ถนอมน้ำใจ...มากไปก็กลายเป็น ไม่จริงใจ

ปกติเราก็รู้กันอยู่แล้วใช่มั้ยครับว่าเราต้องรู้จักถนอมน้ำใจคนอื่น
แต่การถนอมน้ำใจนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นการดีเสมอไป มันต้องมีขีดจำกัดของความเหมาะสมเหมือนกัน

การ "ถนอมน้ำใจ" มันก็เป็นการไม่พูดหรือทำอะไรที่ทำให้คนอื่นรู้สึกไม่ดี เช่น ถ้าเราคุยกับคนอื่น ถ้าเขาพูดเรื่องที่เราไม่สนใจมาเราก็ต้องฟัง ต้องไม่แสดงท่าทางว่ารังเกียจเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกแย่หรืออึดอัด บางครั้งก็ต้องฝืนคุยไปแบบที่เรียกว่าคุยไปตามมารยาท ซึ่งก็ต้องทำเป็นสนุกหรือสนใจ แต่จริงๆ แล้วมันก็คือการเสแสร้งนั่นเอง

ทีนี้เมื่อมันมากเกินไป จากการแกล้งทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดี ก็จะมากขึ้นจน กลายเป็นว่าเออ-ออ-ห่อหมกไปซะหมด ไม่พูดความรู้สึกจริงๆ ออกมาเลย แน่นอนว่าแบบนั้นมันก็ต้องสร้างความอึดอัดให้กับตัวเองอย่างแน่นอน หลายคนก็เอากลับไปบ่นลับหลัง ไปเก็บเป็นความไม่พอใจเอาไว้

บางคนก็พยามเอาใจคนอื่นมากซะจนสุดท้ายก็แสดงความไม่พอใจออกมาให้อีกฝ่ายเห็นแบบชัดเจน บางคนก็พาลใส่อีกฝ่ายเพราะแกล้งเอาใจไม่ไหว แหงสิครับ อะไรที่ต้องฝืนทำมันต้องเกินกำลังเข้าสักวัน ซึ่งแบบนั้นมันก็จะกลายเป็นความไม่จริงใจไปซะแทน เพราะบอกว่าได้แต่ทำท่าทางไม่พอใจใส่บ้าง บางคนก็บอกโอเคได้แต่พอทำจริงๆ ก็บ่น...ต้องเรียกว่าพาลว่าคนนั้นคนนี้ไปทั่วเลยแหละครับ.....ผมล่ะเซ็งพวกนี้จริงๆ


พวกนี้ผมเจอมาไม่น้อยครับ ซึ่งตรงนี้ผมมองว่าคนพวกนี้ "ไม่จริงใจ" เอาซะเลย ถ้าไม่สะดวกจะทำก็บอกมาเลยก็ได้นี่ว่าไม่สะดวก ไม่ใช่ฝืนทำแล้วก็มาพาลว่าคนอื่นไปทั่ว บางคนก็ทำเป็นพูดว่าดูก่อนอยู่นั่นจนใกล้เวลาที่คุยกันไว้ พอไปถามก็แสดงอารมณ์ฉุนเฉียวใส่เลย ก็ถ้าจะไม่ร่วมกิจกรรมนี้ก็บอกมาตรงๆ เลย เช่น ไม่ดีกว่าเพราะอะไรก็ว่าไป


บางครั้งผมก็เจอแบบชวนไปเที่ยวครับ เราชวนขึ้นไปรับอากาศหนาวทางเหนือช่วงปลายปี เขาก็เอาแต่บอกว่า "มันแพงสิงั้นน่ะ" บ้าง "ทำไมไม่ไป.....ล่ะ" บ้าง ผมก็ถามไปตรงๆ ว่างบเท่านี้น่ะไหวมั้ย ก็ได้คำตอบว่า "เดี๋ยวดูก่อน" พอเราเริ่มจะวางแผนจริงจังเพื่อจะคำนวณงบได้ก็ถามไปอีกครั้ง เขาก็แสดงอาการไม่พอใจใส่ทันทีเลย ขึ้นเสียงใส่ว่า "จะไปก็ไปกันเองสิ ได้ค่าเครื่องบินถูกนี่จะไปเดือดร้อนอะไร" ประมาณว่าเรามีตั๋วราคาพิเศษอยู่ ของเขาต้องจ่ายราคาเต็ม เหมือนจะว่าเราไปเอาเปรียบเขา.....ครั้งนั้นผมไม่ได้คิดว่าจะไปเอาเปรียบอะไรเลยถ้าไปด้วยกันก็ต้องจ่ายเท่ากัน แถมครอบครัวผมจำนวนคนมากกว่าเขาด้วย หมายความว่าผมต้องจ่ายเยอะกว่าเห็นๆ

กรณีนี้ผมมองว่าสนิทกันขนาดนี้ไม่เห็นต้องฟอร์ม พูดมาเลยก็ได้ว่า "งบ....บาทมันแพงไป" หรือ "มีงบเท่านี้อ่ะ จัดทริปประหยัดกว่านี้ได้มั้ย" หรือถ้าอยากไปที่อื่นก็ไม่ต้องมาแกล้งถาม แต่เสนอมาเลยว่า "เอาเป็นที่....ดีมั้ย อยากไปประหยัดกว่าด้วย" อะไรแบบนี้ครับ ผมว่าคุยกันตรงๆ แบบนี้เลยดีกว่า สนิทกันขนาดนี้ ผมว่ามันจริงใจกว่าเยอะเลย ผมรู้สึกดีกว่าเยอะครับ เพราะรู้สึกว่ามันคุยกันได้ มันเข้าใจกันได้โดยไม่ต้องมานั่งเดาใจกัน แต่การพยามเอาใจคนอื่นแบบที่เขาทำเนี่ยผมไม่ได้มองว่าช่วยให้ผมรู้สึกดีเลย ซึ่งดูจะเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีกับเขาขึ้นมาด้วยซ้ำ



เป็นตัวอย่างการ "ถนอมน้ำใจ" ที่มันมากไปก็กลายเป็น "ไม่จริงใจ" ได้เหมือนกันไม่ใช่ว่าการรู้จักถนอมน้ำใจกันเป็นเรื่องไม่ดีนะครับ มันดีครับแต่ถ้ามากเกินไปมันก็กลายเป็นผลเสียเหมือนกัน

ถ้าสนิทกันมากๆ บางครั้ง (อาจจะหลายครั้งด้วย) การถนอมน้ำใจกันมากไปก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น แต่จะยิ่งทำให้แย่ลงด้วยซ้ำ เพราะงั้นบางครั้งแทนที่จะคิดว่าจะถนอมน้ำใจกันหรือ เออ-ออ-ห่อหมก ก็ลองเปลี่ยนเป็นหันมาคุยกันตรงๆ ดูบ้างก็อาจจะดีกว่าก็ได้นะครับ


โดย นาย nyo

Create Date : 09 ธันวาคม 2557		0 comments
Last Update : 9 ธันวาคม 2557 0:54:10 น.
Counter : 1734 Pageviews.
Share Tweet