ตัวของเรา สไตล์ของเรา ทำไมต้องเหมือนใคร
Group Blog
 
 
เมษายน 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
13 เมษายน 2555
 
All Blogs
 
มาแต่งชุดเสื้อผ้าแบบไทยกันเถอะ

สวัสดีปีใหม่ไทยครับ ขอให้ทุกคนมีความสุขนะครับ
ช่วงนี้อากาศร้อนเหลือเกิน
ไม่รู้ว่าคนอื่นๆ ออกไปเล่นสงกรานต์กันหรือเปล่า แต่ผมหวัดกินเลยไป
ไหนไม่ได้

พูดเหมือนกับว่าถ้าสบายดีแล้วจะออกไปเล่นยังงั้นล่ะ จริงๆ ต่อให้ผมไม่
ได้เป็นหวัดก็ไม่ไปเล่นสงกรานต์อยู่แล้ว ฮ่าๆๆๆ ...ก็แค่อยากไปเดิน
เล่นข้างนอกบ้างเท่านั้นล่ะครับ

วันนี้ผมนาย nyo มาแปลกกว่าทุกครั้งหน่อย จากปกติจะพูดถึงเรื่องบ้าน
แต่ครั้งนี้จะพูดถึงเรื่องวัฒนธรรมไทยกับเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายแทน

ครั้งนี้ก็อยากจะชวนเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ให้มาแต่งกายด้วยชุดเสื้อผ้าแบบ
ไทยกันครับ ถ้าจะเอามาใส่กันในชีวิตประจำวันได้เลยก็จะดีครับ แต่ถ้า
ยังไม่ไหวก็เอาแค่ช่วงเทศกาลไทยต่างๆ เช่น สงกรานต์ ปีใหม่ อะไร
แบบนี้ก่อนก็ได้

ที่ผมใช้คำว่า "ชุดแบบไทย" ไม่ใช่ "ชุดไทย" ก็เพราะคำว่า "ชุดไทย"
มักจะหมายถึงชุดไทยที่เป็นชุดประจำชาติที่ใช้ในงานพีธีหรือโอกาส
พิเศษต่างๆ ซะมากกว่า แต่ชุดแบบไทยหรือเสื้อผ้าแบบไทยที่ผมพูดถึง
นี้หมายถึงชุดเสื้อผ้าแบบไทยๆ ที่ใส่ได้ในชีวิตประจำวันครับ

เรื่องมันเริ่มที่ผมมองญี่ปุ่นแล้วก็เห็นว่าคนญี่ปุ่นมีการใส่ชุดกิโมโนกันเป็น
เรื่องธรรมดาไม่ได้แปลกประหลาดแต่อย่างใด วัยรุ่นก็ใส่ยูคาตะกันในช่วง
หน้าร้อนเดินในเมืองได้ ไม่เป็นตัวประหลาดด้วย ชุดที่เรียกว่า "จินเบ" ก็
ยังมีคนใส่อยู่ กลับมามองที่ไทยเราบ้าง ผมรู้สึกว่าปัจจุบันนี้คนไทยหัน
ไปรับเอาวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามามากและก็ทิ้งรูปแบบต่างๆ ของไทยไป
ก็เลยรู้สึกว่าไทยเราน่าจะมีการใส่ชุดแบบไทยบ้างครับ




ปัจจุบันนี้เราต้องยอมรับว่าเรามีการรับเอาวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามามาก
แล้วคนไทยเราก็เป็นประเภทรับของฝรั่งมาแล้วก็รีบโยนของไทยเองทิ้งไป
ทันที เพราะมองว่าฝรั่งทำอะไรก็ดีไปหมด ทั้งที่บางครั้งสิ่งที่เรารับเข้ามาก็
ไม่ได้เหมาะกับเมืองเราเท่าไหร่นัก เช่นการแต่งกาย เนื่องจากไทยเราเป็น
เมืองร้อนแต่เราไปรับเอาวัฒนธรรมของเมืองหนาวมาใช้กัน



