#...นั่งรถไฟไปเมืองเก่า เหมาสองแถวเที่ยวชมอยุธยา...#
หลังจากที่วันเสาร์ที่ 9 ไปตะลอนๆอยู่แถวตลาดน้ำ ทั้งดำเนินสะดวกและอัมพวา รุ่งเช้าวันอาทิตย์ตอนแรกวางโปรแกรมกันว่าจะไปเที่ยวเกาะเกร็ด แต่หมดแรงตื่นกันไม่ไหว ก็เลยงดโปรแกรมไปแม้จะเสียดายนิดๆแต่ยังไงก็สุขภาพต้องมาก่อน(หรือว่าเริ่มแก่ก็ไม่รู้) แต่ยังไงโปรแกรมนั่งรถไฟไปอยุธยาก็ยังคงไว้ คราวนี้ก็ไม่ยอมเสียเที่ยวอีกแน่นอน เพราะนาห์เพิ่งจะไปอยุธยามาเมื่อตอนไปเที่ยวกับทัวร์เมื่อปลายเดือนมีนาคม ด้วยความไม่ประทับใจ อยุธยาทั้งเมืองเล่นปล่อยเวลาให้แค่ชั่วโมงเดียว ทั้งกินทั้งเที่ยวไม่ได้พาไปชมวัดวาใดๆเลย แม้แต่วิหารพระมงคลบพิตรก็ไม่ได้เหยียบย่ำเข้าไปทั้งๆที่จอดรถอยู่ด้านหลังแท้ๆ ตอนนั้นทำได้แค่นั่งรถรางชมเมืองเก่า รูปก็ได้มาเพียงรูปเดียว เลยตั้งมั่นไว้ว่า จะต้องแก้ตัวใหม่ ไปอีกครั้งยังไงเสียก็ต้องได้เข้าชมวัดเก่าๆ ขึ้นไปบนเจดีย์สูงๆที่เราเห็นคนอื่นขึ้นไปตอนนั่งรถรางแล้วก็ต้องได้ถ่ายรูปให้สมใจอยาก
ข้อมูลที่ได้มาจากพี่มิกซ์ บอกว่านั่งรถไฟไปกลับสี่สิบบาท แต่ตอนนี้มันมีรถไฟฟรีให้นั่ง พวกเราก็เลยขอใช้บริการเสียหน่อยก็แล้วกัน ยังไงก็เป็นคนไทยขอใช้สิทธิ์บ้างสักครั้งเพราะแถวบ้านไม่ได้เดินทางด้วยรถไฟกันรถเมลล์ก็ไม่มีวิ่งฟรี
มากรุงเทพฯทั้งทีต้องลองให้คุ้มกับภาษีที่เสียไป แต่ตอนไปปรากฏว่าไปไม่ทันรถไฟฟรี ก็เลยต้องซื้อตั๋วราคายี่สิบบาท เป็นตั๋วยืนตลอดสาย ระหว่างนั่งรอเวลาขึ้นรถก็ถ่ายรูปหัวลำโพงไว้เสียหน่อย
รูปนี้มีที่มา บุคคลในภาพนี้พวกเราตั้งใจเก็บภาพเอาไว้ อิอิ หล่อดีนะ มีชื่อด้วยแหละว่า ทาเคชิ เปล่าหรอกไม่ใช่ชื่อของเขา แต่พวกเราตั้งให้เอง ทาเคชิเดินเข้ามาในหัวลำโพงพร้อมๆกับพวกเรานี่แหละ แล้วก็โดยสารรถไฟไปอยุธยาขบวนเดียวกันกับเราด้วย
