ตัวของเรา สไตล์ของเรา ทำไมต้องเหมือนใคร
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
7 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 

บ้านญี่ปุ่น...เก็บไอเดียบ้านจากหนัง ตอนที่ 2 - Utatama, Tokyo Shojo

คราวก่อนเราก็ได้ไอเดียจากซีรี่ส์แนวครอบครัวอารมณ์เครียดเรื่อง 14 Sai no Haha
หรือคุณแม่วัย 14 ไปแล้ว....คราวนี้มาดูจากหนังวัยรุ่นให้สดชื่นกันบ้าง ก็มีอะไรดีๆ
ให้เก็บเป็นไอเดียสำหรับบ้านเหมือนเดิมครับ ดูกันเลยดีกว่า


เรื่องแรก....

2001 ซิงโคร (Water Boys)
2004 แจ๊ส (Swing Girls)
2006 ฮูล่าแดนซ์ (Hula Girls)
และปี 2008....ประสานเสียง

ใช่แล้ว Utatama (อุตะทามะ) นั่นเองครับ
ที่จริงผมเคยรีวิวเรื่องนี้ไว้ที่โต๊ะเฉลิมไทยด้วย
ก่อนดูบ้านขอพูดถึงตัวเรื่องสักหน่อยเพราะรู้สึกว่าหนังจะยังไม่เข้าไทย...ถ้าอยาก
ดูบ้านเร็วๆ ให้ข้ามลงไปซัก 3 รูปได้เลยครับ



หนังวัยรุ่นแนวเฮฮาเหมือนกับ Water Boys และ Swing Girls เป็นเรื่องเกี่ยวกับ
วงร้องเพลงประสานเสียงของโรงเรียน Nanahama โดยที่ Ogino Kasumi ตัวเอก
เป็นคนที่รักการร้องเพลงมาก



แต่ก็เกิดเหตุบางอย่างขึ้นทำให้หมดความมั่นใจที่จะร้องต่อไปแต่สุดท้ายแล้วก็
เรียกความมั่นใจคืนและกลับมาร้องเพลงอีกครั้งเพราะปฏิเสธสิ่งที่ใจรักไม่ได้...
ก็เป็นเรื่องแบบ "ล้มแล้วลุก" ไม่ใช่ "สู้เพื่อฝัน" ครับ



หนังดูสนุกนะครับ ผมชอบหนังวัยรุ่นแนวๆ นี้ด้วย Utatama ต่างจากหนังวัยรุ่น
ที่เกี่ยวกับเพลงของไทยอย่าง Season Change พอควรนะครับ เพราะเนื้อหาใน
หนังไม่ได้เน้นไปที่เรื่องความรักแต่เป็นเรื่องของตัวเอกนั่นแหละครับ ถึงผมจะยัง
ไม่เห็นเรื่องนี้ในไทยแต่ถ้าหาได้หรือเข้าไทยเมื่อไหร่ก็แนะนำให้ลองดูกันครับ
เป็นหนังเบาๆ ดูสนุกครับ


เอาล่ะหยุดรีวิวหนังไว้แค่นี้...ดูบ้านดีกว่า

ในเรื่องก็ไม่ได้มีบ้านให้ดูมากนักแต่ก็มีส่วนของบ้านที่น่าสนใจให้เห็นครับ
เพราะว่าบ้านอยู่บนเนินทำให้อยู่สูงกว่าบ้านหลังอื่นๆ ทำให้มีส่วนของระเบียง
หรือชานนอกบ้านด้วยครับ



เป็นส่วนที่อยู่ติดกับห้องนั่งเล่น และยาวไปถึงห้องอื่นๆ ด้วย...ผมคิดเอาเองว่า
น่าจะเป็นห้องกินข้าวครับ ทั้งหมดนี้เดินถึงกันได้หมด แล้วก็ยังมีส่วนที่ยกระดับ
ขึ้นไป 3 ขั้นด้วย

