|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
คนข้างใจกับผู้ชายข้างตัว...7
ตอนที่ 7 ดวงดาวพร่างพราวกะพริบแข่งกันบนท้องฟ้า แสงจันทร์ในคืนข้างแรมส่องสลัว ลมฤดูหนาวพัดแผ่ว ๆ ส่งให้เปลวไฟจากกองเล็ก ๆ โชนแสงขึ้นจนมองเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยกันทุกคนที่นั่งล้อมกองไฟได้ชัดเจน เสียงกีต้าร์เพลงประกายไฟเร่งเร้า ครึกครื้น เพื่อนร่วมชมรมหลายคนที่ไม่ได้พบเจอกันมานานกำลังคุย เล่าประสบการณ์ชีวิตสู่กันฟังอย่างสนุกสนาน จนไม่มีใครสนใจหมอหนุ่มที่เดินเอื่อย ๆ เลี่ยงออกจากกลุ่มเมื่อรู้สึกว่าอาการพะอืดพะอมตีขึ้นมาอีกระลอก เมื่อห่างกองไฟ...ท่าเดินเอื่อย ๆ เปลี่ยนเป็นเร่งรีบแล้วลับหายเข้าไปใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างสนาม พยาบาล ที่คุ้นชินกับการดูแลคนป่วย มือหนึ่งถือแก้วมีหูส่วนมืออีกข้างถือจานกำลังเดินมาทางกลุ่มรอบกองไฟ เมื่อมองเห็นชายหนุ่มเดินเลี่ยงออกจากกลุ่มเธอจึงรีบเดินตามหลังไป จนทันได้ยินเสียง โอ้กอ้าก ไม่ดีขึ้นเลยเหรอคะพี่กันย์ เสียงอ่อนโยนถามขึ้นเมื่อเห็น คนเคยคุ้น กำลังนั่งโก่งคออาเจียนก่อนจะรีบเดินไปวางแก้วและจานลงบนม้ายาวข้าง ๆ แล้วร่างแบบบางเดินกลับมาลูบหลังให้เบา ๆ พอนึกได้ว่าที่เธอถือมาเป็นแค่น้ำชา จะล้างปากคนอาเจียนได้อย่างไร ร่างบางพูดเร็ว มิวไปเอาน้ำมาให้ พร้อมกับหันกลับรวดเร็วแต่คนตัวสูงก็เร็วไม่แพ้กันเมื่อลุกขึ้นและคว้าข้อมือไว้ทันที ไม่ต้องหรอก...พี่ไม่เป็นอะไรมาก มันพะอืดพะอมและอ้วกน้ำลายออกมาเท่านั้น แก้วที่ถือมาล่ะ...อะไร? ชายหนุ่มชี้ไปที่แก้วหูบนม้านั่ง น้ำชาค่ะ จะเอามาให้กินกับขนมปัง เห็นกินอะไรไม่ได้เลย หญิงสาวพลิ้วมือออกจากมือใหญ่ ก่อนจะเดินไปที่ม้านั่งหยิบแก้วและจานที่วางอยู่ขึ้นมา คนตัวสูงดินตามหลังเงียบ ๆ นั่งลงบนม้ายาว ในค่ายมีชาให้ดื่มด้วยเหรอ ชายหนุ่มถามเรื่องชา ขนมปัง...แค่มองก็รู้ว่าเป็นของที่มีอยู่ในค่ายอยู่แล้ว มิวถือติดมือมาด้วยค่ะ ความรู้สึกที่คุ้นเคยทำให้หญิงสาวลืมตัวใช้สรรพนาม มิว เหมือนอดีต หึ หึ เสียงหัวเราะต่ำ ๆ ออกมาจากคอเมื่อจานขนมถูกส่งเข้ามือ ขนมปังสอดไส้พริก ประสบการณ์ครั้งหนึ่งที่ทำให้น้ำหูน้ำตาไหล ในปากแสบร้อนราวกับอมไฟ คนส่งขนมให้มองหน้า ส่งสายตาไปที่คนที่หัวเราะแทนการถามด้วยปาก ครั้งนี้คงไม่ใช่รสฮอทชิลลี่นะ หมอหนุ่มไม่ตอบคำถามแต่ประโยคล้อเลียนนั้นทำให้เสียงหัวเราะสองเสียงประสานกันก้อง บรรยากาศระหว่างสองคนผ่อนคลายโดยไม่รู้ตัว ลืมความหมางไปเกือบสิ้น ประโยคต่อมาจึงสดใสร่าเริงดังที่เคยผ่านมา...