ใกล้เวลารถจะออกพวกเราก็ออกไปรอรถที่ชานชะลาที่ 10 ระหว่างยืนรอ ก็มีสุภาพสตรีฝรั่งเดินตรงเข้ามาหาพวกเรา แล้วก็เจาะจงหันมาถามนาห์ว่า พูดอังกฤษได้ไหม อิอิ ตอบไปไม่คิดเลยว่า เยส คุณเธอก็ใส่ไม่ยั้งทีนี้ เอ่อ ที่คุณเธอถามว่าสาบานได้ว่ารู้เรื่อง แต่ไอ้ระบบประมวลผลที่ไม่ค่อยได้ใช้งานนี่สิ มันกำลังรวนได้ที่ คำตอบมีหมด แต่ดันพูดไม่ออก คุณเธอเลยขอดูตั่วเราถามว่าจะไปอยุธยาใช่ไหม คราวนี้ตอบได้ว่าใช่ แล้วเธอก็ถามต่อว่า ถ้าขึ้นรถไฟชั้นสามต้องยืนรอที่ตรงนี้หรือเปล่า พวกเราก็หันหน้ามองกันทันที แล้วเราจะรู้ไหมนี่ว่ารถมันจะจอดประมาณไหน ก็เลยทำความเข้าใจกันเองเสียก่อน ก็เถียงกันน่ะแหละ ว่าไอ้ชั้นสามของขบวนนี่มันควรจอดตรงไหนหว่า สรุปนาห์ก็เลยหันไปตอบคุณเธอว่า ตรงนี้แหละค่ะ ทั้งๆที่ก็ไม่รู้หรอก เหอๆ อะไรก็ไม่น่าอายเท่าที่ ตอนที่สุภาพสตรีฝรั่งเข้ามาถามนั้น ทาเคชิก็เดินมาพอดีเช่นกัน แถมยืนห่างกันไม่ไกลนักก็ได้ยินน่ะแหละที่เราคุยๆกัน ทาเคชิเลยส่ายหน้า ชิ เห็นว่าหน้าตาดีหรอกนะเลยให้อภัยนายทาเคชิ
ยืนรอจนสิบโมงจะห้านาทีตามเวลารถออก รถก็ยังไม่เข้ามา ทันใดก็มีเสียงประชาสัมพันธ์ว่ารถจะช้าออกไปครึ่งชั่วโมง จะให้ยืนรอด้านนอกก็ร้อนนัก พวกเราก็เลยขอหลบร้อนเข้าไปรับแอร์เย็นๆกันก่อน แล้วสุภาพสตรีฝรั่งคนนั้นก็เดินปรี่เข้ามาอีกครั้งด้วยคำถามว่า รถจะออกกี่โมงค่ะ เลยตอบไปว่า สิบโมงครึ่ง หุหุ คราวนี้ผ่านฉลุยเพราะมันง่ายที่จะตอบ
ได้เวลารถออกก็กลับเข้าไปที่ชานชะลาอีกครั้งแล้วก็ไปขึ้นรถทันทีที่รถเข้ามาจอด แต่เพราะตั๋วที่ได้เป็นตั๋วยืนก็เลยไม่มีที่นั่งสำหรับพวกไปชานเมืองอย่างเรา แต่โชคดีที่ใกล้ๆกับที่เรายืนกันนั้นเป็นผู้ชาย พี่เค้าถามว่าจะไปไหนกัน พวกเราเลยบอกอยุธยา พี่เค้าเลยใจดีสละให้นั่งก่อน เพราะพี่เค้าไปอีกไกล สุดสายโน้นแน่ะ ขอบคุณนะคะพี่ที่สละที่นั่งให้ผู้หญิงอย่างเราๆ
ใช้เวลาราวๆหนึ่งชั่วโมงก็ไปถึงจุดหมายปลายทาง เมืองอโยธยา ลงจากรถไฟแล้วก็ยังเห็นทาเคชิเดินตามหลังมาไวๆ แต่แล้วก็ผลุบหายไปเพราะคนขับรถตุ๊กๆหน้ากบมาลากตัวไปไหนก็ไม่รู้ โชคดีนะทาเคชิ ส่วนพวกเราหลังจากคนขับรถสองแถวมาเสนอราคาค่ารถพาไหว้ พระ- เที่ยวชมเมืองอยุธยา ก็ตกลงใช้บริการไปด้วยราคา 3 ชั่วโมงหกร้อยบาท ลุงแกมีชื่อว่าลุงสิทธิ์ค่ะ แกใจดีแถมให้พวกเราเป็น 4ชั่วโมงทั้งๆที่ปกติถ้าสี่ชั่วโมงจะคิดแปดร้อยบาท
