สวัสดีไดอารี่ 5 ...สะเดาป่าฝนป่าฝัน...
สายฝนสาดซัดสาย พลิ้วพรายพรมผืนป่า ป่าเขียวสุดสายตา จรดแผ่นฟ้า แสนงาม รุ้งโค้ง อวดสีสวย งดงามหลังฝนผ่าน ดอกไม้ริมสายธาร ผลิดอกบานรับฝนพรำ
บ้านเรา ดังวิมาน โลกฝันอันงดงาม สุขใจเกินนิยาม สวยงามกว่าแห่งใด สะเดา คือวิมาน แผ่นดินในหัวใจ ผ่านวันนานเท่าไร อยู่แห่งไหนไม่ลืมเลือน ราตรี ที่ฟ้าสูง แสงดาวพราวเป็นเพื่อน คือภาพฝัน ที่คอยเตือน ไม่ให้ลืมเลือนสะเดา (สายฝนสาดซัดสาย พลิ้วพรายพรมผืนป่า ป่าเขียวสุดสายตา จรดแผ่นฟ้า) แสนงาม...ฮาม ฮา ฮ่า ฮางฮ้า ฮา ฮา ฮา/งดงาม/หลังฝนผ่าน ฮา/ฮาฮ่าฮา ผลิดอกบานรับฝนพรำ (บ้านเราดังวิมาน โลกฝันอันงดงาม สุจใจเกินนิยาม สวยงามกว่าแห่งใด) สะเดา คือวิมานแผ่นดินในหัวใจ ผ่านวันนานเท่าไร อยู่แห่งไหนไม่ลืมเลือน (ราตรีที่ฟ้าสูง แสงดาวพราวเป็นเพื่อน) คือภาพฝันที่คอยเตือน ไม่ให้ลืมเลือนสะเดา
******* ไดอารี่จ๋า ยังจำบทเพลงนี้ได้ไหม คุ้นๆใช่ไหมล่ะ เวลาผ่านไปรวดเร็วเนอะ ตอนนั้นที่เราฝึกร้องเพลงนี้ ยังเรียนแค่มัธยมห้าเอง แต่พอนับพ.ศ.ดู มันผ่านมาตั้งสิบปีแล้ว ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะรวดเร็วเพียงนี้
วันนี้เราไปเปิดดูกล่องที่ใส่จดหมายเก่าๆสมัยที่เรายังเขียนจดหมายติดต่อกับเพื่อนๆ เลยเจอเนื้อเพลงนี้ อ่านแล้วมันนึกถึงความหลังตอนนั้นดีแฮะ ว่าแต่นายยังจำมันได้บ้างหรือเปล่านะ แต่สำหรับคนที่ร้องเพลงไม่เป็นอย่างเรา (ซึ่งปัจจุบันก็ยังร้องไม่เป็น) กลับได้ขึ้นไปยืนร้องเพลงบนเวทีงานของโรงเรียนมีคนดูเป็นหมื่นๆ มันเป็นความทรงจำที่ดีเชียวล่ะ
วันแรกที่อาจารย์มาประกาศประชาสัมพันธ์หน้าเสาธงรับสมัครนักร้องประสานเสียงของโรงเรียน เราเองยังจำได้ดีว่าไม่ได้สนใจเลย ก็อย่างที่บอกเราร้องเพลงไม่เป็น เพี้ยนจนฟังไม่ได้น่ะแหละ แต่เพื่อนๆในห้องมันไปสมัครกัน แล้วพวกบัว ก้อย ดะ ก็สมัคร เราเมื่อเป็นเพื่อนซี้ ( ความจริงคือร้องเพลงไม่ได้เรื่องทั้งกลุ่ม อิอิ) ก็เลยเอาวะ ไปสมัครก็ไป ไหนๆร้องประสานเสียงเราก็ร้องในคีย์ของเรามันคงไม่เพี้ยนไปกว่านี้แล้ว แต่นายจำได้ใช่ไหมเหตุผลใหญ่ที่เราไปสมัครกับเพื่อนๆเพราะอะไร
ใช่แล้วล่ะ เพราะตาอาจารย์จอห์นคนที่เราแอบชอบมาตั้งแต่ม.