แท่ค ส่งมาทำไม คำถามอะไรก็ไม่รู้ นั้นคือความรู้สึกของฉันครั้งแรกที่ได้รับแท่คจาก fw mail ฉันไม่ชอบปฏิสัมพันธ์อะไรกับใครแบบนี้ กับคำถามที่ฉันมองว่า อะไรก็ไม่รู้ แน่นอนฉันไม่เคยตอบกลับและไม่เคยส่งต่อไปให้ใคร แล้วมันก็ไม่เคยอยู่ในกล่องจดหมายของฉันเช่นกัน มันคงเป็นเช่นนี้อยู่เสมอเหมือนกับว่าคนส่งท้าทายฉันให้หมดความอดทน ต้องการที่จะให้ฉันตอบมันให้ได้ จนวันหนึ่งหลังจากที่ฉันสร้างบล็อกได้สำเร็จและเริ่มมีคนรู้จัก(ความจริงก็สะเออะไปทักทายเขาก่อนน่ะแหละ) มีเพื่อนบล็อกคนหนึ่งส่งแท่คมาให้ฉัน แล้วมันก็เกิดคำถามขึ้นในใจฉันอีกจนได้ แม้แต่ในบล็อกยังมีอีกหรือนี่ แต่เพื่อนคนนี้ออกจะน่ารักในสายตาของฉัน ทำให้ฉันลองดูสักตั้งหนึ่ง ลองเอาคำถามที่เขาส่งมาให้มาทำดู ซึ่งแม้จะตอบไปแล้วความเป็นฉันก็ยังปรากฏอยู่ในแท่ควันนั้น โดยฉันบอกว่าจะไม่ตอบให้ใครอีก เพราะไม่ชอบการมานั่งตอบอะไรแบบนี้กับบางคำถามที่มันอะไรก็ไม่รู้ในความรู้สึกของฉัน แต่ความคิดฉันเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อได้เข้าไปอ่านบล็อกของพี่คนหนึ่ง(ขอสงวนนามทั้งๆที่เจ้าของยินยอมที่จะให้เผยชื่อ อิอิ) พี่คนนี้เขาไม่เคยจะเบื่อการตอบแท่ค ใครส่งมาให้พี่เขาตอบทุกครั้ง แท่คเดิมๆที่เคยทำมาแล้วพี่เขาก็ยังตอบ และทุกคำตอบของเขามักแฝงอะไรๆอยู่เสมอ แม้บางครั้งจะนั่งขำนั่งฮากับคำตอบของพี่เขาก็ตาม นั่นทำให้ฉันเริ่มหันกลับมามองตัวเองใหม่อีกครั้งหนึ่ง และเริ่มเปิดกว้างกับคนที่ส่งแท่คมาให้ทำ (ก็มีแต่คนเดิมอ่ะแหละที่ส่งมาให้) น่าแปลกเพียงฉันเปลี่ยนมุมมองในการนั่งตอบคำถามเหล่านั้นเสียใหม่ มันกลับทำให้ฉันไม่รู้สึกเบื่อ(แต่ไม่ได้หมายความว่าจะให้ส่งมาหาบ่อยๆ) ฉันได้มองความรู้สึกตัวเองมากขึ้นจากการตอบแท่ค ฉันได้รู้จักตัวตนของตัวเองมากขึ้น ฉันได้สำรวจความคิดของตัวเองมากขึ้น และฉันได้คุยกับตัวเองมากขึ้น บ่อยครั้งที่ฉันใช้ใจให้เดินนำหน้าสมอง ใช้ชีวิตไปโดยปล่อยตามใจอยากจะทำ บ่อยครั้งที่ฉันจะ ดื้อดึง ในความคิดเห็นของคนอื่นโดยการรับฟังแต่ไม่กระทำตามแถมแอบเถียงอีกตะหาก บ่อยครั้งที่ฉันชอบทำอะไรตามใจตัวเอง แต่เมื่อได้คุยกับตัวเองผ่านแท่คก็จะทำให้ฉันมองเห็นอีกด้านหนึ่งของตัวตนของฉัน ทำให้ฉันได้คิดว่า บางครั้งการนั่งคุยกับตัวเองเสียบ้างมันก็ดีเหมือนกัน อ๋อ !!! แต่อย่าไปคุยเสียงดังให้ใครเห็นเข้าล่ะ เดี๋ยวเค้าจะว่าคุณบ้าเอาได้ 19/02/51
ปล. วันนี้ไปหาหมอมาอีกรอบในตอนเย็นหลังจากที่หายไข้แต่อาการปวดหัวยังไม่ยอมหายไปซะที
หมอให้วัดความดัน ตะลึงกับความดันของตัวเอง มันมาจากไหนนี่ตั้ง 140 หมอเองก็ทำหน้าแบบงงๆ แล้วบอก หายไข้แล้วลองมาวัดใหม่อีกทีนะครับ หมอบอกอาการปวดหัวคงจะเป็นไมเกรน เราก็นึกไมเกรนมันต้องเกี่ยวกับความเครียด เอ่อ แล้วตอนนี้ฉันกำลังเครียดเรื่องอะไรเนี่ย งงตัวเอง หาเรื่องที่ตัวเองเครียดไม่เจอ ทำไงดีละเนี่ย
ไปนั่งรอหมอมาจ่ายยาให้ สายตามองไปเรื่อยก็ไปเจอกับรูปรับปริญญาคุณหมอเข้า จบจากมอ. ปี 44 รุ่นพี่เราปีเดียวเองนี่ (แต่หน้าหมอน่าจะมากกว่าปีเดียว) แต่คนละสถาบัน สำหรับเรามอ. มันใกล้ไปไปรามดีกว่า และแล้วก็ได้ยามา ทั้งไมเกรน ยาคลายเส้น หมอบกว่าเพราะกล้ามเนื้อรอบๆศีรษะมันบีบตัวเข้าทำให้ปวดหัว หมอว่าไงก็ว่างั้นล่ะ แต่ที่สงสัยน่ะ ตัวเองกำลังเครียดจริงๆหรือ แล้วมันเครียดเรื่องอะไร อืม งง
|
ฝันดีนะคะ