วัดแรกที่ไปกันคือวัดใหญ่ชัยมงคลค่ะ เห็นเจดีย์สูงๆมาแต่ไกล คิดในใจคราวนี้แหละจะได้ขึ้นไปยืนกับเค้าบ้างแล้ว ไปถึงไม่รอช้าเดินเข้าไปทันที บันไดกี่ขั้นไม่รู้ รู้แต่ว่ามันสูงมาก กว่าจะขึ้นไปสุด หอบเอาเหมือนกัน แต่ก็คุ้มค่ะ มองมาข้างล่างสวยมากๆ แต่ตอนลงจะรีบลงไม่ได้เพราะพี่ขาลกลัวความสูงต้องพยุงพาพี่แกกลับลงมาด้วย งานนี้เหนื่อยสองเท่าไม่น่าลากพี่เค้าขึ้นไปด้วยเล้ย
ลงมาแล้วก็เดินไปอีกฟากหนึ่ง มีไก่มากมายเรียงรายลอบสระน้ำและโบสถ์วิหาร ถามไถ่ได้ความว่า เค้านำมาแก้บนกัน
ออกจากวัดใหญ่ชัยมงคลก็ตรงไปยังวัดพนัญเชิงวรวิหาร แต่เพราะนาห์กับพี่ขาลเป็นอิสลามก็เลยได้แต่ชมวิวรอบๆวัด และคะยั้นคะยอให้พี่สุเข้าไปไหว้พระ แต่พี่สุกลับไม่เข้าซะงั้น รูปที่ได้มาเลยเป็นท่าเรือของวัดแทน
ออกจากวัดพนัญเชิงฯ ก็เดินทางต่อไปยังวัดมหาธาตุ จ่ายค่าเข้าชมสิบบาท วัดนี้ได้รูปมามากมายเพราะกว้างขวางมาก มองไปมุมไหนก็น่าจับกล้องมากดชัดเตอร์ แต่ก็เดินไม่ทั่วหรอกค่ะ ถ้าให้ทั่วนี่สงสัยวัดอื่นๆจะไปไม่ทันเอา เพราะมันน่าสนใจทุกมุมเลยทีเดียว
ถัดจากวัดมหาธาตุก็ต่อไปยังวัดราชบูรณะทันที ก็เหมือนเดิมเสียค่าเข้าชมคนละสิบบาท ถ่ายรูปกันจนหนำใจท่ามกลางอากาศที่ร้อนพอสมควร ออกจากวัดราชบูรณะก็เลยขอให้ลุงแกพาไปยังร้านอาหาร ทานก๋วยเตี๋ยวเรือกันไปคนละชามสองสาม แล้วก็ไปตะลุยกันต่อ แต่วันนี้เก็บภาพสวยๆ(จงมองให้สวยนะคะ)มาฝากกันแค่นี้ก่อนนะคะ เพราะภาพมันเยอะมาก จะตัดออกไปก็เสียดายก็เลยนำมาอัพเป็นสองบล็อกจะดีกว่า บล็อกหน้ารับรองว่าภาพที่ได้มาน่าชมไม่แพ้กันเลยค่ะโดยเฉพาะที่วัดท่าการ้อง ใครอยากดูก็อย่าลืมแวะเข้ามาที่บล็อกอีกนะคะ
สำหรับบล็อกนี้ขอปิดด้วยภาพๆนี้ค่ะ เจอที่ข้างฝาของห้องน้ำที่วัดท่าการ้องค่ะ เลยเอามาฝากกัน
Create Date : 19 สิงหาคม 2551 |
|
12 comments |
Last Update : 19 สิงหาคม 2551 17:32:33 น. |
Counter : 4042 Pageviews. |
|
|
|
ขอโทษที มาเยี่ยมลูกสาวช้าไปหน่อยค่ะ ติดกิฬาว่ายน้ำ โอลิมปิคน่ะค่ะ
ภาพถ่ายออกมา น่าไปเที่ยวจังค่ะ หนูนาห์
น่าสนุกจัง
แม่โรสส่งหนูเข้านอนนะคะ คืนนี้ลูกสาวฝันดีนะคะ