ต้น นั่นแหละ ความจริงเค้าก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วยเลยสักนิด แล้วเราเองก็สนิทกับอาจารย์มากพออยู่แล้วเพราะเข้าออกห้องภาษาไทยเป็นว่าเล่น แถมยังโทรคุยด้วยกันบ่อยๆ แต่สงสัยตอนนั้นต่อมความบ้ามันกำลังทำงาน ก็เลยแอบไปสมัครเข้าเป็นนักร้องประสานเสียงของโรงเรียนเพราะ อยากทำให้อาจารย์เค้าแปลกใจ ว่ายัยนี่ มันร้องเพลงได้ด้วยหรอ เวลาคุยกันเราก็ไม่หลุดปากบอกไปเลยนะ ตอนนั้นที่เริ่มฝึกร้องกันนี่ประมาณเดือนพฤศจิกายน พอเดือนธันวาคม วันที่14 ซึ่งเป็นวันงานขรรค์ชัยรำลึก อาจารย์ก็ให้โชว์ครั้งแรกบนเวทีเล็กใต้อาคารเรียนสอง เหอๆ มันก็สำเร็จนะ อาจารย์ตะลึงจริงๆ ปนประหลาดใจอีกด้วย ไอ้ไหม มันทำได้ไง (ไอ้ไหม...ชื่อที่เค้าเรียกเราบ่อยๆ) ตอนแรกกะว่าให้พี่ท่านตะลึงเอาวันที่ขึ้นเวทีใหญ่เลย แต่เมื่อต้องมาเปิดตัวก่อนความลับเลยแตก อาจารย์ผู้สอนไม่น่าใจร้อนเลย
หลังจากที่ต้องซุ่มซ้อมกันทุกเย็นหลังเลิกเรียน ยิ่งใกล้วันงานโรงเรียนเราก็ตื่นเต้น ครั้งแรกในชีวิตที่ได้มีโอกาสไปยืนบนเวทีใหญ่ของงานโรงเรียนคนดูเป็นหมื่นๆ แล้วยิ่งอาจารย์ที่ฝึกสอนบอกว่า งานนี้จะได้ร้องกับ โบ สุนิตา ด้วย โอยยยยยย ตื่นเต้นทวีคูณเลยล่ะ ไดอารี่เอ๋ย
และแล้ว วันที่งานโรงเรียนมีขึ้นก็มาถึง ในเดือนมกราคม ช่วงนั้นอากาศช่วงค่ำนีจะมีลมหนาวด้วย บรรยากาศดีมากๆเลย แล้วตอนนั้นก็ตรงกับการถือศีลอดด้วยพอดี เรานะรีบทานข้าวแล้วไปยังโรงเรียนที่อาจารย์นัดให้ไปแต่งตัวกัน ชุดก็ไม่ได้เด่นอะไรหรอก เสื้อเชิ้ตขาว กางเกงขาว เสื้อสูทสีม่วง สรุปก็คือ เสื้อสูทของพวกดุริยางค์ โรงเรียนนั่นแหละ
งานโรงเรียนของเรานี่ จัดใหญ่มาก ทุกคนจะรู้จักกันดีในชื่องานขรรค์ชัย จากวันที่ 14ธันวาเป็นการรำลึกถึงท่านขรรค์ชัย หรือที่พวกเราเรียกท่านว่าพ่อขรรค์ ท่านเป็นนายอำเภอสะเดา เป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนมัธยมศึกษาในอำเภอสะเดา ต่อมาเมื่อท่านถูกกลุ่มโจรจีนคอมมิวนิตส์ยิงตาย ในวันที่ 14ธันวาคม โรงเรียนเลยเปลี่ยนมาใช้ชื่อเป็น สะเดาขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์เพื่อเป็นการระลึกคุณความดีให้แก่ท่าน กลางเดือนมกราคม ก็จะเป็นการจัดงานภาคบันเทิง เพื่อหารายได้เข้าโรงเรียน มีการประชาสัมพันธ์ทั่วสงขลา และจังหวัดใกล้เคียง นายลองนึกภาพดูนะ ตอนที่พวกเราลงจากรถเพื่อเดินเข้าไปในโรงเรียนมันจะขนาดไหน สายตาของผู้คนนี่ต่างมามายังกลุ่มของพวกเรา ซึ่งความจริงอาจกำลังมองหา ดารา นักร้องที่จะมาในค่ำคืนนั้นก็เป็นได้
พวกเรานี่ได้ขึ้นโชว์ต่อจากตลกคณะ ของเต๋า เชิญยิ้ม ตอนนั้นร้องเพลง มาร์ชโรงเรียน เพลงสะเดาป่าฝนป่าฝันนี่ (ซึ่งอาจารย์ที่ฝึกสอนเป็นผู้แต่งเนื้อเรื่องทำนองเองหมดเลย) เพลงไม้วิเศษของมอส ฝันไปหรือเปล่าของ คูณ 3 ซุปเปร์แกงค์ แล้วก็เพลงปิดท้าย เพลงของโบ สุนิตา ตอนแรกนะ อาจารย์บอกว่าพอพวกเราร้องไปครึ่งเพลง โบ ก็จะออกมาร้องสมทบกับพวกเราจนจบเพลง
แต่..........