นาน ว๊าว...พี่กันย์รู้เหรอว่ามิวเป็นคนเอาให้พี่กิน คิดว่าทำเนียนแล้วนะ ตอนเอาให้กินน่ะเนียน แต่ตอนแอบดูผลนี่สิ รู้เลย... กันย์หยุดหัวเราะแล้วถอนหายใจน้อย ๆ ก่อนพูดต่อด้วยน้ำเสียงแผ่ว ๆ รู้ไหม?...พี่มีความสุขมากนะเมื่อคิดถึงมัน ตอนนั้นไม่ว่ามิวจะแกล้งยังไง พี่ก็ไม่เคยโกรธ คนโดนแกล้ง มองหน้า คนชอบแกล้ง ในขณะที่พูดเอื่อย ๆ มือเย็นยกแก้วชาร้อนขึ้นจิบ ความร้อนของชาทำให้มืออุ่น ท้องอุ่น แต่หัวใจ...อุ่นเพราะคนข้าง ๆ หมอหนุ่มวางแก้วชา จานขนมลงไว้ตรงกลางแล้วพูดต่อเรื่อย ๆ เมื่อเห็นพยาบาลสาวตั้งอกตั้งใจฟัง ผู้หญิงคนหนึ่ง ตัวเล็ก ๆ เล่าถึงฝันของเธอให้พี่ฟัง เธอมีความมุ่งมั่นในการมีชีวิตอยู่เพื่อที่จะให้สิ่งดี ๆ ให้ความสุขกับทุกคน ไม่ว่าคน ๆ นั้นจะเป็นญาติพี่น้อง พ่อแม่ หรือจะเป็นเพียงแค่เพื่อนร่วมโลกคนหนึ่งเท่านั้นเอง จนพี่เองซึมซับเอาสิ่งนั้นมา ใบหน้าคมสันหันช้า ๆ จ้องมองใบหน้านวลที่เห็นเพียงลาง ๆ ในคืนเดือนแรม สายตาคมที่เริ่มคุ้นกับความมืดสบสายตาหวานที่มองเขาอยู่ก่อนแล้ว อยากรู้ว่าจะมีปฏิกิริยาอย่างไร...กับเรื่องเล่า ผู้หญิงคนนั้น...อาจไม่มีตัวตนอยู่แล้วก็ได้ค่ะ เสียงแผ่ว ๆ ดังลอดมา เจ้าของเรื่องเล่า ไม่ปรารถนาเปิดเปลือยหัวใจผ่านทางดวงตา จึงละไปมองความมืดด้านหน้า ทำไมล่ะ? พี่ว่าไม่จริงหรอก ผู้หญิงคนนั้นยังนั่งอยู่ข้าง ๆ พี่ คนเล่าเรื่องยื่นมือใหญ่ออกไปกุมทับมือเล็กที่ค้ำบนขอบม้านั่งก่อนจะดึงมาที่หน้าขาของตัวเอง แต่คนมือเล็กพลิ้วมือเบา ๆ ออกจากการเกาะกุม แล้ว...ล่ะ ยังเหมือนเดิมไหม? สายตาหวานมองหน้าคู่สนทนานิดหน่อย เมื่อระลึกถึงอดีตบางตอน ความคุ้นเคยเริ่มหาย นามที่เคยเอ่ยถูกกลืนกลับ คำถามจึงสั้น ห้วน จนคนฟังสงสัยถึงน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป หมายความว่ายังไง? เหมือนเดิมคืออะไร ไม่มีความหมายอื่นค่ะ ตรงไปตรงมา แค่อยากรู้ว่ายังเป็นเหมือนเดิมหรือเปล่า? น้ำเสียงเข้มขึ้นพร้อมกับลมหนาวกรรโชกแรง ทำให้หัวใจที่เริ่มอุ่นคืนกลับมาเย็นเยียบ มือใหญ่ปล่อยมือเล็กที่กุมไว้แล้วลุกเดินไปยืนอยู่ตรงหน้า...