Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2548
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
16 พฤษภาคม 2548
 
All Blogs
 
แพ้ผงชูรส ที่แท้คือภาวะต้องพิษ

บล็อกนี้ย้ายไปที่

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=nacl&month=10-10-2005&group=12&blog=2



























ธรรมชาติบำบัด
น.พ.บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล balavi@samart.co.th target=_blank>balavi@samart.co.th //www.balavi.co.th




หมาดๆ มาจากงานวิจัยของญี่ปุ่น ตีพิมพ์ในวารสาร New Scientist การกินผงชูรสในหนูทดลองด้วยปริมาณสูง ก่อให้เกิดภาวะสายตาเสื่อม

ถึงกับเป็นข้อสังเกตไว้ว่า ชาวตะวันออกซึ่งถูกภาวะจำยอมต้องกินผงชูรสจากอาหารที่เกลื่อนกล่นอยู่ทั่วบ้านทั่วเมือง จึงเกิดโรคต้อกันมาก พิษจากผงชูรส

ไม่ต้องรอให้เกิดผลขนาดตาเสียตาเสื่อมหรอก การกินผงชูรสก่ออาการผิดปกติมากมาย ตั้งแต่โรคปวดหัว ไมเกรน กระเพาะระคายเคือง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย กลุ่มอาการลำไส้ระคายเคือง หอบหืด หายใจลำบาก กระวนกระวาย ตื่นกลัวผิดปกติ ใจเต้นใจสั่น อัมพาตบางส่วน โครงเครง สับสน อารมณ์แปรปรวน โรคทางระบบประสาท ได้แก่ พาร์กินสัน, Multiple sclerosis (เซลล์ประสาทกลายเป็นพังผืดเป็นหย่อมๆ), อัลไซเมอร์ส

พฤติกรรมผิดปกติมักเกิดขึ้นในเด็ก ผื่นแพ้ น้ำมูกไหล หนังตาล่างบวม หน้าแดง ปากเป็นแผล ซึมเศร้า รวมไปถึงโรคที่ยากแก่การรักษา เช่น fibromyalgia ซึ่งเป็นอาการปวดกล้ามเนื้อและพังผืดอันแสนทุกข์ทรมาน ที่เป็นมากและรุนแรงก็อาจถึงกับหัวใจกำเริบที่คุกคามชีวิต ฯลฯ

เหล่านี้คืออาการผิดปกติทั้งปวงที่เกิดขึ้นกับคนทั่วโลก พิสูจน์แล้วว่าเกิดจากผงชูรสรวบรวมโดยองค์กรโลกชื่อ NoMSG (//www.nomsg.com) องค์กรสากลผู้ไม่บริโภคผงชูรส NoMSG

องค์กรนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม 1989 สมาชิกขององค์กร NoMSG มีตั้งแต่นายแพทย์ นักกฎหมาย บรรณารักษ์ แม่บ้าน พ่อบ้าน นักเขียน บรรณาธิการ วิศวกร ช่างซ่อม ศิลปิน และนักเรียนนักศึกษา เป็นต้น

เริ่มต้นจากหนังสือ In Bad Taste : The MSG Syndrome เขียนโดย น.พ.ยอร์จ อาร์. ชวอตซ์ ตีพิมพ์เรื่องราวจากผลร้ายของการกินผงชูรสออกวางจำหน่าย

จากนั้นมีผู้ร่วมชะตากรรมจากการกินผงชูรสด้วยอาการต่างๆ ตั้งแต่น้อยไปหามาก พากันตื่นตัวขึ้นมา และด้วยการประสานของของ น.พ.ชวอตซ์และนางแคทลีน ผู้ภรรยา ช่วยให้เกิดการรวมตัวกันขึ้นเป็นเครือข่ายของผู้บริโภคจากชนทุกระดับชั้น

อันมีวัตถุประสงค์ที่จะช่วยกันให้การศึกษาแก่ผู้บริโภคให้เห็นถึงผลร้ายของการกินผงชูรส และวิธีป้องกันตนเองจากสารชนิดนี้
แพ้ผงชูรส-แท้ที่จริงคือภาวะต้องพิษประมาณกันว่ามีประชากรทั่วโลกที่เกิดปฏิกิริยาต่อผงชูรส 30% ของประชากรโลก