เลือกใช้ต้นไม้ที่ใบเล็กและเป็นพุ่ม ช่วยให้ดูสะอาดตา ไม่รก เพราะเป็นไม้ดอก
เลยทำให้มีสีสันให้ความรู้สึกสดชื่นขึ้นไปอีกครับ



มองจากห้องนั่งเล่นออกไปครับ ใช้บานเลื่อนกระจกใหญ่ช่วยให้เห็นวิวด้านนอก
ที่ส่วนระเบียงกับต้นไม้ใหญ่ให้ความรู้สึกธรรมชาติดีครับ แม้นั่งอยู่ในบ้านก็ยัง
บรรยากาศดี...อยากได้ยังงี้มั่งจัง



มองจากอีกมุมครับ จะเห็นว่ามีโต๊ะเล็กๆ ไว้นั่งเล่นด้วย (น่านั่งจริงๆ แหละเนอะ)
และการใช้ต้นไม้ใบเล็กและจัดเข้าริมทั้งหมดก็ช่วยให้ดูสะอาด โล่ง ไม่รกและ
เป็นระเบียบ

จากเรื่อง Utatama ก็หมดเท่านี้ครับ...ไปต่อกันกับเรื่องที่ 2



เรื่องที่ 2....Tokyo Shojo
หนังยังไม่เข้าไทยเหมือนกัน...ก่อนดูบ้านก็ขอเล่าสักนิด...ถ้าอยากดูบ้านเลย
ก็ให้ข้ามลงไปซัก 3 รูปครับ
ก็เป็นหนังปี 2008 อีกเรื่องหนึ่ง...เป็นเรื่องที่มีคอนเซปท์คือ "รักที่ไม่สมหวัง" ครับ
ปกติผมไม่ค่อยชอบดูหนังที่เกี่ยวกับความรักสักเท่าไหร่แต่เรื่องนี้กลับรู้สึกสนุก



เรื่อง Tokyo Shojo เป็นเรื่องเกี่ยวกับความรักข้ามภพข้ามช่วงเวลา เป็นเรื่องของ
Fujisaki Miho เด็กสาวม.ปลายที่ทำโทรศัพท์มือถือหล่นแล้วหายไป โทรศัพท์ที่
ตกไปนั้นได้ผ่านประตูมิติข้ามเวลากลับไปเมื่อประมาณ 100 ปีก่อนยังสถานที่
เดียวกันแต่คนละเวลา



Miyata Tokijiro เด็กหนุ่มวัยมหาวิทยาลัยคนหนึ่งเก็บมันได้โดยที่ไม่รู้จักว่ามัน
คืออะไร แล้วเมื่อมองเห็นดวงจันทร์ทั้งคู่ก็จะโทรคุยกันได้หลังจากคุยกันหลาย
ครั้งทั้งคู่ก็เริ่มมีความรู้สึกดีๆ ให้กัน แต่ขีดจำกัดของมันก็มาถึง เพราะแบตของ
โทรศัพท์ที่อยู่กับ Tokijiro กำลังจะหมดลง



หนังวางเรื่องและลำดับการเล่าเรื่องได้ดีทีเดียวครับ ทำให้การพลิกสถานการณ์
ในช่วงท้ายเรื่องออกมาดี มีการเล่นกับความหมายของชื่อ เล่นกับเวลา แถมด้วย
การปิดเรื่องที่จบได้สวยครับ...ทำให้ผมนั่งดูแล้วอมยิ้มได้ทั้งเรื่อง นั่งดูตอนตี 2
กะจะดูรอง่วงกลายเป็นตาสว่างไปเลย ถ้ามีโอกาสก็ลองหาเรื่องนี้มาดูกันนะครับ


แนะนำตัวเรื่องเสร็จก็มาดูบ้านในเรื่องนี้กัน



เป็นตัวบ้านด้านนอกครับ ปิดผนังบ้านทั้งหมดเป็นเหมือนอิฐสีแดง...ผมคิดว่าคง
เป็นกระเบื้องล่ะครับ