สังเกตุไหมครับทุกวันนี้เราเห็นคนใส่เสื้อนอกเสื้อแจ๊คเก็ต(ไม่ใช่ชุดทำงาน)
กันเต็มไปหมด(โดยเฉพาะดารา) ทั้งๆ ที่ประเทศไทยเราก็ไม่ได้หนาวจน
ต้องใส่เสื้อนอกเพื่อกันหนาว จริงๆ ต้องบอกว่าร้อนด้วยซ้ำ (นอกจากคนที่
ใส่ด้วยเหตุผลความจำเป็นอื่นๆ ที่เหมาะสมหรือหน้าหนาวก็ไม่ว่ากันครับ)
เรียกได้ว่าเราถูกวัฒนธรรมตะวันตกกลืนหายไปจนอาจจะถึงกับจะตกเป็น
เมืองขึ้นทางวัฒนธรรมไปแล้ว


การรับวัฒนธรรมหรือแนวคิดใหม่ๆ เข้ามาไม่ใช่ไม่ดี ดีครับเพราะจะได้เกิด
การพัฒนา แต่ก็ควรจะปรับให้เหมาะสมกับบ้านเราด้วยไม่ใช่ทำตามกันไป
ซะเฉยๆ


กลับมาพูดถึงการแต่งกายแบบไทยๆ กันต่อดีกว่า....
หลายคนคงจะคิดว่าชุดไทยใส่ยาก เชย แก่ ใช้ในชีวิตประจำวันไม่ได้ แต่
ผมอยากบอกว่าจริงๆ แล้วมันไม่ได้เป็นแบบนั้นหรอกครับ ที่เรามักจะคิด
แบบนั้นก็เพราะว่าเมื่อพูดถึงการแต่งแบบไทยแล้วเราก็จะนึกถึงชุดไทย
อย่างชุดไทยพระราชนิยม ชุดพระราชทาน ราชปะแตน เสื้อผ้าลูกไม้กับ
ซิ่นลายขวาง หรือชุดห่มสไบต่างๆ ซึ่งก็ดูจะเป็นทางการเกินไปเหมาะกับ
การใส่ในโอกาสที่เป็นทางการหรือโอกาสพิเศษต่างๆ มากกว่าที่จะเอามา
ใส่เดินห้าง เดินในเมืองหรือใช้ในชีวิตประจำวัน ที่เรานึกออกแต่ชุดแบบนี้
เป็นเพราะเราเคยเห็นคนใส่กันอยู่แค่นั้น แต่จริงๆ แล้วกายแต่งกายแบบ
ไทยสามารถทำได้ง่ายกว่านั้นครับ




จริงง่ะ? คำถามนี้คงเกิดขึ้นในใจหลายคนและคำตอบก็คือ
จริงครับ
การจะแต่งตัวให้เป็นสไตล์ไทยๆ ก็ทำได้ไม่ยากหรอกครับ มันไม่ใช่ว่า
จะต้องเป็นชุดอย่างที่พูดถึงไปหรอก เราลองมองดูก่อนว่าเสื้อผ้าแบบ
ไทยมีลักษณะเป็นแบบไหนแล้วเราก็หยิบเอาเสื้อผ้ากระโปรงกางเกงใน
ลักษณะเดียวกันมาใส่ก็ดูเป็นไทยๆ ได้ แถมยังใช้ใส่ไปไหนมาไหน
ในชีวิตประจำวันหรือแบบสบายๆ ในวันหยุดได้ด้วย เช่น

- ของผู้หญิงก็หยิบเอาเสื้อยืดคอกลม แขนยาวคลุมศอกเปิดข้อมือ ทรง
เข้ารูปนิดๆ แต่อย่าให้ฟิต ชนกับกระโปรงแรปอะราวนด์ (wrap around)
แบบเรียบๆ ชายตรง สั้นหรือยาวก็ตามชอบแต่จะให้ดีก็อย่าสั้นมากครับ

- ของผู้ชายก็ใช้กางเกงขายาวคลุมเข่าหรือประมาณครึ่งแข้ง(แต่อย่าใช้
กางเกงคาร์โก้จะดีกว่า) จับชนกับเสื้อคอกลมแขนสั้น จะใช้เสื้อยืดหรือ
เสื้อผ้าฝ้ายไทยย้อมสีธรรมชาติที่หาซื้อได้ทั่วไปก็ได้