พูดง่ายๆ ว่า สำหรับประชาชนไทย 62 ล้านคนในขณะนี้ก็มีผู้เกิดผลจากผงชูรส 18.6 ล้านคน และทุกวันนี้มีการใส่ผงชูรสมากๆ ยิ่งขึ้นทุกที ทั้งชนิดของอาหารที่ใส่และปริมาณที่ซัดสาดเข้าไป (เข้มข้นขึ้นกว่าเดิม 50%)

ดังนั้น ปริมาณที่คนเรากินเข้าไปแต่ละครั้งก็จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จำนวนเปอร์เซ็นต์ของผู้เกิดผลจากผงชูรสจะยิ่งนับวันสูงขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน

อาการเหล่านี้คนทั่วไปมักเรียกว่า "แพ้ผงชูรส" และเมื่อใช้คำนี้ทีไร ก็พลอยจะนึกโทษชะตากรรมตัวเองว่า "คงเป็นกับตัวฉันคนเดียว หรือคนซวยๆ แบบฉันเพียงไม่กี่คน"

หารู้ไม่ว่า แท้ที่จริงอาการที่เรียกว่า แพ้ผงชูรสนั้น มิใช่เป็นปฏิกิริยาภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นกับคนเราตามดวงแบบอาการแพ้เพนิซิลลินหรือแพ้พิษผึ้งแมลง แต่อาการเหล่านี้คือภาวะต้องพิษสารเคมี จากผงชูรสนั่นเอง

และพึงรู้ไว้เสียด้วยว่า แม้ในคนที่กินผงชูรสแล้วไม่เกิดอาการผิดปกติในบัดดล แต่ผลร้ายจากสารเคมีของผงชูรสก็กำลังก่อผลสะสมที่ทำลายเซลล์ประสาทในระยะยาว ผงชูรสออกฤทธิ์เหมือนยา สั่งการต่อระบบประสาท

ครับ ผงชูรสไม่ได้มีคุณค่าทางโภชนาการแต่อย่างใดเลย และมันก็มิได้ไปปรับคุณค่าของอาหารหรือเกิดปฏิกิริยากับอาหารที่มันซัดสาดลงไป

ผงชูรสคือสารเคมีออกฤทธิ์เหมือนยา สั่งการต่อระบบประสาทของคนกิน ทำให้ปุ่มปลายประสาทรับรสไวขึ้นต่อรสอาหาร พูดภาษาชาวบ้านให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือมันเข้าไปเล่นกลกับประสาทของคุณให้คิดเสียว่า "อาหารที่กินนี่ ช่างอร่อยเหลือเกินนะ" ทั้งๆ ที่อาหารที่กำลังยัดใส่ปากเข้าไปนั้น อาจห่วยเสียเต็มประดา ในเชิงคุณค่าของความสดใหม่ หรือในเชิงคุณค่าทางโภชนาการก็ตาม

ด้วยเหตุนี้ ร้านอาหารที่ไม่พิถีพิถันในการทำอาหาร แม่ครัวแม่ค้าที่ไร้ฝีมือจึงนิยมผงชูรส เพราะทำให้อาหารที่ตัวเองทำขาย ซึ่งรสชาติอาจเลวขนาดกระยาจกก็เบือนหน้าหนี กลายสภาพให้ราชาต้องเหลียวมอง หารู้ไม่ถึงการต้องพิษเฉพาะหน้าหรือระยะยาว ทั้งผู้ขายและผู้กิน

เราจึงพบผงชูรสถูกใส่เข้าไปในอาหารขยะนานาชนิด ซึ่งคุณค่าโภชนาการเป็นเพียงแป้งเปล่าๆ ทอดจากน้ำมันซ้ำๆ ในโรงงาน ในเนื้อแห้ง ผักแห้ง อาหารกระป๋องและอาหารแช่แข็งซึ่งก็คือซากพืชซากสัตว์ตาย ที่ไม่รู้ตายมากี่เดือนกี่ปีแล้ว แม้จะไม่โบราณขนาดที่กลายเป็นฟอสซิล แต่ความสดใหม่ซึ่งควรจะเป็นสาระสำคัญของความเป็นอาหารไม่มีเหลืออยู่เลย แต่เมื่อถูกเคล้าผงชูรสเข้าไป ก็สามารถขึ้นห้างแล้วย้อมกลับเข้าปากของผู้บริโภค