คนที่สาดน้ำแข็งใส่หัวใจ เจ้าของเสียงน้ำแข็งพยายามสะกดอารมณ์ตัวเองที่เริ่มพลุ่งพล่านให้เย็นลงเหมือนน้ำเสียง พี่ไม่เข้าใจสิ่งที่มิวถาม เลยขอไม่ตอบนะครับ ไม่อยากให้เข้าใจอะไรผิด ๆ อีกแล้ว ดวงตาอบอุ่นขัดกับความเย็นเยียบในหัวใจ น้ำเสียงออดอ้อน อ่อนโยนเอ่ยให้คน เสียงน้ำแข็ง ได้ยิน หวังอยู่ลึก ๆ ว่า ความคุ้นเคย จะกลับคืนมาอีกครา... มิว...พี่กันย์ หวานหู หวานใจยิ่ง เมื่อเธอเอ่ยคำ พี่กันย์คร๊าบ พี่มิวครับ แหม...มาแอบหวานอยู่ตรงนี้เอง เขาจะประชุมกันแล้ว พี่นัทธ์ให้มาตาม เสียงจากเสกสิทธิ์คนเก่าดึงให้หนึ่งหนุ่มกับหนึ่งสาวหันไปทิศเดียวกัน ประเดี๋ยวพี่ตามไปนะเสก คนเสียงเย็นตะโกนบอกหนุ่มรุ่นน้องด้วยเสียงเกือบปกติ ก่อนลุกขึ้นยืนตัวตรง เงยหน้าเล็กน้อยก็มองเห็นดวงตาคมไหววูบ เอาน้ำชากับขนมอีกไหมคะ? ถ้าพอแล้วจะได้เอาไปเก็บ น้ำเสียงที่ถามเกือบปกติ แต่คนตัวสูงคิด...เสียงเหมือนชาเย็น...หวานแต่เย็น พอแล้วครับ พี่ดีขึ้นแล้ว หมอหนุ่มสนใจแต่เสียงหวานส่วนเย็นทิ้งไป...เดินหน้าต่อ...เพราะรู้แล้วว่า ภายใต้ความเย็นชานั้นซ่อนรอยอาลัยไว้ลึก ๆ ไปประชุมกันเถอะ อ้อ...พรุ่งนี้ไปตรวจร่างกายชาวบ้านกับโครงงานอนามัยด้วยกันนะ ชวนเสร็จช่วยเก็บจานส่งเข้ามือคนตัวเล็ก ส่วนแก้วชามือใหญ่ถือไว้เอง มือข้างที่เหลือใยปล่อยให้เปล่าประโยชน์...จับข้อมือคนตัวเล็กแน่น กึ่งจูงกึ่งลากให้เดินลิ่วไปร่วมประชุมรอบกองไฟ ไม่สนใจอาการฮึดฮัดของคนที่โดนลาก คนโดนลาก เมื่อคนลากไม่สนใจ อาการฮึดฮัดจึงหายไปยอมเดินตามแต่โดยดี เพราะความห่วงใยที่ไม่เคยหายไปจึงตัดสินใจถามคนที่อาจจะติดเชื้อเอชไอวี นัดตรวจเลือดอีกทีวันไหน? เสียงถามแผ่ว ๆ ดังออกมาคลับคล้ายคลับคลาดังมาจากที่ไกลทั้ง ๆ ที่เจ้าของเสียงเดินอยู่ใกล้ ๆ รู้ได้ว่าคนถามยังไม่ค่อยกล้าถามเรื่องที่...น่าจะ...สะเทือนใจ คำว่า น่าจะ คงเป็นจริง เพราะดวงตาคมวูบลงทันที ฉายแวววิตกกังวลออกมาชัดก่อนจะตอกย้ำความกังวลนั้นด้วยน้ำเสียงพร่า อีกสามเดือน...ไม่อยากตรวจเลย...ตอนนี้กำลังมีความสุข ถ้าติดจริงกลัวรับไม่ได้ อย่ากลัวเลย เรารู้เท่า ๆ กันว่าเปอร์เซ็นต์ต่ำมาก ยาก็กินแล้ว ไม่น่าโชคร้ายขนาดนั้น มือเล็กบิดมากำมือใหญ่ เสียงอ่อนโยนที่ปลอบ มิได้ปลอบเฉพาะคนตัวโต แต่ปลอบตัวเองด้วยต่างหาก น้ำเสียงปลอบโยนรินรดใจคนกลัวเอดส์ สลัดความกลัว...กังวลทิ้งไป กำลังใจกลับคืน หมายมาดเอาไว้...