ระเบียงที่ชั้น 2 ใช้เป็นแบบปิดทึบทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าแบบโปร่ง
เพราะจะทำให้คนข้างนอกมองเข้ามาได้ยาก แล้วเจาะช่องเป็นรูปข้าวหลามตัด
เอาไว้ ทั้งลมทั้งแสงก็จะผ่านช่องนี้ได้ทำให้ไม่อึดอัดเกินไปครับ



เข้ามาในบ้านกัน...ถึงด้านนอกจะเป็นปูนปิดด้วยกระเบื้องแต่ข้างในเป็นไม้ล้วนๆ
(ท่าจะแพงนะนั่น) มีการทำช่องวางของในผนังด้วยไม่ต้องติดชั้นลอย ใช้วาง
พวกของแต่งบ้านต่างๆ ได้เลย....ห้องที่เห็นนี้เป็น LD ครับคือ Living + Dining
ประตูเลื่อนทางขวานั่นผมไม่รู้ว่าเป็นห้องอะไรเหมือนกัน...ลองดูใน Floor Plan
จะเป็นห้อง A ครับ



ครัวเป็นแบบมีเคาเตอร์บนหรือ Upper Deck ครับ (ไม่รู้ว่าจะเรียกมันว่าอะไรจริงๆ)
โต๊ะกินข้าววางชิดกับเคาเตอร์ครัวทำให้ใช้งานได้สะดวกขึ้นครับ พอเตรียมอาหาร
เสร็จก็ส่งมาที่โต๊ะได้เลย Upper Deck ก็ใช้วางอาหารก่อนจะส่งมาที่โต๊ะได้ หรือ
จะใช้วางของตกแต่งอื่นๆ หรือกระดาษทิชชู่ก็ได้ครับ...ห้องครัวจะติดกับห้อง LD
และจากห้องนั่งเล่นก็จะมีประตูกั้นก่อนที่เข้าไปที่ส่วนหน้าบันไดครับ เหมือนกับ
เป็นการกั้นส่วนที่เป็นส่วนตัวออกจากส่วนที่เชื่อมต่อกับภายนอกออกจากกัน

ข้อดีของเจ้าประตูนี้นอกจากจะช่วยเพิ่มความเป็นสัดส่วน ความเป็นส่วนตัวแล้ว ถ้า
มีแขกมาก็ให้อยู่ที่ห้อง LD นี้แล้วปิดประตูไว้แขกที่มาก็จะมองไม่เห็นบันได ถ้าคน
ในบ้านจะเดินขึ้นลงกันก็จะไม่เห็นอีกเหมือนกันช่วยให้ไม่รบกวนใครก็ตามที่นั่งคุย
กันอยู่ด้วยครับ....มองลึกเข้าไปหลังประตูเลื่อนนี้ที่ข้างบันไดจะเห็นประตูอีกบาน
ครับ ซึ่งผมคิดว่าคงเป็นห้องน้ำ (C ใน Floor Plan)



มองจากอีกมุม...ถึงตรงนี้แล้วถ้าสังเกตุดูก็จะเห็นได้ว่าไม้ที่ใช้ปิดผนังทั้งหมดจะ
ติดแนวนอนครับ โดยส่วนตัวผมว่ามันดูธรรมชาติมากกว่าการติดแนวตั้งที่เห็นใน
ไทยบ่อยๆ (หรือจริงๆ แล้วผมไม่เคยเห็นแบบแนวนอนเองหว่า?) ผมชอบแบบนี้
นะครับ ธรรมชาติจัดๆ ดี

ครัว...เห็นได้ว่านอกจากจะเป็นเคาเตอร์แบบมี Upper Deck ซึ่งช่วยกั้นระหว่าง
ครัวกับส่วนกินข้าวแล้วยังมีส่วนที่เป็นเหมือนผนังลอยที่ด้านบนด้วย ตรงนี้จะช่วย
ให้ห้องดูเป็นสัดส่วนมากขึ้นครับ ทั้งที่ไม่ได้มีประตูกั้นแต่ก็รู้สึกถึงขอบเขตของ
ส่วนที่เป็นห้องครัวกับห้อง LD ได้ครับ

