้าตามันเป็นแบบนี้เองหรอ...เคยได้ยินแต่ชื่อ

ขอบคุณมากครับน้าโหด


โดย: ไผ่เล่นลม วันที่: 13 ธันวาคม 2548 เวลา:13:26:54 น.  

 
มาอ่านคับ...


โดย: buaravong วันที่: 13 ธันวาคม 2548 เวลา:18:27:06 น.  

 


โดย: หนุ่มสตางค์ IP: 203.148.162.198 วันที่: 14 ธันวาคม 2548 เวลา:7:13:14 น.  

 
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านครับ

ขอบคุณคุณ Jungle man ล่วงหน้าครับ หากนำบทคัดย่อว่าที่ด็อกเตอร์มาเล่าให้ฟังภายหน้า

คำหล้า แล้วทำไมมันเป็นช้างล่ะ เป็นแรดดำ กระทิงดำ ไม่ได้หรือ


โดย: น้าโหด วันที่: 14 ธันวาคม 2548 เวลา:14:18:28 น.  

 
โฮะ ๆ ๆ ๆ ..... ที่เรียว่าช้าง ไม่เรียกว่าแรด ก็เพราะว่า

ว่า ..

ว่า .. .. ว่า ....

.. อ้อ .. ก็งวงจ้างมันจิ้มลง เหมือนช่อดอกยังงายหล่ะคะ

ส่วนนอแรด และเขากระทิง .. สอบไม่ผ่านนะคะ


(หุหุหุ .. เอาสีข้างแถกไปได้อีกวัน)

(สวัสดีย่าดาค่ะ)


โดย: น.ส.คำหล้า (ปาปิลัน ) วันที่: 17 ธันวาคม 2548 เวลา:1:54:56 น.  

 
เข้ามาชมช้างดำ สวยมาก ครับ เห็นแล้ว


โดย: Agri_07 IP: 58.10.28.159 วันที่: 21 ธันวาคม 2548 เวลา:19:06:25 น.  

 
ลักษณะใบของช้างดำเป็นแบบไหนคะ เพราะเคยเห็นเค๊าขาย ลักษณะใบจะเป็นสีดำ แต่บาง ไม่หนาเหมือนพวกช้างกระ อยากได้แต่ยังไม่กล้าซื้อ ช่วยบอกทีนะคะ ขอบคุณค่ะ


โดย: or IP: 203.172.219.106 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2551 เวลา:9:39:37 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

น้าโหด
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




Friends' blogs
[Add น้าโหด's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.