สามเดือนข้างหน้า...น่าจะ...มีคนคอยปลอบอยู่ข้าง ๆ ความสุขทางใจที่ห่างหายไปนานไหลย้อนกลับคืน...ต้องรีบไขว่คว้า ช่วงสามเดือนที่รอตรวจเลือดซ้ำ พี่จะไม่ได้ขึ้นห้องผ่าตัด แต่ยังคงออกตรวจทั้งที่โอพีดีและอีอาร์ มิวอย่าลืมเซ็ทเวรที่อีอาร์ตามเดิมนะ...จะคอย คนขายาวหยุดเดิน ดึงคนขาสั้นกว่าให้หยุดตาม สองสายตาประสานกัน...ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจไม่ว่าในความมืดหรือสว่าง...ดวงตาของมิวและกันย์ก็เป็นเช่นนั้นแล
นายแพทย์กันย์ นายแพทย์ธีระสิทธิ์ ยืนบิดตัวไล่ความเมื่อยขบหลังจากตรวจผู้ป่วยคนสุดท้าย ที่โต๊ะด้านขวามือพยาบาลสาวที่ไม่ได้อยู่ในยูนิฟอร์มกำลังให้คำแนะนำผู้ป่วยเรื่องการกินยา การดูแลตัวเองพร้อมทั้งกำชับให้ไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลอีกครั้ง กำหนดการตรวจรักษาผู้ป่วยของโครงงานอนามัยสิ้นสุดตอนเที่ยง หลังจากรับประทานอาหารเที่ยงแล้วจะเป็นเวลาว่าง สองหมอและหนึ่งพยาบาลจึงตกลงกันว่าจะไปช่วยโครงงานก่อสร้างที่กำลังสร้างห้องสมุดขนาดเล็ก ๆ ซึ่งนัทธ์กำลังช่วยน้อง ๆ อยู่ในโรงเรียนซึ่งเป็นที่พักในการออกค่ายครั้งนี้ ใบหน้าซูบเซียว อ่อนเพลียของหมอกันย์ยังคงปรากฏต่อสายตาของคนที่สังเกตใกล้ชิด ด้วยวิญญาณของพยาบาล ณัฐรดาไม่ปล่อยให้ คนไข้ ในสายตาของเธอขาดการดูแล ข้าวปลา อาหารที่ให้พลังงานจึงถูกเตรียมสำหรับคนอ่อนเพลีย ไม่ใช่แค่จัดหาให้ ยังทำหน้าที่มากกว่าคือการดูแลให้กินอย่างใกล้ชิด น้ำหวานค่ะ กินอาหารได้น้อย ได้น้ำตาลสักหน่อยจะได้ไม่เพลียมาก พี่ไหวน่า ไม่อ่อนแอขนาดนั้น คนพูดบอกไหวแต่มือใหญ่ยื่นรับกระบอกน้ำหวาน รู้ค่ะว่าไหว แต่ไม่อยากให้เหนื่อยมาก ณัฐรดามองใบหน้าซูบเซียวเหมือนคนเรื้อไข้ ไม่แตกต่างจากที่เธอเคยเป็นและเขา...เป็นคนดูแล...นั่นคือจุดเริ่มต้นของความผูกพัน...สำหรับเธอ ประโยคที่เจ็บปวด กลับมาเตือนความจำ
'...เราแค่สนิทกันมากเกินไป พี่ไม่คิดว่ามันคือความรัก...อยากให้มิวลืมมันซะ'
ดวงตาหวานสลดวูบ สายลมร้อนช่วงเที่ยงวันพัดผ่านกาย พัดเอาประตูใจที่กำลังเปิดรับไออุ่นให้ปิดลงอีกครั้ง ความร้อนไม่อาจแทรกซึมผ่านเข้าสู่หัวใจที่เริ่มปิดกั้นตัวเอง...เหตุผลง่าย ๆ ไม่อยากเจ็บปวดมากกว่าที่เคยเป็น คนร่างบางหันหลังกลับเดินจากไปเงียบ ๆ ทิ้งความสงสัยในปฏิกิริยานั้นให้กับคนเบื้องหลัง