ร้องไปจนจะจบเพลงแล้วก็ไม่เห็นวี่แววว่าจะมีโบโผล่มาเซอ์ไพร์คนดู ไอ้ที่ซ้อมมาว่าพอโบร้องขึ้นมาพวกเราก็ค่อยๆแยกออกให้โบเดินมาตรงกลางเวทีไม่ได้ใช้ ตอนนั้นก็คิดว่า สงสัยโบคงมาไม่ทัน แต่ที่ไหนได้
อาจารย์บอกว่าพวกเรามือใหม่ ทางบริษัทเค้าไม่เชื่อในฝีมือ เลยไม่ยอมให้โบมาร้องกะพวกเรา เค้าไม่เชื่อฝีมือ แต่เมื่อร้องจบก็มาบอกว่าเสียดายที่ไม่ได้ให้โบขึ้นไปร้องด้วย ประสบการณ์เรื่องนี้สอนว่า อย่าตัดสินอะไรโดยไม่ได้ให้โอกาสเขาพิสูจน์เสียก่อน
หลังจากงานแรกที่ได้รับความสนใจจากคนดู ได้รับคำชมมากมายว่าร้องกันดี(พลอยได้ดีปด้วยเลยเรา เอิ้กๆ) หลังจากนั้นเราก็มีงานโชว์ต่ออีกสองงาน หนึ่งในสองนั้นได้ไปร้องที่โรงแรมเจบี ที่หาดใหญ่ หุหุ โก้ดีเชียวล่ะ แต่ คนที่เราอยากให้ชม ไม่ยักจะเอ่ยปากอะไรเลย ฮึ!!!
เค้าว่ากันว่าคนที่ชอบเล่าความหลังคือคนแก่ เอ...เรายังไม่แก่นี่นา งั้นหยุดระลึกความหลังดีกว่า อิอิ
วันนี้ไปหาดใหญ่อีกแล้วล่ะไดอารี่ ไปทีไรหมดตัวทุกที แต่ ถ้าได้ไปอีก ก็จะไปเหอๆ ก็ไปส่งพี่สาวกับหลานที่สงขลาอ่ะนะ ขาไปก็เลยแวะที่บิ้กซี ระหว่างนั่งรถขึ้นสะพานเปรมฯ บรรยากาศดีจัง ถ้ามีเวลานี่อยากจะให้พี่มันจอดรถไปเดินเล่นแถวสวนเชิงสะพานจัง ไปถึงบ้านพี่สาวนี่ก็ห้าโมงเย็น ทานข้าวเสร็จก็กลับบ้าน ถึงบ้านสองทุ่มกว่า อิจฉาไหมไดอารี่ที่เราได้ไปเที่ยวฟรีอีกแล้ว แต่เงินก็หมดตัวอยู่ดี 555
ปล.1 เพลงสะเดาป่าฝนป่าฝันมีเดนตรีด้วยล่ะ อยากเอาลงให้ได้ฟังกัน แต่มันอยู่ในเทปคลาสเซ็ท ข้าพเจ้าไม่สามรถเอามันออกมาได้
ปล.2 พรุ่งนี้จะตะลุยทำแบบฝึกหัด Mini MBA สู้โว๊ย!!!
Create Date : 23 กันยายน 2550 |
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2551 20:25:32 น. |
|
10 comments
|
Counter : 1171 Pageviews. |
|
|
|