ราวกับว่าซากที่เกือบจะเป็นฟอสซิลนั้นมีรสชาติเอร็ดอร่อยชวนกินเสียเต็มประดา
ปวดศีรษะและปวดหัวไมเกรน ฤทธิ์ยาสั่งจากผงชูรส

"ผมเป็นอีกคนหนึ่งที่ถูกฤทธิ์ยาสั่งจากผงชูรสทำให้ปวดหัว" นายรอยด์เล่าให้ฟังจากองค์กร NoMSG

"ผมอายุ 49 ปี รับพิษจากสารตัวนี้มาตั้งแต่อยู่ชั้นมัธยม ผมต้องทนทรมานจากอาการปวดหัวมา 20 กว่าปี จนกระทั่งไปเรียนวิชาไคโรแพร็กติกที่โตรอนโต และเพื่อนร่วมชั้นของผมได้ช่วยกันหาสาเหตุจนรู้ชัดว่ามาจากเจ้าผงชูรสตัวนี้ ก่อนหน้านี้ผมได้ลองวิธีรักษาทุกรูปแบบก็ไม่หาย ท้ายที่สุดเพียงแต่หลีกเลี่ยงการกินผงชูรส อาการก็หายเป็นปลิดทิ้ง...หลังจากนั้นผมได้ทำงานวิจัยด้วย ผมคิดว่าอาการไมเกรนที่เป็นกันเยอะแยะในผู้คนทุกวันนี้ มีอยู่ไม่น้อยเลยที่วินิจฉัยผิด แท้ที่จริงเป็นอาการต้องพิษผงชูรสนั่นเอง ผงชูรสนอกจากเข้าไปทำหน้าที่เป็นสารสื่อนำประสาท ยังไปทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ เพราะไปกระตุ้นตับอ่อนให้หลั่งอินซูลินออกมาก พอน้ำตาลต่ำก็จะเกิดอาการปวดหัว คล้ายๆ กับคนที่ไวต่อแอลกอฮอล์ พอกินเหล้าโดยที่ท้องว่าง สักพักก็จะเกิดอาการปวดหัวได้"

ขณะที่ปวดหัวกล้ามเนื้อต้นคอจะไวมาก มันจะเกร็งตัว ทำให้เลือดไปเลี้ยงบริเวณหนังศีรษะและท้ายทอยน้อยลง ยิ่งเกิดอาการปวดมากขึ้น บางคนมีจุดไวต่อความปวดที่บริเวณกล้ามเนื้อหน้าลำคอด้วย

ครับ นี่เป็นผลร้ายประการหนึ่งที่พบบ่อยในคนทั่วโลกที่ปวดหัวโดยไม่ปรากฏสาเหตุ มันอาจสืบเนื่องกับผงชูรสด้วยประการฉะนี้ คนไทยเป็นโรคปวดหัวและไมเกรนกันมากมาย ลองละเลิกผงชูรสจริงๆ สักสัปดาห์เดียว ก็รู้ผลแล้ว
แก้ปวดหัวจากผงชูรส
วิธีแก้อาการนี้ที่รวดเร็ว ในกรณีที่ยังไม่ทันปวดมาก ให้รีบเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด อาจดื่มน้ำผลไม้เข้าไปสัก 1-2 แก้ว ตามด้วยอาหารคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ขนมปังโฮลวีต

ถ้าเป็นคนไทยน่าจะเป็นข้าวต้มข้าวกล้องสักชาม ก็ช่วยได้ บางคนจำเป็นต้องใช้แอสไพริน หรือยาแก้อักเสบที่ไม่มีสตีรอยด์ (NSAID) และอีกวิธีหนึ่งคือพอโดนผงชูรสแล้วเกิดอาการ ให้รีบสวนกาแฟขับพิษโดยเร็วก็พอช่วยได้ ถึงเวลาแล้วที่คนไทยจะตาสว่างภายหลังหนูญี่ปุ่นตาบอดกันเสียที




Create Date : 16 พฤษภาคม 2548
Last Update : 10 ตุลาคม 2548 13:12:01 น. 0 comments
Counter : 2016 Pageviews.

NaCl
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




Friends' blogs
[Add NaCl's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.