ว่างงานแล้วเหรอ? นัทธ์หย่อนตัวนั่งข้างหญิงสาวบนม้านั่งที่ทำจากท่อนซุงใหญ่ มือกร้านแดดยื่นแก้วน้าให้คนนั่งอยู่ก่อน ค่ะ...ตอนบ่ายโครงงานอนามัยออกเยี่ยมบ้าน ไม่มีตรวจร่างกายแล้ว ไม่มีคำกล่าวขอบคุณแต่สายตาส่งกระแสที่ลึกซึ้งไปแทนเมื่อรับแก้วน้ำมา สนุกไหมครับ? ค่ะ...แต่นึกถึงเมื่อก่อนมากกว่า บรรยากาศ ความรู้สึกที่ได้รับคนละแบบกันนะ ยังไง? เล่าให้พี่ฟังได้ไหม? ไม่รู้สิ แต่ก่อนเป็นนักศึกษา เวลาทำอะไรดูเหมือนเราต้องทุ่มเทเต็มที่ ความรู้สึกที่ได้รับมันเต็มตื้นไปทุกอย่าง แต่ตอนนี้มันพร่อง ๆ ยังไงไม่รู้ ไม่อิ่มอกอิ่มใจมากเท่าที่เคย เสียงตอบแผ่วลงเรื่อย ๆ คนตอบไม่คิดแค่เรื่องงาน คนนั่งข้าง ๆ นึกรู้...คงไม่ใช่แค่เรื่องออกค่ายแล้วล่ะมัง ตอนเย็นเข้าหมู่บ้านไหม ไปบ้านพ่อทองก้อนกัน คนข้างกายพยายามเบี่ยงเบนหญิงอันเป็นที่รักออกจากความเจ็บปวด เขาคงลืมไปว่า ในหมู่บ้านแห่งนี้เป็นความทรงจำร่วม...มากมายของเธอ แม้แต่บ้านพ่อทองก้อน...เมื่อเธอระลึกเหตุการณ์บางตอน พี่ยอมไม่ได้ ทำเฉยก็ไม่ได้ อันตรายมากเลยนะที่เป็นแบบนี้ เราไม่รู้ว่าเป็นคนในหมู่บ้านหรือเปล่าที่แอบมาทำ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องบอกผู้ใหญ่บ้าน แจ้งผู้ใหญ่ในหมู่บ้านทั้งหมดให้รับรู้ไว้ จะได้ช่วยกันป้องกัน ความโมโหและการระวังอันตรายให้เธอของนักศึกษาแพทย์ในตอนนั้นทำให้คนทั้งค่าย ที่ บ้านพ่อทองก้อน คนทั้งหมู่บ้านได้เข้าใจว่า...เธอเป็นคนพิเศษสำหรับเขา...ไม่เว้นแม้ตัวเธอเอง ก็ยังคิดเช่นนั้น ได้สิคะ...วันพรุ่งนี้ก็กลับแล้ว เข้าไปกินข้าวในหมู่บ้านก็ได้ รำลึกอดีตไง ลองดูนะ...อาหารที่เคยกินได้เอร็ดอร่อย ตอนนี้จะกินได้ไหม คนทั้งคู่นึกถึงเมนูเปิบพิสดารบ้านผู้ใหญ่ทองก้อนก่อนจะหัวเราะประสานกันก้อง เสียงหัวเราะสองเสียงทำให้หนึ่งหนุ่มที่กำลังก้าวเดินสะดุดทันที เสียงที่สดใสช่างบอกอารมณ์เจ้าของได้อย่างดี รอยยิ้มนั่นอีก...อบอุ่น อ่อนหวานเหลือเกิน ความรู้สึกของคนได้ยิน ได้เห็น...หม่นเศร้า ร้าวลึก...ต่างกัน ฤๅ สิ่งที่สัมผัสได้ก่อนหน้านั้นไม่นาน หาได้เป็นความจริงไม่ ร่างสูงใหญ่หันหลังเดินจาก แต่ก่อนไป ยืดตัวเต็มที่ แหงนหน้ามองฟ้าสว่าง...ตั้งสติ หมายมั่น...บอกใจตัวเอง มันต้องไม่ใช่อย่างที่เห็น คืนนี้...แน่นอน...บอกความจริง...หมอหนุ่มสูดลมหายใจเอาละไอร้อนเข้าลึกสุดใจ หัวใจอุ่น...