จุดสังเกตุอีกจุดหนึ่งก็คือที่หลังประตูเลื่อนที่กั้นระหว่างห้อง LD กับส่วนหน้าบันได
จะเห็นว่ามีประตูอีกบานหนึ่งอันนี้ผมคิดว่าน่าจะเป็นห้องอาบน้ำครับ...เดี๋ยวลองดู
ใน Floor Plan อีกทีครับ ในนั้นจะเป็นห้อง B



ห้องนอนของ Miho ครับ...ที่ด้านข้างประตูพอเปิดเข้ามาปุ๊บก็จะเจอช่องวางของ
ที่เจาะไว้ในผนังครับ ใช้วางหนังสือต่างๆ แล้วอีกด้านก็มีผนังที่รับกับตู้เสื้อผ้าพอดี
ส่วนตัวแล้วผมว่ามันช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวนะครับ เพราะมันทำให้คนที่เปิดเข้า
มาไม่เห็นตัวเราหรือภายในห้องเราทันทีต้องเดินเข้ามาก่อนครับ



ภายในห้อง...สังเกตุว่าตรงหัวนอนจะไม่มีหน้าต่างแต่จะค่อนมาทางโต๊ะแทนช่วย
ให้แสงไม่แยงตาที่ที่นอนแต่มีแสงสว่างที่บริเวณโต๊ะ ผมว่าลงตัวมากนะครับเพราะ
เวลานอนคงไม่มีใครอยากได้แสงสว่างๆ แต่ก็ไม่มีใครอยากได้โต๊ะเขียนหนังสือ
หรือทำงานที่แสงไม่พอ เพราะงั้นการใส่กระจกหรือหน้าต่างให้เหมาะสมก็จะทำให้
ได้แสงสว่างที่เหมาะกับการใช้งานครับ การใส่หน้าต่างมากๆ ก็อาจจะไม่เป็นผลดี
เหมือนกันครับ

มาต่อกันที่โต๊ะเตี้ยในห้อง อยู่บริเวณที่มีบานเลื่อนสำหรับออกระเบียงพอดี ทำให้
ได้แสงสว่างจากข้างนอกเข้ามาที่บริเวณนี้...แสงอาจจะดูไม่มากนักเพราะในเรื่อง
ฉากนี้เป็นตอนเย็นๆ ครับ



ฉากตอนกลางคืนครับ เป็นอีก shot ของห้องเดิม ห้องนอนก็เป็นไม้ทั้งหมดอีก...
อิจฉาง่ะ อยากได้ยังงี้...

กลับมาว่ากันต่อ...จะเห็นได้ว่าบริเวณหัวนอนจะมีช่องวางของด้วย แบบนี้ใช้วาง
ได้สารพัดเลยครับ ทั้งหนังสือ นาฬิกาปลุก ของตกแต่งหรืออื่นๆ เพราะเป็นช่อง
วางของแทนที่จะเป็นหน้าต่างทำให้แดดไม่แยงตาตอนเช้าแต่ที่โต๊ะเขียนหนังสือ
จะได้แสงเต็มๆ

สุดท้าย Floor Plan ชั้นล่างของบ้านที่ผมลองแกะออกมาจากมุมต่างๆ ที่เห็นใน
เรื่องครับ เรื่องขนาดก็คงจะไม่ถูกต้องนัก ส่วนหน้าต่างก็ไม่ได้ใส่ให้ดูทั้งหมดครับ



มีบางห้องที่ผมไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นห้องอะไรก็ได้แต่คิดเอาเองล่ะครับ...รวม
ถึงบันไดด้วยที่ผมไม่แน่ใจว่าเป็นแบบนี้หรือเปล่านะครับ