เห็นมั้ยครับแค่นี้ก็ได้กลิ่นแบบไทยๆ แล้ว และเสื้อผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติ
เป็นเสื้อที่ใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายครับหรือจะใช้เป็นหม้อห้อมก็ได้ และ
ชุดของผู้ชายผู้หญิงก็ใส่ได้ ที่ว่ามานี่เป็นแนวทางตัวอย่างให้สำหรับคนที่
ยังไม่กล้าใส่แบบไทยเต็มๆ เพราะอาจจะรู้สึกว่าไม่คุ้นไม่ชินกับการแต่ง
แบบนี้ แต่ถ้าใครไม่มีปัญหากับการแต่งแบบนี้ก็เลือกใช้เสื้อกางเกงที่เป็น
ฝ้ายไทยหรือผ้าหม้อห้อมไปเลย มีให้เลือกใช้ทั้งแบบกางเกงปกติและ
แบบขากว้างผูกเอวที่เรียกว่าเตี่ยวกีหรือเตี่ยวสะดอและเสื้อก็มีรูปแบบ
ต่างๆ ให้เลือก

ทีนี้เวลาไปเลือกซื้อเสื้อให้เลือกเสื้อที่ไม่มีปกเพราะปกเสื้อแหลมแบบที่
ใส่กันอยู่ทุกวันนี้เป็นรูปแบบที่เรารับเข้ามาจากทางตะวันตกครับ



อย่างไรก็ตามเสื้อที่มีขายอาจจะมีรูปแบบให้เลือกมากนักหรือที่มีก็อาจ
จะไม่ถูกใจซะทีเดียวซึ่งก็คงต้องสั่งตัด แล้วถ้าเราต้องการจะสั่งตัดจะ
เลือกใช้แบบไหนได้บ้าง คราวหน้าผมจะเอารูปแบบของเสื้อผ้าแบบไทย
และแนวทางการแต่งตัวให้ออกแนวไทยๆ มาให้ดูกัน

ชุดแบบไทยจริงๆ แล้วถึงผู้หญิงจะใส่เข้ารูปบ้างแต่ก็จะไม่ได้ใส่ฟิต อย่าง
ในตัวอย่าง 4 รูปนี้ 2 รูปบนนี่ฟิตเกินไปครับ  เอาแค่พอดีๆ อย่าง 2 รูป
ล่างก็พอแล้วหรืออาจจะใส่หลวมกว่านี้ตามแต่ว่าใช้เสื้อแบบไหน





รองเท้า...เมื่อแต่งแบบไทยๆ แล้วจะใส่รองเท้าอะไรดี




รองเท้าก็ใช้รองเท้าอะไรแบบไหนก็ได้ตั้งแต่รองเท้าแตะยันรองเท้าหนัง
จะลองผสมชุดแบบไทยเข้ากับรองเท้าบู๊ทหนังหุ้มข้อหรือบู๊ทครึ่งแข้ง
ครึ่งน่องดูบ้างก็น่าสนใจดีครับ แต่อย่างที่ได้พูดไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่ามัน
เป็นชุดที่ใส่ไปไหนมาไหนในวันหยุดแบบสบายๆ ได้ เพราะงั้นผมว่าใช้
รองเท้าแตะจะเข้าที่สุดเพราะการแต่งแบบไทยเป็นเสื้อผ้าในแบบเมือง
ร้อนรองเท้าก็น่าจะเป็นรองเท้าที่เปิด สบาย ไม่ร้อน ส่วนจะเป็นแตะคีบ
แตะสวม แตะรัดส้นหรือแตะผู้หญิงต่างๆ ก็แล้วแต่คนใส่ล่ะครับ อีกอย่าง
ที่ดูจะเอามาใช้ได้สำหรับผู้หญิงก็คือรองเท้าหัวมนพื้นเรียบเหมือนรองเท้า
บัลเล่ต์ที่เรียกว่า Pumps แต่ถ้าหากต้องการความสุภาพเรียบร้อยเมื่อเอา
ไปใส่ในกรณีอื่นๆ ก็สามารถปรับรองเท้าให้เหมาะสมได้ เช่น ใช้รองเท้า
หนังครับ