กัณทิชาทั้งขลุกและคลุกอยู่กับกองเอกสาร การขยายขอบเขตการให้บริการ แผนการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ตั้งแต่เช้ายันดึกมาเกือบสองสัปดาห์ เกือบทุกอย่างลงตัว...ขาดสิ่งสำคัญ...หมอ...คนรองรับแผนงานทั้งหมด เวลาสามเดือนที่ได้รับ หายไปแล้วสองสัปดาห์ ปัญหาที่ไม่เคยแก้ได้ ยังถูกดองไว้ที่เดิม แผน...จะเขียนให้ดีอย่างไรก็ได้ หากไม่นำไปใช้ ไม่เกิดประโยชน์ หากนำไปใช้...คนทำงานไม่พร้อม เป็นโทษมากกว่าคุณ... คนสวย สง่า ภูมฐาน สมมาดผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ใบหน้าเก๋ถึงจะตกแต่งไว้งดงามหากมีร่องรอยจากตรากตรำ กรำงาน บัดนี้คิ้วขมวดมุ่นเพราะคิดไม่ตก...จะแก้ไขอย่างไรก่อน คำร้องขอของเขา รู้เท่า ๆ กัน คงไม่ยอมกลับมาช่วยเหลือ แต่หากปล่อยไว้แบบนี้เป็นภัยกับโรงพยาบาลแน่นอน...ใครช่วยได้ โดยพลัน...หญิงร่างท้วม แต่งกายเหมาะกับวัย ใบหน้าหวานปนเศร้า ผู้ต้องครองตนเพื่อเป็นหลักของบุตรชาย ไม่เว้นแม้แต่เพื่อความสุขของคนที่เป็นสามี ผ่านเข้ามาในความคิด สมองทำงาน ปล่อยเวลาไปไม่ได้ ร่างบางยันตัวเองลุกจากเก้าอี้ตัวนุ่ม คว้ากระเป๋าถือติดมือ มือเรียวค้นหากุญแจรถ ขายาว ก้าวฉับ ๆ ขัดกับใบหน้าที่ดูเหมือนอ่อนเพลีย จะไปแห่งหนใดบอกให้ลูกน้องรู้แค่...ไปข้างนอกนะ ถ้ามีใครมาขอพบบอกว่าให้มาพรุ่งนี้ รถยนต์คันเล็กแต่แรงม้าสูง ปราดเปรียวเหมือนเจ้าของ วิ่งช้าลงเป็นคลานก่อนจะจอดสนิทที่ข้างรั้วสูงแต่โปร่งโล่งจนสามารถมองเห็นภายในบ้านได้ชัดเจน หญิงสาวร่างสูงโปร่ง กระโปรงสีเข้มยาวเหนือเข่า เสื้อสูทผ้าเนื้อหนาพอดีตัวไม่เหมาะกับอุณหภูมิเวลานี้ แต่เธอจำเป็นต้องมายืนกดกริ่งเรียกคนที่นี่ตอนนี้ ไม่นาน...ผู้หญิงที่เพิ่งผ่านเข้ามาในความคิดเดินออกมาเปิดประตูรับ สวัสดีค่ะคุณป้า สบายดีหรือเปล่าคะ? มือเรียวไหว้สวยงาม พร้อมยิ้มแย้มทักทายถามสารทุกข์สุกดิบ เรื่อย ๆ ตามประสาคนแก่แหละ แล้วหนูล่ะ ดูซูบ ๆ ไปนะ ทำงานหนักเกินไปหรือเปล่า? นิดหน่อยค่ะคุณป้า ช่วงนี้ยุ่ง ๆ หนูไม่ได้มาที่นี่ซะนานเลย พี่กันย์กลับมาบ่อยไหมคะ คำถามที่ถามถึงบุตรชายอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้สูงวัยไม่ทันตั้งตัว คำตอบจึงอึกอัก ก็...ก็...นาน ๆ ทีน่ะหนู หนูจะเข้าไปนั่งในบ้านหรือที่ซุ้มด้านนอกโน้นจ๊ะ ผู้สูงวัยชี้นิ้วไปทางซุ้มไม้สักหลังงามที่อยู่ชิดรั้วบ้านอีกด้าน ซึ่งสามีของเธอภูมิใจนักหนาที่มีมันมาประดับบ้าน...