ห้อง A ผมคิดว่าอาจจะเป็นห้องเอนกประสงค์หรือห้องทำงานบ้านหรืออาจจะเป็น
ห้องเก็บของก็ได้ครับ ส่วนห้อง B กับ C ผมก็ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือเปล่ามันอาจจะ
สลับที่กันก็ได้ ก็คิดว่าคงจะเป็นห้องน้ำกับห้องอาบน้ำล่ะครับ เดาเอาว่ามันน่าจะ
เป็นแบบนี้คือ B เป็นห้องอาบน้ำก็จะมีส่วนแห้งกับส่วนเปียกตามแบบห้องน้ำของ
บ้านญี่ปุ่น แล้วห้อง C ก็เป็นห้องน้ำครับ ขอย้ำว่าตรงนี้เป็นส่วนที่ผมคิดเอาเองนะ
ครับ เพราะในหนังก็ไม่ได้มีให้เห็นเหมือนกัน


วันนี้จากหนัง 2 เรื่องก็จบเพียงเท่านี้ครับ
ลองเก็บไอเดียไปใช้ดูนะครับ...




 

Create Date : 07 พฤศจิกายน 2552
7 comments
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2552 17:44:00 น.
Counter : 10001 Pageviews.

 

ชอบสวนตรงระเบียงมากเลยครับ แต่บ้านเราแถว กทม ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ลุ่ม มุมสวยๆ แบบนี้คงหายากนะครับ

 

โดย: Ton (Tonissimo ) 9 พฤศจิกายน 2552 15:15:25 น.  

 

ว่าไปก็ใช่นะครับ...ในกรุงเทพวิวแบบนี้คงหาได้ยาก
สำหรับในกรุงเทพถ้าจะทำก็คงต้องทำระเบียงที่อยู่ติดพื้นแทนหรือไม่ก็เอาแต่การจัดสวนตรงนั้นไปใช้ล่ะครับ

 

โดย: nyo 10 พฤศจิกายน 2552 12:52:21 น.  

 

looks like kaho is in sauna lol... grilled fish... nice.

 

โดย: slenderpig IP: 203.144.144.164 11 มีนาคม 2553 1:32:40 น.  

 

とても良い

 

โดย: アリ IP: 124.120.61.105 8 มิถุนายน 2553 0:43:19 น.  

 

เก่งจังเลยค่ะ แค่ดูในซีรีส์ก็เขียนมาเป็นแบบได้แล้ว

หลงใหลบ้านญี่ปุ่น โดยเฉพาะระเบียงบ้านแบบเก่า.. เป็นส่วนตัวมาก เหมาะที่จะนอนกลิ้งอ่านหนังสือ กินขนม ชมดอกไม้ แบบไม่ expose ต่อสายตาคนนอกบ้าน..

อยากสร้างบ้านแบบนี้แหละค่ะ.

 

โดย: poongie 3 กรกฎาคม 2553 20:18:26 น.  

 

ขอบคุณคับ ได้ไอเดีย ทำประตูห้อง
สุโค่ย...

 

โดย: earngt IP: 115.87.58.197 15 พฤศจิกายน 2553 17:12:41 น.  

 

Touche. Outstanding arguments. Keep up the amazing spirit.
Oakley radar Sale //www.chrystalhorses.net/128.html

 

โดย: Oakley radar Sale IP: 94.23.252.21 4 สิงหาคม 2557 0:07:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


nyo
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]




สงวนลิขสิทธิ์ ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ 2539 ห้ามผู้ใดทำการคัดลอก ส่วนใดส่วนหนึ่งของบล๊อกนี้ไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อค


ติดต่อผมได้ที่
naai.nyo@gmail.com

____________________

บล๊อกนี้ผมเขียนขึ้นมาจากสิ่งที่ผมไปรู้ไปเห็นมาก็เลยเอามาเล่าต่อเพื่อเป็นการแชร์ความรู้กัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นบ้างไม่มากก็น้อยครับ


กรูณาใช้ภาษาให้เหมาะสมในการแสดงความคิดเห็นด้วยนะครับ
Friends' blogs
[Add nyo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.