ถึงตรงนี้บางคนก็คงจะเริ่มพอมีไอเดียกันบ้างแล้วใช่มั้ยครับ ถ้าใครมี
ไอเดียแล้วก็จะมัวรอช้าอยู่ใยแต่งเลยดีกว่า


ถ้าใครกลัวว่าใส่ไปแล้วจะเหมือนพนักงานสปาหรือเหมือนชุดนักศึกษา
ในกรณีที่เป็นชุดผู้หญิงใส่ซิ่นหรือกระโปรงแรปอะราวนด์ ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่
กับสีและดีไซน์ที่เลือกมาใช้ด้วย เลือกดีๆ ไม่เป็นอย่างนั้นแน่นอน

การจะอนุรักษ์วัฒนธรรมการแต่งตัวเอาไว้วิธีก็คือต้องมีคนแต่งครับ ถ้า
ไม่มีใครแต่งมันก็จะค่อยๆ เลือนหายไป การที่จะทำให้มีคนแต่งกันมัน
ก็ต้องใช้ได้ง่าย ใส่ได้ทั่วไป เมื่อมันใส่ได้ทั่วไปมันก็จะผ่านตาคนมาก
ขึ้น แล้วคนก็จะรู้จักจนนำไปสู่การใส่ในวงกว้างขึ้น แต่อย่างไรก็ตามแม้
มันจะใช้ได้ง่าย ใส่ได้ทั่วไปก็ตามแต่ถ้าไม่มีคนใส่ก็ไม่มีประโยขน์

สุดท้ายก็อยากจะให้คนไทยหันมาใส่กันเยอะๆ ช่วยๆ กันรักษาเอาไว้
อย่าให้สิ่งที่เป็นของเราถูกความเป็นตะวันตกกลืนหายไปหมดครับ

ติดตามรูปแบบของเสื้อผ้าแบบไทยและแนวทางการแต่งตัวให้ออกแนว
ไทยๆ ได้ในครั้งหน้า


ภาพประกอบเนื้อหาจากอินเตอร์เน็ต



Create Date : 13 เมษายน 2555
Last Update : 13 เมษายน 2555 14:47:05 น. 2 comments
Counter : 15903 Pageviews.

 
ชอบแนวคิดนี้จังคะ

เลยอยากขอแลกเปลี่ยนเรื่องนี้ละกัน
ส่วนตัว ที่ทำงานก็มีการรณรงค์ให้ใส่กัน ซึ่งเราก็เลยได้มีโอกาสใส่

ซึ่งตอนแรกใช้ความพยายามมาก เพราะต้องดีความว่าผ้าไทย หรือชุดผ้าไทยคืออะไร แน่นอนว่า ความหมายอาจต่างนิดหน่อยจากหัวข้อของ จขบ ที่ พูดถึงเรื่องของ การแต่งชุดเสื้อผ้าแบบไทย แต่ขอบอกเล่าในมุมเราว่า

เมื่อเริ่มคิดว่าต้องใส่ชุดไทย หรือชุดผ้าไทยคือ
1. คำถามว่าชุดไทยหรือชุดผ้าไทยคือแบบไหน
คำตอบ มีภาพชุดชาวเหนือ กระเหรี่ยง แม้ว เสื้อม้อห่อม ผ้าถุง เสื้อผ้าฝ้าย เสื้อผ้าไหม ผุดขึ้นมาในสมอง

2. แต่เราจะใส่ยังไงเพราะต้องเดินทางไปทำงาน ต้อง วิ่งขึ้นรถเม์ รถไฟฟ้า ต้องขึ้นมอไวค์รับจ้าง เออ แล้วอีกมากมายในชีวิตประจำวัน
คำตอบ เออแต่งยังไงดีอะ เพราะถ้าใส่ผ้าถุงขึ้นมอไซค์ยากแล้ว เดินลำบากอะ รองเท้าเรามีมั๊ย หรือถ้าใส่ม้อห่อม จะใส่ยังไงให้ดูสุภาพเพราะเราใส่ไปทำงาน แล้วถ้าเป็นชุดกระเหรี่ง แม้ว มากมาย จะไปหาซื้อได้ที่ไหนที่ราคาไม่แพง หรือชุดผ้าไหม ก็หาที่แบบเป็นปัจจุบันได้ยาก แถมราคาสูงอะ