ซึ่งทั้งบ้านและชื่อเสียงของนายการุณมีความสุขของบุตรชายเป็นตัวประกัน ป้าเข้าไปเอาน้ำดื่มมาให้ หนูไปรอที่ซุ้มเลยนะคะ นางสุมณฑ์เดินลิ่วเข้าบ้าน...หลังที่เพิ่งงาม ช่วงเวลาที่นางสุมณฑ์ปล่อยให้อยู่คนเดียวมีมากพอให้หญิงสาวมีโอกาสสำรวจรอบบ้าน หลังเพิ่งงาม ทางเดินจากหน้าบ้านไปซุ้มปูด้วยแผ่นหินศิลาแลงเป็นช่วง ๆ พอเหมาะกับช่วงก้าวขาเดิน ข้างซ้าย ขวาของทางเดินพรมด้วยพื้นหญ้าเขียวขจี ต้นหมาก ต้นปง ต้นศรนารายณ์ อยู่เป็นหย่อม ๆ อย่างลงตัว ต้นโมกข์ออกดอกขาวพราวเรียงรายอยู่ชิดริมรั้วรอบบ้าน สวนรอบบ้านคงถูกจัดและตกแต่งจากช่างมืออาชีพ คนมาเยือนนั่งแปะลงเหมือนคนหมดแรงที่ชุดเก้าอี้ตัวสวยกลางซุ้มเมื่อเดินมาถึง เสียงน้ำไหลจากน้ำตกจำลองใกล้ ๆ ซุ้มไม้สัก...น่าจะ...ทำให้หญิงสาวอารมณ์รื่นรมย์ขึ้น ถ้าเธอจะไม่คิดว่า...สรรพสิ่งทั้งหมดนี้ได้มาอย่างไร? ใคร...ต้องสูญเสียความสุขไปกับสิ่งสวยงามนี้...ถ้าไม่ใช่เขา ผู้ชายที่น่ารัก สดใส กลายเป็นคนเงียบขรึม แววตาฉายแววโศกเศร้าอยู่เนืองนิจ หญิงสาวเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ หลับตาลง...เพราะความสุขของผู้บังเกิดเกล้าหรอกหรือ ที่ทำให้เขาต้องยอมเจ็บปวด...เธอเอง...ก็คือลูก ระหว่างความเจ็บปวดของพ่อกับของ คนอื่น เธอจะเลือกอะไร คำขอร้องรบกวนจิตใจไม่คลาย
Create Date : 07 พฤศจิกายน 2553 |
|
1 comments |
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2553 16:28:16 น. |
Counter : 1658 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: กอล์ฟ IP: 202.28.27.6 13 กุมภาพันธ์ 2554 19:57:06 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
อุดรธานี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]
|
หนังสือ...เป็นเส้นทางในการนำผู้คนสู่ความสำเร็จ การอ่านหนังสือเป็นวิธีการที่ต้องเดินไปบนเส้นทางนั้น หนังสือทุกเล่ม ไม่ว่าจะมีราคาแพง ราคาถูก เล่มที่เก่าเก็บมานานหรือเล่มที่เพิ่งพิมพ์ออกมาจากโรงพิมพ์สด ๆ ร้อน ๆ หนังสือวิชาการหรือหนังสืออ่านเล่น ทุกเล่มล้วนบ่งบอกตัวตนของตนเองและมีคุณค่าในตัวเองทุกเล่มเช่นเดียวกัน...มาเถอะมาอ่านหนังสือกัน เพื่อเพิ่มคุณค่าของตนเองและคุณค่าของหนังสือ
|
|
| |