พิษภัยของไนเตรท
แม้ว่าไนโตรเจนจะเป็นธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชในลำดับต้นๆ แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง ไนโตรเจนในรูปต่างๆ สามารถแสดงความเป็นพิษกับคนและสัตว์ในสภาพแวดล้อมได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งไนโตรเจนในรูปไนเตรท (Nitrates NO3) <-- เลข 3 ต้องห้อย
ไนโตรเจนเป็นธาตุอาหารที่เคลื่อนที่ได้ พืชสามารถนำไปใช้ได้ทั้งในรูปแอมโมเนียมและไนเตรท ตามวัฏจักรไนโตรเจน แอมโมเนียมสามารถเปลี่ยนรูปเป็นไนไตรท จากนั้นไนไตรทจึงเปลี่ยนรูปเป็นไนเตรทอีกที เรียกกระบวนการนี้ว่า Nitrification การปลูกพืชที่ใส่ไนโตรเจนมากจนเกินความต้องการของพืชนอกจากจะเปลืองแล้วยังช่วยเร่งให้เกิดกระบวนการ Nitrification ได้เร็วขึ้น การสะสมไนเตรทในดินและต้นพืชก็มากขึ้น โดยปกติพืชจะสะสมไนเตรทไว้ในส่วนของใบและลำต้นมากที่สุด ในช่วงที่ฟ้าหลัวและอากาศร้อนจัด พืชจะสะสมไนโตรเจนในรูปไนเตรทมากเป็นพิเศษ
ที่ว่าเป็นพิษภัยจากไนเตรทตามท้องเรื่องแล้ว ลำพังไนเตรทไม่ได้เป็นผู้ร้ายตัวจริง แต่เมื่อคนดื่มน้ำหรือกินพืชที่มีปริมาณไนเตรทสะสมมากเกินไป ไนเตรทเหล่านี้จะเปลี่ยนรูปกลับไปเป็นไนไตรท (NO2) <-- (เลข 2 ต้องห้อย) และเจ้าไนไตรทนี่แหละครับคือเจ้าตัวร้ายที่สามารถเป็นสารตั้งต้นชักนำให้เกิดเซลมะเร็ง รวมถึงโรคที่เกิดจากเซลเม็ดเลือดแดงขาดออกซิเจน
นี่เองคือเหตุผลที่โรงงานรับซื้อสับปะรดเพื่อนำไปผลิตสับปะรดกระป๋องกำหนดค่าไนเตรทไว้ให้ไม่เกิน 2,500 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม หากเกินกว่านี้นอกจากจะเป็นอันตรายโดยตรงกับผู้บริโภค ไนเตรทในเนื้อสับปะรดจะทำปฏิกิริยา Oxidation ทำให้ผิวภายในกระป๋องเปลี่ยนเป็นสีดำอีกด้วย
โดยปกติคนไทยไม่กินสับปะรดกระป๋องมากเท่าไร ส่วนใหญ่ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะถูกส่งออกไปขายมากกว่า ความสุ่มเสี่ยงต่อพิษภัยของไนเตรทเกิดจากการบริโภคผักกินใบมากกว่า โดยเฉพาะคะน้า ปวยเล้ง ผักกาดหอมและคื่นช่ายนี่ตัวร้ายทั้งนั้นเลย
Create Date : 18 มีนาคม 2551 |
|
2 comments |
Last Update : 21 มีนาคม 2551 19:38:52 น. |
Counter : 3248 Pageviews. |
|
|
|
ตอนนี้โตเกือบเต็มวัยแล้วล่ะ แต่ยังไม่ได้แยกออกมาปลูกเลย เห็นเบียดๆ กันดูอบอุ่นดี...ไม่น่าเป็นไรมั้ง...เนอะ