3. ตกผลึกได้ว่า ถ้าพูปถึงชุดไทยหรือชุดผ้าไทย นั้น ไม่มีนิยมชัดเจน ไม่มีรูปแบบชัดเจน เราเป็นคนกรุงเทพ นึกไม่ออกเลยคะเพราะชุดไทยภาคกลางเป็นยังไง เพราะเสื้อม้อห่อม หรือผ้าฝ้ายส่วนใหญ่ตัดเย็บเป็นแบบชาวเหนือหมด

คำตอบ พบว่า ภาครัฐน่าจะมีความการสร้างวัฒนธรรมหรือสร้างเอกลักษณ์ที่ชัดเจนว่าผ้าไทยหรือชุดไทยคือแบบไหน เพราะเราเองก็นึกถึงญี่ปุ่น ที่พอพูดถึงชุดประจำชาติก็นึกถึงกิมโมโนทันที แต่ก็รู้ว่ากิมโมโนของเค้ามีหลายแบบเช่น กัน คือแบบทีี่่ใส่หน้าร้อน เรียกว่า ยูกาตะ เป็นต้น หรือของเกาหลีเค้าก็มีชุดฮันบก ซึ่งก็ยังมีการใส่ในงานหรู ๆ แถมได้ข่าวว่าแพงอีกต่างหาก อาจเพราะประเทศเหล่านี้เคยเป็นชาตินิยม และใส่ความคิดเรื่องชาตินิยมในหัวของประชาชน

แต่ของไทยอะไม่มีเลยในเรื่องชุดไทยอะ พอมานั่งนึกดู แต่ถ้าหาข้อมูลละก็จะรู้ว่าชุดไทยมีหลายแบบเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย แต่ชุดเหล่านั้นมักใส่ในงานเฉพาะกิจเท่านั้น

นั่นแหล่ะคะ ทำให้พอพูดผ้าไทยหรือชุดไทยแล้ว ดู งง ตลอด

ในส่วนของเรา สุดท้าย ก็ต้องเรียกว่า โชคดี ที่ไปเจอร้านประเภทมือสอง ซึ่งบางครั้งจะมีชุดผ้าฝ้ายที่สั่งตัด แต่เจ้าของเค้าเลิกใส่แล้วจึงบริจาคมาให้ขายทำบุญ แล้วมาประยุกต์กับแบบปัจจุบัน ไม่ชิ้นบนก็ล่าง แต่ผ้าไหมไม่มีคะ เพราะซื้อไม่ไหว จน ถ้าจะซื้อเป็นผ้าพับมาก็ไม่มีตังค์ตัดอีก บางอาทิตย์ก็ม้อห่อมคะ บางอาทิตย์นุ่งผ้าถุงคะ แต่เป็นการนำมาแต่งที่ทำงาน ไม่ได้นุ่งตั้งแต่ออกบ้านเพราะไม่สะดวก ไม่มีรถขับ

ขอบคุณคะ


โดย: big_leely วันที่: 13 เมษายน 2555 เวลา:15:01:26 น.  

 
ขอบคุณที่ชอบและยินดีที่ได้แลกเปลี่ยนกันครับ

ตอนนี้ผมกำลังเขียนตอนต่อไปอยู่ กะว่าจะให้เสร็จภายในช่วงหยุดนี้


โดย: nyo วันที่: 14 เมษายน 2555 เวลา:8:18:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nyo
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]




สงวนลิขสิทธิ์ ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ 2539 ห้ามผู้ใดทำการคัดลอก ส่วนใดส่วนหนึ่งของบล๊อกนี้ไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อค


ติดต่อผมได้ที่
naai.nyo@gmail.com

____________________

บล๊อกนี้ผมเขียนขึ้นมาจากสิ่งที่ผมไปรู้ไปเห็นมาก็เลยเอามาเล่าต่อเพื่อเป็นการแชร์ความรู้กัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นบ้างไม่มากก็น้อยครับ


กรูณาใช้ภาษาให้เหมาะสมในการแสดงความคิดเห็นด้วยนะครับ
Friends' blogs
[Add nyo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.